Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
13 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
ความพอดี




ช่วงเวลาชีวิต...
เหมือนบางครั้งก็รู้สึกว่าช้า บางครั้งก็รู้สึกว่าเร็ว....
ปีนี้เหมือนเป็นปีที่ถูกบ่วงกรรมตามมาสนองหรือไรหนอ?
ฉันเชื่อเรื่องกรรม และเชื่อเรื่องโชคชะตา ว่าคนทุกคนถูกกำหนดไว้แล้ว

ปีพุทธศักราช 2550
ปีนี้ฉันพบเจอเรื่องราวเลวร้ายมากมาย แต่ก็ไม่เท่ากับ ปีพ.ศ.2546
เหมือนทุก ๆ วันของการดำเนินชีวิตก็เป็นไปก็คือความซ้ำซากจำเจ...
แต่ผู้คนที่ผ่านเข้ามาให้รู้จัก ได้มีโอกาสได้เรียนรู้ หลากหลายเรื่องราว
มันปฏิเสธไม่ได้ที่จะบอกว่า "เปล่าเลยฉันไม่รู้สึกอะไรเลย " เพราะนั่นคือ
"การโกหกตัวเอง และโกหกคนอื่นอยู่" แต่ก็ต้องโกหกเพื่อให้ลืมทุกอย่างไป...

ศกนี้จวนจนจะสิ้นแล้ว....
ขอทุกอย่างโปรดผ่านพ้นไปด้วยดี
เมื่อปลายปีพุทธศักราช 2548 ฉันกลับมาเป็นคนเดิมที่หัวใจว่างเปล่า
แต่คงเหลือรอยความเจ็บปวดไว้... ระยะเวลาสองปี ที่เยี่ยวยารักษาหัวใจ
เพื่อให้ชาชินกับความเหงาเดียวดายอย่างเคย... ที่จริงมันก็ไม่ยากนักหรอก
เพราะฉันเป็นนักสู้มาตั้งแต่เด็กจนโตแล้ว กะอิแค่ เรื่องแค่นี้ทำไม? ฉันจะทำไม่ได้
มันแน่อยู่แล้วฉันต้องทำได้ ฉันบอกตัวเองเสมอ...

ศกนี้ดูเหมือนจะวุ่นวาย
โชคชะตากำลังพยายามเล่นตลกอะไรกันหนอ?
ฉันต้องชดใช้หรือไรกันนะ หากต้องชดใช้ก็คงต้องทำตามนั้น
เพื่อให้หมดเวรซึ่งกันและกัน ภพชาติต่อไปก็อย่าเจอะเจอกันอีกเลย...
หากจิตอธิษฐานแล้วเป็นจริงฉันจักอธิษฐาน ภพหน้าของเกิดเป็นชายด้วยเถิด...

ความวุ่นวายเกิดขึ้น...เมื่อฉันได้พบกับชายหนุ่มสองคน
ที่ระยะห่างกันแค่ไม่กี่เดือน เหมือนเขาทั้งคู่มาสร้างความวุ่นวาย
และทำให้ชีวิตระส่ำระสายจนอยากจะหนีไปให้ไกล ไกล จากเรื่องวุ่น ๆ



ฉันเจอ "พี่กริช" ปลายเดือนมีนาคม
เขาเป็นเพื่อนกับพี่ที่ทำงานอายุ 36 ปี มีกิจการส่วนตัว
ร่วมหุ้นกันกับเพื่อน นี่คือสิ่งที่เขาบอกเล่า ฉันเองไม่เคยพิสูจน์ว่าจริงไม่จริง...
เขาพยายามดูแลเอาใจใส่ ผู้หญิงที่เอาแต่ใจ รักความอิสระเสรีเป็นชีวิตจิตใจ
แต่ก็ยังไม่เคยชนะใจฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่คบหากับเขา... เพราะฉันคิดว่า...
มีคนรักดีกว่ามีคนเกลียด คบกันเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นคนรู้จัก เผื่อมีอะไรก็ช่วยเหลือกันไป
เมื่อเราลำบากหรือ เกิดอุบัติเหตุข้างทางเขาอาจช่วยเราได้... ฉันคบเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ...

แต่เมื่อเวลาผันผ่านไป ลายเริ่มออก คำพูดโกหกเริ่มมีมาให้ฟัง บ่อยขึ้น...
อย่างสม่ำเสมอในระยะหลัง และบางสิ่งเริ่มจะไม่ถูกใจฉันนักแล้ว แต่ก็ไม่ได้โวยอะไร?
เพราะคิดว่าสิทธิ์ของเขา ดูเหมือนว่าเขาสนุกกับการที่ได้โกหกฉันและภาคภูมิใจที่ผู้หญิงคนหนึ่ง
โง่ได้ขนาดนี้ ฉันไม่ถือสาเพราะวันหนึ่งเขาคงจะรู้ แต่กว่าจะรู้ก็ต่อเมื่อสัมพันธ์มันขาดสะบั้นนั้นเอง...




ช่วงเวลาต่อมาไม่นาน ฉันได้พบ "พี่เอก"
เขาเป็นผู้รับเหมา อายุ 37 ปีมีกิจการห้างหุ้นส่วนเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้าง
ที่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่รุ่นพ่อ...อันนี้ฉันเห็นด้วยตา เพราะเราติดต่อกับเกี่ยวกับ
ข้อมูลเกี่ยวกับกิจการของเขาอยู่แล้ว ซึ่งเราพบกันเพราะเรื่องงาน และมีนัดกินข้าวกัน
เพราะเรื่องงานอยู่เสมอ ๆ จนรู้ภายหลังว่าเขาเอางานมาบังหน้าหาเรื่องนัดกินข้าว...
ฉันก็เริ่มจะห่าง ๆ บ้างเพราะคิดว่าเขาคงใช้เป็นสะพานเพื่อผลประโยชน์ ของเขาก็ได้...
แต่เขาก็ยังคอยโทร.มา ซึ่งฉันรู้และเข้าใจ ว่าเขาต้องการสานสัมพันธ์แบบไหน?

