R a f a e l N a d a l
<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
28 กรกฏาคม 2557

"Observation Note of 2014 ข้อสังเกตในปีม้าน่ารัก"

สวัสดีครับแฟนๆ ราฟาทุกท่าน ช่วงนี้เทนนิสเงียบเหงา ราฟาของเราพักผ่อนเล่นน้ำทะเลอยู่ที่บ้าน และจากบล็อคที่แล้ว ที่ได้เกริ่นไว้ว่า น่าเสียดายที่ราฟาชวดแชมป์ AO แต่ราฟาก็สามารถคว้าแชมป์ RG เป็นสมัยที่ ๙ มาครองได้ ทำให้แฟนๆ ปลื้มปริ่มกันสุดๆ และราฟาก็ได้มาเล่นที่ WB ด้วยความหวังของแฟนๆ ว่า ราฟาจะทำผลงานได้ดี และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ราฟาผ่านรอบแรก และรอบสอง ซึ่งถือได้ว่าดีกว่าผลงานสองปีหลังสุดที่ราฟาทำได้ (ฮ่าๆ)

สำหรับบล็อคนี้ ก็เปิดมาเพื่อเตรียมไว้สำหรับบทความโดนๆ ของคุณหมูทองเช่นเคยกับบทความที่จะกล่าวถึง วงการเทนนิสในปี ๒๐๑๔ นี้ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามได้เร็วๆ นี้ครับ


Vamoss Rafa

CR PIC from FB : Vamôs Rafael Nadal




Create Date : 28 กรกฎาคม 2557
Last Update : 28 กรกฎาคม 2557 0:23:50 น. 13 comments
Counter : 1810 Pageviews.  

 
Observation Note of 2014 – ข้อสังเกตในปีม้าน่ารัก
29 July 2014

เราได้เห็นเค้าลางการเปลี่ยนแปลง และมีข้อสังเกตในวงการเทนนิสชายในปีม้าจากต้นปีถึงฤดูกาลคอร์ดดิน-หญ้า ดังนี้คือ

I). เริ่มตั้งแต่แกรนสแลมแรกของปี 2014 คือ AO14 กล่าวคือ มีนักเทนนิสหน้าใหม่ที่ไม่ใช่ Big 4 (Fed-Rafa-Nole-Murray) คือ “สตาน” ก้าวขึ้นมาได้แชมป์ GS เป็นครั้งแรกและได้แชมป์ ATP1000 แรกที่ MC โดยเอาชนะเฟด ไต่อันดับโลกขึ้นมาได้สูงสุดคือมือ 3 ของโลกเป็นหน้าใหม่คนแรกหลังจากน้องเดล ทำได้ในปี 2009 คือ ได้แชมป์ USO09 แล้วครองอันดับมือ 5 ของโลกเป็นอันดับดีที่สุด จากนั้นก็วูบไปจากวงการเนื่องจากข้อมือขวามีปัญหา กลับมาใหม่ในปี 2012-3 พยายามเต็มที่ก็เอามือ 5 คืนมาได้แป๊ปเดียวก็มีปัญหาข้อมือซ้ายอีก สำหรับสตานก็คงต้องดูว่าเค้าจะทำผลงานได้ดีต่อเนื่องได้หรือไม่สำหรับวัยย่างเข้าเลข 3 แม้เราจะมีชื่อคนได้ GS ชื่อใหม่ๆ แต่การแข่งขันในระดับ GS และ ATP1000 ของวงการเทนนิสชาย เหล่าบรรดา Big 4 ก็ยังมีภาษีกว่าคนอื่นๆมาก และนาทีนี้ RAFOLE ก็ดูจะเป็นสองคนที่มีแต้มต่อเหนือคนอื่นมากในภาพรวม เช่นเรื่องระดับคะแนนที่ทั้งคู่ในฐานะมือ 1 มือ 2 ของโลกนำกระจายด้วยคะแนนมากกว่า 12,000 แต้ม ในขณะที่อันดับ 3/4 มีคะแนนเพียงระดับ 5,000 กว่าแต้ม

II). จากความร้อนแรงและเป็นนักเทนนิสระดับ Best Ever ของ FEDAL มาหนึ่งทศวรรษเต็มๆ(2004-2014) ทำให้ประเทศสวิสและประเทศสเปนมีฮีโร่เทนนิสเป็นหนึ่งเดียวชัดเจน ไม่มีใจให้ใครได้อีกเลย นักเทนนิสฝีมือดียอดเยี่ยมที่เป็นอันดับ 2 รองจากเฮ๊ยเฟดในสวิสอย่าง “สตาน” และเป็นรองราฟาในสเปนอย่าง “เฟอร์เร” จึงแทบไม่มีสปอร์ตไลท์ใดๆมาฉายส่องแสงเลย แม้ว่าเมื่อปลายปีที่แล้ว 2013 “เฟอร์เร” ขยับขึ้นมาเป็นมือ 3 ของโลกเป็นครั้งแรก และ “สตาน” ก็ขยับเป็นมือ 3 ของโลกเช่นกันหลังได้แชมป์ AO14 แถมทั้งคู่ยังเคยขยับขึ้นเป็นมือ 1 ของประเทศมาแล้ว คือ เฟอร์เรเป็นมือ 1 ของสเปน ตอนราฟาเข่าเจ็บหยุดเล่นตอนต้นปี 2013 และสตานก็เบียดรัศมีของเฮียเฟดอดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกขึ้นเป็นมือ 1 ของสวิสตอนต้นปี 2014 เช่นกัน…อย่างไรก็ตามเราถือว่า สเปน-สวิส ก็มีคู่เก๋าเกมคู่ใหม่ คือ เฟอร์เร-สตาน ที่ใครๆจะประมาทไม่ได้ แต่ทั้งคู่คงต้องทำใจว่ายังไงๆก็ยังเป็นพระรองอยู่ดี ไม่สามารถแหวกกระแสความนิยม FEDAL ได้อยู่ดี จากปีม้านี้ไปก็คงต้องดูว่ากระแสนิยมหลัก RAFOLE จะยืนอยู่ในการแข่งขันเทนนิสชายอย่างไร ?

III). นักเทนนิสระดับดารา จ้างโค้ชนักเทนนิสที่เคยโด่งดังในอดีตมาเป็นโค้ชให้เพราะทุกคนต้องการพัฒนาการก้าวไปข้างหน้าเพื่อชัยชนะ ไม่มีใครอยู่นิ่งเฉยกับที่

Murray – Ivan Lendl (แต่พอกลางเดือนมีนาหลัง IW 14 ก็แยกทางกัน แล้วหลัง FO ก็ได้โค้ชใหม่เป็นผู้หญิง…Amelie Mauresmo)

Nole – Boris Becker (โนลเริ่มติดต่อตั้งแต่วันที่แพ้ราฟาใน FO13 ว่าต้องการคำแนะนำใหม่ๆ แม้ว่าวันที่โนลได้แชมป์แรกของปีม่ที่ IW 14 บอริสจะไม่ได้อยู่ด้วย แต่เค้าก็ถือเป็นโค้ชหลักหนึ่งเดียวที่อยู่ช่วยจนโนลได้แชมป์ WB14 และได้มือ 1 ของโลกคืนมา)

Federer – Stefan Edberg (ไปกันได้สวยกับเฮียเฟด เพราะเฟดทำผลงานที่ดีผิดหูผิดตา โดยเฉพาะการเข้าชิง WB14 และสู้กับโนลได้ถึง 5 เซ็ตแบบมีเสียว)

Stanislas Wawrinka – Magnus Norman(แม็กนุสมีส่วนสำคัญให้สตานได้ GS แรกของตัวเองใน AO14 โดยการล้มราฟาแม้ราฟาจะเจ็บหลัง แต่โค้ชคนนี้ก็ทำให้โซเดอริ่งล้มราฟาใน FO09 มาแล้วเช่นกัน)

Kei – Michel Chang (เคอิ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเทนนิสชาวญี่ปุ่นคนแรก และชาวเอเชียคนที่สองที่ได้เป็น Top 10 ของโลกเมื่อ Mid May 2014 หรือ 11 ปีเต็มหลังภราดร ศรีชาพันธ์ ของไทยเราเป็น Top 10 ตอน Mid May 2003)

Raonic – Ivan Lubisic (ปีม้านี้น้องไมโลก้าวเข้ามาอยู่ใน Top10 อย่างสง่างามด้วยการเป็นมือ 6 ของโลกและลุ้นเป็น 8 เซียนเข้าไปเล่น WTF ที่ลอนดอนตอนปลายปี)

Cilic – Goran Ivanisevic (ซีลิคกลับเข้าสู่วงการใหม่อีกครั้งหลังถูกแบนไป 1 ปี แต่ก็ทำผลงานได้ดีและลุ้นว่าปลายปีจะเข้ามาอยู่ใน Top10 ได้เหมือนที่เคยทำได้)
และอาจเป็นเพราะโค้ช อาจเป็นเพราะการเปลี่ยนมุมมอง กล้าลองของใหม่ เพิ่มความมั่นใจ นักเทนนิสเหล่านี้จึงมีการเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ในผลงานอย่างมีนัยสำคัญ

IV). ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า..มีคลื่นลูกใหม่พร้อมที่จะทดแทนรุ่นเก่าเสมอ
เราพบว่ามีนักเทนนิสที่มีฝีมือความสามารถโดดเด่น พร้อมเข้ามาเป็นหน้าใหม่ใน Top 10 ตอนปลายปี เช่น Milos Raonic ชาวแคนาดา, Grigor Dimitrov ชาวบัลกาเรีย, Kei Nishikori ชาวญี่ปุ่น, Alexander Dolgopolov ชาวยูเครน, Ernests Gulbis ชาวลัตเวีย, Fabio Fognini ชาวอิตาลี, Marin Cilic ชาวโครเอเชีย, Jerzy Janowicz ชาวโปแลนด์ นอกจากนี้ เป็นต้น นักเทนนิสหน้าใหม่เหล่นนี้มีผลงานสม่ำเสมอขึ้นกว่าแต่ก่อนและเข้ามาอยู่ใน Top 20 อย่างเป็นตัวจริง แต่ปีม้านี้พวกเค้ามีโอกาสมากๆ และหมูทองค่อนข้างมั่นใจว่าต้องมีอย่างน้อย 2 คนหลุดเข้าไปอยู่ใน Top10 ปลายปีนี้แน่นอน(คาดว่าน่าจะเป็น Raonic และ Dimitrov ถ้าไม่สะดุดครึ่งปีหลังซะก่อน)

