Bloggang.com : จามรี : ป่าในบ้าน

ป่าในบ้าน

บางสิ่งที่เราเห็นจนเคยชิน อาจจะหาค่าไม่ได้(คือไม่มีค่าเป็นทรัพย์สินเงินทอง) ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรได้ บางอย่างเราเห็นคนอื่นเขามีแต่เราไม่มี เราก็เห็นประโยชน์ของมันมากมาย สุดจะพรรณา ต้นไม้เห็นอยู่ทุกวัน เราก็มองว่า ไม่รู้จะปลูกไว้ทำไม ไม่เห็นมีประโยชน์อะไรเลย บางอย่างกินได้ก็ยังดี บางต้นปีหนึ่งกินได้ครั้งเดียวเช่นพวกสะเดา ประโยชน์น่าจะ น้อยกว่าต้นอื่น ๆ ที่กินได้ตลอดปี เช่นกล้วย เรามักจะมองหาแต่ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่ตนเท่านั้น ประโยชน์อื่นที่สิ่งเหล่านั้นทำได้เรามักจะลืมคิดถึงมัน หรืออาจจะทำเป็นลืมคิดถึงมัน ทำเป็นลืมคิดไปว่าตนเองก็หายใจอยู่ โดยใช้ออกซิเจนจากการผลิต ของต้นสะเดา และต้นกล้วยที่เคยให้ลูกแก่เรากิน
ป่าไม้เป็นสิ่งที่คนทั้งโลกเริ่มถวิลหา เพราะมันกำลังจะหมดไป หลายฝ่ายต่างนำเอาความดีของป่ามาให้คนได้รับรู้ แต่ยิ่งรับรู้ก็ดูเหมือนว่าป่า หมดไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีท่าทีว่าป่าจะเพิ่มขึ้นเลย ครูทุกโรงเรียนในประเทศไทย ต่างก็สอนให้เด็กเห็นคุณค่าของป่า จัดค่ายให้นักเรียนได้ฝึกปฎิบ้ติ เพื่อให้เด็กเหล่านั้นได้สำนึก แต่ต้นไม้ซึ่งเป็นส่วนประกอบของป่าก็ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่ามีจำนวนคงที่หรือเพิ่มขึ้นเลย แสดงให้เห็นว่าการกระทำที่ทำมา แล้วทั้งหมดไม่ได้ผลหรืออย่างไร เพราะคนที่ทำลายป่าให้หมดไปก็คงจะได้เรียนจากครูหรือเคยเข้าค่ายพิทักษ์ป่า กันมาเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้วเหมือนกัน

ปัจจุบันความถวิลหาป่า กำลังเกิดขึ้นแก่คนส่วนใหญ่ของประเทศ เมื่อมีบ้านก็พยายามหาต้นไม้มาปลูก เพื่อให้ร่มเงา มีคนส่วนหนึ่ง ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวด หาเมล็ดพืชมาเพาะแล้วปลูก ซึ่งกว่าจะโตจนเป็นต้นไม้บังเป็นร่มเงา ให้ดอกสวย ให้กลิ่นหอม ให้ความชุ่มฉ่ำใจได้ก็ไม่ต่ำกว่า 5 ปี อีกหลายคน และเป็นส่วนมากคือไปหาไม้ป่า ที่เขาเพาะเมล็ดใส่ถุงไว้ขายซึ่งขึ้นเป็นต้นยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ที่นี้แหละที่คนเมืองจะโดนคนบ้านนอกหลอกบ้าง คือตั้งชื่อเสียใหม่ที่จะชักจูงให้น่าซื้อ ซึ่งชื่อส่วนใหญ่ก็ตั้งให้ฟังแล้วต้นไม้ต้นนี้น่าจะนำมาซึ่งความร่ำรวย ความมีอำนาจ และความสุขความเจริญ การกระทำนี้ก็ดี จะได้มีต้นไม้โตเร็วกว่าเพาะเมล็ดเองอีกนิดหนึ่ง แต่ด้วยความที่ต้องการให้ต้นไม้โตทันใจเห็นเป็นรูปเป็นร่างเร็วที่สุด ก็โดยการซื้อไม้ต้นใหญ่ ที่เขาขุดล้อม มาขาย ไม้ล้อม บางครั้งไม่ได้มาจากการปลูกโดยเอามาจากป่า นี่ไม่รู้ว่าจัดให้เป็นการส่งเสริมการปลูกต้นไม้หรือส่งเสริมให้เกิดการ ทำลายป่ากันแน่ ต้นไม้ล้อม ปัจจุบันทำไม่ยากแล้วเพราะมีเครื่องมือที่ทำให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ผมยังสงสัยอย่างหนึ่งว่าไม้ล้อมมีการตัดรากแก้วออกไป แล้วมันจะคงทนต่อลมฟ้าอากาศ เหมือนตอนที่มันยังไม่โดนล้อมหรือไม่ ถ้าไม่คงทนต่อธรรมชาติแวดล้อม โดนภัยธรรมชาติแล้วล้มลงมาคงเป็นปัญหากับคนรอบข้างได้ และอาจทำให้คนที่ไม่ชอบต้นไม้เป็นทุนอยู่แล้ว เกิดกลัวภัยจากต้นไม้เกินความเป็นจริงได้เช่นกัน

