เสียงแผดร้อง.....อันเงียบงัน
ภาพภูเขาขจีสีเขียว สลับกับนิคมอุตสาหกรรมชื่อดัง ที่หลายชีวิตต่างสาดส่องมองผ่านเลนส์ตาสีดำของตน เมื่อได้เดินทางพาดผ่านถนนสายลาดยาวเพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ชายหาดแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีอันขึ้นชื่อลือเรื่องทะเลงามใกล้เมืองหลวงของไทย นามหาดบางแสน เป็นเหตุทำให้ทุกคนลืมเลือนความงดงามสิ่งหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่บนผืนแผ่นดินเมืองชลบุรี นั้นคือแหล่งภูเขาที่(เคย)อุดมสมบูรณ์ ทว่าสายตาของผู้เขียนไม่ผิดเพี้ยน ที่แลเห็นภูเขาเล็กใหญ่ถูกกัดกร่อนจากแรงระเบิดที่มนุษย์สรรสร้างขึ้นมาเพื่อประโยชน์เชิงลบเสียมากกว่า มันน่าแปลกที่สัตว์โลกต่างพากันหนีวิถีระเบิดจากธรรมชาติ แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์บางกลุ่มกลับสร้างและพัฒนามันให้เป็นสุดยอดอาวุธรวมทั้งเป็นเครื่องมือในการประกอบธุรกิจเพื่อประโยชน์ส่วนตัวมิใช่ส่วนรวม แสดงถึงความเห็นแก่ตัวของสิ่งมีชีวิตที่ขานรับว่าตนเองเป็นสัตว์สายพันธุ์ประเสริฐกว่าสิ่งใดในโลกนี้ ซึ่งกำลังแสดงพฤติกรรมอันโง่เขลาเบาปัญญาขณะทำร้ายผู้ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตทั้งปวง... ชลบุรี เป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง จนกลายเป็นทีรู้จักกันดีแก่ผู้คนทั่วไป แต่หลายคนเบนความสนใจไปกับท้องทะเล และนึกไม่ถึงว่ามีป่าเขามากมายที่น่าเยี่ยมชม จนนานวันถูกลืมเลือนจนเลือนหายไปจากความทรงจำ หารู้ไหมว่าภูเขาเขียวขจีกำลังจะหายไปทีลูก..ทีละลูก เมื่อภูเขาหลายลูกถูกสัมปทานโดยผู้มีอิทธิพล และคนกระเป๋าหนักจับจองกันเป็นพื้นที่ส่วนตัวในการทำธุรกิจระเบิดภูเขาเพื่อเอาหินไปสร้างผลผลิตแลกเงิน รวมถึงพื้นที่หลายแห่งตัดต้นไม้หลายพันต้นเพื่อสร้างสุสานฝังร่างที่ไร้วิญญาณไปแล้ว ไม่อาจทราบได้ว่าเบื้องลึกภายในใจของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผลาญธรรมชาตินี้เขารู้สึกอย่างไร ผู้เขียนอยากให้จินตนาการในความคิดว่า สมมุติให้ภูเขาชื่อว่าชมพู เธอมีชีวิต เธอมีจิตใจ เพียงแต่เธอไม่ใช่คน เธอจึงไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ ชมพูรักมนุษย์เธอให้ความร่มเย็น และอากาศที่สดชื่น แต่แล้ววันหนึ่งมีคนปองร้ายมาวางระเบิดใส่เธอ ผลจากแรงระเบิดทำให้เนื้อตัวเธอกระจุยเป็นผุยผง น้ำตาชมพูไหลพร่างพรูด้วยความทรมาน เธอแผดเสียงที่ไม่มีใครได้ยินเปล่งออกมาเป็นลมเท่านั้น คำหนึ่งคำดังก้องสะท้อนในใจว่าเธอว่า เจ็บ ไม่เคยมีใครได้ยิน ..ไม่เคยมีใครได้เห็นน้ำตาเธอ ..พวกคุณจะทนได้ไหมกับการทำร้ายแบบนี้ เพราะว่าชมพูไม่มีเสียงงั้นหรือ เธอถึงต้องเจ็บ และต้องตายในที่สุดแบบนี้ หนึ่งชีวิตของชมพู สร้างอาชีพและงานเห็นแก่ตัวให้กับคนบางกลุ่ม ในการเอาชิ้นส่วนของชมพูไปแปรสภาพเป็นผลผลิตต่างๆ อย่างไม่มีคำว่าพอ ฉะนั้นเพื่อนๆของเธอจึงประสบชะตากรรมเดียวกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แม้จะมีกฎหมายมาบังคับใช้เรื่องการสัมปทานภูเขาแต่เมื่อมนุษย์ยอมให้เงินอยู่เหนืออำนาจของจิตใจทุกอย่างจึงเป็นเพียงแค่ลมปากกับรอยหมึกที่คนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น..และไม่รับผิดชอบต่อกรณีนี้ บางรายถึงกับร่วมหุ้นธุรกิจเสียด้วยซ้ำไป นอกจากเรื่องนี้ยังมีการสร้างพื้นที่สุสานเพื่อรองรับการฝังศพตามประเพณีความเชื่อของคนเชื้อสายจีน คนตายไม่กี่คนแลกกับป่าเป็นไร่ๆมันตลกสิ้นดี เพียงเพราะมันเป็นความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยและเป็นการแสดงตนของคนมีฐานะอันล่วงลับไปแล้ว ใครรวยมากก็ใหญ่มาก กลายเป็นธุรกิจของคนหัวใสบางคนในการสัมปทานภูเขาเพื่อสร้างพื้นที่รองรับการฝังศพแบบจีนโดยเฉพาะ ผู้เขียนคิดเล่นๆว่า ถ้าหากผ่านไปร้อยสองร้อยปี สุสานไม่เต็มเมืองชลไปหมดเลยหรือ เพราะทุกวันนี้ก็เห็นตามข้างทางในพื้นที่ชลบุรีไม่รู้กี่แห่งต่อกี่แห่งแล้ว คนเราตายไปก็สลายแปรเปลี่ยน ทำไมจะต้องเบียดเบียนพื้นที่ธรรมชาติของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วย ทำไมอาชีพของพวกคุณ ต้องมาทำร้ายโลกด้วย มันมีมากมายหลายคำถามและไม่เคยคาดหวังในคำตอบผู้คนเหล่านี้เพราะพวกเขาไม่เคยตระหนักได้ หากพวกเขามองข้ามผลประโยชน์ของตนเอง นึกถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมบ้าง ทุกวันนี้โลกคงไม่ประสบกับวิกฤติโลกร้อน มันเป็นเพียงแค่กระแสรักษ์โลกร้อนที่แว่วตามสื่อแต่ไม่มีใครหน้าไหนสนใจจะรักษ์โลกจริงๆ....พรุ่งนี้โลกก็ร้อนขึ้นอีกเหมือนเดิม.....เพราะอะไรเราต่างรู้ดีต้าหมิ๋น
งาน คือ มันส์
ทำ แต่ งาน เฮ้อ......