Group Blog All Blog
|
ไฟล์หนูเน่า ช่วงหลังสงกรานต์ผ่านมาแล้วผู้โดยสารชาวไทยก็หายไปราวเนรมิตทีเดียวเชียว .......แหมท่านจากไปเราก็คิดถึงค่า จริงใจหรือตอแหลก็ให้ไปคิดเป็นการบ้านละกัน ก่อนเที่ยวบินกรุงเทพ - ปักกิ่ง - กรุงเทพ ระหว่างที่เดี๊ยนนั่งรอเพื่อนร่วมทีมอยู่ที่โรงแรมก่อนเดินทางไปสนามบินพร้อมกัน (ไปเองค่าน้ำมันกับทางด่วนเท่าไรรู้ไหมคะคู๊ณ) พอดีนึกได้ว่าลืมปัดมาสคาร่ามา ก็เลยตรงดิ่งไปยังห้องน้ำของโรงแรมเสริมสวยซะหน่อย เดี๋ยวโดนซีเนียร์วิจารณ์เรื่องกรูมมิ่งแล้วจะขายหน้าประชาชี อุตส่าห์เป็นอดีตช่างแต่งหน้าฟรีแลนด์ ระหว่างโบ๊ะก็มีเจ๊ๆพูดคุยกันโล้งเล้งเป็นภาษาจีน พูดขึ้นใกล้ๆเดี๊ยนว่า hen piaoliang a ! ได้ความว่าสวยมากค่า เดี๊ยนก็เอ๋......กรูเหรอ หรือใครวะ ระหว่างงงอยู่เจ๊ทั้งสองก็เดินจากไป และแล้วก็มีผู้หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามา วางของแหมะไม่ไกลจากเดี๊ยน นัยว่าเข้ามาเป็นแนวร่วมโบ๊ะเหมือนกัน คุณนายเริ่มบทสนทนาแบบถามถึงอาชีพของเดี๊ยนก่อนเลย น้องเป็นแอร์เหรอคะ ปู๊ดโธ่ คุณพี่คะ ก็กระเป๋าลากใบเบ้อเริ่มวางอยู่ใกล้ๆเดี๊ยน แถมยังแต่งตัววิริสมิรา สงขลา ปัตตานี แฟนตาตีภูเก็ตขนาดนี้ อากาศร้อนตับแตกยังอุตส่าห์ใส่ผ้าพันคอเนี่ย มันมีอยู่กี่อาชีพล่ะค๊า พูดไปเดี๋ยวโดนตบเลยตอบแบบงงงงว่า ใช่ค่ะ แล้วเจ๊คุณนายแกก็เริ่มแนะนำตัวเองว่ามาจากบริษัทสินค้าขายตรงของอเมริกาที่ดังที่สุดในเมืองไทยยี่ห้อหนึ่ง เดี๊ยนก็ร้อนๆหนาวๆแล้วเพราะสมัยเพิ่งจบหางานทำใหม่ๆ เคยได้รับการติดต่อไปเป็นช่างแต่งหน้าที่สตูดิโอแห่งหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่าโดนหลอกไปให้สมัครเป็นสมาชิกขายตรงของบริษัทนี้ เสียค่าแท็กซี่ไป 300 บาท แทบหมดตัวเลย ทำให้ของขึ้นมากๆอารมณ์บูดไปนาน พวกตำแหน่งงานLM หรือว่าขายประกันพวกนี้ ชอบหลอกให้ไปฟังสัมมนาล้างสมองอะไรไม่ทราบ ประมาณว่าไปก่อนแล้วค่อยบอกว่าให้ทำงานอะไร พูดแล้วก็โมโหตะหงิดๆ เดี๊ยนไม่เคยไปฟังแล้วก็ไม่เคยเสียเงินให้คนพวกนี้สักสตางค์เดียว แต่คนใกล้ชิดเดี๊ยนจ่ายไปเพื่อตัดความรำคาญไปเพราะเคยโดนหลอกตอนจบใหม่ๆเหมือนกัน พูดแล้วเซ็ง เล่าต่อ เดี๊ยนก็พอจะรู้แกวคุณนายนางนี้แล้ว พยายามพูดคุยชมสารพัดแล้วก็ชวนเดี๊ยน สมัครเป็นสมาชิกค่า