สุภารัตถะ บล็อก
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
5 กุมภาพันธ์ 2548
 
All Blogs
 

ร่ายอารมณ์บรรเลงกวี


*
บรรเลง..
กลอน...
กวี........
ที่ห้องนี้..
ได้เลย..




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2548
34 comments
Last Update : 20 กรกฎาคม 2551 12:31:53 น.
Counter : 790 Pageviews.

 

หนึ่งกวีคนนั้น

เฝ้ารอ

กวี ..

 

โดย: คนสวย (ทำใจได้ ) 5 กุมภาพันธ์ 2548 13:53:47 น.  

 

กินแล้วก็นอน
ออกจากบ้านไม่ได้
เหมียว...

 

โดย: แมวอ้วน โอโตทาเกะ ฮิโรคุง IP: 202.57.174.201 6 กุมภาพันธ์ 2548 8:50:48 น.  

 

โกอาน

เงียบจนได้ยินเสียงใบไม้พลิก
ทุกกระดิกเข็มใจในเวิ้งว่าง
อาบความนิ่งนั่งตรึงอยู่กึ่งกลาง–
ฟาก ระหว่างขวากขวางอำพรางตา

เมฆลอยเหินน้ำไหลอยู่ในอก
ชั่วปีกผกผีเสื้ออาจเปลี่ยนค่า
ตามรอยทางกองเกวียนกาลเวลา
เงียบยิ่งกว่าการมาจันทราทิตย์

กลั่นอารมณ์เคี่ยวกรำ–กำหนดรู้
ระหว่างคู่เขาออกลมปราณ–จิต
เงียบยิ่งกว่าการเกิดแห่งชีวิต
นิ่งยิ่งกว่าการติดในแร้วกาล

กระดิกเข็มนาฬิกาใจกำหนด
ลำคลองคด น้ำไม่คด ไหลผสาน
เสียงขลุ่ยคืนกอไผ่กล่อมวิญญาณ
ปริศนา “โกอาน” ขบคิดธรรม..

ตีพิมพ์ครั้งแรก นิตยสารเสขิยธรรม

 

โดย: ธาร ธรรมโฆษณ์ IP: 202.44.135.34 8 กุมภาพันธ์ 2548 14:22:31 น.  

 

โศลก

เกริ่นกล่าวปริศนาขานขับ
ไพเราะจับใน..จิตตรึก
ยึดแล้ววางล้างลึก
คิดและนึก ฝึก.. เข้าใจ..


เสขิยธรรม หนังสือดี
บทกวีของท่านธาร ฯ กล่าวถึงโกอานได้ไพเราะมาก

ขอบคุณที่มาเที่ยว..

 

โดย: สุภารัตถะ IP: 202.5.85.76 8 กุมภาพันธ์ 2548 18:57:04 น.  

 

ฉันหลงทางหรือเปล่า??
ทำในสิ่งที่ชาวบ้านเขาทำ
ทั้งที่ฉันไม่อยากจะทำ

เพื่ออะไรกัน
ก็ในเมื่อสิ่งที่พวกเขาไขว่คว้า
ฉันไม่ต้องการสักหน่อย

หรือแค่ว่า ฉันไม่อยากแพ้..

 

โดย: หลงทาง IP: 202.57.168.193 11 กุมภาพันธ์ 2548 10:26:15 น.  

 

รัก

โดยดอกขาวสีนวลดั่งนมสด
ชูดอกงามปรากฏท่ามสดแสง
ตราบมิร้างไออุ่นแดดแจรง
โลกมิร้างกลีบแพร่งช่อผกา

เหมือนดอกขาวสีนวลดั่งนมสด
ของดอกรักงามงดเปี่ยมคุณค่า
เพื่อมาลัยร้อยเรียงรวมบูชา
เพื่อดวงจิตปรารถนามอบความรัก

เพราะโลกนี้มีรักให้ดอกไม้
และมีใจให้คนรู้ประจักษ์
ถึงคุณค่าความงาม ร่วมพิทักษ์
หวงและแหนแน่นหนัก สันติธรรม

สันติธรรม สันติภาพ สันติสุข
รวมดวงใจปลอบปลุกอุปถัมภ์
มอบมาลัยมอบรักอยู่ประจำ
มอบความรักน้อมนำแด่ทุกใจ


(ตีพิมพ์ครั้งแรก จุดประกาย-วรรณกรรม วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548)

 

โดย: ธาร ธรรมโฆษณ์ IP: 202.44.135.35 11 กุมภาพันธ์ 2548 14:19:58 น.  

