ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมง หลังจากอิ่มหนำสำราญไปกับ ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว ไปเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินเล่นสำรวจ เชียงคาน กันอีกครั้ง ... จริง ๆ แล้วเป้าหมายในวันนี้ของเราคือการเผ้าชมภาพ พระอาทิตย์ตกดิน ที่ริมแม่น้ำโขง เป็นครั้งแรกที่ผืนแผ่นดินเชียงคาน ... จึงเป็นเรื่องที่เรารู้สึกตื่นเต้นกันอยู่ลึก ๆ เหมือนกัน และเราก็ตั้งใจเอาไว้ด้วยว่า เราอยากจะมาชมทิวทัศน์แห่งพระอาทิตย์ตกดินที่ริมแม่น้ำโขงแห่งนี้ให้ได้ทุกวัน เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะได้ "ภาพถ่าย" แม่น้ำโขงที่สวยที่สุดกลับไป
ช่วงเวลาตอนบ่ายที่กำลังล่วงเลยไปถึงเวลาเย็น ดูเหมือนว่าบรรดาร้านรวงต่าง ๆ บนถนนชายโขงได้เปิดให้บริการกันแทบจะครบถ้วนแล้ว ... หากให้นับ จำนวนหลังของบ้านทั้งหมด ที่ถูกปรับปรุงให้เป็น ร้านค้า หรือกิจการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในขณะนั้น... หากประเมินจากสายตาของเราแล้วก็ต้องบอกว่าเกินครึ่งไปแล้วที่บ้านไม้บนถนนชายโขงได้ถูกตกแต่ง หรือ ดัดแปลง เพื่อการดำเนินธุรกิจ ... หลัก ๆ แล้วก็คือธุรกิจเกี่ยวกับ ที่พัก ร้านอาหาร และ ร้านขายของที่ระลึก ... ซึ่งมีอยู่อย่างมากมายหลายร้าน ให้นักท่องเที่ยวได้มาจับจ่ายเงินทอง อุดหนุนให้บริการกันได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะแบบร้านที่ตกแต่งในแบบ พื้นเมือง หรือแนว ประยุกต์
ที่มีเยอะจริง ๆ ในขณะนั้นก็คือร้านขายของเกี่ยวกับ สินค้าที่ระลึก ที่พอจะแบ่งออกได้เป็น สินค้าพื้นเมือง กับ สินค้าที่ออกแบบใหม่ ...สินค้าพื้นเมืองก็เช่น สินค้าหัตถกรรม งานฝีมือท้องถิ่น หรือแม้กระทั่ง ผ้าทอมือ ก็มีให้พบเห็นได้ทั่วไป ... สินค้าค้าที่ออกแบบใหม่ เช่น โปสการ์ด เสื้อยืด และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มีสัญลักษณ์แห่งความเป็นเชียงคาน ปรากฏอยู่บนสินค้าเหล่านั้น ...ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เจ้าของกิจการเหล่านั้นมักจะเป็นผู้ ออกแบบ หรือแม้แต่กระทั่ง ผลิต สินค้าเหล่านั้นด้วยตนเอง
... นี่จึงอาจถือว่าสินค้าหลาย ๆ อย่างที่นั่นมักเป็นสินค้าเฉพาะถิ่น... ที่แม้จะดูเป็นสูตรสำเร็จเช่นเดียวกันกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ก็ตาม ...แต่สินค้าที่ออกแบบพิเศษเหล่านี้ ก็มี เจตนาเพื่อบ่งบอกกับนักท่องเที่ยวว่า สินค้าชิ้นนี้... Made In Chiang Khan ... นั่นเอง
ปิดเทอมตุลานี้เราตั้งใจจะไปเชียงคานเหมือนกันค่ะ ยังไม่เคยไปเลย อ่านบล็อกของคุณเหมือนได้อ่านหนังสือประมาณพ็อกเก็ตบุ๊คเลยค่ะ อ่านเพลินและได้ความรู้ด้วย อยากเขียนเก่งๆอย่างคุณจัง