|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
จุดมุ่งหมายในชีวิต
หากเราจะขีดเส้นๆ หนึ่งแทนจุดมุ่งหมายชีวิตที่มุ่งไป บางคนขีดเส้นยาวเท่าที่คิดว่าชีวิตมีเพียงแค่บนโลก ส่วนจะคาดหวังอนาคตกันมากน้อยเท่าใดนั้น ก็ล้วนเป็นเรื่องคาดคิดว่ามันมีทางเป็นไปได้บนโลกเท่าที่ตามองเห็น เกิดขึ้นมาและตายลงไปแค่นั้นเป็นอันจบ
แต่บางคนกลับคิดไปถึงขนาดว่า ชีวิตได้เดินมาแล้วอย่างยาวนาน ไม่ใช่แค่เพียงโลกนี้ และใช่เพียงจะเดินทางมาถึงจุดที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ ณ บนโลกใบนี้เท่านั้น ยังจะต้องเดินทางต่อไปอีก อย่างไม่รู้ได้เลยว่าจะเป็นต่อไปเช่นใด จะสูงขึ้น ต่ำลง หรือหมุนวนซ้ำซากยาวนานขนาดไหน.. จนกว่าจะลุถึงเป้าหมายอันสามารถยุติการเดินทางและได้พักผ่อนลงตลอดกาล มันไม่ใช่แค่การตายอย่างธรรมดาของร่างกาย แล้วต้องเกิดใหม่กับร่างกายใหม่ซึ่งไม่รู้ว่าจะอยู่ในรูปลักษณะเช่นใด แต่ยุติการเกิดและการแบกสังขารอันหนักนี้ลงเสียที เส้นๆ หนึ่งที่ขีดแทนจุดมุ่งหมาย จึงไม่ใช่เพียงแค่ตาเห็น หูได้ยิน จมูกรู้กลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรส กายเข้าสัมผัส
แน่นอน..การรับรู้และการเข้าใจต่างกัน ย่อมมีผลต่อจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน และนั่นหมายถึง ย่อมจะมีผลต่อการกระทำตามมา ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญเพื่อเดินทางไปให้ถึงจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้
การตั้งเป้าหมายในชีวิตของแต่ละคน จึงอาจจะคล้ายกันหรือต่างกัน ไปตามทัศนคติ ความคิดความเชื่อ หรือเจตนารมณ์ที่ต้องการ จุดมุ่งหมายบางคนก็แค่สั้นๆ แล้วก้าวไปให้ถึง บางคนตั้งเอาไว้ให้สูงและพยายามไปให้ถึงให้ได้ ที่สำคัญ.. การเดินทางไปสู่จุดมุ่งหมายนั้น ยังมีตัวแปรมหัศจรรย์อันยิ่งยวด ซึ่งมีผลต่อทุกระยะของการเดินทางอันยาวไกล นั่นก็คือปัญญา.. ที่พึ่งอันสำคัญ ซึ่งหากทุกชีวิตมีไว้ ย่อมเป็นหลักเกาะชั้นเลิศ สามารถจะดึงเราไว้จากความหายนะต่อการดิ่งล่วงสู่ที่ต่ำ เพราะการคิดดี แต่เดินไปตามความเชื่ออันผิด ย่อมทำให้การเดินทางสับสนถึงขนาดเป็นโทษอย่างยิ่ง