 

สนามบุญ
.............

จันทร์เพ็ญลอยเด่นฟ้า..............นภาบุญ
บริสุทธิ์พุทธิคุณ......................ผ่องแผ้ว
นวลแสงสาดละมุน-.................ละไมส่อง
นอบกายน้อมจิตแล้ว.................กราบก้ม, เวียนเทียน

พากเพียรหมายสืบสร้าง...........ทางธรรม
พุทธศาสน์จักช่วยนำ................ชีพได้
ปฏิบัติแม้บ่วงกรรม..................ตามติด
สักหนอาจส่งให้.......................สุขห้วง ดวงมาลย์

อธิษฐานจิตตั้ง..........................วันทา
ระลึกโอวาทปา-........................ฏิโมกข์
คือ"ไม่ทำบาปหนา....................ทั้งหมด"
ไม่หวังเพียงเสี่ยงโชค................มุ่งด้วย "ทำดี"

ทางเสรีหนึ่งนั้น........................ทางตน
หลายอย่างยังวุ่นวน...................ไม่พร้อม
จึง "ตั้งจิตอยู่บน........................ความสงบ"
สำนึกหนึ่งนอบน้อม....................นิ่งนี้ เนิ่นนาน

...................................................................
สนามหลวง :วันมาฆบูชา :๑๙.๕๐ น.
.................................................................

 

โดย: "กอนกูย" IP: 202.176.83.41 23 กุมภาพันธ์ 2548 23:56:19 น.  

 

เทียซิงแจแขะมึ่ง

เทีย(ฟัง,ได้ยิน) ซิง(ใจ) แจ(ศีล,ธรรม) แขะ(ผู้มาเยือน) มึ่ง(คำถาม)

เสียงจีนกลาง อ่านว่า ทิงซินไจเค่อเวิ่น

ลองแปลเป็นไทย : "ปุจฉาธรรมกับผู้มาเยือน เรื่องยินเสียงมนัส"

เป็นท่อนที่เปรียบเทียบการหายใจของคนเราว่าเหมือนกับชี่ของฟ้าและชี่ของดิน

ขณะที่เราหายใจเข้า เราดึงชี่เข้าด้านใน
ลมหายใจเข้าเปรียบเหมือนชี่สวรรค์หรือชี่ฟ้าที่เคลื่อนลงต่ำ
และเมื่อเราหายใจออก ลมหายใจออกเปรียบเหมือนชี่ของดินที่ลอยขึ้นบน

อุปมามนุษย์เราก็คือจักรวาลน้อย ผู้อยู่ระหว่างฟ้ากับดิน
ผู้ดำรงอยู่ด้วยลมหายใจเข้าและลมหายใจออก
ฟ้ากับดิน ลมหายใจเข้าและลมหายใจออก
ย่อมปราศจากช่องว่างที่แยกขาด
มีแต่ความไหลเลื่อนต่อเนื่องดำเนินไป

ดังนั้น หากต้องการบูชาสวรรค์ จงใส่ใจพิจารณาลมหายใจเข้า
หากต้องการกราบไหว้ดิน จงใส่ใจพิจารณาลมหายใจออก

เมื่อลมหายใจเป็นหนึ่ง สวรรค์และดินย่อมเป็นหนึ่ง
เมื่อนั้น เราผู้อยู่ระหว่างฟ้าและดิน จึงย่อมกลายเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาลทั้งหมด.....

.......คัมภีร์นี้กล่าวว่า ลมหายใจเป็นเครื่องมือที่ทำให้สามารถฟังเสียงของจิตได้ชัดเจน

............................

สมพร พึ่งอุดม (ครูส้มจีน)
๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘
เชียงราย

 

โดย: เอามาฝาก IP: 202.57.159.16 25 กุมภาพันธ์ 2548 19:23:18 น.  

 

กระจกใจ
.............

