|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
มูมู่กับลูลู่
มูมูกับลูลู่
มูมูกับลูลู่เป็นคนแคระ ทั้งสองไม่รู้ตัว่า เขามีรูปร่างแตกต่างจากคนอื่นทั้งหลายในหมู่บ้าน จนกระทั่งเขาเติบโตขึ้นมา เขาเห็นต้นไม้ที่เขาเคยปีนป่ายและห้อยโหนตัวเล่นเมื่อเด็กๆเติบโตขึ้นสูงจนเขาปีนไม่ได้อีกแล้ว เขาสงสัยมาก เพราะนี่คือความลำบากที่เขาจะมีชีวิตอยู่ไปในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเขาเติบโตขึ้นทุกวัน มีแต่เขาสองคนที่ไม่เติบโตขึ้นเลย วันหนึ่งเมื่อทั้งสองรดน้ำให้ต้นกล้าเล็กๆที่เขาเพิ่งปลูกมันลงในผืนดินเสร็จแล้ว เขานั่งพักเหนื่อยและคุยกันว่า นับวันเราจะลำบากมากขึ้น ถ้าต้นไม้ของเราพากันใหญ่โตจนสูงเกินกว่าเราจะเก็บพืชผลได้ มูมูเอ่ยขึ้นอย่างวิตกทุกข์ร้อน เขามองรอบตัว ต้นมะม่วงริมไร่ของเขานั้นใหญ่โตขึ้น เวลามีผลเขาต้องแหงนคอสอยกว่าจะได้กินสักลูกหนึ่งก็เมื่อยคอแทบแย่ แน่นอน...ก็เราตัวเตี้ยนิดเดียว ลูลู่ขานรับอย่างไม่เดือดร้อนสักเท่าไหร่ แล้วนายไม่เดือดร้อนเลยหรือ มูมูสงสัย นึกเคืองเพื่อนที่แสนจะไม่มีความคิดเอาเสียเลย อ๋อ...เดือดร้อนสิ แต่ฉันว่านะ เดือดร้อนไปก็แค่นั้น ในเมื่อเราก็คือเรา มะม่วงก็คือมะม่วง ไม่เข้าใจ ฉันนึกถึงปากท้อง ถ้าเราตัวเตี้ยแค่นี้ แต่มะม่วงมันโตวันโตคืน เราก็อดกินมะม่วงน่ะสิ มูมูคิดว่าเพื่อนของเขาช่างไม่ใช้สมองบ้างเลย เขาหวังว่าลูลู่จะแก้ปัญหาได้บ้าง แต่ลูลู่กลับตอบกำปั้นทุบดินแท้ๆ นายคิดจะต่อขาตัวเองหรือ ไม่มีวัน ลูลู่กล่าวขำๆ ไม่มีมะม่วงก็กินอย่างอื่นสิ นายมัวแต่วิตกเรื่องต้นมะม่วงสูง ก็เราปลูกข้าวโพด ปลูกข้าว ถั่วและมัน เราก็กินของที่เราปลูกก็ได้ ช่างเป็นความคิดที่ดีนะ มูมูประชด แต่เมื่อเราเกิดมาในโลกนี้ มีอะไรที่กินได้ เราทำไมไม่กิน ในเมื่อของสิ่งนั้นอยู่ใกล้ตัวเรา อือ...นายว่าก็ถูกนะ นั่นหมายความว่า ของสิ่งนั้นเราหาได้ง่ายๆ เราก็ไม่ละทิ้ง ลูลู่ไม่ต่อเถียง เขาคิดว่า เขามีความคิดดีๆและง่ายพอตัวเสมอ แต่เพื่อนจะเอาชนะธรรมชาติก็ตามใจ ให้เพื่อนคิดของเพื่อนต่อไป บางทีมูมูอาจจะใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้อะไรแปลกๆก็ได้ นั่นจะเป็นผลดีสำหรับคนแคระต่อไป วันหนึ่ง หลังจากทำงานประจำวันเสร็จแล้ว ทั้งสองนั่งคุยกันบนแคร่เล็กๆพักร้อน มูมูเอ่ยขึ้นว่า ฉันคิดออกแล้ว ฉันจะตัดต้นมะม่วงให้เตี้ยลง คนเตี้ยๆอย่างเราจะได้มีมะม่วงเตี้ยๆไว้เก็บลูกกินไงล่ะ ก็ดีนะ ลูลู่ไม่ขัดคอ งั้นนายมาช่วยเราตัดต้นมะม่วงเดี๋ยวนี้เลย มูมูว่าแล้วคว้าขวานเล็กๆพอเหมาะมือตรงไปยังต้นมะม่วง มีลูลู่เดินตามอย่างไม่เต็มใจนัก ทั้งสองช่วยกันฟันต้นมะม่วงทีละเล็กละน้อยกว่าจะตัดมะม่วงให้เตี้ยลงได้พอเหมาะที่เขาจะเอื้อมมือเก็บผลได้ ก็กินเวลาไปสองสามวัน ฟันต้นมะม่วงเสร็จแล้วก็รอเวลามะม่วงจะมีผลต่อไป มะม่วงเติบโตช้า ต้องรอให้ฝนตกถึงสองฤดู กว่าจะผลิดอกออกผลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งต้นของมันก็สูงขึ้นๆ สูงกว่าคนแคระทั้งสองจะเอื้อมมือเก็บผลเสียแล้ว น่าเจ็บนัก มูมูกล่าวอย่างโกรธแค้น มะม่วงสูงเกินกว่าเราจะเก็บลูกมันกินอีกแล้ว เราจะทำอย่างไรดี นี่คือบทเรียน ลูลู่กล่าวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บทเรียนอะไรกัน มูมูถามอย่างโกรธเคือง เราออกแรงแทบตายกว่าจะทอนต้นของมันให้สั้นลงได้ มันกลับสูงกว่าเก่าด้วยซ้ำไป อย่าโกรธเลย นี่คือบทเรียนของธรรมชาติไง นายจะได้รู้จักเรื่องของธรรมชาติเสียที ธรรมชาติของมะม่วงก็คือมันต้นสูงอย่างนี้ ต้นข้าวก็สูงเท่าๆกันหมดทั้งทุ่งนา ต้นมันจะสูงเรี่ยดินมีหัวอยู่ใต้ดิน นายกับเราเป็นคนแคระก็สูงแค่นี้ เพราะเราสองคนไม่ใช่ยักษ์จะได้สูงใหญ่กว่าคนทั้งหลาย ทีนี้นายเข้าใจธรรมชาติหรือยัง ไม่ยุติธรรมเลย มูมูบ่นอย่างไม่พอใจ เขาดื้อดึงเสมอ คนแคระไม่มีอะไรดีเลยหรือ มีสิ ยังมีอะไรที่คนตัวสูงทำไม่ได้ แต่คนแคระทำได้ อะไรเล่า คนแคระลงไปทำเหมืองในอุโมงค์ได้ ลอดในช่องเล็กๆได้ และคนแคระก็เลี้ยงตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น น่าภูมิใจ นายจะมัวกังวลอะไรกับต้นมะม่วงเล่า แค่นี้ยังไม่ดีอีกหรือ แต่ฉันอยากเอาชนะตัวเองน่ะสิ ทำไมเราไม่มีวิธีใดเลยหรือที่จะทำได้เท่าคนอื่น เพื่อนเอ๋ย... ลูลู่กล่าวอ่อนโยนปลอบใจมูมู การช่วยตัวเองน่ะเป็นสิ่งดี แต่เอาชนะธรรมชาติมันเป็นเรื่องเกินตัว แต่ถ้านายกับฉันมาช่วยกัน บางทีเราก็ทำอะไรได้มากขึ้นอีกเท่าตัว โดยไม่ต้องฝืนธรรมชาติ เป็นคำแนะนำที่วิเศษเลย ลูลู่...นายฉลาดมาก เราจะช่วยกันเก็บมะม่วงได้อย่างไร ถ้ามะม่วงต้นนี้มีลูกออกมายั้วเยี้ยยั่วน้ำลาย ไม่ยากเลย ลูลู่กล่าว เราอาจจะทำไม้สอย หรือเราจะทำบันไดไต่ขึ้นไป วิเศษจริงๆ มูมูนึกขึ้นได้ ทำไมหนอเขาจึงไม่คิดเช่นนี้มาก่อน เอาแต่คิดจะเอาชนะธรรมชาติและกล่าวโทษว่าธรรมชาติไม่ยุติธรรมก่อนที่จะได้ใช้สติปัญญาของตัวเอง ทั้งสองไม่ได้คิดถึงต้นมะม่วงอีกเลย จนกระทั่งถึงฤดูมะม่วงออกผล มูมูดีใจที่เขาจะได้ลิ้มชิมรสมะม่วงทั้งเปรี้ยวและหวานตอนผลสุก เขาเตรียมทำไม้สอยเอาไว้เสียดิบดีรอคอยผลมะม่วงที่จะติดกิ่งก้านต่อไป เอาละ ได้เวลาเก็บมะม่วงมากินสักลูกสองลูกแล้ว ลูลู่เอ่ยชวน เราไปเก็บมะม่วงกัน นายทำไมไม่เอาไม้สอยมาเล่า มูมูถามเมื่อเห็นลูลู่เดินตัวเปล่า เราตกลงกันแล้วไง ว่าเราจะช่วยกัน ลูลู่ตอบยิ้มๆ พอถึงต้นมะม่วง ลูลู่จึงบอกให้มูมูปีนต่อตัวเขาขึ้นไป มูมูทำตามแค่นี้เอง เขาก็เก็บมะม่วงได้อย่างสะดวก เห็นไหม ว่าเราทำได้ เพียงเราช่วยกันทำ ลูลู่กล่าวเชิงสั่งสอน มูมูยิ้มแก้มแดงสดใส เขาพอใจมาก และรักเพื่อนของเขามาก เพียงเพื่อนช่วยกันแค่นี้ เขาก็สามารถเอาชนะธรรมชาติได้อย่างน่าพอใจ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Create Date : 06 ธันวาคม 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 6 ธันวาคม 2553 10:09:28 น. |
Counter : 594 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|