Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
14 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 

ขนมหวานขึ้นชื่อของแต่ละประเทศ


     กล่าวกันว่าขนมหวานเป็นสิ่งที่สามารถสะท้อนเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมของชนชาติต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะในการทำขนมหวานในแต่ละท้องที่นั้นจะไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ และกรรมวิธีการทำที่แตกต่างกันไป ซึ่งความแตกต่างเหล่านั้นเองที่ทำให้ปัจจุบันมีขนมหวานจากทั่วโลกมากมายหลายพันชนิด และแต่ละประเทศก็จะมีขนมหวานที่เป็นที่นิยมอยู่ด้วย ลองไปดูกันดีกว่าว่า ขนมหวานขึ้นชื่อเหล่านั้นมีอะไรบ้าง...


*BLACK FOREST CAKE

หรือภาษาเยอรมันเรียกว่า Schwarzw?lder Torte ด้วยความมีชื่อเสียง ในเรื่องเบียร์ และเค้ก ที่มีรสชาติอร่อยมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่เยอรมนีจะกลายเป็นสถานที่ ดื่มกินยอมนิยม โดยช็อกโกแลตที่ทับซ้อน
หลายชั้นด้วยครีม เชอรรี่ และบรั่นดีผลไม้
ภายหลังได้ปรุงแต่งให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยช่างทำเค้กในกรุงเบอร์ลิน และทุกวันนี้ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก


*HALO HALO

จานเด็ดของชาวฟิลิปปินส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
ไม่แพ้ไข่บาลุท แต่รับประกันว่าไม่น่า้สะอิด สะเอียน ทั้งนี้ ฮาโล ฮาโล ไม่มีสูตรการทำที่ แน่นอน แต่ดูๆ ไปก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำแข็งใส ของบ้านเรา โดยนำน้ำแข็งบดมาเติมเครื่องเคียง เช่น ถั่วเขียว ลูกตาล ขนุน ฯลฯ ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยการราดนมข้นหวาน และน้ำเชื่อม
โดยสามารถหาทานได้ทั่วไปในกรุงมะนิลา


*TIRAMISU

คำว่า "TIRAMISU" ถอดความเป็นภาษาอังกฤษ ว่า "Carry me up" เพราะรสชาติขนมที่อร่อย จะพาคุณให้ไปถึงสวรรคได้โดยง่าย เค้กชื่อดังของอิตาลีนี้ ทำขึ้นจากเลดี้ฟิงเกอร์ ราดเอสเปรสโซ สอดไส้ด้วยมาสคาร์โปนชีส และซาบากลิออเน ลือกันว่า มีต้นกำเนิดมาจากแม่บ้านทหารในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำเค้กนี้ขึ้นมาให้สามีรับประทาน โดยเชื่อว่า ส่วนผสมของคาแฟอีน และน้ำตาล จะทำให้เขามีพลัง และแคล้วคลาดจากอันตราย


*ข้าวเหนียวมะม่วง

ขนมหวานแบบไทยๆ ที่มักจะได้รับประทานกันในหน้าร้อน ที่นำมะม่วงสุกเหลืองอร่าม มาทานคู่กับข้าวเหนียวมูล ราดด้วยน้ำกะทิ โดยขนมชนิดนี้ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ทั้งยังสามารถหาลิ้มลอง ได้ง่าย ทั้งในโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ภัตตาคาร และร้านอาหารตามท้องถนนทั่วไป


*CREME BRULEE

แม้จะฟังชื่อแล้วดูฝรั่งเศสสุดๆ แต่อย่า เพิ่งตัดสินว่าเป็นเช่นนั้น เนื่องจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ได้อ้างว่า พวกเขาคือต้นตำรับ ผู้คิดค้นขนมสูตรนี้ ในช่วงศตวรรษที่ 16 อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีจุดกำเนิดมาจากอังกฤษ แต่เชื่อว่าคงไม่มีสถานที่ใดเหมาะแก่การทานคัสตาร์ดเย็นๆ โรยด้วยน้ำตาลไหม้ ได้เท่ากับ แสงสว่างยามค่ำคืน ในกรุงปารีสอีกแล้ว


