GCuOKf.jpg
วันฟ้าสวย....ที่ อินทนนท์





การเดินทางขึ้นไปเที่ยวบน ดอยอินทนนท์ ในวันนี้


นับว่าสะดวกสบายมาก


ด้วยระยะทางที่ต้องขึ้นเขาจริงๆจะอยู่ประมาณ 40 กม.เท่านั้น


เทียบแล้วระยะทาง ก็พอๆกันกับขึ้นไปเที่ยวที่ บ้านอีต่อง


เหมืองปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เลยครับ








แต่เส้นทางขึ้นดอยอินนนท์ จะสร้างได้มาตรฐานกว่า


การขับรถขึ้นจึงจะสบายๆกว่า ที่ “ปิล๊อก” เยอะเลย...


ถ้าไม่รีบร้อน ก็จะใช้เวลาประมาณ 2 ชม


เราก็จะขึ้นถึง จุดที่ว่ากันว่า...สูงที่สุดของเทือกเขาถนนธงชัย


และถือว่า เป็นจุดที่สูงที่สุดของประเทศไทย


(ประมาณ 2,565.3341 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง)








และเมื่อไปยืนตรงนี้แล้ว ทำไห้คิดคำนึงถึงว่า


ถ้าเป็นสมัยก่อนโน้น ราว พ.ศ.2440


ที่คนสมัยนั้นอัญเชิญพระอัฐิ อังคารของ พระเจ้าอินทวิชยานนท์ ฯ


มาประดิษฐาน ณ พระสถูป บนยอดดอยหลวง นี้


เขาจะต้องใช้เวลากี่วัน กี่เดือน กว่าจะเดินกันมาถึง ดอยอ่างกา แห่งนี้.....


ต้องยากลำบากกันขนาดไหนหนอ ?










ปกติเขาจะขึ้นมาเที่ยวบนยอดดอยอินทนนท์ กันตั้งแต่เช้ามืด
แต่ “พายุสุริยะ” ชอบชมในตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดินมากกว่า
จึงเพิ่งจะขึ้นมาถึงยอดดอย เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. นี่เอง






















ทางเดินเข้าชมเพื่อศึกษาธรรมชาติ อ่างกา
เขาจะทำทางเดินให้เดินเฉพาะที่ทำรั้วกั้นไว้นี้เท่านั้น
เพื่อดำรงไว้ซึ่งสภาพตามธรรมชาติให้สมบูรณ์ที่สุด
อันนี้เห็นด้วยมากๆ เพราะเท่านี้เราก็รบกวนธรรมชาติ
ไปมากพอสมควรแล้วด้วยซ้ำ ..นะเออ....


























รูปต้นไม้ บนยอดดอยนี้ ดูไปแล้วคล้ายๆกับฉากหนึ่งในหนังเรื่อง อวตาร



















ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ที่อ่างกาหลวง นี้
จะเห็นว่าในช่วงเวลาเย็นนี่ ดูจะเงียบสงบดี
ไม่มีนักท่องเที่ยวเท่าไร เดินไปเรื่อยๆไม่ต้องรีบครับ



























ท่านเห็นต้นไม้ที่ล้มนั่นใหม?ครับ


มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง...ในความซุ่มซ่าม ทะเล่อทะล่า ของตัวเอง 555
ต้นไม้ที่แห้งที่ล้มลงมาขวางทางเดินที่เห็นนั่นแหละ
พายุสุริยะ เดินชนเข้าโครม .เข้าที่หัวพอดีเลยละครับ..555
แต่ไม่ได้นึกตำหนิใครทั้งสิ้น เพราะทางเจ้าหน้าที่อุทยาน
เขาพยายามจะไม่แตะต้องธรรมชาติโดยไม่จำเป็น
อยู่อย่างไรก็ให้เป็นอย่างนั้นให้มากที่สุด
อันนี้ต้องขอชื่นชมด้วยใจจริงครับ



































ในวันนั้นกว่าเราจะอำลาจากบริเวณอ่างกา ก็เลยสี่โมงเย็นแล้ว
พอมาถึง “กิ่วแม่ปาน” ก็เห็นข้อกำหนดนี้ คือ..
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน เปิด 06.00 น ปิด 16.00 น
เป็นอันว่าแห้ว...ครับ..555










หลักกิโลเมตรนี้นี่แหละครับ ไม่ธรรมดาเลยนะจะบอกให้

ถือว่าเป็นอีกจุดๆหนึ่ง ที่เป็นไฮไลท์ ของดอยอิทนนท์ ด้วยนะเออ


ที่นักท่องเที่ยวจะแวะจอดเพื่อถ่ายรูปกับก้อนเมฆกันมากครับ























< href="//www.uppic.org/share-902D_58AFC73C.html">



























ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 42 นี้


มีความสูงประมาณ 2157 เมตรจากระดับน้ำทะเล



ซึ่งความสูงนี้เทียบๆกันแล้ว ก็จะมีความสูงเกือบเท่า


ยอดดอยหลวงเชียงดาวเลยนะครับนี่ (ดอยหลวงเชียงดาวสูง 2275 เมตร) ...


