มีนาคม 2560

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
11
16
17
18
20
21
23
24
25
26
28
29
30
31
 
 
All Blog
Free Motion Quilting 3 ขอแชร์ประสบการณ์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา


ขอเวลาเรียบเรียงเนื้อหา และตัดต่อคลิปสักอาทิตย์นะค่ะ เนื่องจากต้องทำใหม่เลยขอเวลาทำสักหน่อย

เลยขอคั่นเวลาด้วยการแชร์ประสบการณ์การทำงานในช่วง 3 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา

เริ่มกันด้วยงานชิ้นแรกกัน
lukkhana sanmanee quilt
งานชิ้นนี้ถูกจัดแสดงในงาน Thailand  Great Quilt Festival 2014  Asian Show Case

ชิ้นนี้เป็นชิ้นแรกที่หัดทำหลังจากที่เพิ่งซื้อจักรเย็บแบบ Free Motion Quilting มา ใช้เวลาทำประมาณ 2 เดือน จขบ พอเย็บผ้าได้ แต่สำหรับงานควิลท์แล้วยังเตาะแตะ เลยวางเป้าหมายว่าปีที่ทำคือปีพ.ศ. 2557 นั้น จะเน้นที่การฝึกทักษะ คือ Free Motion Quilting อย่างเดียว ทักษะอย่างอื่น พวกต่อผ้า แอปลิเค เอาแค่เป็นส่วนเสริมให้งานพอ

สำหรับ จขบ เอง เนื่องจากเรียนลักพักจำเอาเอง จากตำราบ้าง จากอินเตอร์เน็ตบ้าง เลยมีรูปแบบการเรียนรู้ในแบบของตัวเอง โดยแต่ละปีจะตั้งเป้าหมายที่ใหญ่และชัดเจนของเราเอง  รางวัลถือเป็นแรงจูงใจ  แต่ที่สำคัญกว่าคือ ทำให้เราคิดงานและวางแผนเป็นกระบวนการ และมีการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

แรงบันดาลใจในการออกแบบงานมันจะมาจากประสบการณ์ในชีวิตของแต่ละคน ทำให้บางครั้งแรงบันดาลใจของหลายๆ คน จะไปในทิศทางเดียวกัน เพราะคุณอยู่ในสิ่งแวดล้อมเหมือนๆ กัน การเปิดโลกทัศน์จึงเป็นส่ิงสำคัญของนักออกแบบ

จขบ มาจากพื้นฐานของงานคอมพิวเตอร์ จะทำอะไรคือข้อมูลต้องมาก่อน แรงบันดาลใจจึงมาจากประสบการณ์ชีวิตในช่วงเวลานั้นๆ ผสมผสานกับข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ออกแบบบนคอมพิวเตอร์ จขบ จะใช้โปรแกรมกราฟฟิก คือ Photoshop ออกแบบงานตามขนาดที่กำหนด เช่น งานชิ้นนี้ กำหนดให้ไม่เกิน 150*180 ซม จขบ จะตั้งค่าเท่าขนาดจริง แล้วพิมพ์ออกมาบนกระดาษ A4 ที่ละส่วนแล้วเอา A4 มาต่อกันจนเป็นผืนเท่าขนาดจริง

ในเมื่อตัดสินใจว่าจะเป็นการ Free Motion Quilting เป็นหลัก ไม่เน้นที่การต่อผ้า หรือการแอปลิเค แล้วเราจะสร้างงานให้ตรงกับที่เราออกแบบไว้อย่างไร นั้นก็คือ การสร้างลายภาพขึ้นมาเองนั่นเอง

ในส่วนของภาพหลักด้านในกรอบ เอาทักษะในตอนนั้นที่มีอยู่มาใช้ คือ การทำผ้าบาติก ผ้าที่ใช้คือผ้าไหมฟูจิญี่ปุ่น ส่วนผ้าที่ทำสีธงชาติ และผ้ากรอบและผ้าชิ้นด้านหลังรองจากใยสังเคราะห์จะไปเดินหาตามร้านขายผ้า ตามสำเพ็งบ้าง ตามร้านขายผ้าในห้างบ้าง 

การคำนวณผ้า จะคำนวณคร่าวๆ จากขนาดงานจริงที่เราออกแบบ แล้วเวลาซื้อเราจะซื้อเบิ้ลไป 2 เท่า เช่น เราคำนวณว่าผ้าขอบ และพื้นด้านหลังจะใช้ 5 เมตร เราจะซื้อเป็น 10 เมตร เหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้น เพราะสำหรับมือใหม่ เราต้องลองผิดลองถูกบนสภาพแวดล้อมจริงๆ ของงาน ลองจากวัสดุและอุปกรณ์จริงๆ จนได้งานที่ต้องการ 

แต่เราก็ต้องฝึกพื้นฐานมาก่อนการทดสอบกับผ้าจริงด้วย จขบ เอาเศษผ้าที่ไม่ได้ใช้ เช่น เสื้อผ้าเก่า หรือเศษผ้าจากงานตัดเย็บมาทดลองการควิลท์เป็นลวดลายต่างๆ ก่อน แล้วค่อยมาลองกับผ้าจริง เพราะไม่เช่นนั้น ผ้าจริงก็อาจจะเสียไป ไม่พอใช้งาน

ภาพตัวอย่างขั้นตอนการทำงาน
1.หลังจากได้ภาพที่ออกแบบไว้แล้ว จะร่างใส่ผ้า แล้วเอาไปเขียนเทียน





