มกราคม 2554

 
 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
8
9
10
11
12
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีกระต่ายด้วย "My Best Item of the Year 2010"...... ^_^
สวัสดีปีใหม่ค่า.....

ก่อนอื่นเลยขออวยพรให้เพื่อนๆผู้อ่านบล็อคทุกท่านมีความสุข
สุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรงทั้งกายและใจ สดชื่นแจ่มใสตลอดปีนะคะ






ต้อนรับปีกระต่ายด้วยการรวบรวม Item ที่อิชั้นชอบที่สุด
ในปีที่ผ่านมา โดยแยกเป็น 2 หมวด ได้แก่

Skincare และ Point Make Up นะคะ

มาเริ่มต้นกันด้วยฝั่งของ Skincare กันก่อนนะคะ
ก่อนอื่นต้องอธิบายกันสักหน่อยว่า สภาพผิวของอิชั้นนั้นเป็นอย่างไร
จะได้เข้าใจกันว่าที่ใช้แล้วชอบนั้นเพราะมันเหมาะกับสภาพผิวเช่นนี้เอง

ผิวเป็นผิวมันขาดน้ำ ที่ระคายเคืองง่าย อุดตันง่าย เป็นสิวง่าย แพ้ง่าย
มีอะไรแย่ไปกว่านี้ไหมเนี่ย 55555
รูขุมขนกว้าง มีสิว กระ และจุดด่างดำบ้างประปราย นะคะ

มาดูกันที่หมวดของ Skincare ในเรื่องของการทำความสะอาดกันก่อนนะคะ



1. Cleansing Oil : น้ำมันล้างเครื่องสำอาง

Nature Republic
Forest Garden Fresh Cleanser : Tea Tree & Lemongrass



เป็นน้ำมันล้างหน้าที่ล้างได้สะอาด ไม่แพ้ ไม่อุดตัน และลดการเกิดสิวได้ด้วย
เนื้อของ Oil ค่อนข้างใสไม่เหนียว ทำให้นวดล้างได้ดี นวดๆไปบางที
ก็มีสิวอุดตันเม็ดเล็กๆ หลุดออกมาเหมือนทรายเลยค่ะ

ราคาไม่แรงประมาณ 500 กว่าบาท ใช้ได้นานประมาณ 2-3 เดือน
ขวดที่ใช้อยู่เป็นขวดที่ 2 แล้วค่ะ






2. Make Up Remover : น้ำยาเช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตาและริมฝีปาก

Boots Botanic
All Skin Type : Soothing Eye Make Up Remover



มันคือ....น้ำยาเช็ดล้างทำความสะอาดรอบดวงตาและริมฝีปากที่ดีและราคาถูก
โดยเฉพาะเมื่อมันจัดรายการซื้อ 1 แถม 1 อิชั้นจะพุ่งตรงเข้าไปแล้วซื้อตุน
ไว้ในคลังแสงค่ะ อิอิอิ

ตัวน้ำยาเป็น น้ำมันและน้ำ ผสมกันเวลาใช้ต้องเขย่าแรงๆ เป็นการออกกำลังแขนไปในตัว
แล้วเทใส่สำลีให้ชุ่ม แปะทิ้งไว้บนเปลือกตา 1 นาทีแล้วค่อยๆเช็ดออกอย่างเบามือ
เช็ดเครื่องสำอางออกได้อย่างหมดจดค่ะ แถมราคาสบายกระเป๋า
จึงขึ้นแท่นด้วยประการฉะนี้ ^_^







3. Peeling Gel : เจลลอกทำความสะอาดผิวหน้า

Skinfood
Pineapple Peeling Gel



เป็นเจลสำหรับขัดลอกผิวอย่างอ่อนโยนค่ะ เนื่องจากอิชั้นเป็นคนที่ผิวอุดตันง่ายมากๆ
เลยต้องมีการลอกผิวบ้างเพื่อไม่ให้เกิดสิวอุดตัน
ยิ่งช่วงนี้หน้ากำลังลอกเพราะใช้ยา Ratin-A อยู่ เจ้าตัวนี้ช่วยได้มาก
ในการลอกผิวที่เริ่มเป็นขุยๆอย่างน่าเกลียดได้ดีทีเดียว ที่สำคัญคือ มันไม่แสบหน้าค่ะ

ตัวเนื้อเจลจะขุ่นๆ เวลาถูๆแบบเบาๆ ผิวจะเริ่มลอกออกเป็นขี้ไคล
ในเนื้อเจลจะมีเยื่อสากๆเล็กน้อย มันจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่กำลังจะหลุด
ให้หลุดออกมาอย่างนิ่มนวล ตัวเจลเข้าใจว่าเป็นกรดอ่อนๆแบบสัปะรด
ทำให้ผิวค่อยๆหลุดออกมา โดยไม่ระคายเคืองค่ะ