เรียงรายหลายภาพระนาบนั่น
สะท้อนคืน-วัน ฝันกว้างใหญ่
รูปแรแปรเงาความเข้าใจ
ล้อมกรอบรอบไว้ให้เห็นจริง

แตกต่างบางทีของที่ตั้ง
จึงต่างพลังความเงียบ-นิ่ง
บางภาพแกว่งไกวโลกไหวติง
บางภาพงามยิ่งลึกยินยล

แม้โดยลำดับ-สลับข้าง
หากด้วยกระจ่าง-มิสับสน
ส่องหน้าคราใดก็ใช่คน
หันหลังมองก้นก็ตนเอง

ยามใดสิ้นแสงสว่างส่อง
ทุกภาพมัวหมองแม้มอง-เพ่ง
เพียงโลกมืดดำให้ยำเกรง
ทิ้งความวังเวงให้หวาดกลัว

พื้นพราววาววับกลับเปราะบาง
ทุกอย่างระมัดระวังทั่ว
แม้เพียงเม็ดกรวดกระทบตัว
ภาพหลังอาจมัวด้วยรอยร้าว

กระจกคงเหมือนดังแก้วใจ
รู้เห็นเป็นไปทั้งร้อน-หนาว
ทุกภาพผ่านพ้นดลเรื่องราว
ดูแลมิให้ร้าวยากเท่าทัน.

.........................................
"กอนกูย"
หน้ากระจกเงาในห้องเก่าแคบ
๗ มี.ค.๔๘

 

โดย: "กอนกูย" IP: 202.176.83.33 8 มีนาคม 2548 20:06:33 น.  

 

มีคนโทรฯ หา ก็ต้องรับฟังเรื่องของเขา
โทรฯ หาใคร ก็ยังต้องฟังเรืองของเขา
ฉันควรจะอยู่ให้เงียบจริงๆ ให้ได้เอง

 

โดย: ฉัน IP: 202.5.83.101 4 เมษายน 2548 20:31:30 น.  

 

สวัสดีค่ะ


ขอมานั่งพักเงียบๆนะคะ

 

โดย: รักดี 26 เมษายน 2548 20:05:54 น.  

 


หลงทางมาครับ
แต่ดีใจที่มาเจอสหายรักทั้งธาร ธรรมโฆษณ์
และกอนกูย

หากไรรังเกียจบทกวีที่ต่ำต้อยของผม
จะนำมาฝากมิตรสหายวันหลัง

เว็บน่ารักดีครับ

 

โดย: ศิรชัช (ธรรม) IP: 203.151.140.115 20 พฤษภาคม 2548 1:04:42 น.  

 


ไหนๆมาเยือนฝากเลยดีกว่าครับ

บทกวี:ชมดาว

แสงเรืองเรียงรายปลายคอนกรีต
พิทักษ์รอยจารีตแห่งเมืองใหญ่
สุดถนนห่มเรืองเมืองแสงไฟ
จะหลีกลี้หนีไกล ไปชมดาว

บรรลุแดนนิทาน กาลครั้งหนึ่ง
เจ้าที่ดินรำพึงถึงต้นข้าว
ลับไศลเนินไฟถึงแสงดาว
ยินแม่กล่าวต้อนรับลูกกลับมา

กระพริบแสงประดับดำ กำมะหยี่
ธรณีอุ่นเท้าโอ้ดาวข้า
ยิ่งขับเคลื่อนยิ่งไกลในสายตา
ยิ่งไขว่คว้ายิ่งไกลในความจริง

ทางหวังวูปไหว - อากาศธาตุ
มนุษย์ชาติปลอบอภัยได้ทุกสิ่ง
เมื่อเท้าฉัน จมปลักกับหลักจริง
หัวใจยิ่งเจ็บหนักบนหลักรอง

จงโปรดเถิดดวงดาว เถิดเจ้าข้า
โปรดประทานเมตตา - ความถูกต้อง
ให้ดวงใจข้านี้มีสำรอง
ประทานห้องบอดใบ้ให้สักดวง
..........................................

พิมพ์ครั้งแรก สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ครับ

 

โดย: ศิรชัช IP: 203.151.140.115 20 พฤษภาคม 2548 1:09:44 น.  

 

ขออภัย ไม่ได้เข้ามดูเลย
ขอบคุณคุณธรรมเข้ามาเยี่ยมชม

วันนี้เบื่อๆ ว่าจะมาเขียนกลอนเล่นเหมือนกัน
ปะเหมาะ เลยได้เห็น
แบบว่าหมู่นี้ ไม่ค่อยมาดูแลบล๊อกเลย

 

โดย: สุภาฯ IP: 202.5.85.139 25 พฤษภาคม 2548 21:02:22 น.  