*PIE APPLE

นี่ก็เช่นกัน แม้ชื่อจะฟังดูเป็นอเมริกัน แต่จริงๆแล้ว พายแอบเปิลมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ โดยได้รับการคิดค้นเมื่อปี 1,381 และปกติจะอบด้วยแป้งสองชั้น ในสมัยก่อนตอนที่ชาวอังกฤษอพยพมาตั้งรกรากในอเมริกา พวกเขาได้นำ เมล็ดแอบเปิลมาปลูกด้วย จึงทำให้มี ความเกี่ยวพันกับวัฒนธรรมของคนอเมริกัน


*DAIFUKU

ขนมเจลาตินทรงกลมจากแดนอาทิตย์อุทัย (ญี่ปุ่น) มักสอดไส้ด้วยถั่วแดงหวาน หรือบางครั้งอาจเป็นแยมสตอเบอรี่ โรยด้วยแป้งบางๆ โดยสามารถหาซื้อมารับประทานได้ทั้งจากกรุงโตเกียว โอซาก้า เกียวโต นากาโนะ และทุกแห่งในญี่ปุ่น


*NANAIMO BARS

แคนาดาขึ้นชื่อเรื่องขนมหวาน แต่ถึงอย่างนั้นขนมรสเลิศนี้ ก็มีที่มาจากเกาะคูเวอร์ เมืองนาไนโม รัฐบริติช โคลัมเบีย โดยการได้รับการสร้างสรรค์ ขึ้นจากฝีมือแม่บ้านท้องถิ่น ซึ่งได้ส่งเจ้าขนม ทรงจัตุรัสชิ้นนี้ไปประกวดในนิตยสาร และคว้า รางวัลชนะเลิศมาได้ ปัจจุบันขนมชนิดนี้เป็นที่ชื่นชอบ ของผู้คนในแถบอเมริกาเหนือ


*GULAB JAMEN

ก้อนขนมปังหวานที่ไม่ค่อยถูกปากชาวตะวันตก แต่รับรองว่าอยู่ในรายชื่อขนมอันดับต้นๆ ของชาวอินเดียและเมื่อมีคนมากกว่าพันล้านคน ชื่นชอบ ก็ยากที่จะปฏิเสธได้ว่ามันไม่อร่อย ปกติแล้วมักทำขึ้นโดยใช้ครีมสองชั้น และราดด้วยน้ำเชื่อมเข้มข้น เป็นที่นิยมในอินเดีย ปากีสถาน เนปาล และในประเทศแถบเอเชียใต้


*BAKLAVA

ประวัติที่แท้จริงของบาคลาวายากที่จะระบุให้แน่ชัด เพราะว่ามันมีต้นกำเนิดจากจักรวรรดิอ็อตโตมัน ดินแดนเมโสโปเตเมียและอาหรับ โดยขนมหวานชนิดนี้ทำขึ้นจากการนำแป้งฟิลโลมาสอดไส้ไว้ด้วยถั่ว น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม หากต้องการลิ้มลองรสชาติ แบบต้นตำหรับต้องไปรับประทานถึงถิ่นที่อ้างว่า เป็นจุดกำเนิดทั้งกรุงอิสตันบลู กรุงเอเธนส์ และกรุงเบรต แม้แต่ละที่อาจจะมีรสแตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็ยังการันตีความอร่อย


ขอขอบคุณ
ที่มา :

รูปหัวเรื่องสวยๆและรูป BlackForestcake Beebie's blog@bloggang.com
เรื่องน่ารู้ My first brain.com


H O M E




 

Create Date : 14 สิงหาคม 2552
5 comments
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2553 18:54:38 น.
Counter : 2144 Pageviews.