ที่เลือกใช้ตัวนี้เพราะโดยส่วนตัวไม่ถูกกับพวก Salicylic Acid และพวก BHA
สักเท่าไหร่ ใช้แล้วสิวจะเห่อมาก เลยปรึกษาพี่เก๋ oHLa ดู พี่เก๋เลยแนะนำ
ให้หาเจลแบบที่เป็น AHA อ่อนๆมาลองดู พอรื้อตู้ก็เห็นเจ้าขวดนี้เลยลองใช้ดู
มันก็เวิร์คดีค่ะ ในราคาหลักร้อยต้นๆ.......ถูกใจ ขึ้นแท่นไปอีก 1 ^^








4. Cleansing Soap : สบู่ล้างหน้า

Skinfood
Honey Black Tea Jelly Foam



มันคือสบู่ล้างหน้าแบบเจลนั่นเองค่ะ ใช้นิดเดียวก็ล้างได้ทั่วหน้าแล้ว
มีฟองนะคะ ล้างแล้วหน้าไม่แห้งตึง กลิ่นหอมน้ำผึ้งมากๆ เค้าว่าเหมาะกับ
คนหน้าแห้ง....แต่เราหน้ามันก็ชอบใช้ค่ะ มันไม่ทำให้มันมากขึ้น แถมไม่ทำ
ให้เราสิวขึ้นด้วย อันนี้ปลื้มมาก...... ที่สำคัญล้างแล้วหน้านิ่มดีค่ะ

ขวดนึงใช้ได้นานกว่า 6 เดือน ในราคาหลักร้อย ประมาณ 300 บาท
สำหรับเวปหิ้ว และ 600 บาท ที่ช็อป..... เลยขึ้นแท่นไปแบบสบายๆ ^^







มาเริ่มที่หมวดของตัวบำรุง และ Treatment กันค่ะ

5. Whitening Lotion

Kose
Sekkisei Lotion



เป็นโลชั่นแนวตะวันออกที่เน้นความขาว อิชั้นผู้ซึ่งไม่ได้อยากขาวแต่ก็ใช้
เพราะมันช่วยให้สิผิวสม่ำเสมอมากกว่า และด้วยส่วนผสมที่มีแอลกอฮอล์
อยู่บ้าง อิชั้นก็มิได้รังเกียจ กลับชอบซะอีก เพราะเมื่อเช็ดทั่วหน้าแล้ว
ก็เอามาเช็ดที่น้องจุ๊กูแร้ต่อได้อีก....อิอิอิ ทำให้ไม่มีกลิ่นตัวและขาวขึ้น

ขนาด 100 ml. ก็ใช้ได้นานกว่า 2 เดือน....
ตอนนี้ฝากพี่สาวแสนดีซื้อ ขนาด 200 ml. มาใช้แล้วค่ะ ถ้าหาซื้อในเวปได้
จะได้ราคาที่ถูกกว่าเคาน์เตอร์เยอะมากค่ะ....คิดแล้วคุ้มจริงๆ ^^







6. Moisture Lotion : โลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้น

Hada Labo



นั่นแน่....ตัวฮิตของห้องแป้ง ซึ่งซื้อตามคุณเพื่อนมด ModMizi ที่แสนจะใจดี
เอามาให้ลองใช้ตอนไปเที่ยวกัน....ทำให้รู้ว่ามันดีและไม่แพ้
ตัวโลชั่นใสๆเมือกๆเล็กน้อย...ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นได้ดีทีเดียวค่ะ
ใช้แล้วหน้าเด้งดี สิวไม่เกิด ไอ้ที่ลอกๆเพราะทายาก็ดีขึ้นเร็วมากๆ
แอบรู้สึกว่าพวกหลุมสิวและริ้วรอยเล็กๆ ค่อยๆตื้นขึ้นค่ะ

คุณภาพดีขนาดนี้ในราคา 495 บาท กับขวดบิ๊กเบ้ง ใช้ได้นานโคตรๆ
โคตรจะคุ้มเลยค่ะ.....ขึ้นแท่นไปอีก 1....แอบเกาะกระแสนะเนี่ยชิ้นเนี๊ยะ








7. Serum : เซรั่มบำรุงผิว

Skinfood
Tea Tree Essence



เนื่องจากผิวเราที่เป็นสิวง่าย อุดตันง่าย หน้ามัน ไม่มีริ้วรอยที่กังวล และไม่อยากขาว
เอสเซนส์ตัวนี้จึงเป็นคำตอบที่ถูกใจเราที่สุดค่ะ มันช่วยไม่ให้เราเป็นสิว
ผิวลดการอักเสบลง เก็บกักความชุ่มชื่นได้พอประมาณ ใช้แล้วสิวไม่ค่อยขึ้น
ทาเฉพาะกลางคืนก่อนนอนเท่านั้นค่ะ

ราคาแสนจะถูก ไม่เกิน 200 บาท ขวดนึงก็ใช้ได้ประมาณ 1-2 เดือน ค่ะ
เมืองไทยไม่นำเข้ามาขายแล้ว ต้องสั่งพรีออเดอร์เอาค่ะ ^^






8. Emulsion : สารประกอบของน้ำกับน้ำมัน ^_^

Skinfood
Lettuce & Cucumber Emulsion



จริงๆมันก็เป็นสารให้ความชุ่มชื้นแบบหนึ่งค่ะ เน้นเรื่อง Balance ของผิว
ที่เราชอบก็เพราะมันมักจะทำหน้าที่เคลือบผิวเราไว้ ไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้น
ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์เป็นครีมกึ่งเจลใสๆค่ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้แล้วไม่ทำให้หน้าแห้งตึง
หน้านิ่มด้วย แถมด้วยว่าไม่ทำให้สิวขึ้น

เรามักจะใช้ก่อนการทาครีมกันแดดค่ะ คือใช้เป็นอันหลังสุดของการบำรุง
ในตอนเช้าก่อนทาครีมกันแดด ถ้าในหน้าร้อนจะฉีดสเปรย์น้ำแร่ตบๆเบาๆ
แล้วทาตัว Emulsion นี่ทับลงไป ทำให้หน้าไม่มันและไม่แห้งด้วย
ส่วนหน้านาวที่ผิวมักจะแห้งมากกว่าปกติ ก็ลงครีมหรือ Moisture บำรุง
ที่เข้มข้นสักหน่อย เมื่อซึมหมดแล้วค่อยลง Emulsion ทับเพื่อเคลือบผิวอีกทีค่ะ

ขวดใหญ่ราคาหลักร้อย....ซื้อได้สบายกระเป๋า แต่ก่อนในช็อปมีขาย
แต่อยู่ดีๆก็เลิกนำเข้า....เลยต้องพึ่งเวปพรีออเดอร์เท่านั้นค่ะ ^_^








9. Moisture : สารให้ความชุ่มชื้น

H2O+
Face Oasis Hydrating Treatment



ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นน้ำ....มันจึงให้ความชุ่มชื่นแบบน้ำค่ะ ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์
เป็นเนื้อเจลสีฟ้า กลิ่นอ่อนๆ ทาแล้วหน้าจะหนึบๆพอควร แต่แป๊บเดียวก็ซึมค่ะ
ก่อนที่จะลองใช้ตัวนี้ เราลองเปรียบเทียบการใช้กับ Clinique Moisture Surge ค่ะ
ผลคือเราชอบ H2O+ มากกว่า มันซึมเข้าใต้ผิวและแก้ปัญหาผิวขาดน้ำแบบของเรา
ได้ดีกว่าตัว Moisture Surge ที่ทำหน้าที่แค่เหมือนจะเคลือบผิวไว้เฉยๆค่ะ

กระปุกนึง 50 ml. ใช้ได้นานประมาณเกือบ 3 เดือน สำหรับราคา 1,780 บาท
ก็ถือว่าไม่แพงมากพอรับได้....แถมไปตามหาซื้อแบบเทสเตอร์หลอดเล็กๆ
ตามงานเซลล์ของ CMG ก็จะได้แบบถูกและคุ้มมาก แต่ต้องดูวันผลิตดีๆนะคะ









10. Eye Cream : ครีมทารอบดวงตา

Skinfood
Potiron au Lait Eye Cream



อย่างที่เคยบอกว่า เราไม่มีปัญหาแพนด้าหรือริ้วรอยมากนัก มีเพียงริ้วจางๆ
ตามวัยและรอบยิ้ม ซึ่งไม่ซีเรียสค่ะ เรื่องของแพนด้าก็ไม่มี มีก็น้อยมาก
นอนหลับเต็มที่สักคืนก็หายค่ะ

ดังนั้นครีมทารอบดวงตาของเราจึงเน้นที่ความชุ่มชื่นค่ะ แต่ไม่ให้รอบดวงตา
แห้งเหี่ยว ทาเอาไว้ให้ได้บำรุงบ้างริ้วรอยจะได้มาช้าลง ครีมฟักทองตัวนี้
ก็ช่วยได้ในระดับนึงค่ะ ในราคาไม่แพง หมดแล้วก็ต้องรอดูสภาพรอบดวงตา
อีกครั้งแมื่อครีมหมดค่ะ ว่าจะเปลี่ยนหรือใช้ตัวเดิมต่อไป แต่ตอนนี้ใช้ตัวนี้อยู่ก็ Happy ดีค่ะ ^^










11. Mask Sheet : แผ่นมาส์กบำรุง

Skinfood
Black Raspberry Saeng-gi Essence Mask Sheet



ใช้เวลาต้องการบำรุงอย่างเร่งด่วน เช่น เมื่อหน้าแห้งมากลอกมาก เหียกมาก
และก่อนออกงาน เรามักจะโปะทิ้งไว้ก่อนนอนแล้วหลับไปเลย พอตื่นมา
มันก็มักจะตกอยู่ข้างหมอน 5555

แต่ผลคือ....หน้านิ่มมาก เด้งมาก....และใสมาก พอใจแบบสุดๆ
ในราคาไม่แพงประมาณ 80 -150 บาท ขึ้นอยู่กับซื้อที่ไหนค่ะ
ถ้าฝากแม่ซื้อมาตุนเลยจากเกาหลีก็ไม่เกิน 60 บาท ตุนที 20 แผ่น
ใช้กันทั้งบ้าน.....คุ้มค่ะ เลยขึ้นแท่นไปเรียบร้อย อิอิอิ