ในขณะนักเทนนิสรุ่นเก๋าๆ เราก็เห็นความถดถอยของการรักษาระดับของฝีมือ และความเหี่ยวของแรงบันดาลใจลงไปพอสมควร ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้เห็นปรากฎการณ์ เฟดร่วงไปอยู่มือ 8 เป็นครั้งแรก, มารีย์ร่วงไปอยู่มือ 10 ของโลก, น้องเดลที่หายไปรักษาข้อมือซ้ายไม่รู้จะกลับมาตีเทนนิสได้เมื่อไร แม้ว่าเซียนก็คือเซียนมีเขี้ยวเล็บเสมออาจ come back เมื่อไรก็ได้ แต่รุ่นใหญ่ก็คงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการรักษาตำแหน่ง Top10

V). การบาดเจ็บและไม่สมบูรณ์ของร่างกาย ทำให้นักกีฬาเล่นได้ไม่เต็มสูบและอาจต้องวนเวียนอยู่กับอาการบาดเจ็บ สภาพความสมบูรณ์ร่างกายที่ไม่เต็มร้อย ต้องพักรักษาตัวเป็นระยะๆ แล้วก็ต้องมาเริ่มโมเมนตัมการเล่นเทนนิสใหม่ วนเวียนกันไปอย่างนี้ มีน้อยคนที่จะไม่มีปัญหาสภาพร่างกายเลย พวกที่มีปัญหาหนักๆ ก็เริ่มจาก ราฟา ที่พอเข่าดี ก็มีอาการเจ็บมือ เจ็บหลัง, เดล ที่มีอาการเจ็บข้อมือซ้ายต้องเข้ารับการดูแลที่ USA, ฮาส บาดเจ็บไหล่ขวาต้องเข้าผ่าตัดที่ USA, เคอิ มาปีนี้ฟอร์มดีแต่หลังเดี้ยงทำให้เล่นต่อเนื่องไม่ได้ ได้แชมป์ Barcelona เข้าชิงที่ Madrid แต่ต้องรีไทร์ และมาถอนตัวต่อที่ Rome, มารีย์ กลับมาจากการผ่าตัดหลัง ฟอร์มไม่พีค…และยังหาฟอร์มตัวเองไม่เจอ

เรื่องการบาดเจ็บก็ดูเหมือนเป็นเรื่องที่นักกีฬาอาชีพต้องยอมรับความจริง ถ้าเป็นพวกมือระดับโลกก็ต้องมีทีมงาน ทีมหมอที่ช่วยดูแลร่างกายของนักกีฬา(ที่เป็นเหมือนตัวห่าน เพื่อให้สามารถออกไข่ทองคำได้ตลอดเวลาและยาวนาน) ให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ตลอดเวลาที่ยังไม่เลิกเล่น

VI). RARAY ; Rafa vs Murray - อยากตั้งข้อสังเกตว่าคู่นี้เป็นคู่ที่ชนกันน้อยมากทั้งที่ควรเจอกันไม่น้อยไปกว่า เฟดและโนลเลย ราฟาไม่เคยเล่นนัดชิง GS กับมารีย์เลย ในขณะที่มารีย์เจอเฟด 3 ครั้งแพ้หมด และเจอโนล 4 ครั้ง เสมอกัน 2-2 ซึ่งหมายความว่า 2 GS ของมารีย์ที่ได้มา คือ USO12 และ WB13 ได้มาจากโนลคนเดียว และในขณะที่มารีย์มีสถิติ H2H เหนือเฮียเฟดอยู่ 11-10 มารีย์มีสถิติ H2H ขาดลอยกับราฟาคือ 5-13…ประหนึ่งว่าดวงชะตามารีย์จะเป็นคู่บุญของราฟาอย่างไรไม่รู้ ทั้งคู่เล่นเทนนิสจริงจังครั้งสุดท้ายในนัดชิงที่โตเกียวตอน Oct 2011 แล้วมารีย์ก็ชนะได้ถ้วยแชมป์ไป เราคงยังจำกันได้ว่าปี 2011 เป็นปีที่ราฟาบอบช้ำด้านจิตใจจากการที่ถูกโนลปราบอย่างราบคาบ ราฟาพยายามจะกลับมาสู้กับโนลใหม่ใน AO12 มารีย์ก็ช่วยราฟาอย่างมากที่สุด คือ กดดันกินแรงโนลในนัด SF ไปถึง 5 เซ็ต ราฟาได้สร้างนัดชิงประวัติศาสตร์กับโนลไปเกือบ 6 ชั่วโมงแม้จะทำไม่สำเร็จแต่ราฟาก็มีจุดตั้งต้น หลังจากนัดมาราธอนนั้นแล้วราฟาก็มีปัญหาเข่าซ้ายอย่างหนักในการเจอกับมารีย์ในการแข่งขันรอบ SF ที่ Miami12 ระดับต้อง retire ไปเพื่อให้มารีย์เข้าชิงกับโนล(มารีย์แพ้โนลไป)….ประหนึ่งว่าคู่ RARAY จะทำบุญร่วมกันมา ไม่ต้องกระทบกระทั่งต่อสู้แย่งชิงกัน จึงทำให้จากนั้นมา 2ปีครึ่ง เราไม่ได้ดูแม็ทช์ RARAY อีกเลย ชนิดคาดกันไปคาดกันมาอย่างเหลือเชื่อ

ราฟาเร่งเครื่องตอนเข้าฤดูกาลคอร์ดดินในปี 2012 เก็บแชมป์ MC, Rome, FO ในขณะที่มารีย์มีปัญหาการบาดเจ็บรบกวนตลอด ไม่ประสบผลสำเร็จในคอร์ดดินปีนี้

 ราฟาหยุดเล่น พักรักษาเข่ายาวนาน 7-8 เดือนหลังได้แชมป์ FO12 ในขณะที่มารีย์ได้โค้ชใหม่คือ Ivan Lendl และเริ่มโชว์ศักยภาพระดับเทพเริ่มจากคว้าแชมป์เหรียญทองโอลิมปิคในสนาม WB ด้วยการเอาชนะเทพคอร์ดหญ้าอย่างเฮียเฟด รวมถึงโนลด้วย และที่สำคัญที่สุดคือทั้งสองคนนี้อยากได้เหรียญทองโอลิมปิคนี้มาประดับหิ้งของตนมาก เพราะเวลาไปเทียบกับราฟา…เหรียญนี้ยังไม่มี แถม 4 ปีถึงมีเล่นครั้ง ทำให้เสียเชิงราฟาเล็กน้อย ราฟาก็อยากได้เหรียญทองโอลิมปิค London2014 จากสนาม WB มากๆเช่นกัน แต่ฟ้าไม่เข้าข้าง ราฟาเข่าเจ็บหนักต้องถอนตัว ได้มารีย์มาช่วยตัดโอกาสของเฟดเดอร์เรอและโนลไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด แถมในครึ่งปีหลังของปี 2012 ที่ราฟาหายไป มารีย์ทำผลงานเทนนิสอย่างยอดเยี่ยมจบฤดูกาลด้วยการเป็นมือ 3 ของโลก แต่เบียดเข้าไปอยู่ในมือ 2 ของโลกได้ช่วงสั้นๆในเดือนมกราคม 2013 ตอนราฟายังไม่กลับมาเล่นเทนนิส (มารีย์เข้ามาสัมผัสมือ 2 ของโลกได้ครั้งแรกตอน Aug 2009 ซึ่งก็เป็นตอนราฟาบอบช้ำ หลังแพ้โซเดอริ่งที่ FO-09 เช่นกัน)

 ราฟากลับมาเล่นเทนนิสอีกครั้งตอน Feb 2013 และราฟาก็เน้นคอร์ดดินเป็นพิเศษ ในขณะที่มารีย์มีปัญหาบาดเจ็บโน้นนี่นั้นตลอด จึงปล่อยคอร์ดดิน และไม่เข้าเล่น FO13 แต่ตั้งเป้าสูงสุดที่ WB13 ราฟาจึงไม่ได้เจอกับมารีย์เลย เพราะราฟาจัดหนักคอร์ดดินมาตั้งแต่ Feb-May จนได้แชมป์ FO13 เธอก็แป๊กตกรอบแรกที่ WB…ปล่อยให้มารีย์สอยแชมป์ที่นี่ไปโดยไม่ต้องกังวลกับแชมป์เก่า 2 สมัยอย่างราฟา…แค่ซัดโนลให้ได้พอ

 ราฟากลับมาฮอตอีกครั้งที่สนามในอเมริกา เก็บแชมป์ Canada, Cincinati, USO-13 ติดกัน 3 สนาม 10 ปีถัดมาต่อจาก Andy Roddick ที่ทำได้ในปี 2003 และ Patrick Rafter ที่ทำได้ในปี 1998 ส่วนมารีย์ช่วงนี้แป๊กเนื่องจากอาการเจ็บหลังกำเริบ และเริ่มหนักขี้นจนต้องตัดสินใจถอนตัวทุกรายการหลัง USO13 เข้าผ่าตัดตอนปลายปี 2013

