ดอกไม้งานแต่งเป็นดอกไม้ที่ใช้ในการประดับงานแต่งงานของคู่บ่าวสาวให้สวยงามและโรแมนติกมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างบรรยากาศแห่งความสุข และกลิ่นหอมละมุนที่ชวนเคลิบคลิ้มไปกับความรักที่หวานชื่นในงานนี้ แต่น้อยคนนักที่จะทราบว่าดอกไม้ชนิดต่าง ๆ ที่เลือกมาใช้ยังมีความหมายดี ๆ เป็นมงคลซุกซ่อนอยู่ในนั้นด้วย ว่าแต่จะมีดอกไม้ชนิดไหน และมีความหมายอย่างไรกันบ้าง ติดตามดูไปพร้อม ๆ กับผมเลยครับ!
 

                หากพูดถึงดอกไม้งานแต่งงานยอดนิยมแล้วล่ะก็... ต้องยกให้ดอกกุหลาบเขาล่ะ เพราะนอกจากจะมีรูปลักษณ์อันสวยงามและกลิ่นหอมละมุนแล้วยังใช้สื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักอีกด้วยครับ ดังที่เห็นได้จากในเทศกาลวาเลนไทน์ ซึ่งดอกกุหลาบนี้ราคาค่อนข้างถูกและหาง่าย เพราะออกดอกตลอดทั้งปี แถมยังมีให้เลือกหลายสี โดยดอกกุหลาบแต่ละสีก็สื่อความหมายแตกต่างกันออกไป อย่างเช่น ดอกกุหลาบสีแดงถือได้ว่าเป็นดอกไม้ของกามเทพสื่อความหมายได้ว่าการตกหลุมรัก ความรักและความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ นำโชคให้กับผู้ที่ได้รับ, ดอกกุหลาบสีขาว สื่อถึงความรักอันบริสุทธิ์ จริงใจ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เปรียบได้กับ “รักแท้”, ดอกกุหลาบสีชมพู สื่อถึงความรักที่อ่อนหวาน อ่อนโยน และโรแมนติก และดอกกุหลาบสีส้ม สื่อถึงความรักที่เปี่ยมไปด้วยมิตรภาพ เป็นต้น สำหรับสีของดอกกุหลาบที่นิยมใช้ประดับตกแต่งในงานแต่งงานมากที่สุดก็คือสีขาวกับสีชมพู เนื่องจากเป็นสีที่ช่วยให้บรรยากาศดูโรแมนติกมากยิ่งขึ้น แต่หากบ่าวสาวคู่ไหนที่วางแผนว่าจะแต่งงานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ควรหลีกเลี่ยงดอกไม้ชนิดนี้ด้วยนะครับ เพราะราคาจะอัพสูงขึ้นไปอีก
 

2. ดอกรัก
                ชื่อ “ดอกรัก” ก็บอกแบบตรงตัวอยู่แล้วครับว่าเป็นดอกไม้มงคลที่งานแต่งงานแทบทุกงานต้องนำมาใช้ เนื่องจากความหมายของชื่อนั้นสื่อถึงความรักของคู่บ่าวสาว ซึ่งส่วนมากแล้วเรามักจะใช้ดอกรักในการร้อยเป็นพวงมาลัย ตกแต่งพานขันหมาก โปรยบนที่นอนในพิธีปูที่นอน ร้อยเป็นพวงดอกไม้ห้อยระย้าหรือม่านดอกไม้ หรือตกแต่งตามมุมต่าง ๆ ของงานแต่งครับ

 

3. ดอกบานไม่รู้โรย
                ดอกบานไม่รู้โรยนี้เป็นดอกไม้งานแต่งอีกชนิดหนึ่งที่สื่อถึงความรักที่ดีของคู่บ่าวสาวว่าจะรักกันไม่รู้โรยและจะรักกันมั่นคงตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เหมือนชื่อดอกไม้นั่นเองครับ นอกจากนั้นแล้วยังมีความเชื่อกันอีกครับว่าหากนำดอกบานไม่รู้โรยมาปลูกไว้ในบ้านจะช่วยเสริมดวงชะตาในเรื่องความรักอีกด้วย
 

 

4. ดอกมะลิ
            เป็นดอกไม้งานแต่งที่คู่บ่าวสาวนิยมใช้กันมากที่สุด เนื่องจากเป็นดอกไม้ชั้นสูงที่มีสีขาวบริสุทธิ์และกลิ่นหอมละมุน ซึ่งสื่อความหมายถึงความรักอันสะอาดบริสุทธิ์ที่หอมตลบอบอวลไปชั่วนิรันดร์ โดยส่วนใหญ่มักใช้ดอกมะลิร้อยเป็นพวงมาลัย หรือประดับตกแต่งตามมุมต่าง ๆ ของงานแต่งงานเช่นเดียวกับดอกรักครับ
 

5. ดอกดาวเรือง
            เป็นดอกไม้งานแต่งที่มีความหมายดีไม่แพ้กันครับ ซึ่งสื่อความหมายได้ว่าขอให้ครอบครัวใหม่ของคู่บ่าวสาวที่ร่วมกันสร้างนี้มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง มั่งมีเงินทองที่เหลืองอร่ามดังเช่นสีของดอกดาวเรืองนั่นเอง
 