12. Lip Balm : ลิปบำรุง

The Body Shop
Born Lippy : Watermelon Lip Balm



เป็นลิปบาล์มเนื้อเหนียว ไม่มีสี กลิ่นแตงโม น่ากินที่สุด ใช้ทาทั้งก่อนนอน
และก่อนแต่งหน้าได้ดีทีเดียว ความเหนียวไม่เหนียวมากค่ะ เหนียวกำลังดี
ปากนุ่ม ชุ่มชื่นดีทีเดียว ราคากระปุกละ 190 บาท ซื้อตอนลดราคา ก็จะอยู่
ที่ประมาณ 150-160 บาท ใช้ได้นานประมาณ 5-6 เดือน.....กระปุกที่ 3 นอนรอเราอยู่แล้วค่ะ ^^








13. Sunscreen : ครีมกันแดด

Biore
Biore UV Perfect Milk



เป็นน้ำนมกันแดดที่สามารถกันน้ำได้ค่ะ เนื้อเบาซึมง่าย กันแดดได้ดี
ไม่ทำให้หน้ามันและเหนียวเหนอะหนะ แต่มีแอลกอฮอล์นะคะ
ใครที่ไม่ชอบแอลกอฮอล์ควรเลี่ยงค่ะ เราใช้วิธีบีบใส่มือสักแป๊บ รอให้แอลกอฮอล์
ระเหยเล็กน้อยค่อยทา....แต่ส่วนใหญ่เราไม่รังเกียจแอลกอออล์ค่ะ
เลยปาดลงบนหน้าได้เลย อิอิอิ

จริงๆอันนี้สามารถใช้ทาตัวได้ด้วยค่ะ เวลาไปทะเลเรามักจะใช้ทาทั้งตัว
และหน้า โดยเฉพาะทาหลังเท้า เพราะไม่ชอบให้เท้าดำ 55555

ขวดนึงใช้ได้นาน 3-4 เดือนกับราคา 200 กว่าบาท......

อ้อ....ที่ที่ถูกที่สุดที่เคยซื้อคือที่ Guarmet Emporium ค่ะ ^^









14. Foaming Bath : สบู่อาบน้ำ

Mark and Spencer
Moisture Rich foaming Bath : Magnolia



เป็นสบู่อาบน้ำที่หอมกรุ่น....ชอบกลิ่นนี้มากๆ และไม่ทำให้ตัวแห้งหลังอาบด้วย
หาซื้อได้ไม่ยากอีกต่างหาก ราคาไม่แรงขวดนึงใช้ได้นานมากๆ
คิดแล้วก็คุ้มและหอมด้วย.....ชนะเลิศในใจอิชั้นเลยทีเดียวค่ะ ^^









15. Shampoo & Conditioner : แชมพูและครีมนวดผม

Skinfood
Avocado Rich Hair Wash & conditioner



แชมพูกะครีมนวดที่ดีที่สุดสำหรับเรานะคะ 555
เพราะมันหอมแล้วทำให้ผมนิ่มด้วย ที่สำคัญคือไม่ทำให้หนังศีรษะเป็นเม็ดๆ
ขวดไม่ใหญ่ ปริมาณที่ใช้นิดเดียวก็ทั่วศีรษะแล้ว ราคาอาจจะแพงไปซักหน่อย
แต่ก็ใช้ได้นานทีเดียวเชียวค่ะ ^^







16. Hair Essence : น้ำมันบำรุงผม

Skinfood
Extra Virgin Olive Essence



เป็นน้ำมันมะกอกสำหรับใส่ผม มีกลิ่นหอมมะกอกอ่อนๆ เนื้อของ Oil ไม่เหลวนัก
เหนียวนิดหน่อย ใช้ครั้งละ 1 ปั๊ม เท่านั้นถูๆๆ บนฝ่ามือแล้วลูบเฉพาะปลายผม
ทำให้ผมนิ่ม เป็นเงางาม และไม่แตกปลายด้วยค่ะ ขวดนึงใช้ได้นานถึง 6เดือน
ในราคาแค่ 160-200 บาทเท่านั้นเองค่ะ เลยขึ้นแท่นไปแบบสบายๆ ^^









17. Body Lotion : โลชั่นสำหรับทาตัว

Cute Press
Milk : Enriched Body Lotion



เป็นโลชั่นที่ชอบมากๆ ไม่เหนียวเกินไป และก็ไม่ใสจนเกินไป กลิ่นก็อ่อนๆ
ที่สำคัญคือใช้ได้ไม่แพ้ ราคาก็ถูกแถมมีแบบถุงเติมเพื่อลดปริมาณขยะด้วย
เวลาใช้เราใช้ทาหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ ตัวยังชื้นๆอยู่ก็ลงเลยค่ะ

ผิวจะนุ่มชุ่มชื่นไม่แห้งจนคันคะเยอ....ปลื้มมากๆ แนะนำให้พี่สาวใช้เค้าก็ชอบ
เหมือนกันค่ะ รายนั้นถึงขนาดซื้อตุนกันเลยทีเดียว 5555