ไม้ล้อมมีขายเป็นจำนวนมาก ตามตลาดนัดใหญ่ ๆ และมีบริการคนส่งถึงบ้าน ปลูกให้เสร็จ เจ้าของบ้านมีหน้าที่ดูแลต่อไปหลัง จากการปลูก หรือบางรายมีบริการดูแลหลังการปลูกโดยคิดค่าบริการในการดูแล แต่เอาเข้าจริงดูเหมือนว่าฝ่ายผู้ซื้อจะเสียเปรียบ เพราะไม่ค่อยมาดูแล ผู้ขายคงไม่ตั้งใจไม่มาดูแลให้ คงเป็นเพราะลืมมากกว่า
ต้นไม้ที่ล้อมมาถ้าเป็นต้นไม่ใหญ่นักก็เชื่อว่ามาจากการปลูกของเขาเอง แต่ถ้าเป็นต้นใหญ่ ๆ มาก ถ้าถามเขาก็จะตอบว่าเป็นไม้ที่เขาปลูกเอง แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าเป็นไม้ปลูกเอง จะมีราคาค่อนข้างสูงจนทำใจซื้อไม่ได้ ดังนั้นจึงน่าจะเชื่อว่าเอามาจากป่า หรือชาย ๆ ป่าที่ยังมีต้นไม้ขึ้นอยู่ ถ้าเป็นอย่างนั้นผู้ซื้อก็ได้ชื่อว่าเป็นคนหนึ่งในวงจรการทำลายป่า คุณมีต้นไม้ในบ้าน 1 ต้น ป่าก็เสียต้นไม้ไป 1 ต้น เช่นกันและป่ายังเสียระบบนิเวศน์ด้วย
การปลูกไม้ที่มันค่อย ๆ โตขึ้นมาด้วยมือของเราเอง ก็น่าจะดีเพราะมันมีความชุ่มชื่นใจทุกครั้งที่เห็นมันค่อย ๆ โตขึ้นมา ดังนั้นผมว่าไปหาซื้อต้นไม้ที่เขาเพาะเมล็ดขาย น่าจะดีกว่า หรือจะให้เห็นความเปลี่ยนแปลงการเจริญเติบโตของต้นไม้ ลองเพาะเมล็ดดูครับ มันได้อารมณ์อีกหลายอย่างเลยครับ รักต้นไม้ก็ช่วยรักษาป่ากันด้วยครับ

Create Date : 08 ธันวาคม 2552

Last Update : 8 ธันวาคม 2552 23:24:54 น.

1 comments

Counter : 456 Pageviews.

ขอบคุณครับ

โดย: ติ๊ก IP: 192.168.5.1, 61.90.174.226 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:8:52:57 น.