สำหรับบุคคลที่มีความเชื่อเฉพาะในโลกนี้ อาจทำให้ตั้งเป้าหมายเพียงความสุขสบายบนโลกเป็นสำคัญ บางคนวิ่งไปสู่จุดมุ่งหมายนั้นโดยไม่เดือดร้อนผู้อื่น แต่บางคนเพื่อความสบายตนจนเกินขอบเขตชนิดไม่รู้จักอิ่มจักพอ กลับไม่สนใจความเดือดร้อนของผู้อื่นอันจะเกิดขึ้นจากฝีมือตน ไม่ว่าจะตั้งใจ ไม่ตั้งใจ โดยทางตรง ทางอ้อม หรือทางอ้อมมาก จนนำแต่ความหายนะอย่างมหาศาลมาสู่มวลมนุษยชาติในภายหลังก็ตาม บุคคลเหล่านี้อาจใช้วาจาหวานและความคิดเหมือนน่าเชื่อถือสร้างพิษภัย ใช่เพียงในขณะที่เขาดำรงชีวิตอยู่ แต่ยังเป็นผลพวงกระทบต่อคนรุ่นหลังไปอีกหลายชั่วคนหลังจากนั้น จากการทำลายล้างบางประการด้วยน้ำมือของเขาที่มีต่อโลก ต่อสังคม และต่อเยาวชน ซึ่งมันจะกลายเป็นความรับผิดชอบโดยเขาเองไม่อาจปัดภาระนี้ออกพ้นตัว ต้องรับผิดและชดใช้คืน แม้เราไม่อาจรู้ว่าเขาจะไปอยู่ส่วนไหนในห้วงจักรวาลแล้วก็ตาม ส่วนทรัพย์สมบัติที่เขาไม่อาจนำไปด้วยได้ เพราะมันเป็นเพียงธาตุสี่ของโลกซึ่งจะต้องผันแปรและสูญสลายไปกับโลก ก็คงทำให้เขาได้คิดเมื่อสายเกิน หลังการรับผลกรรมอยู่ที่ใดสักแห่งในมิติเชิงซ้อนกับโลกนี่เอง
ส่วนกลเม็ดในการสร้างภาพความดี หรือใช้จุดอ่อนของกฎหมายของคนเหล่านี้ อาจทำให้เขาสนุกยิ่ง กับการสร้างอำนาจฉ้อฉลต่างๆ กลโกงที่สุดท้ายไม่มีใครทำอะไรเขาได้ หนำซ้ำกลับถูกยกย่องในภาพลักษณ์แห่งความดีงามด้วยซ้ำ ผู้คนอาจสรรเสริญภายหลังการตายของเขา แต่ภาพพจน์บนโลกไม่อาจบิดเบือนความจริงที่ซ่อนอยู่ คนจะดีชั่วบนโลกนั้นจริงเท็จแค่ไหนไม่สำคัญ มันสำคัญตรงที่..จริงเท็จแค่ไหนอย่างไรก็ย่อมเป็นไปตามกระบวนแห่งธรรมชาติ (อิทัปปัจยตา) นั้นต่างหาก เพียงแต่กฎกรรมนั้น บางคนไม่มีปัญญาพอจะล่วงรู้ถึง ทั้งที่สามารถใคร่ครวญตามหลักเหตุและผลได้ ถ้าจะลองพิจารณาดู
จุดมุ่งหมายของคนหลายคน จะสั้นแค่ความสุขสบายเฉพาะหน้า หรืออดทนกับความดีภายใน สร้างความดีไว้เป็นอริยทรัพย์เพื่อความสบายในโลกหน้า โดยไม่กล้าสร้างความชั่วร้ายใด ที่เกิดจากความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวจนกระทบประโยชน์ส่วนรวม เพราะถือเอาความดีก็เปรียบเสมือนดังเงินตราบนโลกมนุษย์ เป็นเสบียงที่ต้องพึ่งพาในโลกต่อไป ด้วยการเดินทางไกลอีกยาวนาน หรือจะยาวไกลไปจนถึงความสุขที่สุดซึ่งไม่ต้องย้อนกลับมาเป็นทุกข์อีก หากสามารถทำลายความชั่วร้ายในจิตใจจนกลับคืนสู่ความผ่องแผ้ว สิ้นสุดตัวตน.. นี่ก็ล้วนอยู่ขึ้นกับปัญญาแล้ว
Create Date : 28 มกราคม 2548 |
|
1 comments |
Last Update : 23 มีนาคม 2548 11:18:36 น. |
Counter : 4853 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: 56 IP: 210.246.184.252 25 กันยายน 2549 10:58:28 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|