18. Hand Cream : ครีมทามือ

Bath & Body Work
Cherry Blossom Hand Cream



เป็นครีมทามือที่ไม่เคยเปลี่ยนใจเลยค่ะ กลิ่นหอมมากๆ บางทีเราก็เปลี่ยน
ไปใช้กลิ่นอื่น แต่ยังคงต้องเป็นของยี่ห้อนี้เท่านั้น เนื้อครีมข้นแต่ไม่ทำให้เหนียว
แถมกลิ่นก็หอมฟุ้ง......ราคาก็ไม่แพงมาก หลอดนึงใช้ได้นานมากๆด้วยค่ะ









19. Cotton Pad : สำลีเช็ดหน้า

Watson
Cotton : Soft Square Puff



มันไม่ใช่ Skincare แต่ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เหมือนกันค่ะ ^_^
ยี่ห้อที่ชอบใช้ก็อันนี้ล่ะค่ะ ของวัตสัน ซื้อตอนโปรโมชั้น 1 แถม 1 ตลอด
เห็นก็ซื้อ ซื้อจนมีนอนรออยู่อีก 8 ห่อในตู้ 55555

เป็นสำลีแผ่นบางเหมาะแก่การใช้กับ Toner หรือ Lotion มากๆ
ไม่ดูดน้ำเยอะ บาง และเช็ดง่าย ใช้ง่ายด้วย แถมเมื่อใช้เช็ดก็ไม่เป็นขุย
ขอบไม่รีดแต่มันก็ไม่ลุ่ย ราคาก็ถูกเมื่อเที่ยบกับปริมาณและคุณภาพ







หมดแล้วค่ะสำหรับฝั่งของ Skincare

เรามาดูในส่วนของ Make Up บ้างดีกว่าค่ะ



1. Pore Primer : เบสปกปิดรูขุมขน

benefit
Porefessional



เป็นเบสที่ใช้ปกปิดริ้วรอยตื้นๆและรูขุมขนได้ดีมากๆ เนื้อเป็นซิลิโคนเบาๆ
หลายชนิดผสมกันไปทำให้เนื้อเบสละเอียดและเบามากๆ ไม่มีสีค่ะ
สามารถใช้ทาก่อนลงรองพื้น หรือ หลังลงรองพื้นก็ได้ คุมมันได้นิดหน่อย
ไม่เป็นคราบด้วย.....ชอบมากๆ

ปริมาณและราคาอาจจะแรงไปสักนิด แต่หลอดนึงก็ใช้ได้นานมากๆค่ะ








2. Clear Primer : เบสใส

Make Up Store
Skin Serum



เป็นเบสใสที่ดีมากๆตัวนึง ทาก่อนลงรองพื้นช่วยให้เครื่องสำอางติดทน
ไม่เป็นคราบ ไม่ตกร่อง ยิ่งเหงื่อออกยิ่งหน้าเด้ง ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเจล
กึ่งซิลิโคน เกลี่ยง่ายค่ะ ตอนแรกจะรู้สึกเหมือนจะมันๆ แต่พอซึมแล้วก็แห้งไปเลย
ใช้ครั้งละนิดเดียวเองก็ทั่วหน้าแล้ว

เอาไปให้เพื่อนลองใช้ติดใจกันทุกคนเลยค่ะ

ตัวนี้ราคาแอบแรงขวดละ 1,8xx บาท แต่ก็คุ้มค่ะ ^_^











3. Cream Foundation : รองพื้นชนิดครีม

Laura Mercier
Cream Smooth Foundation : Vanilla Beige, Warm Ivory



เป็นรองพื้นครีมที่เบาสบายหน้าที่สุด ปกปิดดีเยี่ยม ใช้ง่ายมากๆ
ทาแล้วสบายหน้าเกือบจะเท่ารองพื้นแบบ mmu กันเลยทีเดียว
ยิ่งเวลาผิวเราเป็นขุยเนื่องจากยาทาสิว รองพื้นครีมตัวนี้ให้ความชุ่มชื้น
ที่ไม่ทำให้มันเยิ้มได้ดีทีเดียว

เราชอบที่จะใช้วันที่ต้องการความเนี๊ยบแบบสุดๆ ค่ะ

ราคาพอประมาณกระปุกละ 1,800 บาท (มั้งจำราคาไม่ได้แน่นอน)








4. MMU Foundation : รองพื้นชนิดมิเนอรัล

Felicite
Foundation Cover : Pumpkin 02



รองพื้นแบบ mmu ที่ถูกใจที่สุดค่ะ สีเป๊ะมาก คือเหลืองมากๆ เหลืองได้ใจ
เราเลยทีเดียว เนื้อเนียน บาง และปกปิดได้ดีทีเดียวค่ะ ใช้เพียงนิดเดียวก็เนียน
ทั่วหน้าแล้ว กระปุกใหญ่สั่งมาใช้ตั้ง 3 เดือนแล้วยังพร่องไปไม่ถึงครึ่ง
แต่ถ้าไม่รอให้หน้าแห้งจริงๆก่อนลงก็แอบเป็นคราบได้เหมือนกันค่ะ