เราเริ่มพบกันบ่อยขึ้น พี่เอกจะมารับหลังเลิกงาน...
เราคุยกันรู้เรื่องดี เข้าใจได้ทันที และพี่เขาไม่โกหก ฉันชอบ...
และอุ่นใจดีที่เขาคุยเป็นพี่ใหญ่ และให้คำปรึกษาได้... ฉันเอาแต่ใจแค่ไหน?
พี่เอกก็ไม่เคยตำหนิเพราะรู้ว่าฉันรักอิสระ พี่เอกเข้าใจดี ว่าฉันชอบทำอะไรตามใจตัวเอง...
แต่พี่เอกก็มีวิธีทำให้ฉันเชื่องได้ไม่ยาก เพราะความใจเย็น และใจดีของเขา...
ทำให้ฉันยอมรับฟัง และใช้เหตุผลมาแย้งความคิดของฉันจนต้องยอมแพ้ไปเอง....


---------------------------------------------------------------------------------------------------

หากจะเปรียบกันแล้ว ฉันคงเหมาะสมกับพี่กริช มากกว่า พี่เอก...
แต่หากจะรัก ฉันคิดว่าฉันควรจะรัก พี่เอก เพราะเขาไม่เคยโกหกฉันเลย
ทุกอย่างคือเขาบริสุทธิ์ใจ แต่พี่เอก ดูเหมือนจะเกินเอื้อมสำหรับฉันเกินไป
เพราะว่า...หมายถึงการยอมรับจากครอบครัวของเขาด้วย...

ฉันไม่ต้องการเลือกใครสักคน...
ไม่ใช่ว่าต้องการค้นหาใครอีกหลายคน แต่เหมือนคนหนึ่งขาด
แต่อีกคนหนึ่งมีมากเกินไป จนต้องหันกลับมามองตัวเองว่าคู่ควรเขามั้ย?
โชคชะตาเล่นตลกอะไรกับฉันหน่ะ อีกคนหนึ่งขู่จะฆ่าฉัน แต่อีกคนกลับพร้อม
จะดูแลให้ความรู้สึกอบอุ่นใจ... ความผิดตกอยู่ที่ฉัน เพราะฉันคบสองคนไปพร้อม ๆ กัน


ผ่านพ้นศกนี้ไป...
ฉันวาดหวังให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี อย่าได้มีใครเป็นอะไรเลย...
เหมือนกับเวลาใกล้ความตายเข้ามาทุกที ฉันรู้สึกเคลียดเริ่มนอนไม่หลับ
หลับ ๆ ตื่น ๆ ไม่เคยเป็นสุขเลย... แต่ก็หาหนทางออกไม่ได้ ทำได้เพียงปล่อย....
ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่ควรจะเป็น ตามที่โชคชะตาได้กำหนดขีดเส้นไว้ให้แล้ว...

ฉันแค่....แค่อยากระบาย...
ไม่ได้ต้องการโม้ โอ้อวดอะไร เพื่อให้ใครหยามเยียดหรอก...
มันอัดอั้นกับเรื่องราวที่ดำเนินมา บางอารมณ์ฉันก็อดที่จะโยนความผิดให้กับโชคชะตา
ที่ชักนำให้พบเรื่องราวต่าง ๆ ฉันอยากพบความพอดีของชีวิตเท่านั้นเอง เพราะฉันเหนื่อย
เหนื่อยกับชีวิตที่ต้องลิขิตให้เดินไปตามเส้นชะตาของตัวเองแล้ว... หมอดูเคยทักเรื่องนี้
แต่ฉันเองไม่เคยคิดว่าจะเป็นจริง กรรมของฉันเขาบอกแบบนี้ มีวิธีแก้กรรมคือการบำเพ็ญกุศล
รักษาศรี ปฏิบัติธรรม และทำทานเป็นกิจวัตร....

ขออภัย...
ผู้ที่เขามาอ่าน บางทีคุณอาจไม่ชอบใจ...



Create Date : 13 ตุลาคม 2550
Last Update : 13 ตุลาคม 2550 12:55:04 น. 0 comments
Counter : 511 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

SawPhuThai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"จิตอธิฐาน"



พนมกรกราบลงหน้าองค์พระ
ตั้งสัจจะ...น้อมจิตอธิษฐาน
พร้อมธูปเทียนดอกไม้นำใส่พาน
ขอนมัสการพระธรรมชี้นำดล


หมอบลงกราบจิตมั่นในวันนี้
กุศลกรรมที่กระทำจงนำผล
พบหนทางสว่างใสในกมล
ได้หลุดพ้นบ่วงกรรมเคยทำมา


นับจากนี้อาราธนารักษาศีล
พาชีวินน้อมธรรมช่วยรักษา
ตัดกิเลสเหตุแห่งกรรมที่นำพา
เกิดชาติหน้าหลุดบ่วงเขาลวงใจ


ลูกขอน้อมพระธรรมเป็นที่พึ่ง
ช่วยฉุดดึง...จากนรกที่หมกไหม้
มีปัญญามองเห็นความเป็นไป
เพื่อเข้าใจสัจจธรรมธรรมดา





อยากบอกว่า ที่ลิ้งค์หาถือว่าคุณ ViP โดยปริยาย
Friends' blogs
[Add SawPhuThai's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.