แต่เดี๊ยนก็ดักคอว่าคนที่บ้านก็เป็นสมาชิกแล้วเหมือนกัน จะสมัครทำแป๊ะไรอีก ว่าแล้วท่านก็โฆษณาเครื่องสำอางของบริษัทท่านที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียง ราคาก็ไฮโซตามค่ะคู๊ณ เดี๊ยนก็ไม่ได้สนใจแต่ก็พูดแบบไม่ถนอมน้ำใจใครไม่ค่อยเป็น ยิ่งอยู่ในเครื่องแบบยิ่งแล้วใหญ่ จะพูดอะไรก็ไม่สะดวกปาก และแล้วด้วยความจำใจเดี๊ยนก็ให้เบอร์เจ๊แกไป พลางคิดว่า ซวยแล้วกรู งานนี้เบอร์แปลกหน้าต้องกดทิ้งอีกเป็นเดือนเลย และแล้วเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วก็ช่วยชีวิตเดี๊ยนจากอีเจ๊นี่ แต่เจ๊ยังไม่วายสัมทับว่าอาทิตย์หน้าแกจะโทรมาหา พร้อมจับมือแสดงความเป็นมิตรทับซ้อนด้วยผลประโยชน์ โอ๊ย!!! คราวหน้านะ จะไม่ยอมโง่ให้เบอร์ใครอีกแล้ว คราวนี้คนที่ลงมาก่อนใครเหนือความคาดหมายก็คือ ก.ต. หรือกัปตันนั่นเอง ลุงหนวดกัปตันคนนี้ท่าทางอัธยาศัยดี โดยเฉพาะกับซันนี่ของเดี๊ยน เห็นมะ หน้าหมวยญี่ปุ่นขายดีอีกแล้วครับท่าน ลูกเรือและเพอร์เซอร์เบอร์ 2 ที่ทำงานตรงข้ามเดี๊ยนหรือประตู 4L ก็หน้าเครียดโคตรอีกละ ตั้งแต่ยังไม่เริ่มบินก็บ่นเรื่องแอร์สาวไทย 2 นางที่บินกับเฮียเมื่อคราวก่อนให้เดี๊ยนฟัง แต่เฮียแกก็สอนงานดีนะ บอกว่าเดี๊ยนควรจะรู้ทุกอย่างว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้างเพื่อที่จะตอบคำถามลูกเรือชุดต่อไปที่จะมารับช่วงไฟล์ต่อและต้องบินขากลับด้วยกันกับเดี๊ยน ไฟล์นี้ผู้โดยสารน้อยมีแค่ 17 ท่านเท่านั้นเอง เลยใช้ cart แค่คันเดียว วนทั้งซ้ายขวา ไม่นานก็เสริฟ์เสร็จเรียบร้อย และแล้วซันนี่ก็แวะเวียนมาหลังจากว่างงาน พลางยื่นแผ่นกระดาษให้เดี๊ยนดู หน้าตาเปื้อนยิ้ม คุณคะความอิจฉาขึ้นหน้าอีกแล้วค่ะ มันเป็นอีแมวค่ะ ของท่านผู้โดยที่ยัดเยียดให้น้องซันนี่บ้องแบ๊วของเดี๊ยน รวมทั้งตาผู้โดยอียิปต์ 2 นายที่มีตาคนนึงตาขวางใส่เดี๊ยนตอนจะเสริฟ์อาหารด้วยอ่ะ เดี๊ยนเสริฟ์ท่านพี่กระเดือกไม่ลง มีซันนี่เดินผ่านนะ เจริญอาหารขึ้นมาเชียวต้องให้ซันนี่ตามไปเสริฟ์ทีหลัง เออ...