ข้อเสียของรองพื้นเจ้านี้คือ สั่งยากไปหน่อย น้องเจ้าของร้านทำงานประจำ
ไม่ค่อยมีเวลา ใช้วิธีอีเมล์สั่งของจะง่ายที่สุดค่ะ ^_^








5. Multiple MMU : มิเนอรัลสารพัดประโยชน์

2ndskin Mineral Make Up
Flawless Skin Multiple : Olive Medium



เป็น mmu สารพัดประโยชน์เหมะสำหรับวันตื่นสาย หรือวันหยุดชิลๆ
ไม่ต้องการความเนี๊ยบเท่าไหร่ ปัดตัวนี้ตัวเดียวหลังกันแดดเป็นอันจบค่ะ
ปกปิด เนียนบาง และคุมมัน.....เริ่ด

ราคาก็ไม่แพง 3xx บาท สำหรับกระปุกใหญ่ ใช้ได้นานจนลืมกันไปเลย
แต่เราถอยกระปุกเล็กมาใช้ดีกว่าค่ะ เพราะร้านนี้ไปง่ายไปเมื่อไหร่ก็ได้
ชอบใช้ของใหม่ๆมากกว่า ^^








6. Loose Powder : แป้งฝุ่น

2ndskin Mineral Make Up
Velvet Skin



แป้งฝุ่นเนื้อเบา ทำจากแป้งข้าวโพด ทำให้ไม่ทิ้งคราบขาวเหมือนอย่างแป้งข้าวจ้าว
คุมมันได้ดี แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าแมทจนเกินไป สามารถใช้กับรองพื้นชนิดน้ำ
หรือชนิดครีมก็ได้ค่ะ ไม่จำกัดว่าต้องใช้กับรองพื้น mmu เสมอไป
วันไหนอยู่บ้านไม่อยากแต่งหน้า ก็แค่ปัดแป้งฝุ่นหลังครีมกันแดดก็จบค่ะ
เรามักจะซื้อกระปุกใหญ่ไปเลย เพราะใช้เปลืองกว่ารองพื้นเยอะ 5555

กระปุกนึงก็ 225 บาท ใช้กันไปเลยเต็มที่ 4-6 เดือน สบายๆ









7. Foundation Powder Pact : แป้งอัดแข็งผสมรองพื้น

Coffret D'or
LP Pact UV spf 22 : BE-D



เนื้อแป้งเนียนละเอียดมากๆ ปกปิดได้ดีพอควร คุมมันได้ดีด้วย แถมที่ชอบที่สุด
คือสีแป้งเข้มและเหลืองถูกใจเรามากๆค่ะ ถ้าหน้ามันก็จะทำให้สีดรอปลงเล็กน้อย
แต่พอซับหน้าแล้วก็ผ่องเหมือนเดิม ที่ชอบมากไปกว่านั้นคือแป้งจะเซตตัว
บนหน้าทำให้ดูเนียนติดไปกับผิวเลยค่ะ

ตลับงามและใหญ่ เวลาใช้ก็ใช้แปรงปัดมากกว่าใชัพัฟ ทำให้ลงแป้งได้บางเบา
เป็นธรรมชาติดีค่ะ ราคาแอบแรงแต่ไม่แรงมาก เฉพาะแป้ง 1,200 บาท
+ ตลับ อีก 600 บาท เป็น 1,800 บาท ไม่ขาดไม่เกิน ^^









8. Eye Base : รองพื้นตา

Coffret D'or
Eyelid Base : No.1



เป็น Eye base แบบครีมสีขาวมีวิ้งละเอียดๆ ทาบางบนเปลือกตา ทำให้ลง
eyeshadow ได้ง่ายสีชัดและติดทน ยิ่งที่เป็นพวก mmu eyeshadow แล้ว
ตัวนี้จะช่วยได้มากเลยค่ะ เห็นตลับเล็กๆแบบนี้ใช้ได้นานเลยค่ะ แตะนิดเดียว
แล้วก็ปาดเบาๆ ก็เริ่ดแล้ว.....ราคาไม่แรงค่ะ ตลับละ 650 บาท เท่านั้น...^^









9. Eyeshadow : แต่งตาแบบฝุ่น

CHANEL
LES 4 OMBRES : Kaska Beige, Nymphea, Sparkling Satin, Vanite's



เป็นอายชาโดว์ที่สีสวยและมีวิ้งที่ละเอียด ทาแล้วดูผู้ดีมากๆค่ะ
สีสวยและติดทน ทาง่ายด้วยล่ะ ปาดๆลงไป ยังไงก็สวย แถมจัดเซตสี
ได้งามและเข้ากันมากๆ ทำเอาติดใจป้าโคโค่ไปเลย ต้องหาเงินมาซื้อ
อยู่บ่อยๆ.... ตลับนึงมี 4 สี ปริมาณก็เยอะนะคะ ราคาอาจจะแพงไปหน่อย
แต่เราว่ามันก็คุ้มค่าอ่ะนะ อิอิอิ