 ราฟาและมารีย์กลับมาสู่สังเวียนสนามเทนนิสใหม่อีกครั้งในปี 2014 ผ่านมา 4 เดือนในคอร์ดปูน แม้ว่าราฟาจะมีปัญหาที่หลังบ้างและผลงานไม่จ๊าบเท่าปี 13 แต่ดูเหมือนมารีย์จะหนักกว่าและยังหาฟอร์มเดิมไม่เจอ มารีย์ไม่สามารถผ่านรอบลึกๆ เข้ามาเจอราฟาใน Final, SF หรือแม้แต่ QF ได้ จนกระทั่งเข้าคอร์ดดินปีนี้ราฟามาเจอมารีย์ครั้งแรกในกรุงโรมรอบ QF ทำให้เราแฟนๆเทนนิสได้ดูแม็ทช์ RARAY ที่สนุกเร้าใจมากเพราะมารีย์เอาชนะ King of Clay เซ็ตแรก 6-1 ทำให้เกมที่เหลือราฟาต้องใส่หมดก๊อกและเบียดเอาชนะมาได้อีก 2 เซ็ต 6-3, 7-5 จากนั้นเราก็ได้ดู RARAY ใน GS นัด SF ในคอร์ดดิน FO14 จนได้ แต่วันนั้นเป็นวันที่มารีย์บอกว่า “It was a bad, bad day.” …..และรู้สึกเมื่อราฟาเข้าสู่ Top Form ในคอร์ด Philippe Chatrier เค้าจัดการลำบากมาก….“You can go out there with all the tactics in the world, but when he's hitting the ball like that, it’s very difficult to hit the ball where you want to. He was hitting extremely hard, extremely heavy, returning well, and was hitting it well on the run. That's the toughest match I have played against him. I'll need to bounce back quickly from it, because I'm not particularly happy with the way I played today.” แม้ว่าโดยสรุปมารีย์จะทำผลงานในคอร์ดดินไม่เลวเลยทีเดียวในปีนี้ แต่เมื่อต้องชนกับ King of Clay อย่างราฟา มารีย์ยังไม่สามารถเอาชนะได้

 ในคอร์ดหญ้า WB14 ที่เป็นคอร์ดถนัดของมารีย์ แต่ปีนี้เธอก็ยังเค้นฟอร์มเก่งไม่เจอ อยู่ดี แพ้น้องไมโลในรอบ QF ส่วนราฟากับคอร์ดหญ้าหลังการได้แชมป์ FO ก็ทำได้ดีกว่า ปีที่แล้วหน่อยหนึ่ง คือ เข้าถึง R4 สรุปแล้วไม่มี RARAY ในคอร์ดหญ้า 2014…แฟนๆ คง ต้องรอดูสนามปูนในอเมริกาต่อไปว่ามารีย์ยังจะเป็นคู่บุญของราฟาอยู่หรือเปล่า ?

VII). Roger Federer – ในปีนี้เฟดอายุ 33 ปีแล้วและมีลูกแฝด 2 รุ่น ลูกสาวแฝด Myla Rose & Charlene Riva เกิด 23 July 2009 และห่างกัน 5 ปีเฟดก็ได้ลูกชายแฝด Leo & Lenny on เกิด 6 May 2014 ครอบครัวของเฟดใหญ่ขึ้น และอบอุ่นครบถ้วนจนน่าอิจฉา เฟดคงต้องปรับสมดุลสำหรับเรื่องครอบครัวกับการเล่นเทนนิสอีกครั้ง แต่ก็ไม่น่าจะยากเพราะมีประสบการณ์มาแล้ว เฟดถอนตัวจากรายการที่ Madrid กระทันหันเพื่อไปเป็นกำลังใจให้ครอบครัวตอนภรรยาคลอดลูกชายแฝด พอทุกอย่างเรียบร้อยดีเจ๊เมียก้าก็บอกไม่ต้องห่วง อนุญาตให้เฟดมาเล่นรายการที่โรมได้ เพื่อเฟดจะได้วอร์มก่อนรายการใหญ่ FO จะเริ่ม เฟดให้สัมภาษณ์ไว้ดังนี้

"And they all said I should quickly come and play here. So I was like, `OK, if you don't want me around I'll go away. That was basically it. Things went well, the boys are healthy. Mirka's good, too," the 17-time Grand Slam champion added. "So it's a great time in our lives right now." The boys' names are Leo and Lenny. Boys names are hard. It was all last minute. Girls, I feel like there's so many nice names and they're all cute but with boys it's totally a different story.”

"I miss them a lot already and also the girls. It's a different type of week but I'll get through it and I hope I can still play some good tennis." The couple's twin girls, Myla Rose and Charlene Riva, will turn 5 in July.

"This time around, we kind of know how to handle kids on the road. I'm aware it's going to be a lot of work but at the same time I know what I'm getting into. So it's something I'm very much looking forward to. ... There will be a long time without any traveling after the tennis is over, so I'm looking forward to the next couple of years now."

แม้ว่าเฟดจะยังรักและมีไฟในการเล่นเทนนิสอยู่มาก เห็นได้จากผลงานการเล่นเทนนิสในปีนี้นับถึง WB14 เฟดเลื่อนอันดับโลกจาก 6 มาเป็น 3 และเล่นเทนนิสได้ดีมากระดับล้มโนลได้ถึง 2 ครั้งในรอบ SF ที่ Dubai และ MC และเกือบล้มโนลได้ในรายการใหญ่ยักษ์ที่ตัวเองเคยเป็นเจ้าพ่อมาก่อนนั่นคือ รายการ WB14 เฟดเข้าถึงรอบชิง และทำให้โนลต้องเบียด….เหงื่อตก กับ King of Grass วัย 33 ปีถึง 5 เซ็ต เฮียเฟดได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่มีโอกาสได้แชมป์ในทุกรายการที่ลงเล่น แต่ที่แน่ๆการเล่นเทนนิสของเฮียเฟดจากนี้ไปจะไม่กดดัน...สบายๆ และไม่ใช่สิ่งสำคัญสูงสุดอีกต่อไป เหมือนคนที่พร้อม สมบูรณ์พูนสุขทุกอย่างแล้ว เรื่อยๆ ฉิวๆ ได้ และนั่นยิ่งทำให้เฟดน่ากลัวกว่าเดิม เพราะมีโอกาสกลับมาสร้างผลงานเทนนิสที่ยอดเยี่ยมได้อีกครั้ง….


โดย: หมูทอง IP: 101.109.215.122 วันที่: 29 กรกฎาคม 2557 เวลา:6:19:35 น.  

 
ยังไม่จบนะ
คืนนี้มาต่อเรื่องราวของสองหนุ่มโนลกับราฟา...ในปีม้า

ปีม้าคงเป็นปีที่เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในวงการเทนนิสชายขึ้นมานิดหน่อย ตรงที่ รุ่นเด็กๆ ไม่ค่อยกลัวรุ่นใหญ่แล้ว แม้ท้ายสุดขาใหญ่ก็ยังครองถ้วยใหญ่ แต่ขาใหญ่ก็เริ่มมีสลับกันเป๋ไปบ้าง...ยังดีที่สมัยนี้มีคนเก่ง 3-4 คนทำให้ ภาพรวมนักเทนนิสชายก็ยังถูกครอบครองด้วยขาใหญ่

นอกจากนี้เทนนิสยังเป็นกีฬาของฝรั่ง ที่ครอบครองในดินแดนยุโรปและอเมริกา....มาถึงยุคนี้ ก็เริ่มนิยมเข้าไปในละตินอเมริกาและเอเชีย ถ้ายังมีดารา...ก็ยังเอาอยู่ ถ้าดาราเสริมทัพไม่ทัน ก็เฉา...

คืนนี้มาต่อจ้า....


โดย: หมูทอง IP: 101.109.215.122 วันที่: 29 กรกฎาคม 2557 เวลา:6:30:05 น.  

 
รอติดตามตอนต่อไปครับ


โดย: น้อง IP: 124.122.82.189 วันที่: 29 กรกฎาคม 2557 เวลา:19:17:22 น.  

 
รออ่านต่อเนื่องนะฮ้าฟฟฟฟ เอ หายไปไหนน้อ


โดย: แนน IP: 110.170.125.9 วันที่: 1 สิงหาคม 2557 เวลา:8:15:00 น.  

 
(ต่อ)

VIII). Novak Djokovic – นับตั้งแต่การกลับมาของราฟาอย่างเหลือเชื่อในปีที่แล้ว 2013 คือ กลับมาเป็นมือ 1 ของโลกและล่า GS ทั้ง FO13 และ USO13 ไปจากโนลอย่างเลือดเย็น โนลก็หมายมั่นปั้นมือกับการเล่นเทนนิสในปีม้านี้มาก โดยเฉพาะ FO 14 ที่กะว่าต้องทุ่มสุดชีวิตในการล่า GS สุดท้ายที่เหลือที่ยังไม่ได้ โนลถอนตัวรายการที่มาดริด เนื่องจากข้อมือเจ็บนิดหน่อย ไม่อยากเสี่ยงใดๆ พอมาเข้ารายการที่โรมโนลก็ได้เข้าชิง และโนลก็แน่พอที่จะเอาชนะราฟาแชมป์เก่า King of Clay มาได้แม้ว่าจะแพ้ไปในเซ็ตแรก 4-6, 6-3, 6-3 ถือว่าโนลเป็นนักเทนนิสเพียงคนเดียวที่มีความหวังจะล้มราฟาในสนาม Roland Garros ได้ หลังจากที่ Soderling ทำได้ในปี 2009 โดยเฉพาะในปีนี้ที่ราฟาแรงตก สภาพหลังที่ไม่เต็มร้อยหลังจากรายการ AO14 ทำให้เสริฟได้ไม่เร็ว ไม่แรงเหมือนเดิม มือก็เป็นแผลยับเยิน เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ราฟาแพ้ในคอร์ดดินถึง 3 ครั้ง มีเปอร์เซ็นต์ชนะไม่ถึง 90% ซึ่งราฟาไม่เคยมีผลงานระดับนี้มานานมาก เราต้องย้อนกลับไปตอนยังเอาะๆ อายุ 18 ปี 2004 โน้น