 


"สวัสดีค่ะคุณสุภารัตถะ"
ตามลิงก์มาจากบ้านสุกรวดี(บ้านเล้าหมู)
มาขอบคุณที่กรุณาไปเยือน และฝากข้อความน่ารักๆไว้.....ที่นี่อบอุ่นค่ะหน้าบ้านหวานแหวว.....

เป็นหญิงไทยในแคว้นแดนฝรั่ง
ที่มุ่งหวังรังสรรค์วรรณศิลป์
ให้ดำรงคงอยู่คู่ธานินทร์
จึงหลั่งรินอักษราจารึกไว้
Rojana U.S.A.

 

โดย: Rojana U.S.A. IP: 70.17.251.166 29 พฤษภาคม 2548 0:54:04 น.  

 

ขอให้ป้ารจ สมหวังจ้า

 

โดย: สุภาฯ IP: 202.57.175.162 31 พฤษภาคม 2548 9:56:16 น.  

 

ตอนทำสไตล์ไดอารี่ เลยไม่เห้นความคืบหน้าของแต่ละกระทู้
กลับมาทำแบบบล๊อก จะได้รู้ว่า มีแขกเข้ามาเยี่ยม เพราะเห็นตัวเลขรันด้วย ไม่งั้น ไม่รู้เลย

 

โดย: สุภาฯ IP: 202.57.175.162 31 พฤษภาคม 2548 9:58:46 น.  

 

เข้ามาพ่น บ่นเหงาอย่างเขาอื่น
วันและคืนเปลี่ยนฟ้าดาราหลง
ชีวิตเราเขาก็ขึ้นแล้วลื่นลง
จะบ่นปลง แม้ในยามไม่ทรามเกิน

เพียงมีบ้างระหว่างทางแล้วเหนื่อยจิต
เห็นผู้คนมีชีวิตอย่างผิวเผิน
ไขว่คว้าดาวแม้ความตายยังปลายเมิน
เพียงหนึ่งวิหวังได้เพลินหวังครองมัน

ส่วนตัวเราไม่เอาไม่อยากได้
แต่ก็ยังกระสับกระส่ายฝัน
ถึงทางไกลที่ใฝ่ยังไกลกัน
เพราะด้นดั้นไปไม่ถูกเลยผูกปม

ก้าวเท้าไปทางใดก็แก้ผิด
ตั้งสติตามจริตเพราะกลัวหลง
แต่สัจจะทางทุกขังยังสั่งซม
เบื่อแทบตายแทบล้มความจำเจ

ได้แต่คิดด้านบวกบวกและบวก
จะได้สุขไม่ถูกจ้วกจนหันเห
อนิจจังทุกขังนากาเล
เปลี่ยนถ่ายเทได้เท่านี้ไม่มีเกิน

 

โดย: สุภาฯ IP: 202.5.87.193 6 มิถุนายน 2548 15:30:58 น.  

 

พระพรหมสร้างเส้นทางสู้

...........................