ชอบมากๆ ตอนนี้ก็มี 4 ตลับแล้ว.....^_^








10. Pencil eyeliner : ดินสอเขียนขอบตา

M.A.C
Lord It Up



อายไลน์เนอร์สีน้ำตาลวิ้งทอง เป็น Limited Edition ของ Collection
กระโปรงลายสก๊อตค่ะ อิอิอิ.....เนื้อดินสอนิ่มเขียนง่าย สีสวย วิ้งงาม
ไม่เป็นแพนด้าระหว่างวัน ล้างง่าย แถมสามารถเบลนให้ฟุ้งๆก็ได้ด้วย
สรุปๆๆๆ คือปลื้มมากๆ ถึงขนาดไปซื้อตุนไว้แล้วอีก 1 แท่งซะงั้น 555

ราคาแพงไปหน่อย 700 บาท ลด 10% ก็ยังเหลือ 630 บาทอยู่ดี








11.Gel Eyeliner : เจลอายไลน์เนอร์

Clinique
Brush on Cream Liner : 02 Pure Black



เจลไลน์เนอร์ที่เป็นเนื้อครีมที่ครีมมี่ที่สุดเท่าที่เคยใช้ เนื้อลื่น เขียนง่าย
สีดำสนิท ล้างออกง่ายด้วย แต่แอบเป็นแพนด้าบ้างพอรับได้ แลกกับการ
ล้างออกง่าย ตาไม่เหี่ยวถือว่าคุ้มค่ะ 555

ซื้อจากอเมริการาคา 467 บาท ถูกมากๆ เมืองไทยขาย 950 บาท
จะแพงไปไหนเนี่ย.....แต่ถ้าหมดแล้วฝากเพื่อนซื้อไม่ได้
ก็ต้องหาซื้อใช้กันต่อปายยยยยย ^_^









12. Eyeshadow Pencil : ดินสอแต่งตา

NARS
Soft Touch Shadow : Aigle Noir



ดินสอแต่งตาเนื้อครีมที่เบลนง่ายและสีชัดสวย วิ้งงามอีกอัน ที่ยังคงเป็นลูกรัก
ยิ่งวันไหนตื่นสายเป็นอันสิ้นคิดที่จะหยิบมาใช้มากที่สุด....เนื้อดินสอดีมากๆ
สีชัด ติดทน ไม่เป็นแพนดา เกลี่ยก็ง่าย เบลนก็ง่าย....ล้างออกก็ง่าย
แท่งนึงใช้ได้นานโคตร...เหลาแล้วเหลาอีกก็ยังไม่ถึงครึ่ง

ราคาแพงแต่คุ้มค่า แท่งละ 950 บาทค่ะ









13. Gel Mascara : มาสคาร่าแบบเจล

Skinfood
Alantoin Mascara



อันที่จริงมันเป็นมาสคาร่าใสสำหรับปัดขนตา แต่อิชั้นเอามาปัดคิ้วแทนค่ะ
แค่เอาแปรงปัดแป้งบนคิ้วออกแล้วปัดด้วยมาสคาร่าใสนี่เลยก็ออกจากบ้านได้
เราไม่ค่อยชอบเขียนคิ้ว วิธีนี้ทำให้ขนคิ้วเรียงเส้นสวย ถ้าเขียนคิ้วด้วย
ก็จะทำให้สีที่เขียนชัดขึ้น ขนคิ้วเรียงเส้นสวยด้วยค่ะ

ราคาไม่แพงสั่งแบบ preorder ตกอันละประมาณ 160 บาท....ใช้ได้สบายใจค่ะ ^^











14. Mascara : มาสคาร่าปัดขนตา

Estee Lauder
Double Wear Mascara



มาสคาร่าสีดำสนิท ช่วยให้ขนตายาวขึ้นและหนาขึ้น ไม่เป็นแพนด้าเลย
ล้างออกก็ง่ายด้วย แต่ไม่ช่วยให้ขนตางอนเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะขนตา
ของเรามันทิ่มมากก็ไม่รู้....อันนี้ได้มาฟรี พี่สาวซื้อให้ยังใช้ไม่หมดเลยค่ะ
หมดแล้วคงต้องซื้อเอง อิอิอิ









15. Blush On : สีทาแก้ม

NARS
Powder Blush : สารพัดสี สวยหมด 5555



ชอบมากๆ ชอบจริงๆ แถมซื้อได้อีกเรื่อยๆ เหมือนคนเป็นโรคจิต 5555
ตอนนี้ก็ออกลูกออกหลานมากมาย หยุดไม่ได้ซะงั้น.....บลัชออนของนาร์ส
มีสีให้เลือกเยอะ เนื้อไม่ค่อยเป็นแป้ง สีสันชัดเจน ติดทนนาน แบบเห็นใน
ตลับสีไหน ก็ปัดออกมาได้สีนั้นกันทีเดียว

ราคาค่อนข้างแพง รอช่วงมีโปรโมชั่นจะได้ถูกลงค่ะ ^^











16. Lip Pencil : ลิปสติกแบบดินสอ

NARS
Velvet Matte Lip : Calilope, Dolce Vita, Sex Machine



เป็นลิปเนื้อแมทที่ออกเป็นเนื้อกำมะหยี่มากๆ สีสวย ติดทนนาน และไม่แห้ง
จนเกินไปนัก.....พกง่ายด้วย ชอบมากๆ ทากี่ครั้งก็สวย ตอนนี้มี 3 แท่งแล้ว
คาดว่าคงจะออกลูกออกหลานกันอีกแน่นอน