……โนลรู้ดีว่าเค้าต้องเก็บราฟาให้ได้ในปีนี้ และโอกาสก็มาถึง โนลได้เข้ารอบชิงกับราฟา ราคาต่อรองก็เลยสูสีมากชนิดที่แล้วแต่ว่าชอบใคร หลายๆสำนักก็ให้ยกให้โนลเป็นแชมป์เพราะปีนี้ราฟาไม่ค่อยคม สภาพเกมเทนนิสของโนลดูเหนือกว่านิดๆ

มาถึงตอนแข่งจริง โนลก็เฉือนเข้าชนะราฟาในเซ็ตแรกไปได้ 6-4 และแม้ว่าราฟาจะเบรกได้ก่อนในเซ็ตสองแต่โนลก็ตามมาเข้าคืนจนมาเสมอกันที่ 5-5 แต่ราฟาก็เบียดเอาชนะโนลมาได้ในเซ็ตสอง 7-5 สถานการณ์หลังจบเซ็ตสองก็ถือว่าเสมอกัน 1-1 เซ็ต แต่ดูในรายละเอียดรูปเกมแล้ว หมูทองว่าราฟาเล่นได้ดีกว่า และถ้าดูเข้าไปในแววตาของราฟาจะเห็นความกล้าหาญ “ไม่มีความกลัว” หลงเหลืออยู่เลย ราฟาต้องการจะปกป้องอาณาจักรคอร์ดดินแห่ง Roland Garros นี้ไว้ยิ่งชีพ ราฟามาสูตรใหม่ยิง FH down the line เข้า FH ของโนลแบบไม่มีความกลัวเลย และนั่นทำให้โนลมึนๆ ไม่สามารถต้านความแรงของราฟาได้ โนลเสียถึง 2 เบรกและแพ้ไป 2-6 ในเซ็ต 3 แบบขาด แต่พอขึ้นเซ็ต 4 ต่างคนก็ต่างเหนื่อย โนลฮึดพยายามรักษาเกมเสริฟของตัวเองไว้ แม้ว่าหวุดหวิดไปหลายครั้ง แต่เกมก็มาเสมอกันที่ 4-4 ราฟาเสริฟก่อนขึ้นนำ 5-4 พอโนลมาเสริฟเพื่ออยู่ในแม็ทช์ ก็เห็นชัดว่าโนลเกร็ง แล้วแฟนๆก็ดูจะเชียร์ราฟามากกว่า ตะโกนร้องเรียก..Rafa Rafa…แล้วโนลก็พลาดเหมือนปีที่แล้วคือ DF ตอน MP เพียงแต่ปีที่แล้วเกิดที่เซ็ต 5 แต่ปีนี้เกิดในเซ็ต 4

(และถ้าใครจำได้ในนัดชิง FO13 ก็มีส่วนละม้ายคล้ายนัดชิง FO14 ตรงที่ราฟานำไปก่อน 2-1 เซ็ต และภาพรวมราฟาก็ตีเทนนิสดีกว่าโนลกิ๊กหนึ่ง กล้าหาญ-Aggressive ใช้ได้ทีเดียวและในเซ็ต 4 ราฟาก็เบรคนำและมาเสริฟเพื่อปิดแม็ทช์ที่ 6-5 ราฟาเสริฟ แล้วก็เริ่มเครียดกดดันตัวเองตีออก 2 แต้มติดๆ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรให้ต้องเครียดมาก โนลได้เบรก BP แล้วก็ใจเย็นพอจะขบกัดให้ราฟาเสียเกม จนเสมอต้องมาตัดสินกันใน TB แล้วราฟาก็หลุดๆ เสียเซ็ตไปจนได้ ต้องมาตัดสินในเซ็ต 5 กว่าจะรู้แพ้ชนะ ก็หวาดเสียวกันไปนาน แต่บทจะจบก็จบง่ายจนงง เพราะโนลแจก DF ปิดแม็ทช์ที่ 9-7 หัวใจจะวาย…)

ไม่รู้ความหลังมันหลอนโนลหรือเปล่า ? โนลผิดหวังกับการพ่ายแพ้ครั้งนี้มากๆ ผิดหวังกับตัวเองว่าทำไมไม่ทนอีกนิด อึดอีกหน่อยเพื่อเอาชนะราฟา เหมือนตอนที่ทำได้ในนัดชิง AO09 เราลองมาดูสัมภาษณ์หลังแม็ทช์สักนิด อาจจะเข้าใจโนลมากขึ้น

Q. Having to play Nadal in Roland Garros is something totally different than playing him elsewhere. Like does he have moral superiority here, or the court's wide, as you had mentioned before? Does it make him totally very different than from other courts?

NOVAK DJOKOVIC: Yes, that's how it feels on the court. Obviously his records speak for themselves. He has won this tournament now nine times. It's very impressive what he's playing on this court. He has lost only once in his career on center court. It's definitely not easy best of five to play against him in these conditions.

Q. Do you feel that you were not in the best physical condition today since two days ago you seemed to have some nose problems or something. Would you say that today Nadal won it because he was stronger physically in a way?

NOVAK DJOKOVIC: Well, I did have the period of the match, as I mentioned, end of the second and the whole third set I struggled a little bit. But as I said, it's not impossible, but it's very, very difficult to stay with Rafa in this court, you know, throughout the whole match on the highest level of performance.
It's normal that you have ups and downs. I was just hoping that in the fourth I would be able to come back. I started feeling, as I said, a little bit better, but I wasn't managing to, you know, bring my A game when it was most needed in the end of the fourth.
โนลยังมีความมั่นใจว่าเอาชนะราฟาได้ แต่มันยากมากๆ เท่านั้น

Q. This is a hypothetical question: If the match started at 6:00 with no sun and a cooler temperature, do you think things might have been different?

NOVAK DJOKOVIC: Well, if I was left hander maybe I would win the tournament. (Laughter) I don't know. I don't know how to answer that question.

นักข่าวพยายามเซี้ยมอย่างมาก ให้โนลหาข้อแก้ตัวให้กับตัวเอง แต่ตอนนี้โนลปรับปรุงตัวเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้ว ไม่หลงกล

Q. Regarding to emotions, do you feel the crowd plays some role since you always are really, really loved here in Paris? Do you feel the crowd gave you not as good as it always gives you the cheers?

NOVAK DJOKOVIC: The crowd, I think support of the crowd was big for him, was big for me. I was trying to focus on my own fans, my own supporters, and of course it's finals of a Grand Slam.
When I play against Rafa, it's always exciting match for us to play and for crowd to see, so they get also involved in the match.
In the end of the day, it's very emotional. A lot of tension going on on the court. You can feel that. I cannot, you know, find excuses in the crowd. You know, I cannot blame anybody. It's all part of the sport.

Q. Early on you went and broke down his forehand quite effectively. As the match went on you seemed to go over more, maybe try to work more on the backhand. Is that an accurate perception? Would you just talk about your philosophy there?

NOVAK DJOKOVIC: Yeah, you know, I think he was covering the forehand angle quite well. My backhand crosscourt wasn't as effective as it was maybe in the previous matches against him.
He was hitting down the line forehand really, really well, so I think his first shot off the forehand, off my return, was terrific today.

Q. On match point on your second serve, someone from the crowd shouted something

NOVAK DJOKOVIC: Let's not talk about crowd, please. I just answered for the crowd. Thanks.

Q. Positive question about the crowd. In the end, the standing ovation was very special; it went very long. It's almost like people want you to win this title and want you to win a career Grand Slam.

NOVAK DJOKOVIC: It was fantastic. I mean, I am so grateful for the opportunity to play here. Of course it's right after you go off the court and you want this title so much and you don't win it for several years now, and it's disappointing.
But it's, as I said, not the first time that I have this particular experience. In the end of the day, you have to put things in perspective and see where I come from and what kind of life I have.
It's a blessing. So to be able to also be appreciated by the fans the way I was in the end of the match just gives me more, I'd say strength and motivation to come back here and try till the end of my career hopefully to get at least a title.


โนลก็คือโนล….นักเทนนิสพรสวรรค์ที่มีวิญญาณของการเอาชนะ และไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ ตอนนี้โนลเติบโตขึ้น ไม่วีน ไม่นอย และมั่นคงที่จะยืนหยัดอยู่ในสนามนี้ พยายามต่อในปีหน้า

หลังจบ FO14 ก็มีเพียงโนลเท่านั้นที่เป็นผู้ท้าชิงที่มีความเป็นได้มากที่สุดในการชิงมือ 1 คืนมาจากราฟา ถ้าเราดูคะแนนอันดับโลกตอนกลางเดือนมิถุนายนก่อน WB14 จะเห็นว่าโนลยังเป็นผู้ที่มีโอกาสสูงที่จะวิ่งแซงโค้งเข้าวิน
ATP Ranking ATP racing to London 2014
1 Rafael Nadal 12,500 Rafael Nadal 6,480
2 Novak Djokovic 12,330 Novak Djokovic 5,260
3 Stanislas Wawrinka 5,420 Stanislas Wawrinka 3,745
4 Roger Federer 4,945 Roger Federer 3,370

และความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่นโนลก็ทำผลงานที่ WB14 ได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดอง และเอาชนะเฟดในนัดชิงอย่างสนุก 5 เซ็ตตื่นเต้น 6/7, 6/4, 7/6, 5/7, 6/4 และเบียดทวงมือ 1 คืนจากราฟาได้ (เนื่องจากราฟาไปแพ้เด็กอายุ 19 จอมเสริฟ Ace ชื่อ Nick Kyrgios และมารีย์แชมป์เก่าก็ดันตกรอบเร็วแพ้น้องไมโลในรอบ QF เช่นกัน) อย่างไรก็ตามบนความตั้งใจของโนลเรื่องเทนนิสในปีนี้ โนลก็มีเรื่องราวสีสันใหม่ๆเข้ามาแทรกให้สนุกตื่นเต้นขึ้น ดังนี้

