ดูตน เพ่งตน ให้เห็น
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
16 กรกฏาคม 2550

สิ่งที่เรียกว่า ความมหัศจรรย์




เรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นในชีวิตของผมหลายต่อหลายเรื่อง โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมนี้ มีสิ่งอันควรแก่การยกขึ้นเป็นเรื่องมหัศจรรย์ในชีวิตของผมได้ไม่น้อยกว่าสามครั้ง

ทำไมผมถึงกล่าวเช่นนั้น?

บางคนอาจตั้งข้อสังเกต ด้วยความหมั่นไส้ ระคนความกระแนะกระแหน นั่นเป็นเรื่องที่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้อ่านเรื่องนี้ และอ่านอย่างผิวเผิน โอกาสที่จะคิดและเข้าใจอย่างนั้น มีไม่น้อยกว่าเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์

เพราะมีแต่คนบ้าเท่านั้นจะอาจหาญกล่าวเช่นนี้ หรือว่าผมเป็นคนบ้า...ลองอ่านต่อเถอะ ก่อนตัดสินใจว่าที่ผมจะเขียนต่อจากนี้ เป็นเรื่องของคนบ้าหรือเรื่องของคนไม่บ้า...

ผมมาช่วยแก้ว ลายทองทำจตุคามรามเทพ รุ่นพรประกาศิต เมื่อประมาณปลายเดือนพฤษภาคม ปีนี้ หลังจากกระบวนการจัดสร้างต่างๆ ดำเนินไปล่วงหน้าเกือบหมดแล้ว จะมีให้ผมได้ช่วยเพื่อนอยู่บ้างก็เล็กน้อยเต็มที เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับกระบวนการจัดสร้างวัตถุมงคลที่เต็มไปด้วยสถานการณ์แข่งขันอย่างหนักหน่วง

ผมยอมรับว่าผมมาช่วยเพื่อนอย่างคนตาบอด ผมมีความเข้าใจเรื่องจตุคามน้อยมาก และความเข้าใจเรื่องวัตถุมงคลอื่นๆ ของผมก็แทบไม่มีในสมองเลย

ผมมีความใคร่รู้และใคร่เรียนเกี่ยวเพียงว่า ผมจะทำอย่างไร ชีวิตของผมจึงจะหลุดพ้นจากความทุกข์และการเวียนว่ายในวังวนวัฏสงสารนี้ ผมไม่อยากเห็นตัวเองตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย วนเวียนอยู่อย่างนี้ ผมหลงทางอยู่กับกองกิเลสที่พอกพูนในใจผมมากมากเหลือเกิน แล้วผมจะตัดมันได้อย่างไร

ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก ในความยากนั่นละคือความปรารถนา ช่วงเวลานั้น ผมไม่รู้หรอกว่า ตัวเองกำลังแสวงหาสิ่งใด และชีวิตจะดำเนินไปอย่างไร

ผมวนเวียนกลับไปกลับมาในวังวนความคิดเช่นนี้หลายปี แต่ไม่เคยมีความกล้าหาญที่จะก้าวเดินออกไปเผชิญกับการเดินทางสายที่ตนเองปรารถนาเลยสักครั้งเดียว สรรพสิ่งที่เหนี่ยวรั้งไว้นั้น ช่างมีอำนาจและอิทธิพลต่อจิตใจของผมเหลือเกิน

การที่ผมมีโอกาสช่วยเพื่อนทำจตุคามกลับเป็นผลดีต่อผมอย่างมหาศาล ใครๆ อาจมองว่า ไอ้นี่มันเกิดความมืดมัวในใจอะไรหรือเปล่า ผมขอบอกว่า เปล่า...เวลานี้ดวงตาผมยังกระจ่างอยู่ และจิตของผมเริ่มกระจ่างกว่าเดิม สมัยที่ผมยังไม่ได้ร่วมมือกับเพื่อนทำจตุคาม ผมยังรู้สึกว่า ตนเองมีความมืดบอดยิ่งกว่านี้

การทำจตุคาม ทำให้ผมมีโอกาสเดินทางไปร่วมพิธีกรรมที่น่าสนใจ ซึ่งแยกกันออกอย่างชัดเจน ระหว่างพราหมณ์และพุทธ แม้ว่าสองพิธีกรรมนั้นจะรวมอยู่ในสิ่งที่เรียกว่าวาระแห่งการปลุกเสกหรืออะไรก็ตาม เมื่อมองด้วยสายตาของคนที่พอมีความรู้บ้าง จะเห็นได้ทันทีว่า พราหมณ์ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมนั้น วางตนเองอยู่ในระดับใด พราหมณ์ทุกคนเป็นเพียงสะพานแห่งความเชื่อ และสะพานนั้นก็เพียงแค่ทอดจากดินแดนมนุษย์สู่
เทวโลกเท่านั้น