 

ครั้งหน้า ถ้าจะเอาภาพที่บล็อกมาลงหรือดัดแปลง ตามมารยาทก็ควรให้เครดิตหรือไม่ก็บอกกล่าวกันก่อนด้วยนะคะ รับรองว่าไม่หวงค่ะ ยิ่งเป็นชาวบล็อกแกงค์ด้วยกันด้วย

 

โดย: Beebie 18 สิงหาคม 2552 12:22:52 น.  

 

ชี้แจงคุณ Beebie ค่ะ
เรื่องและภาพที่นำมาลงได้นำมาจาก เวป My Firs Brain.com ค่ะ โดยที่ไม่ทราบว่ามีรูปและเรื่องตรงส่วนไหนเป็นของใคร เพราะนำมาทั้งหมดค่ะ ไม่ได้ตัดต่อแต่ประการใด และทาง "สนามหลวง" ก็ได้ให้เครดิตของเวป My First Brain.com ด้านล่างตามธรรมเนียมปฎิบัติที่ "สนามหลวง" ไม่เคยลืมเลือนเมื่อทำบล็อกค่ะ ดูได้ในหลายๆบล็อกของ "สนามหลวง" ทีไม่เคยลืมให้เครดิตในข่าว หรือเรื่องราวดีๆ ทุกเรื่องที่มานำเสนอเลยค่

รบกวนคุณ Beebie ชี้แจงว่ารูปและเรื่องใดเป็นของคุณ Beebie ได้นะคะ ทาง "สนามหลวง" จะได้ให้เครดิตได้ถูกต้อง

ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: jenifaae 20 สิงหาคม 2552 2:29:31 น.  

 

ขอบคุณคุณ "สนามหลวง" ที่กรุณาชี้แจงมานะคะ พอดีลิงค์เครดิต myfirstbrain.com ที่คุณ "สนามหลวง" ให้ไว้ ดิฉันเข้าไปดูไม่ได้เพราะไม่ใช่สมาชิกค่ะ (และคงไม่คิดจะสมัคร) จึงไม่ทราบว่าข้อมูลที่คุณ "สนามหลวง" อ้างอิงมานั้นรวมไปถึงรูปภาพด้วยหรือไม่ ส่วนรูปที่มาจากบล็อกของดิฉันมีสองรูป

รูปแรกคือรูปนี้ซึ่งเป็น header ปัจจุบันของที่บล็อก
//i622.photobucket.com/albums/tt301/Beurre/blog/header0409b.png

รูปที่สองคือรูปเค้กแบล็คฟอเรสต์ที่ทำไว้นานแล้ว
//i20.photobucket.com/albums/b201/MyKitchen/Desserts/BlackForest01.jpg

ซึ่งทั้งสองรูป ดิฉันอนุญาตให้คุณ "สนามหลวง" ลงไว้ในบล็อกได้ค่ะ แต่สำหรับทางเว็บ myfirstbrain ถ้ามีเวลาและมีโอกาสก็จะท้วงไปอีกที แต่คนที่สามารถเอารูปที่คนอื่นทำอย่างตั้งใจไปปู้ยี่ปู้ยำอย่างนั้นได้ ยังไงเขาก็คงจะไม่เข้าใจ ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณ "สนามหลวง" อีกครั้งที่สละเวลามาให้ความกระจ่างนะคะ แล้วจะแวะเข้ามาเยี่ยมใหม่ จริงๆถ้าไม่บังเอิญมาเห็นเป็นรูปตัวเองโดนดัดแปลงจนเละเสียก่อน.. ก็คงจะอ่านบทความนี้อย่างมีความสุขไปแล้ว เพราะชอบทุกอย่างเกี่ยวกับขนมอยู่แล้วค่ะ

 

โดย: Beebie 21 สิงหาคม 2552 12:45:06 น.  

 

ให้เครดิตรูปสวยๆของคุณ Beebie ไว้ด้านบนแล้วนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ

 

โดย: jenifaae 21 สิงหาคม 2552 14:05:03 น.  

 

น่าจะมีวิธีทำดว้ย

 

โดย: m IP: 192.168.1.125, 124.157.142.22 21 กุมภาพันธ์ 2553 8:39:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.