อยู่ทวีปอื่นกรูสวยนะมึง ก่อนเสร็จไฟล์นี้เพอร์เซอร์ก็ได้รับอินเตอร์โฟนจากกัปตันเรียกให้ซันนี่เข้าไปใน Cockpit ด้วยความกระสันอยากรู้ ลุงเพอร์เซอร์จอมเฮี๊ยบก็บอกให้ออกมาเล่าให้ฟังด้วยว่ากัปตันเรียกไปทำไม เพราะตัวเองจะถามก็ไม่กล้า พอซันนี่ออกมาก็เล่าให้เดี๊ยนฟังหมดเปลือก ก็มีอัน กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด อีกรอบ เพราะกัปตันท่านสอนให้ซันนี่รู้จักคำว่ารักค่า ไม่ได้เสี่ยวนะ แต่กัปตันสอนให้สะกด และอ่านคำว่ารักเป็นภาษาอาหรับว่า บาเฮบัค อะไรมันจะลำเอียงเช่นนี้คะคุณ พอกัปตันจอดเครื่องที่ปักกิ่งก็จรลีออกมาแกมบังคับซันนี่ให้พูดว่า บาเฮบัค อีก พร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ขากลับท่านผู้โดยสารชาวจีนเยอะกว่าที่คาดไว้เลยค่ะ ร่วม 50-60 ท่านเห็นจะได้ คราวนี้ก็เป็นที่มาของกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เดี๊ยนจะพูดถึง สมัยที่เรียนหนังสืออยู่ที่เมืองชิงเต่า มณฑลซานตง ทางตะวันออกสุดของประเทศจีนเมื่อ4 ปีที่แล้ว เดี๊ยนได้มีโอกาสเข้าไปในหอพักของเพื่อนสาวชาวจีน 2 นาง ในหอพักนักศึกษาหญิง ที่ภายในห้องหนึ่งจะมีเตียงเดี่ยววางเรียงอยู่ ฟากละ 4 เตียง ตรงกลางแบ่งเป็นที่วางโต๊ะเขียนหนังสือ สิ่งที่ลอยมาประทะจมูกก่อนเลยก็เรื่องกลิ่นนี่แหละค่ะ แม่เจ้า ไม่น่าเชื่อว่าเป็นห้องเด็กผู้หญิง ไม่ใช่คนเดียวด้วย แต่เป็น 8 ชีวิต 8 กลิ่น เพื่อนเดี๊ยนเล่าให้ฟังว่า หน้าร้อนนักศึกษาที่นี่อาบน้ำกัน 3 วันครั้ง แต่ถ้าหน้าหนาวก็ 7 วันครั้ง เพราะในตึกไม่มีห้องอาบน้ำ ต้องออกไปอาบข้างนอกที่ตึกอื่น แล้วเสื้อผ้าก็ไม่ได้เปลี่ยนกันทุกวันเพราะเดี๋ยวคนจะหาว่าสิ้นเปลือง เอาเสื้อผ้ามาใส่อวดกัน แต่เพื่อนเดี๊ยนก็ออกตัวว่า ถึงเสื้อข้างนอกจะไม่เปลี่ยน แต่เสื้อตัวในเนี่ยเปลี่ยนทุกวันนะ อันนี้ก็เลยเป็นที่เข้าใจถึงที่มาของกลิ่นที่ว่า แต่นี่มันเหมือนหนูตาย 50 ตัวมารวมกันนะคุณพี่ ตอนที่ส่งท่านผู้โดยสารแต่ละคนไปนั่งตามที่ ส่วนใหญ่น่ารักมาก ถ้าจะแลกที่นั่งก็พูดจาแลกเปลี่ยนกันเอง ไม่กล้านั่งที่อื่นที่แม้จะว่างต้องรอถามลูกเรือก่อน ตอนที่เสริฟ์ก็มีอันเฮฮาปาร์ตี้ เพราะว่าพูดคุยกันสนุกสนาน และท่านผู้โดยก็แปลกใจไถ่ถามกันใหญ่ว่าทำไมเดี๊ยนทั้ง 2 ถึงพูดภาษาเดียวกับท่านๆได้ บางท่านก็เหมาเอาว่าเดี๊ยนมาจากมาเลเซียไปซะงั้น อุตส่าห์บอกตั้งหลายรอบว่า ไท่กั๋ว หวาเฉียว ดูคนอย่าดูแค่หน้าและก็สีผิวนะคะ เดี๋ยวจะหน้าแตกได้เดี๊ยนขอโบก ท่านผู้โดยทั้งหลายทานง่ายน่ารักเหลือเกินค่ะ ไม่มีบ่นเรื่องอาหารใดๆทั้งสิ้น ตามมารยาทคนจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งเดิม