เหมือนพระพรหมจงใจให้ชีวิต

มอบหนึ่งสิทธิ์เพียงอยู่สู้กับฝัน

แต่ให้ความสุข-เศร้า มิเท่ากัน

ชีพจึงต่างชีวันต่างชะตา



ให้โลกมีสองด้านการหมุนเวียน

แต่ลืมเปลี่ยนสลับข้างสว่างค่า

ด้านหนึ่งมืดก็ยังมิดทุกนิทรา

อีกด้านแจ้งก็เจิดจ้าทุกคราไป



สร้างท้องฟ้ามีดาวมีดวงเดือน

แต่ก็เหมือนคอยกำหนดความสดใส

เดือนควรเด่นเคียงดาวพราววิไล

แต่ค่ำคืนหม่นไหม้ไร้นวล-แวว



เหมือนมิเห็นความจริงสิ่งยิ่งใหญ่

พบแห่งห้วงดวงใจใสผ่องแผ้ว

เมฆกลบเดือนกั้นดาวกลืนพราวแพรว

ที่สุดแล้วยังเปล่งค่าสง่างาม



งามในท่วงทำนองของดิ้นรน

เหยียบย่ำบนทางยากบุกขวากหนาม

ด้วยหยาดเหงื่อหยดกล้าพยายาม

โดยรูปนามหยัดท้าชะตากรรม



แต่ละบาทอาจกำหนดอดและอิ่ม

ทุกรอยยิ้มยื้อแข่งแรงเหน็บหนำ

กี่ถ้อยเกลียดเสียดเย้ย เอ่ย,กระทำ

ถมเจ็บช้ำทับซ้อนทุบก้อนทรวง



มีอยู่แล้วแววตากล้าประกาย

ถึงตราบสิ้นดินสลายไม่ห่วงหวง

คุ้มอยู่แล้ววิถีทางสิ่งทั้งปวง

แม้หนักหน่วงหากเหนี่ยวนำคำว่า "คน"



เมื่อพระพรหมจงใจให้ชีวิต

มอบเพียงสิทธิ์สรรค์สร้างทางไขว่ค้น

แน่วนิ่งรับคำนับน้อมยอมจำนน

สู้อดทนเพื่อเปล่งแสงแห่งเดือน-ดาว.



...................................

แด่...น้องเดือน น้องดาว แห่งบ้านปลาเดิด จ.สุรินทร์

 

โดย: "กอนกูย" IP: 202.176.188.1 17 มิถุนายน 2548 19:08:05 น.  

 

มาเมื่อไหร่อ่ะ กะลังคิดถึงกูยพอดี

 

โดย: สุภาฯ IP: 202.57.140.45 19 มิถุนายน 2548 13:14:50 น.  

 

สวัสดีครับพี่...
มั่นใจว่ากำลังปั่นต้นฉบับนิยายชัวร์
ผมเคนโทร.หาพี่
แต่ไม่ยักกะติดเน้อ สายบ่ว่างตลอด

 

โดย: กูย IP: 58.11.3.47 20 มิถุนายน 2548 21:18:32 น.  

 

ง่า.... ขี้เกียจสุดๆ
เหยียบเข้ามาเขียนกะเค้าแล้วเนี่ย ทรมานเลย

 

โดย: สุภาฯ IP: 202.5.86.17 21 มิถุนายน 2548 0:58:42 น.  

 




//board.dserver.org/r/rojana19/00000049.htmlนำกระทู้บูชาครูมาฝากค่ะ

 

โดย: รจนา U.S.A. IP: 70.16.5.230 24 มิถุนายน 2548 20:34:53 น.  

 

พี่ครับ...
ผมได้อ่านที่ ปพส.แล้ว
อย่าไปใส่ใจมากมายเลยนะครับ
เป็นกำลังใจให้พี่ครับ

 

โดย: กูย IP: 58.11.3.36 24 มิถุนายน 2548 23:04:58 น.  

 

ขอบคุณป้าหมูจ้า

โธ่ กูย เรื่องขี้ๆ กิกิ..

 

โดย: suparatta 25 มิถุนายน 2548 10:48:12 น.  

 

คำแม่
.........


ในครั้งหนึ่งเศร้าซมตรมแดดิ้น

โดยฤดี-ชีวินแทบสลาย

พื้นกระดานเขรอะแฉะน้ำมูกน้ำลาย

น้ำตาหลั่งเป็นสายไหลเนิ่นนอง



หนหนึ่งนั้นรักล่มจมกองพิษ

ทางชีวิตยับย่นสุดหม่นหมอง

เรื่อยรำพัน ฟูมฟาย หัวเราะ ร้อง

ในอ้อมแขนประคับประคองผู้ข้างเคียง



คืออ้อมอุ่นของแม่ที่แลเห็น

ว่าลูกปวด ลูกเป็น ลูกเจ็บเดี้ยง

ลูกทุรน ทนทุกข์หนัก เพราะรักเอียง

จึงเอ่ยเสียงอุ่นมอบปลอบดวงใจ



ว่า "อีกหญิงทั่วหล้าหลายนารี

ล้วนยังมีอยู่มากใช่ยากไร้

ว่าผู้หญิงที่รักเราเขาห่วงใย

เขาคงไม่เหินห่างคิดร้างลา"



ทุกคำแม่ประหนึ่งแท้ยาวิเศษ

ลบล้างรอยทุเรศโลกบอดบ้า

ให้เจ็บกลืนฝืนกลั้นนั้นสร่างซา

สร้างเรี่ยวแรงให้สองขามีพลัง



มาเป็นลูกของแม่ที่แพ้รัก

แต่มิพ่ายจนเสียหลักสิ้นความหวัง

มาเป็นลูกที่เข้มแข็งแกร่งอีกครั้ง

ได้นอน-นั่ง ยิ้มข้างแม่...ตลอดกาล

 

โดย: "กอนกูย" IP: 58.11.3.69 10 สิงหาคม 2548 23:59:01 น.  