 เจ้าพ่อรายการ AO เจ้าของตำแหน่งแชมป์ 4 สมัยอย่างโนล โดนม้ามืดอย่าง Stanislas Wawrinka ซึ่งไม่เคยกลัวโนล แถมยังมีเกมเทนนิสที่เป็นยาขมของโนล พลิกล๊อกเอาชนะโนลในรอบ QF แบบ 5 เซ็ต 6-2, 4-6, 2-6, 6-3, 7-9 และนั่นก็ทำให้คะแนนสะสมของโนลหายไปเพียบในช่วงต้นปี

 พอเข้ารายการคอร์ดดินที่ MC โนลแชมป์เก่าพลิกล๊อคแพ้เฟดในรอบ SF และบอกว่ามีปัญหาข้อมือขวาเจ็บแต่ไม่รุนแรงนัก แต่ก็ทำให้โนลต้องถอนตัวจากรายการ Madrid 14 และไม่ต้องการเสี่ยงใดๆ ที่จะมีผลกระทบกับการล่าแชมป์ FO…นี่เป็นการบาดเจ็บครั้งแรกในรอบ 5 ปีของโนล

 โนลได้จ้าง Boris Becker เป็นโค้ชเพิ่มเติมจากโค้ชคู่ใจ Marian Vajda ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน อันดับแรกไม่มีใครคิดว่าหนุ่มสังคม ซิ่งไปซิ่งมาอย่าง บอริส แบ๊คเกอร์จะอยากมาทำงานโค้ชเป็นเรื่องเป็นราวให้กับใคร และใครคนนั้นเป็นโนลก็ยิ่งน่าแปลกใจใหญ่ว่าจะจูนเครื่องผสมผสานกันได้อย่างไร หลังจากโนลได้แชมป์คู่คือ IW และ Miami เสียงต่างๆก็น้อยลงแต่ทุกคนก็จับตาดูผลงานของโนลในคอร์ดดิน เพราะบอริสไม่เคยมีชื่อเสียงในคอร์ดดินเลย…โนลได้เข้ารอบชิงที่ FO14 และได้แชมป์ WB14 ถือว่าบอริสสอบผ่านการเป็นโค้ชอย่างสวยงาม

 โนลประกาศหมั้นกับเจ๊เยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่มาปีนี้โนลก็ประกาศว่าเธอท้องแล้ว…เจ๊เยท้องโย้มาเชียร์โนลที่รายการ FO14 เหมือนประกาศว่าโนลเตรียมตัวเป็นพ่อคนในปลายปีนี้แล้ว หลังจากที่โนลได้แชมป์ WB14 โนลก็ประกาศว่าขอมอบถ้วยแชมป์วิมให้กับ “ภรรยาและลูก” ที่กำลังจะเกิดมาในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงโค้ชคนแรกของโนลชื่อ Jelena Gencic ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว เธอเคยเล่าให้นักข่าวฟังถึงความฝันของโนลในวัยเด็กว่า "I asked him what he wants to become when he grows up," Gencic told the Associated Press. "Without hesitation, he said: 'The No. 1 player in the world.” และโค้ช Jelena นี่แหละคือโค้ชที่ปลุกไฟฝันในตัวโนล และมีความเชื่อมั่นว่าโนลจะเป็นมือ 1 ของโลกได้จริงๆ โนลไม่เคยลืมโค้ชคนนี้เลย

"I would like to dedicate this to my future wife, and our future baby, I'm going to become a father soon, I'm still preparing for that, it's a great joy in life. Last but not least I want to dedicate this title to my first coach, who taught me the basics of tennis shots and behaviour and everything I know about tennis, Jelena Gencic. She passed away last year. This is for her." He then held the trophy to the sky and kissed it.

Jelena Gencic, who was Novak Djokovic's first coach, died 1st June 2013

 โนลแต่งงานทันทีในอาทิตย์ที่ได้แชมป์ WB14 และคาดว่าจะได้ลูกแถวๆ เดือน Sep หลัง USO14 เมื่อชีวิตส่วนตัวของโนลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ถือว่าลงตัวครบถ้วนสมบูรณ์แล้วในปีม้านี้…แฟนๆเทนนิสคงต้องมาดูกันว่าผลงานเทนนิสของโนลจะจ๊าบขนาดไหนในช่วงปรับตัว ปรับชีวิตในปีนี้ ปีหน้า น่าสนใจ….อย่าได้กระพริบตาเชียว

ก่อนเข้าฤดูกาลคอร์ดปูนในทวีปอเมริกาปีม้า 2014 คะแนนสะสมอันดับ 1-4 เป็นดังนี้ โดยที่ราฟาและโนลเป็น 2 ใน 8 เซ๊ยนที่ได้เข้าไปเล่นที่ลอนดอนแน่นอนแล้ว อีก 6 ที่นั่งก็ต้องลุ้นเอาโดยที่เฟดและสตาน น่าจะเป็น 2 หนุ่มสวิสที่มีโอกาสสูงจะได้ไปลอนดอนเช่นกัน
ATP Ranking
ATP racing to London 2014
Novak Djokovic 13,130
Novak Djokovic 7,250

Rafael Nadal 12,670
Rafael Nadal 6,650

Roger Federer 6,070
Roger Federer 4,560

Stanislas Wawrinka 5,770
Stanislas Wawrinka 4,095


โดย: หมูทอง IP: 125.25.141.38 วันที่: 4 สิงหาคม 2557 เวลา:7:46:02 น.  

 
(ต่อ)

XI). Rafael Nadal – ในปีนี้เราจะเห็น Rafa ใน Version 3 ซึ่งน่าสนใจมากๆ ว่าพระเอกของเราจะดำเนินเรื่องราวที่แสนพิเศษ ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ไปในรูปแบบใด ก่อนจะคุยเรื่องอื่นใดของราฟาก็อยากจะได้เตือนความจำของแฟนๆเทนนิสว่า ราฟาเล่นเทนนิสมานานพอควร เริ่ม Turn Pro ตั้งแต่อายุ 15 ตอนปี 2001 และชนะแม็ทช์แรกในทัวร์ ATP ตั้งแต่อายุยังไม่เต็ม 16 ปี หรือพูดง่ายๆว่า ราฟาอยู่ในทัวร์ ATP มา 12 ปีเต็มๆ และอยู่เล่นอยู่ในระดับดาราถูก spotlight มาหนึ่งทศวรรษ หรือ 10 ปีเต็ม จะมีก็แต่เฮียเฟดที่เป็นดารามามากกว่าราฟาสัก 2 ปี…และนั่นมันนานมาก ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงต้องอ่อนล้ากันบ้าง ยิ่งถ้าได้เห็นสถิติต่างๆที่ราฟาทำไว้ ถือเป็นสถิติระดับที่คงต้องชาติหน้ามั้ง ถึงจะมีใครมาลบสถิติมหัศจรรย์เหล่านี้ได้ เพราะไม่ใช่แค่ความยอดเยี่ยมของฝีมือเทนนิส แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการยืนหยัดอยู่ความเป็นเลิศ ความเป็นแชมป์เปี้ยนยาวนานนับทศวรรษ ราฟาเป็นเจ้าของสถิติต่อไปนี้

 แชมป์ 8 สมัยต่อเนื่องที่ Monte Carlo – ไม่มีใครเทียบ

 แชมป์ 8 สมัยแบบไม่ต่อเนื่องที่ Barcelona – ไม่มีใครเทียบ

 แชมป์ 9 สมัยแบบไม่ต่อเนื่องที่ Roland Garros และมีสถิติชนะแพ้ 66-1 และชนะติดต่อกันมากที่สุด 35 แม็ทช์ – ไม่มีใครเทียบ

 แชมป์ระดับ GS เป็นเวลา 10 ปีต่อเนื่องกัน – ไม่มีใครเทียบ

 แชมป์ระดับ ATP-1000 เป็นเวลา 10 ปีต่อเนื่องกัน – ไม่มีใครเทียบ

 แชมป์ GS-3 พื้นผิวคือ ดิน หญ้า ปูน ต่อเนื่องกันในปีเดียว คือ FO-WB-USO 2010 – ไม่มีใครเทียบ

 แชมป์ Golden Slam อายุน้อยสุดใน Open Era(24 ปี 102 วัน) คือได้แชมป์ทุก GS ในยุคที่สนามแข่งขันมีครบทุกพื้นผิวดิน หญ้า ปูน และได้เหรียญทองโอลิมปิค(ปักกิ่ง-2008) – ไม่มีใครเทียบ (อังเดร อากัสซี่ 29 ปี 38 วัน และโรเจอร์ เฟดเดอร์เรอ 27 ปี 203 วัน)

 ชนะต่อเนื่องบนคอร์ดดิน 81 แม็ทช์ (11 April 2005 – 20 May 2007) – ไม่มีใครเทียบ

 สถิติชนะ-แพ้บนคอร์ดดินแบบ 5 เซ็ตคือ 90-1 – ไม่มีใครเทียบ

 ชนะ 400, 500, 600 และ 700 แม็ทช์ด้วยจำนวนแม็ทช์ที่เล่นน้อยสุด หรือแพ้น้อยสุด (400-91), (500-105), (600-123), (700-136) – ไม่มีใครเทียบ


ตั้งแต่ปี 2005 มาราฟาไม่เคยแพ้ในคอร์ดดินถึง 3 ครั้งเลย จนมาถึงปี 2014 เนี่ยแหละที่มีสถิติ 24-3 แพ้เฟอร์เรรอบ QF ที่ Monte-Carlo Rolex Masters แพ้อมาโกรรอบ QF ที่ Barcelona Open Banc Sabadell แล้วก็มาแพ้โนลแบบขาดกระจายรอบชิงที่โรม และแม้ราฟาจะแพ้บนคอร์ดดินถึง 3 แม็ทช์ในปี 2004(อายุ 18 ปี) กับ 2014(อายุ 28 ปี) เท่านั้นมันก็ทำให้แฟนๆเทนนิส นักวิเคราะห์วิจารณ์เริ่มลังเลสงสัยว่า King of Clay จะถึงเวลาอวสานแล้วละมัง…ไม่มีใครคุ้นชินกับการแพ้ของราฟาบนคอร์ดดิน เพราะในรอบทศวรรษตั้งแต่ 2005 เป็นต้นมาราฟามีสถิติ 292-14 หรือ 95.4% ที่ยากจะหาใครมาทำลายได้


โดย: หมูทอง IP: 125.25.141.38 วันที่: 4 สิงหาคม 2557 เวลา:7:48:32 น.  