แต่ท่านอยากรู้อยากเห็นเหลือเกิน เรียกได้ว่าขอชิมเครื่องดื่มมันแทบทุกประเภทที่เดี๊ยนขนมาบน cart เชียว ขอมาเดี๊ยนก็ให้ค่ะ เรียกได้ว่ากว่าจะได้กลับก็ตอนที่แทบไม่เหลืออะไรให้ดื่มแล้วล่ะค่ะ เพราะพ่อสจ๊วตหนวดเฟิ้มเห็นเดี๊ยนชักช้าก็เลยมาลากรถเข็นของเดี๊ยนกลับ Shokran Magmud ,you save my life!!! เดี๊ยนขอบคุณแบบโล่งอก ลืมบอกไปนะคะว่าไฟล์เนี๊ยะ โลกกลมเหลือเกิน ได้เจอกับพี่หื่นตาหวาน แล้วก็พี่หนวดจากไฟล์ที่แล้วอีกครั้ง ก็คุณพี่ตาหวานคนนี้ไงคะที่มาขอไปเดทกับเดี๊ยน ซันนี่เป็นหัวเราะตัวงอตอนที่เดี๊ยนเป็นอึ้งที่เจอเสื้อสูทของลูกเรือใหม่ที่แขวนไว้ในตู้ข้างห้องน้ำ 2 ตัวแล้วมีบัตรประจำตัวพนักงานติดไว้ เลยรู้ทันทีว่า เอาอีกแล้วครับท่าน แล้วก็จริงดังคาด ทันทีที่พี่หื่นตาหวานแกเห็นหน้าเดี๊ยน แกก็ Hello,sweetie! Do you wanna change your mind? ไฟล์อันยาวนานนั้นเดี๊ยนก็ต้องยิ่งรอกไปมา ทั้งหนีกลิ่นบาทาท่านผู้โดยสารที่เวลานอนท่านก็พร้อมใจกันเอาเท้าชี้ฟ้าเกือบโดนแสกหน้าอีแอร์ ทั้งซ้ายขวา แล้วยังต้องหนีรัศมีความหื่นจากเฮียคนนี้อีก สุดท้ายเดี๊ยนก็หาทางออกให้ตัวเองได้ด้วยการแนะนำเพื่อนๆสาวแอร์คนอื่นให้กับพี่หื่นแก เพื่อนสาวสวยเดี๊ยนประสบการณ์หื่นโชกโชนคงเอาตัวรอดได้แน่นอน พอดีตอนเปลี่ยนไฟล์ที่กรุงเทพฯต้องเจอกัน เดี๊ยนก็เลยสบโอกาสแนะนำให้รู้จักพอดี เป็นโชคช่วยเหลือหลายเฮียหื่นแกถูกใจเพื่อนเดี๊ยน จับมือเค้าแล้วสายตาหื่นพอใจออกนอกหน้า แต่ยังไม่วายบ่น เพื่อนยูต้องกินเยอะหน่อยนะ นมเล็กไปนิดนึง แวะมาทักทายค่ะ มีความสุขมากๆน่ะค่ะ โดย: หนุอุ๋ม (tenno_jung ) วันที่: 23 เมษายน 2549 เวลา:20:37:17 น.
ท่าทางพี่หื่นจะหื่นมากนะเนี้ย อิอิ
โดย: หลิงหลิง IP: 202.5.87.136 วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:12:37:57 น.
|
Uki no Kimono
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] อดีตสาวแอร์แดนทะเลทรายที่ผันตัวเองไปเป็น office lady และกลับไปเป็นนักเรียนไทยในต่างแดนเช่นเคย ขอแบ่งปันประสบการณ์การดำเนินชีวิตแบบชีพจรรองเท้าจากที่เคยผ่านมาทั้ง ๔ ทวีปให้เป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจนะคะ Friends Blog
Link
|
เพื่อนยูต้องกินเยอะหน่อยนะ นมเล็กไปนิดนึง
ประโยคสุดท้ายนี่ฮาครับ