เพื่อนรักคนนั้น กับแง่คิดดีๆในอดีต
*****อรัมภบท สำหรับคนที่อ่านบล๊อคนี้ : อาจจะมีใครคนนึงที่ดูเหมือน เต่า ไปไหนมาไหนลำบาก เนื่องจากติดในกระดองของภาระหน้าที่ วันๆ อาจจะโผล่หัวออกมาดู blog ตัวเอง แต่ต้องมีสักวันที่หดหัวเข้าไปบ้าง เพราะไม่ว่างเลย ฉะนั้นหากถึง บ่ายวันศุกร์ จรด วันจันทร์ เมื่อไร จงจำไว้เถิด นั่นหละถึงเวลาที่ต้องเร้นกายแล้ว .....คงเข้าใจวัฎจักรชีวิตผมนะครับ
งั้นอ่านต่อเลยแล้วกัน >>>>>
----------------------------------------------------------------------------------
แม้มันจะผ่านไปเป็น 10 กว่าปีกับช่วงชีวิตนักเรียนม.ปลาย แต่ยังจำได้เสมอกับความคิดเล็กๆของเพื่อนคนนั้นที่ผุดขึ้นในหัวกระบาล และถ่ายทอดมาให้ผมฟังอีกที หลังจากคุณแม่ต้องร้องไห้ เพราะเด็กหอติ๊งต๋องคนนี้มันเอาแต่เหล่สาว จนลืมเรียนหนังสือ ผลหนะรึ...หมดสิทธิ์สอบโควต้ามหาลัยขอนแก่น ไปเลย
เพราะน้ำตาหยดนั้นเชียว ทำให้เขากลับมาคิดอะไรดีๆได้ และมันเป็นอะไรดีๆที่เขายึดถือปฎิบัติมาตลอด จนเป็นบรรทัดฐานในการใช้ชีวิตไปแล้ว ไม่น่าเชื่อความคิดเด็ก 16ขวบ เพื่อนผมมันจะคิดอะไรไปไกลปานนั้น เขาเล่าให้ผมฟังว่า ในยามมืดมิดนั้น มันเหมือนเห็นแสงลิบๆที่ปลายทาง และหากใช้เวลา เดินต่อไปคงรู้ว่ามันคืออะไร
แล้วมันคืออะไรหละ? เขาพยายามครุ่นคิด หาคำตอบในยามนั้น อ้อ! เราเกิดมาไม่ต่างจากสัตว์อื่นนี่นา เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น ตอนนี้เรายังเป็นวัยรุ่นอยู่ ( ตอนนั้น ) เราจะมาหลงระเริงอะไรกับชีวิตตอนนี้ - เด็ก เกิดมา ความสุขคือการ กินๆนอนๆเล่นๆ - วัยรุ่น ความสุขคือ การเหล่สาว หลงระริงอยู่กับความสวยความหล่อ ที่ไม่นานดอกไม้แรกแย้มก็เหี่ยวเฉา แล้วเราจะไปยึดติดอะไรกับชีวิตตอนนี้ การเรียนต่างหากที่มันจะเป็นตัวชี้วัดแยกคนออกจากกัน เรามองข้ามช๊อตไปเลยมั้ย ไปโน่นเลย - ผู้ใหญ่ ความสุขคือ ความสำเร็จในชีวิต ฐานะ ตำแหน่ง และการมีครอบครัวที่อบอุ่น - วัยชรา ความสุขคือการได้ชื่นชมความสำเร็จของทายาทรุ่นต่อไป และการไม่มีโรคภัยเบียดเบียน
แล้วความรักที่เขามีให้เธอหละ ? เอ๊! มันไม่ไช่ความรักนี่นา มันเป็นความหลง จะมาเทียบอะไรความรักที่แท้จริงของพ่อแม่ มันเทียบกันไม่ได้เลย ไม่ว่าลูกจะอัปรีย์อัปลักษณ์ปานใด แม่ก็ยังรักลูกเสมอ จริงมะ แต่ถ้าเป็นแฟนหนะเหรอ มันรีบถีบส่งทันทีเลยหละ
แล้วเพื่อนร่วมชั้นหละ จะเป็นยังไงต่อ ? อ๊อ! สุดท้ายเมื่อจบ ม. 6 แล้ว ก็จะแยกย้ายกันไป ต่างคนต่างมีอาชีพ และอาจจะไม่เจอกันอีก วัยผู้ใหญ่จะเป็นตัวตัดสินพวกเราอีกที ว่าใครจะเป็นยังไง
เขาพูดบอกผมว่า.....เอาหละ เราได้เห็นหนทางข้างหน้าที่จะเกิดขึ้นแล้ว เดินตรงดิ่งไปเลย ตัดเรื่องรกสมองไม่จำเป็นทิ้งซะ นั่งอ่านหนังสือวันละ 22 ชั่วโมงต่อวัน 3เดือนเต็มๆ และผลของความตั้งใจแน่วแน่ ทำให้เขาพบชีวิตแห่งความสุข ใครๆมักจะเห็นเขายิ้มเสมอ บางครั้งเขาจะหัวเราะอย่างไม่มีเหตุผล และเด็ดดอกไม้ดมตามทางไปเรื่อย
ทุกวันนี้ผมยังเฝ้ามองหาเขาคนนั้น ตามโรงพยาบาลศรีธัญญา และ web blog ต่างๆ แต่หาเท่าไหร่ยังหาไม่เจอ หลังจากกันวันนั้น ผมยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลยที่มอบแง่คิดดีๆสำหรับผม หากใครเจอ กรุณาแจ้งผมด้วย คิดถึงเขามาก
ถ้าไม่มีความรักพ่อแม่วันนั้น ผมก็คงไม่มีวันนี้ ขอขอบคุณความรักที่ให้ผมมากล้นเหลือ จนฉุดผมออกจากวิกฤติแห่งชีวิตได้
และผมก็ได้แต่บอกกับตัวเองว่า ผมจะไม่ทำให้พ่อแม่ร้องไห้ผิดหวังเหมือนในอดีตอีกแล้ว
และที่สำคัญ ผมไม่ได้เป็นบ้านะ อย่าเข้าใจผิด
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2549 |
|
29 comments |
Last Update : 31 มกราคม 2550 23:04:05 น. |
Counter : 509 Pageviews. |
|
|
|