 
มาแล้วๆๆๆ ชุ่มชืนหัวใจยิ่งนัก วู้ๆๆๆๆ ยอดเยี่ยมๆๆๆคร่า


โดย: แนน IP: 110.170.125.9 วันที่: 5 สิงหาคม 2557 เวลา:9:44:15 น.  

 
(ต่อ)

ในปีนี้ราฟาอายุ 28 ปีสมบูรณ์แล้ว ราฟาอยู่ในวงการเทนนิสมา 12 ปีเต็ม มันก็มีอ่อนล้า มันก็มีบางช่วงเวลาที่ไม่ฟิต ไม่คม ปล่อยปลาหลุดมือง่ายกันบ้าง…บางทีกายพร้อมแต่ใจล้า บางทีกายล้า แต่ใจสู้…แพ้คนที่ไม่เคยแพ้ แพ้เด็กดาวรุ่ง ไม่ได้ชนะแน่นอนระดับเจ้าของสถิติ Reliabilty Index เหมือนการเล่นในทศวรรษที่ผ่านมา…..แต่ทั้งหลายทั้งปวงมันจบลงที่คุณยังมีความสามารถในการล่าแชมป์อยู่หรือไม่ ราฟาแสดงให้โลกเห็นว่ามันยากแค่ไหนที่จะล้มเค้าใน GS คอร์ดดินที่ต้องเล่น Best of 5 และการที่ราฟาได้แชมป์ Roland Garros สมัยที่ 9…ย้ำอีกครั้ง สมัยที่ 9 เป็นการพิสูจน์ศักยภาพของราฟาในวัยหลัง 28 ซึ่งเรายังไม่รู้ว่าจะต้องรออีกนานแค่ไหนจึงจะมีมนุษย์ต่างดาวคนใหม่มาล้มสถิติอันเหลือเชื่อของ King of Clay...Rafael Nadal (จาก Bjorn Borg มาถึงราฟาก็ 30 ปี)

แต่อย่างที่หมูทองเกริ่นวิเคราะห์มาหลายปีแล้ว ว่าราฟาไม่ต้องการหยุดตัวเองไว้แค่การเป็น King of Clay ราฟาต้องการบอกว่าเค้าเล่นเทนนิสได้ดีทุกสนาม และดีเลิศล่าได้ทุกแชมป์ในวันที่เค้าพร้อม ราฟาเป็นเจ้าของแชมป์ Chanel Slam คือแชมป์ FO-WB ต่อเนื่องกันถึง 2 สมัยในปี 2008 และ 2010 จะเป็นรองก็แต่ บียอร์น บอร์ก ที่ได้ Chanel Slam 3 สมัยติดคือ 1978-79-80 แต่หลังจากราฟาต้องซ่อมเข่านานถึง 7-8 เดือนในปี 2012 การเล่นเชื่อมต่อระหว่างคอร์ดดินกับคอร์ดหญ้าที่ราฟาเคยเป็นหนึ่งในตองอูก็ทำไม่ได้ เนื่องจากราฟาไม่สามารถเคลื่อนที่ ยึด-ย่อเข่าลงเพื่อรับการกระดอนลูกต่ำในคอร์ดหญ้าได้ดีเหมือนเดิม แฟนๆเทนนิสเป็นงงเมื่อเห็นแชมป์เก่า WB อย่างราฟาต้องมาแพ้รอบ1 รอบ2 รอบ 4 หรือต้องถอนตัว ดังนั้นจากนี้ไปราฟาจึงเป็นม้านอกสายตาของทุกคน และไม่มีใครคิดว่าราฟาจะได้แชมป์คอร์ดหญ้าอีกต่อไป….กาลเวลาคงเป็นเครื่องพิสูจน์

สำหรับคอร์ดปูนซึ่งเป็นคอร์ดที่มีการแข่งขันมากที่สุด ราฟาพัฒนาเทนนิส Version 3 เพื่อรองรับอายุที่มากขึ้น ร่างกายที่ทนทานได้น้อยลง เทนนิส Version ล่าสุดนี้เน้นเสริฟ ความดุดัน ผสมผสานรุกรับ ใช้มุม ใช้พื้นที่ เพิ่มการเคลื่อนที่ทั่วคอร์ด(แทนการปักหลักอยู่ที่ Base Line เหมือนเดิม) ซึ่งการพัฒนาเทนนิสเวอร์ชั่นนี้ นักเทนนิสต้องมีทักษะและเทคนิคการเล่นเทนนิสสูงมาก จึงสามารถผสมผสานอาวุธต่างๆ พัฒนาเป็นกลยุทธ์ชั้นเลิศได้ เราได้เห็นกลิ่นอายของเทนนิส Version 3 เมื่อปีที่แล้วทำให้ราฟาล่าแชมป์ 3 รายการซ้อนในทวีปอเมริกา คือ Roger Cup – Cincinati – USO13 อย่างที่ไม่เคยนึกฝันว่าเจ้าพ่อคอร์ดดินอย่างราฟาจะทำเรื่องมหัศจรรย์อย่างนี้ได้อย่างไร เพราะในรอบ 10 ปีมี Andy Roddick ชาวอเมริกันเซียนคอร์ดปูนทำได้ในปี 2003 ช่วงที่ยังไม่มีเทพ (เทพเฟดเองก็ยังไม่เคยทำได้ เต็มที่คือ 2 แชมป์ในช่วงพีค 2004-7)

หมูทองมั่นใจความเก่งเทนนิสคอร์ดปูนของราฟาใน Version 3 มาก แต่ปี 2014 เหมือนโชคไม่เข้าข้าง ราฟาเข้าชิงที่ AO14 แต่โชคร้ายหลังยึด สตานเลยได้แชมป์ไป ตอนกลางปีก่อนเข้ารายการ USO14 ราฟาก็ดันเจ็บข้อมือขวาเป็นอุบัติเหตุระหว่างซ้อม ทำให้ต้องถอนตัวรายการ Roger Cup ที่โตรอนโต และ Cincinati อย่างกะทันหัน 2 รายการซ้อนไม่สามารถป้องกันแชมป์ ป้องกันแต้ม 2000 แต้มได้…โอ้ มันเป็นข่าวเศร้าสุดๆ แฟนๆ เทนนิสก็มีความหวังสุดท้ายที่จะได้เห็นราฟาที่นิวยอร์ค เห็นราฟาทำผลงานที่ดีเลิศที่อเมริกา แต่ถ้าปีนี้ไม่ใช่ปีของราฟาในคอร์ดปูน ก็ยังมีปีหน้า ปีโน้น และเหนือสิ่งอื่นใดไม่ว่าจะเจออุปสรรคใดๆในชีวิต ราฟาเป็นคนที่เข้าใจ “ธรรมะ” สามารถปรับทัศนคติให้ถูกต้องต่อความเป็นจริงในชีวิตและสามารถเดินหน้าไปอย่างไม่ย่อท้อ เป็นตัวอย่างที่ดีของคนรุ่นหลัง ขอยกตัวอย่าง ราฟากับธรรมะ เรื่อง อิทธิบาท 4

“ฉันทะ” ราฟาจะพูดเสมอถึงความสำคัญของ “รักในสิ่งที่ทำ” ราฟาบอกว่าเค้าโชคดีมากที่มีงานประจำเป็นเหมือนงานอดิเรก เราต้องสนุกกับสิ่งที่ทำ ตั้งแต่เด็กราฟาไม่เคยขึ้เกียจซ้อมเทนนิส แม้ว่าจะชอบชนะมาก แต่ก็ยอมรับความพ่ายแพ้ได้ และมองทุกอย่างตาม”ความเป็นจริง” ถ้าเริ่มต้นการทำภารกิจด้วยมุมมองนี้ มันก็สำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง

“วิริยะ” ราฟาขยัน อดทน ไม่ย่อท้อยอมแพ้แก่อุปสรรคใดๆ ข้อนี้ชัดเจนแทบไม่ต้องอธิบายมาก ราฟาไม่เคยขึ้เกียจซ้อม ไม่เคยบ่นเวลาอะไรๆ มันไม่เข้าทาง มีความมานะอดทน และความเพียรอย่างสูงในการเอาชนะอุปสรรค เอาชนะทุกคำพยากรณ์ ถ้าใครจำได้ ตอนปลายปี 2005 ราฟา กระดูกเท้าแตก หมอบอกว่าราฟาไม่สามารถเล่นเทนนิสอาชีพได้อีกเลย ราฟาอดลงเล่น AO06 หลังจากนั้นราฟาก็ทำให้ดูว่าเส้นทางเทนนิสอาชีพของเธอมหัศจรรย์ขนาดไหน ราฟาได้มือ 1 ของโลกมาจากเฟดในปี 2008 แต่ พอมาถึงปี 2009 ราฟาหลังเจอมรสุมชีวิตทั้งร่างกายและจิตใจ เจอปัญหาครอบครัวพ่อกับแม่แยกทางกันชั่วคราว แพ้โซเดอริ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวใน RG แต่ราฟาก็ไม่ยอมแพ้กลับมาจากความสะบักสะบอม มาล่าตำแหน่งสูงสุดต่างๆได้อีกในปี 2010 และถ้านั่นยังไม่ชัดพอกลางปี 2012 ราฟาเข่าเดี้ยงต้องหยุดเล่นเทนนิสยาวนานที่สุดถึง 7-8 เดือน ทุกอย่างดูเหมือนไร้อนาคต แต่ราฟาก็คือราฟา มุมานะกลับมาทวงมือ 1 ของโลกจากโนลได้อย่างสง่างามในปี 2013 ทุกๆครั้งที่ราฟาร่วงหล่นลงไปในวังวนของความผิดหวัง เจ็บปวด พ่ายแพ้ เธอก็สามารถกลับมาได้ด้วย “วิริยะ”