 


เพิ่งกลับจากแคนาดามาส่งข่าว
มีเรื่องราวมากนักจักไขขาน
พอดีเป็นเป็น"วันแม่"แผ่วงศ์วาน
ทุกย่อมย่านสาสน์สุขทุกไม่มี

กลับมาแล้ว"ป้าหมู"ดูไม่จืด
หลังเคยยืดกลับหดหมดราศรี
จะนั่งลุกยังยากมากตอนนี้
ยังไม่มี"ปัญญา"มาต่อ(กร)กลอน

คงเพราะนั่งรถนานผ่านคืนค่ำ
ผิวก็ดำกว่าเดิมเพิ่มกว่าก่อน
ขอเวลาพักนิดคิดขั้นตอน
ขอนั่งนอนอีกหน่อยค่อยมาคุย

 

โดย: รจนา U.S.A. IP: 141.157.93.215 15 สิงหาคม 2548 21:03:53 น.  

 

ขำๆ อ่ะ ป้าหมู
ให้เวลาไปทำสวย..

 

โดย: suparatta 15 สิงหาคม 2548 23:11:20 น.  

 

คงคลี่ที่วงคลื่น

..................



จากนิดน้อยทยอยเคลื่อนแล้วเลือนหาย

แผ่วงกว้างถ่างขยายพราวพรายผิว

ระริกเรื่อยเอื่อยซ้อนสะท้อนทิว

ระลอกลมพรมพริ้วเกิดริ้วพา



เพียงหนึ่งหยดเม็ดฝนหล่นกระทบ

ผืนสงบก็เผยวงอยู่ตรงหน้า

สะกดนิ่งเนิ่นแน่วผ่านแววตา

ตระหนักค่าคลื่นคลี่มีพลัง



คือพลังจากจุดสู่จุดหนึ่ง

โลกผลัก-ดึง สมดุลหมุนความหวัง

เหมือนชีวิตย่างย่ำเพียงลำพัง

ก้าวไปสู่อีกฝั่งอย่างง่ายงาม



ห้วงวงน้อยค่อยค่อยกว้าง-หนทางคลื่น

คล้ายวัน คืน เดือน ปี คลี่คำถาม

จากคลื่นเก่าเล่าคลื่นใหม่ให้นิยาม

เพื่อติดตามวงวิถีชีวิตตน



"กอนกูย"

(โอกาสต้อนรับรอยเหี่ยวย่นอีกหนึ่งรอบ)

๒๕ ส.ค.๒๕๔๘

 

โดย: "กอนกูย" IP: 58.11.3.25 25 สิงหาคม 2548 22:21:12 น.  

 

มาแอบเหงาข้างบ้านเราไม่ไปไหน
นั่งเฉยเฉยก็ได้ให้ใจเฉย
สักนาทีสองนาทีไม่เพลินเลย
หายใจเฮือกกับที่เคยเป็นเป็นมา

 

โดย: สุภาฯ (suparatta ) 9 พฤศจิกายน 2548 22:27:04 น.  

 

คำโกหกง่ายๆ
กลับปล่อยให้มาทำร้ายใจได้
แล้วจะแอบอ้างว่าเป็นผู้ไม่สะเทือนได้อย่างไร

ไม่ชินอีกหรือ ไม่คุ้นเคยหรืออย่างไร
โลกที่สวยงามแฝงความชั่วร้ายไว้
ความรักที่แท้ถึงได้แต่ปล่อยวาง

สัจจะมีอยู่ แต่ไม่ใช่คำหวาน
ถ้าเธอหลงลมคำลวงล่อ
ย่อมต้องอกตรมไหม้

แน่นเหมือนหายใจไม่ออกเลยซิท่า
ทุกคราเพราะหลอกตัวเองว่าเข้าใจ
ที่แท้ก็ยังหลงละเมอเพ้อพก

ถอยหลังกลับมา กลับมาอยู่ที่ใจ
พาใจกลับมาพักนานๆ
แล้วอย่าออกไปเที่ยวเตร่ที่ไหนไกลๆ

การเดินทางเที่ยวนี้คงอีกไม่นานแล้ว
ใกล้จะจบลง ถึงไม่สวยงามนัก
แต่อย่าปล่อยให้น่าเกลียดจนเกินไป...