 

6. ดอกกล้วยไม้
                ดอกกล้วยไม้เป็นดอกไม้งานแต่งที่มีหลากหลายสายพันธุ์และหาได้ง่าย ซึ่งส่วนมากคนไทยจะไม่ค่อยได้ใช้ดอกกล้วยไม้นี้เท่าไหร่นัก จะนิยมใช้ในต่างประเทศซะมากกว่าครับ เนื่องจากให้ความรู้สึกว่าดอกกล้วยไม้สวยงาม โดดเด่น และแปลกตา อีกทั้งยังมีกลีบดอกที่แข็งแรง ทนต่อการเหี่ยวเฉา มีราคาถูก และออกดอกสวยงามในช่วงฤดูหนาว โดยมากแล้วดอกกล้วยไม้ที่มีลักษณะเด่นภายในตัวอย่างการมีพวงห้อยระย้านั้นจะนิยมนำมาจัดเป็นซุ้มหรือห้อยเป็นพวง เพื่อเพิ่มความหรูหราภายในงานมากยิ่งขึ้นเชียวล่ะครับ และนอกจากนั้นแล้วหากนำดอกกล้วยไม้มาจัดเป็นซุ้ม หรือตกแต่งตามมุมต่าง ๆ อย่างบริเวณทางเดิน หน้างาน หรือ Backdrop ก็สวยงามไม่แพ้กัน ส่วนความหมายของดอกกล้วยไม้โดยทั่วไปก็คือความมั่งคั่งและความสง่างาม แต่หากเป็นภาษารักจะแปลความหมายได้ว่า “ฉันไม่อาจห้ามใจไม่ให้คิดถึงเธอได้” แหม่ แค่ได้อ่านความหมายของดอกไม้ชนิดนี้ก็หวานแล้วล่ะครับ
 

7. ดอกทานตะวัน
                ดอกทานตะวันเป็นดอกไม้งานแต่งงานที่มีลักษณะเป็นสีเหลืองสดงามอร่ามและมักจะบานหรือหันหน้าไปตามพระอาทิตย์เสมอ และด้วยลักษณะพิเศษของดอกทานตะวันนี้เองจึงสามารถสื่อความหมายได้ว่า ความเชื่อมั่นหรือความมั่นคง ความอดทน การฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน มีความแข็งแกร่งแต่ไม่แข็งกระด้าง แต่หากนำมาใช้เป็นดอกไม้งานแต่งงานจะสื่อความหมายถึงความรักจะยังมั่นคงและซื่อตรงต่อกันตลอดไปนั่นเอง ส่วนมากแล้วจะนิยมใช้ดอกทานตะวันเป็นเข็มกลัดติดหน้าอกเจ้าบ่าว เพื่อแสดงออกถึงความรักและความมั่นคงที่ผู้ชายคนหนึ่งพึงกระทำให้แก่เจ้าสาวหรือผู้หญิงที่เขารัก หรือจะใช้ประดับตกแต่งตามมุมต่าง ๆ ภายในงาน เพื่อสร้างความสวยงามและโดดเด่นสะดุดตาได้ครับ โดยดอกทานตะวันนี้จะเหมาะสำหรับประดับตกแต่งในงานแต่งงานช่วงฤดูร้อน หรือธีมงานแต่งสีขาวกับสีทองก็ได้ เพราะจะช่วยให้งานแต่งงานมีความสวยงาม สดใสเปล่งประกาย ให้ความรู้สึกร่าเริง อบอุ่นได้เช่นกันครับ
 

8. ดอกพุด
                ดอกพุดเป็นดอกไม้งานแต่งที่มีความหมายเดียวกับดอกดาวเรืองคือ “ความเจริญรุ่งเรือง” นั่นเอง นอกจากนั้นยังหมายถึง “ความรักที่มั่นคง หรือความมั่นคง สมบูรณ์แข็งแรง” เมื่อนำดอกพุดมาใช้ประดับงานแต่งงานก็สามารถสื่อความหมายถึงนอกจากครอบครัวใหม่ที่ร่วมกันสร้างนั้นจะเจริญรุ่งเรืองแล้วยังมั่นคงแข็งแรง และไม่หวาดหวั่นแม้ต้องเผชิญกับปัญหาหรืออุปสรรคใด ๆ ครับ

 

                นอกจากดอกไม้งานแต่งงานที่ผมนำมาให้ความรู้แล้ว ยังมีดอกไม้งานแต่งอื่น ๆ อีกหลากหลายชนิดสำหรับใช้ประดับตกแต่งบริเวณต่าง ๆ ภายในงาน เพื่อเพิ่มความสวยงามและสื่อความหมายได้ดีไม่แพ้กันเลย ถึงแม้ว่าดอกไม้ในงานแต่งจะสื่อความหมายได้ดีแค่ไหนก็ตาม ความรักและความเข้าใจซึ่งกันและกันของคู่บ่าวสาวต่างหากสำคัญที่สุดครับ