“จิตตะ” ราฟามุ่งมั่นมีไฟฝันในการเล่นเทนนิสมากเหลือเกิน…บอกว่า “ I have Passion and the Love for the Game” ราฟาชอบการแข่งขัน และพยายามทำทุกอย่างให้ตัวเองอยู่ในสภาพที่แข่งขันได้ สู้ได้ มีโอกาสชนะในทุกๆแม็ทช์ที่เข้าแข่ง ในการตั้งเป้าหมาย…เราจะเห็นคนทั่วไปตั้งเป้าหมายให้สูง ให้ไกล ให้ใหญ่โต ส่วนใหญ่มันเป็นความอยากได้ อยากมี อยากเป็น แต่สำหรับราฟา เป้าหมายเป็นเรื่องไฟฝันที่อยากจะทำเรื่องท้าทายที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ เช่น เมื่อตอนเด็ก 11-12 ก็อยากได้เป็นแชมป์ Wimbledon แชมป์ GS คอร์ดหญ้าที่แทบไม่มีนักเทนนิสสเปนซึ่งเชี่ยวชาญคอร์ดดินได้แชมป์นี้เลย อย่าว่าแต่ได้แชมป์เลย เล่นยังไม่อยากจะไปเล่นเลย เพราะรู้สึกว่าเสียเวลา เสียพลังงานโดยโอกาสประสบความสำเร็จต่ำมาก เนื่องจากการเล่นบนคอร์ดดินกับคอร์ดหญ้า มันแตกต่างกันมากเหมือนดินกับฟ้านั่นแหละ ขนาดโมย่าที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ อดีตมือ 1 ของโลกยังอดหัวเราะไม่ได้…แต่ราฟาก็ใช้ไฟฝันทั้งหมดของตัวเองมาทุ่มเทเพื่อสร้างเหตุปัจจัย พัฒนาตัวเองให้เป็นเจ้าพ่อคอร์ดดินที่เก่งมากพอจะเป็นแชมป์ WB ในวันที่มีเจ้าพ่อคอร์ดหญ้าอย่างเฟดเดอร์เรอ อยู่ในสนามการแข่งขัน โปรดดูเทปนัดชิง WB06, WB 07 และ WB08 แล้วจะเห็นถึงความมานะ พยายาม ไม่เคยยอมแพ้ของราฟา

“วิมังสา” เข้าใจ พิจารณาไตร่ตรอง ปรับปรุงแก้ไข ธรรมะข้อนี้ขอยกประเด็นเส้นทางชีวิตของราฟาที่ให้ความสำคัญกับ “วิถึ” ไม่น้อยไปกว่า ”เป้าหมาย” เรื่องนี้เป็นเรื่องยากเหมือนกัน เพราะตั้งเป้าหมายนั้นตั้งไม่ยาก แต่เส้นทางไปถึงเป้าหมายนั้นหละ..เราสนใจมันแค่ไหน อดทนแค่ไหน คนส่วนใหญ่ เลือกเส้นทางที่ง่าย ไปสะดวก ผิดถูกไม่สน ต้องเสียอะไรไปบ้างกลางทางก็ไม่แคร์ ขอให้ถึงเป้าหมายเป็นพอ…ราฟาให้น้ำหนักกับการพัฒนาตัวเองมากกว่าการโทษคนอื่น หรือโทษสิ่งที่อยู่นอกตัวเอง อันนี้ ธรรมะ ของแท้ เพราะท่านบอกให้ชนะตัวเอง ราฟาได้พัฒนาเกมเทนนิสมาจาก Version 0 ที่แม้เวอร์ชั่นพื้นฐานนี้จะทำให้ราฟาเป็น King of Clay แล้ว แต่ราฟาไม่หยุดนิ่ง ไม่หยุดคิดปรับปรุงเกมเทนนิสของตัวเองเป็น Version 1 (เพื่อให้สู้ชนะได้ในคอร์ดหญ้า), Version 2(เพื่อให้สู้ชนะในคอร์ดเร็วทั้งหญ้า & ปูน) และมาถึงปัจจุบัน Version 3(เพื่อให้พร้อมเป็น King of Tennis)

และนั้นคือ “วิถี” ในวิชาชีพของราฟา….ที่มองเห็นได้ชัด จะใช่ ไม่ใช่ก็มีตัววัด ด้วยจำนวนถ้วยแชมป์ สถิติตัวเลขต่างๆชัดเจน ตอนราฟาเลิกเล่นเทนนิสก็คงมีคนมาเขียนวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์อีกมากมาย แต่มี ”วิถึ” อีกแบบที่คนส่วนใหญ่มองข้ามไป เป็นวิถึที่ทำให้เราได้เห็นธรรมะของราฟามากขึ้น ขอยกตัวอย่างในนัดชิง AO 09 และ AO 14 ;-

ในนัดชิง AO 09 ราฟาเสียเปรียบเรื่องต่างๆมากมาย แถมยังมาชิงกับเฮียเฟดคู่ปรับระดับเทพคนเดิมที่มีความเชี่ยวชาญคอร์ดปูนมากกว่าราฟามาก ราฟาได้พักน้อยกว่า(เกือบ 2 วันเนื่องจากแข่ง SF วันหลังและแข่งจนข้ามคืน) สภาพร่างกายแย่กว่า(ซัดกับนันโด้ 5 เซ็ตเกือบแย่) ทุกคนพยายามบอกว่า การจัดการแข่งขันรอบ SF คนละวันแบบนี้มันไม่แฟร์ ไม่เป็นธรรมต่อราฟาเลย แต่ราฟาบอกว่า มันเป็นเรื่องปกติปีนี้เค้าแข่งทีหลัง แต่ปีที่แล้วเค้าแข่งก่อน ไม่เป็นไร ถ้าแม้จะเหนื่อยมากจาก SF แต่จะทำให้ดีที่สุดแล้วเธอก็เอาชนะเฮียเฟดมาได้แบบ 5 เซ็ต ราฟาจึงเป็นนักเทนนิสสเปนคนแรกที่ได้แชมป์ AO เฟดเดอร์เร่อแพ้ร้องไห้เสียใจมากกลางเวที ราฟาเข้าไปปลอบและให้กำลังใจ….เราจะไม่เคยเห็น คู่แข่ง คู่ต่อสู้ คนไหนที่ให้เกียรติและแคร์ความรู้สึกของผู้แพ้ได้งดงามพอดิบพอดีเหมือนราฟา และพอมันเป็นความจริงใจ ความเป็นสุภาพบุรุษที่มีมาตลอดเวลายาวนาน จึงสามารถโน้มน้าวคนที่มั่นใจตัวเอง และเก่งเทพอย่างเฟดเดอร์เร่อ ให้การยอมรับและชื่นชมราฟาอย่างออกหน้าออกตาและจริงใจเช่นกัน (หมูทองคิดว่า เฟดยอมลงให้คนเดียวเท่านั้น คือ ราฟา)

ส่วนที่ AO14 ราฟาหวังกับแชมป์ AO14 มากมาย (ราฟาต้องถอนตัวไม่ได้ลงแข่งใน AO13 เนื่องจากสภาพร่างกายไม่พร้อม) ปีนี้ราฟาเตรียมตัวดี ซ้อมดี แต่ต้องมาแพ้สตานในนัดชิง เพราะเจ็บหลัง เริ่มแย่มาตั้งแต่ตอนวอร์ม แต่มาเดี้ยงหนักปลายเซ็ตแรก….MTO ก็ยังไม่ดีขึ้น เริ่มวิ่งไม่ได้ เริ่มยืนรับลูก เสริฟเอาแค่พ้นเน็ต เป็นเทนนิสที่ทรมานมากทั้งคนเล่น คนดู และถ้าเป็นคนอื่นคงต้องขอรีไทร์ แต่ราฟาก็ฝืน…ย้ำว่า ” ฝืน” เล่นแบบทรมานร่างกายสาหัสไปอีกชั่วโมงครึ่ง เพื่อรักษาความรู้สึกของสตาน ไม่ให้ได้แชมป์ GS จากการรีไทร์ของคู่ต่อสู้ เพื่อคนจัดรายการ เพื่อคนดูที่เสียค่าบัตรชมนัดชิง GS มาแพงๆ(ขอบอกว่า แพงจริง) จะไม่เซ็งจนเกินไป และเพื่อตัวเองจะได้ไม่รู้สึก ”แย่” ไปกว่านี้ ทั้งที่การฝืนสังขารเล่นแบบนี้อาจเป็นอันตราย มีผลต่อกล้ามเนื้อระยะยาว แม้ว่าราฟาเศร้ามากจนอยาก “ร้องไห้” ใจจะขาด แต่เธอกลั้นใจ behave อย่างดีจนจบรายการมอบถ้วย และเราก็ได้เห็นความดีงามของราฟาจากการสัมภาษณ์ Press Conferrence ที่แม้นักข่าวจะพยายามเซี้ยม จี้ อย่างไร ราฟาก็มั่นคงใน “วิถึ” ของตัวเองมาก

Q. Obviously a very difficult occasion for you emotionally. Did your back go when you played that forehand in the first game of the second set when you doubled over?