ราคาแพงไปหน่อยแต่ก็ใช้ได้นานทีเดียว แท่งละ 950 บาท








17. Lipstick : ลิปสติก

Cle de Peau Beaute
Extra Silky Lipstick : No.109





ตอนแรกกะว่าจะยกตำแหน่งนี้ให้กับ CHANEL แต่พอได้แท่งนี้มาใช้เท่านั้น
ป้าโคโค่ก็ตะกระป๋องดัง เคร้งงง!!!! เนื้อลิปของ CDPB กินขาดชนะเลิศ
เนื้อครีมมีมากๆ แถมสีก็สวยมาก ปิดสีปากได้สนิท ติดทนนาน ไม่เป็นคราบ
ไม่ตกร่อง ไม่ทำให้ปากแห้งด้วย....อะไร๊จะเริ่ดขนาดนี้

แต่ราคาแรงมว๊ากกกกก....แท่งละ 2,100 บาท แม่จ้าวจะเป็นลม
ดีที่ได้มากจากงานเซลล์ ราคาพอรับได้ค่ะ ^^









18. Lip Gloss : ลิปกลอส

benefit
Lip Shine Gloss Haute Brillance : Foxy Lady



ลิปกลอสสีสวยเนื้อดี วิ้งกระจาย เหนียวกำลังดี กลบร่องปากได้ด้วย
กลิ่นโอเคกว่านาร์สเยอะ 5555..... สีนี้เป็นสีชมพูมีวิ้งสีฟ้า
ทาแล้วหวานได้อีก....ติดทนนานพอควร ใครไม่ชอบกลอสเหนียวก็อย่าใช้ค่ะ
แต่เราเป็นคนชอบกลอสเหนียวๆ เลยโอเคกะมันมากๆ

ราคาพอประมาณ 600 กว่าบาทมั้ง จำไม่ค่อยได้แล้วค่ะ ^^





หมดแล้วค่า.....เป็นการอัพเดตที่ยาวมากๆ
อยากจะสารภาพว่าของที่ใช้เยอะมากจนบางทีก็เลือกไม่ถูกเลยว่าชอบอันไหนมากกว่ากัน
บางอันก็ชอบพอๆกันแต่มีโอกาสใช้ไม่บ่อย เลยเลือกเอาอันที่ใช้บ่อยๆเข้าไว้

หวังว่าคงจะพอเป็นไอเดียในการช๊อปปิ้งและเลือก Skincare และ Make Up
ให้กับเพื่อนๆได้บ้างนะคะ



"สวัสดีปีใหม่ 2011 ทุกๆท่านนะคะ"



Create Date : 02 มกราคม 2554
Last Update : 5 มกราคม 2554 14:33:37 น.
Counter : 11100 Pageviews.

4 comments
  
แอบมาดู...

มีหลายตัวที่ยังไม่เคยลอง และอีกหลายตัวที่น่าสนนะเนี่ย...
โดย: wannee2w วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:14:54:53 น.
  
Honey Black Tea Jelly Foam ได้ตัวอย่างมา เดี๊ยวลองใช้มั่งดีกว่าคะ

Skinfood Tea Tree Essence น่าลองใช้จังพี่

บรัสออนพี่น้ำตาลสุดยอดมาก
โดย: mee_vingt วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:15:42:13 น.
  
ชอบ Biore ขวดฟ้าเหมือนกันค่า แต่หนูเอามาทาแขนทามืออย่างเดียว
หน้าไม่ทากลิ่นแอลแรงมาก 555 ช่วงหลังมือแอบดำ
ขยันทาเป็นประจำทุกวัน ก็เริ่มดีขึ้นแล้ววว
โดย: mindmity วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:17:40:27 น.
  
แอบมาส่องค่ะพี่น้ำตาล

อยากลองลิป CDPB บ้าง

แต่ราคาหนักหน่วงพอๆกับ suqqu เลย T^T



ปล ขออนุญาตแอดบล๊อคนะคะ ^^
โดย: -หนมปังหน้าโหด- วันที่: 13 มกราคม 2554 เวลา:1:48:31 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

bemynails
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 69 คน [?]



ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบช๊อปปิ้ง แต่งหน้า เพื่อความสุขเล็กน้อยๆของตัวเอง ในโลกการทำงานที่ผู้ชายเป็นใหญ่
งานออกแบบเป็นชีวิต....ก็ขอออกแบบชีวิตประจำวันด้วยสีสันบ้าง....

เพราะผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิงวันยังค่ำ.... ^_^


ไม่อนุญาตให้ใช้ข้อมูลหรือชื่อ bemynails ในการนำไปอ้างอิงเพื่อขายสินค้าใดๆค่ะ


แอดเป็นเพื่อนกันใน facebook ได้ค่ะ

bemynails