เรื่องของทางหลวง
ปัจจุบันคุณคงปฏิเสธไม่ได้ว่า คุณไปไหนมาไหนโดยไม่ใช้ทางหลวง...เมื่อรถยนต์กลายเป็นปัจจัยที่ 5 สำหรับชีวิต ถนนหนทางจึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับ อย่างไม่มีเงื่อนไขแล้วใครเป็นคนสร้างถนน ?ถ้าเริ่มจากศูนย์ หรือจากหมู่บ้านที่ไม่มีอะไรเลย หรือมีแต่ชาวบ้านบุกเบิกทางเอง..งก็จะมีหน่วยงานของรัฐ 2 หน่วยงานเข้าไปกรุยทาง คือ ทหาร ได้แก่ทหารช่าง กรป.กลาง และสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท ( รพช.) ของกระทรวงมหาดไทย ถ้าเป็นหมู่บ้านชายแดน มีความไม่มั่นคงทหารจะเข้าไปสรางถนน... เพื่อความมั่นคงก่อน หากมีการสัญจรมากขึ้น หมู่บ้านไม่มีปัญหาก็จะมอบให้ รพช.เข้าไปพัฒนาต่อ ถ้ายิ่งมีความเจริญเข้าไป การติดต่อค้าขายมากขึ้น รพช.ก็อาจส่งมอบถนนดังกล่าวให้กับกรมทางหลวงพัฒนาต่อไปทางหลวงมีกี่ประเภท?ทางหลวงแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ตามเกณฑ์ความรับผิดชอบในการจัดสร้างดูและรักษาถนนตาม พรบ.ทางหลวง ดังนี้1. ทางหลวงพิเศษ เป็นทางหลวงสายหลักที่ออกแบบและจัดสร้างเพื่อให้มีการจราจรผ่านไปได้อย่างรวดเร็วและได้ปริมาณมาก ซี่งก็ได้แก่ ทางหลวงแผ่นดินที่ตัดจากภาคสู่ภาค มีกรมทางหลวงเป็นผู้ดูแลและบำรุงรักษา2.ทางหลวงแผ่นดิน เป็นทางหลวงที่เชื่อระหว่างจังหวัดและอำเภอที่สำคัญ กรมทางหลวงเป็นผู้ดูแล3.ทางหลวงชนบท เป็นทางหลวงที่อยู่นอกเขตเทบาลหรือสุขาภิบาล อยู่ตามเขตชนบท มีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ เช่น รพช. อบจ. หรือกรมโยธาธิการ4. ทางหลวงเทศบาล เป็นทางหลวงที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรในเขตเทศบาล ซึ่งดำเนินการสร้าง บำรุง ดูแลรักษาโดยเทศบาล5. ทางหลวงสุขาภิบาล เป็นทางหลวงที่อยู่ในเขตสุขาภิบาล เพื่ออำนวยความสะดวกในเขตสุขาภิบาล ก่อสร้างดูแลโดยสุขาภิบาล6. ทางหลวงสัมปทาน เป็นทางหลวงแบบพิเศษ ที่รัฐบาลไดให้สัมปทานกับบริษัทเอกชนในการดำเนินการสร้างและเอกชนสามารถเก็บค่าใช้บริการจากผู้ขับขี่ได้ เมื่อหมดสัมปทานก็ได้ขึ้นทะเบียนเป็นทางหลวงประเภทอื่นต่อไป เช่นทางหลวงต่างระดับบนถนนวิภาวดี-รังสิต ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์การเพิ่มมาตรฐานทางหลวงสายหลักให้เป็น 4 ช่องจราจรเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ เพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทาง การขนส่ง ลดอุบัติเหตุ โดยให้รถวิ่งตามแนวถนนที่ขนานกันไปตลอดสาย ขาไป 2 เลน และขากลับ 2 เลน เห็นตัวอย่างชัดๆกับถนนที่กำลังขยาย ถนนหมายเลข 108 ช่วงอ.สันป่าตอง ถึงอ.จอมทอง ...ผู้ใช้รถ ใช้ถนนก็คงไม่ปฏิเสธถึงข้อดีของมัน อย่างน้อยผู้เขียนเองก็รู้สึกว่าคงทำให้การเดินทางจากบ้านถึง รพ.ดอยเต่าใช้เวลาน้อยลงกว่าเดิม .งและอีกไม่กี่ปีต่อมาคงขยายถึง ฮอดและดอยเต่าตามลำดับ...ถ้าลำไยยังคงเป็นพืชเศรษฐกิจราคาดีอยู่ต่อไปแต่เมื่อมองอีกแง่หนึ่งระยะเวลาที่ดำลังมีการขยายถนน มองไปทางไหนก็มีแต่ดิน หิน ทราย เมื่อก่อนถนนสายนี้เคยมีต้นไม้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นต้นคูน(ต้นลมแล้ง) ต้นขี้เหล็ก ต้นพุทรา ต้นมะขาม...ถึงฤดูกาลก็จะชูช่อไสว สดสวย สดใสไปตลอดแนวถนนยามเดินทางมาทำงาน เมื่อได้ชมสิ่งเหล่านี้แล้วก็ให้มีจิตใจสดชื่น มีกำลังใจทีจะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ จากนี้ ถนนสายดอกไม้คงจะเหลือเพียง จาก อ.จอมทอง ถึง อ.ฮอด ดอกคูน(ดอกลมแล้ง) ดอกซอมพอ ดอกตะแบก ต้นพุทรา ต้นมะขาม อายุมากกว่าผู้เขียน เจ้าจะรอดพ้นจากอิทธิพลของเศรษฐกิจไหมเพื่อที่จะได้มาซึ่งสิ่งหนึ่ง หลายครั้งเราต้องสูญเสียอีกสิ่งหนึ่งเสมอ ต้นไม้ ดอกไม้เจ้าจะกำลังเป็นเหมือน ต้นพยอมต้นใหญ่ที่เคยอวดศักดาอยู่หน้าตลาดต้นพะยอมมานับร้อยปี แต่ต้องถุกขุดและย้ายไปอยู่ที่อื่นเพียงเพราะต้องการขยายถนนสุเทพต้นไม้ ดอกไม้ น่าเสียดายยิ่งกว่าที่เขากำลังจะตัดลำต้นของเจ้า แทนที่จะพยายามขุดแล้วย้ายเจ้าไปอยู่ที่อื่น....ทางหลวง ความหมายจะเป็นของทางหลวง ของรัฐบาล หรือเป็นทางที่ใหญ่ เป็นถนนที่กว้าง ก็แล้วแต่ แต่กว่าจะได้ทางหลวง เป็นการปูทางไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อชีวิตของมนุษย์ตาดำ ๆ ต้นไม้ใหญ่ ก็ถูกตัดไปแล้วหลายพันต้น