RAFAEL NADAL: No. The back, since the beginning I felt a little bit, from the warmup. It was a little bit worst in the first set. End of the first set, I start to feel worst. Then at the beginning of the second was the key moment that I felt, during a serve in a bad movement, is very stiff, very bad.
That's not the real moment to talk about that. Is the moment to congratulate Stan. He's playing unbelievable. He really deserve to win that title. I very happy for him. He's a great, great guy. He's a good friend of mine. I am really happy for him.
So just congratulate him for everything. He had a great year last year and start the new year winning two titles is just amazing. So congratulations.
เปิดฉากอธิบายสถานการณ์เรื่องหลังตัวเอง แล้วตีกันว่าเราอย่าพูดเรื่องหลังกันเลย แต่นักข่าวก็ยังถามแต่เรื่องหลังอีก ราฟาก็พยายามตอบให้สุภาพตามเนื้อหา

Q. Much as it's not easy to talk about, could you share with us what happened when you went off the court? Presumably to have treatment.
RAFAEL NADAL: Yeah, what I did?

Q. Yes.
RAFAEL NADAL: Just try to I don't know. You can ask the physio, because in that moment I was too worried to think about what happened. The physio tried to relax a little bit the back. When that happen during a match is almost impossible. I tried hard.
Last thing that I wanted to do was retirementhe . No, I hate to do that, especially in a final. Same time, is tough to see yourself during the whole year you are working for a moment like this, and arrives the moment and you feel that you are not able to play at your best.
So was not an easy situation for me to be on court like this, but I tried hard until the end, trying to finish the match as good as I can for the crowd, for the opponent, for me. So that's what I did: tried everything until the last moment, but was impossible to win this way. Opponent is too good.

Q. You said you felt it go in the warmup. Can you explain what you were thinking? Did you think it was going to get better throughout the match?
RAFAEL NADAL: I talked about that enough I think. Sorry for the answer, but I talked enough about that. Is not the moment, as I said after the first question. Is the third one after I say that. That is not the moment to talk a lot about the back.
Is the Stan day, not my day. As I say before, I try my best and was not possible for me today. I'm obviously disappointed and very sad about what happened. But that's life, that's sport. I really had a lot of great moments in my career. That's a tough one. Just accept and trying to keep working hard for what's coming.
ชักจะเริ่มเข้มขึ้นว่า ให้นักข่าวหยุดถามเรื่องหลังได้แล้ว…พอได้แล้ว

Q. How did you feel about the crowd reaction when you came back onto court after the medical timeout?
RAFAEL NADAL: The crowd was great with me in the whole weeks, no?
แฟนๆเซ็งตอนราฟาขอ MTO แต่ต้องไปทำนอกคอร์ด ส่งเสียงบู….เพราะไม่รู้ว่าราฟาเป็นอะไร แต่พอมาเล่นเซ็ต 2 ก็แทบไม่วิ่ง จึงได้แต่สงสาร ส่งเสียงเชียร์ ราฟาเข้าใจความรู้สึกของแฟนๆที่ซื้อตั๋วมา ต้องการดูเทนนิสมันส์ๆ ซัดกันกระจาย ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งง่อยเปลี้ยเสียขาสู้ไม่ได้แบบนี้

Q. By the end they were shouting your name, cheering.
RAFAEL NADAL: Sometimes is tough for the crowd to understand. The crowd, only thing wants to do is enjoy great match. They paid ticket to watch the best match possible, and I was not able to offer that to them for moments. I wanted to try my best until the end. But I can understand very well the reaction. They understand later that I was bad. I was trying all what I can try on the court with that situation. The crowd was great with me during both weeks. Support has been enormous, more than ever. I feel very, very proud about they treat, how the crowd is supporting me here.
You never will heard me talk badly about the crowd here.


ราฟาได้ ”เลือก” วิถึทางที่น้อยคนเลือก เพราะมันลำบาก ขรุขระ ทรมานตัวเอง…เพื่อให้รู้สึกว่าได้ทำสิ่งที่ถูกต้องต่อผู้อื่น ต่อส่วนรวม ต่อความดีงาม เหมือนเส้นทางการเดินทางในชีวิตสายธรรมะ ที่ต้องทวนกระแสกิเลสทั้งปวง และต้องเริ่มต้นจากคิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี ไปสู่สถานที่ที่ดี คิดบวก+ และมองคนอื่นในด้านดี ราฟาทำให้หมูทองนึกถึงบทกวีของท่านพุทธทาส
มองแต่แง่ดีเถิด
เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา
จงเลือกเอาส่วนที่ดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ขั่ว อย่าไปรุ้ของเขาเลย
จะหาคนมีดีโดยส่วนเดียว
อย่ามัวเที่ยวค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเลย
ฝึกให้เคย มองแต่ดีมีคุณจริง

ทำไมเราพูดถึง “ธรรมะ” มันเกี่ยวอย่างไรกับ “ความสำเร็จ” ?

ถ้าเราไปถามราฟาเกี่ยวกับเป้าหมายความสำเร็จในอนาคต ราฟาจะตอบประมาณว่า “ I live day by day ” ราฟาอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับแต้มตรงหน้า อยู่กับเกม เซ็ต และแม็ทช์ที่เล่นอยู่ อยู่กับทัวร์นาเม้นท์นั้นๆ(ชอบและให้ความสำคัญหมดทุกทัวร์ที่ลงเล่น) เหมือนกับว่ามีแค่เป้าหมายระยะสั้น มองไปแค่ 2-3 เดือนและอย่างเก่งก็ดูคะแนน racing ว่าตอนนี้คะแนนสะสมของปีอยู่ที่เท่าไร ห่างคู่แข่งเยอะหรือเปล่า ราฟามีแนวโน้มไม่คิดถึงเป้าหมายระยะไกลแบบคมชัดมากนัก…มีลักษณะว่า ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ดูแลรักษาสุขภาพเพื่อให้มีโอกาสเล่นเทนนิสต่อได้อีกหลายปี ราฟามี “ธรรมะ”โดยพยายามสร้างเหตุปัจจัยให้ดีเพื่อผลที่ดีจะตามมา ดังนั้นถ้าวันนี้ราฟาจะมีไฟฝันเป็นเป้าหมายลางๆ เรื่อง เหรียญทอง Olympic 2016 ที่บราซิล ควบคู่กันไปกับ The Grand Slam ที่อาจตีความหมายถึงแชมป์ 4 GS ต่อเนื่องกัน หรือ แชมป์ GS มากที่สุดในประวัติศาสตร์ หรือ ได้แชมป์ GS ในรายการหนึ่งมากกว่า 10 แชมป์….ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก


โดย: หมูทอง IP: 125.25.128.250 วันที่: 6 สิงหาคม 2557 เวลา:7:53:55 น.  

 
จบจริงแล้ว...ขรุขระนิดหน่อยกว่าจะปั้นออกมาจนเสร็จ
ดีใจมากที่คุณแนนชอบอ่าน และขอขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ ถ้าอยากอ่านเรื่องอะไรของเทนนิส ก็บอกได้ จะพยายามค้นคว้าเขียนไว้ค่ะ


โดย: หมูทอง IP: 125.25.128.250 วันที่: 6 สิงหาคม 2557 เวลา:7:56:49 น.  

 
ตามมาเป็นแฟนอย่างเหนียวแน่นค่ะ ชอบทั้งราฟาและคุณหมูทอง บทความที่วิเคราะห์ผูกโยงกับธรรมะนั้นเยี่ยมวรยุทธจริงๆค่ะ ต้องอ่านช้าๆอย่างไม่กะพริบตาเลย ปีหน้าหวังอยากไปเชียร์ราฟาที่โรลังค์การ์รอสสักครั้งเนอะ ขอให้ได้ RGครั้งที่ 10 และ US ครั้งที่ 3 AO ครั้งที่ 2 หุหุ ไม่ค่อยโลภเลยนะ อิอิ


โดย: แนน IP: 110.170.125.9 วันที่: 7 สิงหาคม 2557 เวลา:9:28:19 น.  

 
ขอบคุณคุณหมูทองมาก ได้อ่านบทวิเคราะห์ดีดี ชอบมากเหมือนเดิมค่ะ


โดย: อ่อน IP: 157.7.205.214 วันที่: 12 สิงหาคม 2557 เวลา:21:06:52 น.  

 
อ่านเรื่องของราฟา ที่คุณหมูทองวิเคราะห์แล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ

ราฟาครึ่งปีหลังมานี่อุปสรรคทางสุขภาพร่างกายเยอะ

ต้องผ่าตัดไส้ติ่งในวันที่3พ.ย.นี้แล้ว หลังจากที่ทนมาหลายสัปดาห์แล้ว

แพ้แบบไม่น่าแพ้ติดกัน3รายการเลย อ่านเจอหลายๆคนเกรงว่าราฟาจะรีไทร์

ก่อนเฟดด้วย ยิ่งเศร้า.. แต่มาอ่านบทความของคุณหมูทองเรื่อง อิทธิบาท4

ของราฟาแล้วยกใจขึ้นได้มาเต็มค่ะ ราฟาทำเรื่องมหัศจรรย์เสมอ

ยังไงก็ตามเชียร์และรักราฟา ตลอดกาล

ขอบคุณ คุณหมูทองที่เขียนเรื่องราฟาให้ได้อ่านกันยาวๆ ชอบมากๆค่ะ


โดย: รัก ราฟา IP: 125.26.248.232 วันที่: 29 ตุลาคม 2557 เวลา:20:23:03 น.  

 
ขอบคุณคุณรัก ราฟา
ดีใจที่ชอบอ่านบทความค่ะ ต้นปีหน้าเราคงได้เห็นราฟาเล่นเทนนิสใหม่อีกครั้ง หมูทองกะว่าจะเขียนบทความใหม่ตอนนั้น
อยากเห็นราฟาตีเทนนิสมากจริง...เทนนิสที่ไม่มีราฟาเนี่ย เฉาจริงๆ


โดย: หมูทองหมูแดง IP: 1.1.179.89 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2557 เวลา:12:37:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sitthi_sp
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add sitthi_sp's blog to your web]