ในที่สุดก็ได้มาครอบครองจนได้ค่ะ
บลัชออนกลีบกุหลาบค่ะ Face Color Rose no.02
ต้องขอบคุณพี่สาวใจดีค่ะ ที่หอบหิ้วมาให้จากญี่ปุ่น
สนนราคาเป็นเงินไทยอยู่ที่ 3,600 บาท รวมกระปุกด้วยค่ะ
บลัชออนแยกขายกับกระปุกที่ใส่นะคะ
แยกกล่องมาอย่างชัดเจน กล่องสีชมพูลายน่าร๊าาากกก
ได้มาแล้วชอบกล่องมากไม่อยากทิ้งเลยค่ะ
ที่กล่องจะมีเขียนไว้ว่ามันคืออะไร สีอะไร
อันนี้เป็น Face Color น๊าาา สีเบอร์ 2 จ้าาา
แกะออกมาเป็นถุงผ้าซาติน หูรูดด้วยริบบิ้น ดูหรูหราอลังการมาก
แกะถุงออก เป็นตัวบลัชออนที่เป็นกลีบกุหลาบ ในกล่องพลาสติกใส
เปิดกล่องออกดู....โหยยยย.....มันเหมือนกลีบกุหลาบจริงๆมากๆค่ะ
แถมมีกลิ่นหอมอีกด้วย แต่กลิ่นไม่เชิงเป็นกุหลาบเท่าไหร่นะคะ
กลิ่นเหมือนแป้งโบราณ น้ำอบ อะไรแบบนั้น
หอมสำหรับบางคน แต่ก็ฉุนไปสำหรับเราค่ะ
ดู Detail ลายปั้มเส้นในกลีบกุหลาบสิคะ....มันเหมือนที่สุด
แถมยังมีไล่สีลงมาที่โคนกลีบเป็นสีเหลืองด้วยอ่ะ เริ่ดเนอะ
ว่าแล้วก็แกะโถใส่บลัชมาดูกันดีกว่า
มันต้องมีไอเท็มนี้คู่กัน บลัชออนจะได้ดูเลอค่า 5555++
โถเป็นพลาสติกแข็งสีขุ่น คล้ายแก้วพ่นทรายค่ะ
ดูสวยงามราคาแพง แต่เสียอย่างเดียวคือ
ตัวโถกะฝาปิดมันปิดแบบครอบไว้เฉยๆ ไม่ได้มีล็อกอะไรใด
แค่ยกออกมาและวางลงเท่านั้นเอง ยังกะฝาชี 5555++
เอาเหอะค่ะ วางประดับโต๊ะเครื่องแป้งให้เป็นศรีสง่าก็พอ อิอิอิ
เราไม่จำเป็นต้องใส่กลีบกุหลาบทั้งหมดลงในโถนะคะ หยิบออกมา 3-5 กลีบก็พอแล้ว
ที่เหลือก็เก็บในกล่องลงถุงเข้าตู้ไปซะ ในฐานะเป็นแรร์ไอเท็ม
วิธีใช้
ก็แค่เอาแปรงปัดบลัชออนลงไปคนกะกลีบกุหลาบในโถค่ะ
สีก็ติดขึ้นมาแล้วค่ะ ปัดแก้มได้เลย สีจะอ่อนๆ ค่อยๆปัดซ้ำๆค่ะ
ถามว่า เอาแปรงลงไปคนกลีบมันจะไม่แตกเรอะ....???
ตัวกลีบเค้าค่อนข้างยืดหยุ่นนะคะ ไม่แตกแน่นอนค่ะ
มาปาดดูสีกันค่ะ....น้ำตาลเอากลีบดอกถูๆๆลงบนแขนเลยค่ะ
เป็นสีชมพูเจือแดงนิดหน่อย ไม่มี Shimmer ค่ะ แต่สีจะวาวนิดหน่อย
สีน่ารักมาก อันนี้เป็นสีเบอร์ 2 ค่ะ พี่สาวใจดีเลือกมาให้
ลองปัดลงบนหน้าค่ะ
ลงแบบเบามือหน่อยในครั้งแรก แล้วปัดซ้ำเรื่อยๆ จนกว่าจะได้สีอย่างที่อยากได้ค่ะ
ปัดไม่ยากค่ะ แต่ตรูดลิงได้เหมือนกัน
ความติดทนให้ 9/10 เลยค่ะ ทนประมาณ 10 ชั่วโมง
ถ้าหน้าเยิ้มมากซับหน้าบ่อยก็มีหายเหมือนกันค่ะ
โดยรวมแล้วบลัชออนในตำนานมันดีเพราะมันแปลก
แพงเพราะค่าไอเดียคนทำ คนคิดค่ะ
แต่คุณภาพ....น้ำตาลว่ามันก็เท่าๆกะบลัชออนดีๆอันนึง
เทียบไปกะเคาน์เตอร์แบรนด์ทั่วไปที่ราคาไม่สูงขนาดนี้
ถามว่า....อ้าวถ้ามันไม่ดีแล้วซื้อมาทำไม....ซื้อเพราะไอเดียคนทำค่ะ
มันคือของแปลกที่เจ๋ง และใช้ได้จริง หากไม่มีในครอบครองมันจะคันหัวใจค่ะ
เลยต้องจัดมาให้หายคัน....5555++
ขอบพระคุณพี่ปี่ พี่สาวคนงามที่เป็นธุระหิ้วมาให้น้องนะคะ....^____^
วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:17:44:19 น.
ผู้ติดตามบล็อก : 69 คน [