 

โดย: วันสุดท้ายของปี IP: 210.246.64.6 31 ธันวาคม 2548 1:16:31 น.  

 

คิดถึงแม่จนอยากไปหา
ถามสารทุกข์สุขดิบ
ยามท้อแท้อยากใกล้ชิด
คนที่เคยเห่กล่อมอุ้มชู

คนเป็นแม่เป็นแม่ได้อย่างไรหนอ
จิตนั่นคงแสนยิ่งใหญ่
แม่มีรัก..รักได้กว่าใครๆ
ยิ่งกว่าใคร..ใครที่อ้างว่ารัก

 

โดย: สุภาฯ IP: 210.246.64.17 21 มกราคม 2549 0:07:02 น.  

 

ทอดน่องตามครรลองลม
รำเพยรักแอบดอมดมที่ส่วนหนึ่ง
แล้วเดินเลยเกยหาดปล่อยความซึ้ง
ให้ไปถึงส่วนที่สุดไม่หยุดกลาง

ไต่จากต้นถึงปลายให้สุดคิด
รักของฉันจึงแปลกผิดเหมือนติดขวาง
แต่จริงแล้วมันสุดฤทธิ์ไม่ผิดทาง
เหลือความว่างให้ยิ้มยั่วทั่วทั่วใจ

ไม่ต้องเรียนรู้แล้วความเจ็บปวด
ความร้าวรวดผสมหวานซึ่งจารขัย
สนิทแนบเหมือนรู้เนิ่นมานานไกล
ไม่อยากเรียนรู้ใหม่ไม่เอาความ

หัวใจสั่งสมองให้ตรองตรึก
ชีวิตสั้นขาดลึกเกินใจพล่าม
เงียบงันไว้จะรู้มากแค่ติดตาม
เฝ้าดูใจแล่นตามทุกอย่างทัน

มันว่างว่างอย่างนั้นนั่นไม่ผิด
หากสนิทลมหายใจไม่ผิดขั้น
ที่เวิ้งว้างว่างเปล่าไม่ว่างกัน
เพราะที่นั่นมีรักฉันเคยไป..

สัมผัสรักอย่างหนึ่งแล้วซึ้งจิต
สัมผัสคิดรักอีกอย่างวางสงสัย
แต่ก็รู้มันถึงกันหากเข้าใจ
ความรักแคบจะกว้างใหญ่อัปมัญญา

ข้ามจุดยึดไปให้ถึงแล้วซึ้งแน่
ที่ย่ำแย่ก็จะรู้..ว่าคุ้มค่า
ดินแดนนั้นมีความรักมีสัญญา
มีผู้ถึงแล้วกล่าวมาว่ามีจริง..


 

โดย: สุภาฯ IP: 210.246.68.166 22 มกราคม 2549 0:22:59 น.  

 

ฉันตัวหนึ่งขอโทษฉันอีกตัวหนึ่ง
ฉันตัวหนึ่งโอบกอดฉันอีกตัวหนึ่ง
ฉันตัวหนึ่งให้อภัยฉันอีกตัวหนึ่ง
ฉันตัวหนึ่งให้กำลังใจฉันอีกตัวหนึ่ง

ฉันตัวหนึ่งเช็ดน้ำตาให้ฉันอีกตัวหนึ่ง

 

โดย: สุภาฯ IP: 210.246.64.164 23 มกราคม 2549 3:10:10 น.  


suparatta
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร..
..ท่านนาคารชุนะ..
วิภาษวิธี..เกริ่นนำ..ตอนจบ..

๐ สมุดเยี่ยมและบ่นได้..
**ทางลัด**
๐ สารบัญทักทาย(ทั้งหมด)
๐ ชวนคุย&ฟังเพลงปี48(ทั้งหมด)
๐ นอนดูจันทร์..(ส่วนตัว)

**log in หน่อยน่า..



Google.co.th
Friends' blogs
[Add suparatta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.