ดังนั้นจะเรียกว่าสูงเทียมเมฆ ก็พอว่าได้นะครับ

























เมื่อเลยเวลาเดินกิ่วแม่ปาน จึงต้องเปลี่ยนไปชมแสงสวยๆ ยามเย็น...


ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน กันที่ บริเวณ พระมหาธาตุเจดีย์ แทนครับ









































































































































เราจึงจะเห็นได้ว่า...การขึ้นไปเที่ยวบนดอยอินทนนท์ นั้น
ไม่จำเป็นที่จะต้องรีบขึ้นไปเที่ยวกันตั้ง ตี4- ตี5 เสมอไป
เว้นไว้แต่ท่านที่ต้องการไปออกรอบเดินชมธรรมชาติ
เป็นคณะแรกๆที่ กิ่วแม่ปาน เท่านั้น ครับ



แต่ดอยอินทนนท์ ที่มีถนนที่ดี สามารถขึ้นลงได้สะดวกสบาย

และปลอดภัย แม้จะเป็นเวลากลางคืนก็ตาม


ในวันนั้น เราเดินทางกลับลงมาจากบริเวณพระมหาธาตุ

เมื่อเวลาประมาณ18.30 น ซึ่งก็เริ่มมืดแล้ว

แต่ด้วยถนนที่ดี มีมาตรฐาน ถ้าเราไม่ขับรถเร็วแบบประมาท

รับรองได้ว่าปลอดภัยแน่นอนครับ













































นี่เป็นนักท่องเที่ยวคณะท้ายๆ ที่ยังอยู่บนดอยอินทนนท์
เพื่อรอดู แสงสีสวยจากดวงอาทิตย์ ยามใกล้ลับขอบฟ้า
เพราะแสงแดงฉานจากดวงอาทิตย์ ในยามนี้...
จะมีพลังมากมาย และสีก็จะค่อยๆเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ


ถ้าเราไม่เร่งรีบ จะนั่งทอดอารมณ์มองความเปลี่ยนไปแห่งท้องฟ้า
พร้อมๆกัน คิดทบทวนอะไร ต่อมิอะไร ไปเรื่อยๆ
อาจจะทำให้เราเข้าใจชีวิตของตัวเราเองมากยิ่งขึ้นก็ได้ครับ





อาจไม่มีรักใดใด อยู่เหนือกาลเวลา
และไม่มีคำสัญญา ที่คงอยู่เนิ่นนาน
สิ่งที่มองว่าเที่ยงแท้ ผันแปรเป็นนิรันดร์






ทิ้งท้ายปลายบล็อก


อันนี้เคยได้ฟังมาจาก ผู้ประกอบการร้านอาหารและบ้านพัก

ที่บ้านอีต่อง ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ กาญจนบุรี คนหนึ่งเขาบอกว่า


เขาจะลงไปหาซื้อของที่ตลาดทองผาภูมิ กันในตอนกลางค่ำๆ

เนื่องจากขับรถสบายกว่า เวลากลางวันเพราะมีรถวิ่งขึ้น-ลงกันมาก

และที่สำคัญอีกอย่างคือในเวลากลางคืน
เราจะเห็นแสงไฟของรถที่วิ่งสวนทางมาก่อน
จึงจะช่วยให้ระวังตัวก่อนที่จะเข้าโค้งได้อย่างปลอดภัย



ได้ยินมาอย่างนี้ ก็มาเล่าสู่กันฟังครับ

ส่วน..จะถูก จะผิด อย่างไร ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านนะครับ..ฮิ..ฮิ.





.







--------------------------------------------------------------------------------------------



Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2560 20:36:36 น. 5 comments
Counter : 1853 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtuk-tuk@korat, คุณอุ้มสี


 
ท้องฟ้าสวยมากค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:15:33:35 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:2:14:13 น.  

 
อ่านแล้วก็คิดถึงอินทนนท์นะฮะ ไปกี่ทีก็เก็บไม่ครบซักที


โดย: ไอฟายน้อย (Ces ) วันที่: 3 มีนาคม 2560 เวลา:23:36:42 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
The Kop Civil Movie Blog ดู Blog
จารุพิชญ์ Music Blog ดู Blog
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
แมวเซาผู้น่าสงสาร Review Food Blog ดู Blog
ปรัซซี่ Review Food Blog ดู Blog
แฟนlinKinPark Music Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Review Food Blog ดู Blog
white in the dark Diarist ดู Blog
Kavanich96 Funniest Blog ดู Blog
พายุสุริยะ Travel Blog ดู Blog

ตามมาเที่ยวด้วยคนนะคะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 19 มีนาคม 2560 เวลา:18:40:20 น.  

 
ร้านอาหารทีแรกก็ว่าไม่แพง คิดอีกที แพงนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 20 มีนาคม 2560 เวลา:22:05:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พายุสุริยะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




เมื่อแน่ใจว่ายืนในที่ๆถูกต้อง ยืนให้มั่น
(อับราฮัม ลินคอล์น)
Code
New Comments
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
26 กุมภาพันธ์ 2560
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add พายุสุริยะ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.