หากแต่เลยจากนั้นไป คือ ดินแดนแห่งอริยะ ดินแดนแห่งพุทธธรรม พราหมณ์ต้องน้อมตัวลงคารวะด้วยดวงใจ

ไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือพระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยะสงฆ์ เหล่าเทวดาทั้งหลายตั้งแต่ชั้นจาตุโลกบาล ไปจนถึงพรหมโลก ล้วนแต่น้อมตัวเข้าหาพระรัตนตรัย นอกเสียจากว่า เทวดานั้นจะเป็นมิจฉาทิฐิ ซึ่งมีให้เห็นมาตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ จึงจะเห็นเป็นอย่างอื่น

การสร้างจตุคามรามเทพ ของแก้ว ลายทอง จึงไม่ทำให้ผมเกิดความหม่นมัวในหัวใจ ไม่ทำให้ความตั้งใจของผมลดทอนลง มีแต่เพิ่มโอกาสให้ผมได้เข้าใจและเรียนรู้บางสิ่งที่ไม่ได้รู้มาก่อน

ผมมีโอกาสได้เดินทางไปร่วมพิธีกรรมในหลายที่ เมื่อยกตัวเองข้ามพิธีพราหมณ์ไปแล้ว ผมจึงได้พบพิธีทางสงฆ์ แก้ว ลายทองและคณะผู้สร้างให้ความใส่ใจต่อพิธีทางสงฆ์ ไม่น้อยไปกว่าพิธีทางพราหมณ์

ผมมีโอกาสกราบพระที่เป็นพระจริงๆ ในพิธีกรรมนั้นๆ ได้ฟังเสียงเจริญพระพุทธมนต์จากพระสงฆ์เถระชั้นผู้ใหญ่จำนวนมาก หากไม่มีพิธีปลุกเสกจตุคาม ผมจะมีโอกาสอย่างนี้ไหม ลำพังผมนะรึจะมีปัญญาเดินทางไปกราบพระเหล่านั้นได้จนครบรูปครบองค์ จตุคามต่างหากที่เป็นสะพานทอดโยงให้ผมก้าวเดินเข้าไปกราบพระสงฆ์ผู้ทรงคุณธรรมเหล่านั้น

สิ่งดังกล่าวพอจะเรียกว่า ความมหัศจรรย์ได้หรือไม่?

ผมมั่นใจว่านั่นคือความมหัศจรรย์สำหรับผม

เมื่อครั้งที่ผมเดินทางไปยังศาลหลักเมือง นครศรีธรรมราช ผมมองเห็นผู้เฒ้าผู้แก่ ใสเสื้อผ้าขาวสะอาด มีผ้าขาวม้าหรือไม่ก็ผ้าสไบพาดบ่ามานั่งฟังพระเจริญพุทธมนต์ ผมเห็นความสงบงามอยู่ในท่าทีของคนเหล่านั้น หากไม่มีการปลุกเสกจตุคาม คนเหล่านั้นจะมีโอกาสอย่างนี้ไหม

รายนามพระเถระที่ได้รับนิมนต์มาที่ปรากฏในใบปลิวหรือสื่อโฆษณาจตุคามอื่นๆ ทำให้ชาวบ้านทั้งหลายอยากมามีส่วนร่วม อยากไหว้พระที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในแต่ละท้องถิ่น ถ้าไม่มีพิธีกรรมเกี่ยวกับจตุคาม พวกเขาจะโชคดีขนาดนั้นไหม

ผมดีใจกับชาวพุทธแห่งนครศรีธรรมราช ที่มีโอกาสได้ฟังพระสงฆ์เถระเจริญพุทธมนต์ วันแล้ววันเล่า ทั้งที่ศาลหลักเมือง และวัดพระมหาธาตุ ผมมองเห็นว่า พวกท่านเหล่านั้นมาร่วมงาน เพื่อที่จะไหว้พระ ฟังการเจริญพุทธมนต์ และทำใจให้เกิดความสงบ เสร็จแล้วก็กลับบ้าน พร้อมกับหัวใจอันสงบระงับจากความเศร้าหมอง