2. ลงสี โดยใช้สีบาติก ลงสีเสร็จแล้ว ไม่ได้เอาไปซักแต่ใช้วิธีรีดเทียนออก โดยเอากระดาษมาวางข้างบนและล่างของผ้า แล้วรีดให้น้ำเทียนซึมเข้าไปในกระดาษจน ไม่เหลือน้ำเทียนออกมา เติมสีซ้ำเพื่อลบรอยเทียน แล้วเอาผ้ามาต่อกันตามแบบ



3. แปะแอปลิเค ตรงแผนที่และตัวนกยูงบางส่วน และเย็บขอบ ส่วนแผนที่คือเย็บต่อผ้าสีก่อน แล้วรีดแปะด้วยผ้ากาว 2 หน้า ตัดเป็นแผนที่แล้วไปรีดติด


4.เย็บควิลท์ ตัวครุฑ ใช้ปากกาแบบรีดด้วยความร้อน ลอกลายครุฑลงไปบนผ้า แล้วควิลท์เป็นลาย

ลายค่อนข้างละเอียด ในตอนนั้น ยังควิลท์ไม่เก่ง เลยวาดลายอย่างละเอียด (ถ้าเป็นตอนนี้จะใช้เส้นร่างหยาบๆ )

ทำไปได้ จะละเอียดไปไหน


ปักลงสีทีละสี





ตัดขอบแล้วเอามาแปะ บนผ้าผืนใหญ่ด้วยการเย็บซิกแซกแบบละเอียด

โลโกก็ทำแบบเดียวกัน ส่วนตัวอักษร แปะติดด้วยผ้ากาว 2 หน้า เช่นเดียวกันกับแผนที แต่ใช้วิธีเดินขอบแบบคัทเวิร์ค


ลายไทยด้านล่างทำเช่นเดียวกันกับตัวหนังสือ แต่ตัดขอบด้วยซิกแซก

5. การปักด้านใน เราจะปักไปกับใยสังเคราะห์เพื่อทำเทคนิคนูนที่เรียกว่า Trapunto วิธีการคือ ตัดใยสังเคราะห์ให้ได้ขนาดใหญ่กว่า รูปส่วนที่เราจะปักก่อน เช่น เราจะปักตัวนูกยูง เราก็ตัดใยสังเคราะห์ให้ใหญ่กว่านกยูง แล้วปักผ้าด้านหน้าไปบนใยสังเคราะห์ เมื่อปักเสร็จแล้ว ก็ตัดในสังเคราะห์ส่วนเกินจากเส้นขอบของนกยูงออก
ตัวอย่างการปักนกยูง ปักไปทีละสี





ส่วนอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน เราอยากให้ส่วนไหนนูนยื่นมามากกว่าส่วนอื่นๆ เราก็จะปักด้วย ใยสังเคราะห์ แล้วตัดส่วนที่เกินเส้นขอบออก

ตัวอย่างการตัดใยสังเคราะห์
ถ้าเราอยากให้นูนหลายมิติ เราจะเย็บด้วยใยสังคราะห์หลายๆ เลเยอร์ เช่น แมวป่า เย็บปักกับใยสังเคราะห์แค่ส่วนหัวก่อน แล้วเย็บทั้งตัวอีกเลเยอร์ 

6. เมื่อปักนูนส่วนที่ต้องการทำ Trapunto เสร็จหมดแล้ว ถึงคราวที่ต้องเย็บบุทั้งผืน คือผ้าชิ้นบน แผ่นใยสังเคราะห์ และผ้าชิ้นล่างเข้าด้วยกัน จขบ ใช้กาวเอนกประสงค์ชั่วคราวแบบฉีดพ่น ติดให้ทั้ง 3 ชิ้นติดกันก่อน แล้วเย็บเนาอีกรอบ แล้วก็เย็บควิลท์ทั้งผืน

7. ควิลท์ทั้งผืนเสร็จแล้ว เราก็มาเก็บขอบ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย




ภาพตัวอย่างเทคนิคนูน



Create Date : 15 มีนาคม 2560
Last Update : 15 มีนาคม 2560 17:18:17 น.
Counter : 2097 Pageviews.

7 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณข้ามขอบฟ้า, คุณกะว่าก๋า

  
เป็นงานฝีมือที่น่าทึ่งจริงๆครับ
และดูออกเลยว่าคนทำงานด้านนี้
ต้องมีพื้นฐานศิลปะมากๆเลย




ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับ
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มีนาคม 2560 เวลา:21:26:34 น.
  
เก่งมากค่ะ
เป็นงานฝีมือที่ละเอียดอ่อนมาก

ninicraft Craft Blog
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 16 มีนาคม 2560 เวลา:1:40:20 น.
  
โหวต Craft Blog ครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มีนาคม 2560 เวลา:6:11:14 น.
  
ขอบคุณเช่นกันนะครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มีนาคม 2560 เวลา:23:31:56 น.
  

สวัสดียามเช้าครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มีนาคม 2560 เวลา:6:27:37 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับ

ช่วงนี้เป็นบล็อกธรรมะต่อเนื่องเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มีนาคม 2560 เวลา:8:37:36 น.
  


อรุณสวัสดิ์ครับ
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มีนาคม 2560 เวลา:6:10:37 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ninicraft
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
แต่สิ่งสำคัญกว่านั้น คือ ศีลธรรมและวินัยในตัวเอง
New Comments
  •  Bloggang.com