คนเหล่านั้นแทบไม่ได้เดินมาถามเลยว่า ตอนนี้กำลังปลุกเสกจตุคามรุ่นอะไร

บุญเกิดขึ้นในใจของพวกท่านเหล่านั้น เกินกว่าจะถามถึงที่มาของบุญ

สำหรับผมเอง ผมก็ได้ชำระจิต ได้ฟังการสาธยายธรรม ได้นั่งอยู่ท่ามกลางประชุมสงฆ์ ผู้มีจริยวัตร โอกาสอย่างนี้ เกิดขึ้นในชีวิตผมไม่บ่อยครั้งหรอก

ผมจึงถือเอาเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งในชีวิตได้อย่างเต็มปากและเต็มหัวใจ

พรุ่งนี้ ผมจะเดินทางไปที่นครศรีธรรมราชอีกครั้ง ผมหวังว่าจะไม่ได้พบพระบางรูปมารำดาบถือปืนให้เห็น...นั่นย่อมไม่ใช่สิ่งอันเป็นมงคลสำหรับผม ผมจะมีโอกาสไหว้พระบรมธาตุของพระสัมมาพุทธเจ้า และมีโอกาสได้นั่งสงบจิต เพื่อกำราบความอยากทั้งหลายในใจให้เบาบางลง

นับเป็นโอกาสอันแสนมหัศจรรย์ของผมอีกครั้งจริงๆ

รักษ์ มนัญญา






Create Date : 16 กรกฎาคม 2550
Last Update : 20 กรกฎาคม 2550 15:16:54 น. 6 comments
Counter : 638 Pageviews.  

 
อืม...คุณเขียนได้ดีมาก (หมายถึงข้อเขียนที่จะนำคนไปสู่การอ่านจนจบ)
และได้แง่มุมคิดที่ดี ในการสร้างจตุคาม
ใช่แล้ว ถ้าการกระทำสิ่งนี้ นำคนมารวมกันเพื่อความสงบและสันติ
ในทางอ้อมคือสิ่งที่คุณนำเสนอ

มุมมองของนักเขียนย่อมไม่ธรรมดา และฉลาดพอที่จะเก็บรับและนำเสนอ นี่คือความพิเศษที่โลกให้มา

ปล.รักษ์ อย่าลืมกลับไปอ่านคำฝากที่เราเขียนตอบไว้ในบล็อกเรา ไปยังพี่จำลอง และแก้วกับกานต์ด้วย


โดย: แพรจารุ วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:31:46 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ

ไปวัดร่องขุ่นมาเหรอค่ะ



โดย: sugarhut วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:34:09 น.  

 
หวัดดี ยาย

ขอบคุณครับ ที่อ่านจนจบ

ไม่ได้ใช้กลวิธีอะไรหรอก เขียนออกมาจากใจแท้ๆ ครับ


โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:20:24 น.  

 
หวัดดีครับ ซูการ์ฮัต

ไม่ได้ไปวัดรุ่งขุ่นมาหรอกครับ แล้ววัดที่ว่านี้ อยู่ที่ไหนเหรอ

เพิ่งกลับจากนครศรีธรรมราชมาครับ


โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:22:08 น.  

 
วัดร่องขุ่นอยู่ที่เชียงรายนะ เป็นวัดของอาจารย์ เฉลิมชัย
ศิลปินภาพวาดที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองแท้ ๆ แกสร้างวัดสีขาว ภาพที่คุณเอามาลงคล้าย ๆ กับวัดของอาจารย์เฉลิมชัยคะ น้องเขาเลยเข้าใจผิด คิดว่าเอามาเป็นภาพประกอบนะซิ


โดย: แพรจารุ วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:29:49 น.  

 
หวัดดี แพร จารุ

ขอบคุณที่มาให้ข้อมูล

หวัดดี คุณซูการ์ฮัต

ภาพที่เห็นอยู่ข้างบน เป็นภาพศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชครับ



โดย: รักษ์ (big onion ) วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:41:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

big onion
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบเขียน อ่าน เดินผ่านถนนคนเขียนหนังสือมาประมาณสามสิบฝน แต่ยังเขียนไม่ได้ดี หันมาสนใจต่อการเพ่งดูตนเอง มากกว่าเพ่งโลกภายนอก รู้ว่าตนเองแก่เอามากๆ สบายใจดี


เดินรอบตัวเอง
[Add big onion's blog to your web]