Group Blog All Blog
|
โชค (ไม่)ช่วย "ตึ๊ง..ตึง" เสียงที่ว่าตังขึ้นพร้อมสัญญาณแจ้งรัดเข็มขัดที่นั่ง ทำให้สมาธิที่ล่องลอยไปไกลกลับเข้ามา พอสิ้นเสียงประกาศเตือนเป็นภาษาอารบิคและอังกฤษ ให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดที่นั่ง ปรับเก้าอี้ให้อยู่ในระดับตรง พับโต๊ะด้านหน้าที่นั่งให้กลับสู่ที่เดิมและเปิดม่านหน้าต่างด้านข้าง เก็บหมอนและผ้าห่มไว้ทางด้านหลัง ประกาศต่อมาเป็นภาษาท้องถิ่นที่คุ้นเคยและอีกหนึ่งเป็นภาษาประเทศเพื่อนบ้านด้วยเสียงที่นิ่มลึกเจือสำเนียงกวางตุ้งพาลให้นึกถึงหน้าขอพระเอกกู่เทียนเล่อ หรือหลุยส์กู่ของสาวๆจากดินแดนตอนใต้ของจีน จะเป็นเสียงใครนอกจากแอร์ไทยหน้าเหลี่ยมเก๋สายเลือดฮ่องกงคู่หูหน้าใหม่ของเดี๊ยนบนไฟล์ในวันนั้น หลังเสร็จสิ้นไฟล์ก็เป็นเวลายามเช้าตรู่ของกรุงไคโร เดี๊ยนก็ไม่ได้พักผ่อนนอนแอ้งแม้งบนที่นนฟูกหนานุ่มในโรงแรมอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะภารกิจที่มาในครั้งนี้คือการยื่นเอกสารขอใบต่ออนุญาติบินแทนของเดิมที่จะหมดอายุในเร็ววัน และแล้วการผจญภัยในออฟฟิสแขกก็เริ่มขึ้น การยื่นเอกสารมิได้ลำบากอย่างที่คิดไว้ แต่ก็โยนกันไปมาหลายต่อกว่าจะเสร็จ โชคยังดีที่เดี๊ยนเจอลูกเรือสาวชาวญี่ปุ่นที่ดูเหมือนจะผ่านร้อนผ่านหนาวกับการทำงานที่นี่มาหลายปีดีดักแล้ว พรางเสียงหัวเราะคิกคักว่าให้ทำใจกับอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นที่นี่ ไม่มีตายตัว การยื่นเอกสารเป็นไปได้อย่างราบรื่น แต่ก็ยังงงๆอยู่ที่ต้องเสียเงิน 20 ปอนด์ด้วย นัยว่าให้เด็กเดินเอกสารนำไปส่งให้ถึงที่ยังโรงแรมที่พักนั่นเอง เพื่อมิให้เสียเที่ยวเดี๊ยนก็ยื่นเรื่องขอตั๋วและวันหยุดสิ้นเดือน 1 อาทิตย์เพื่อไปกระดี๊กระด๊าพักผ่อนสมองต่างแดนยังประเทศเนเธอแลนด์ ณ กรุงอัมสเตอร์ดัมส์ที่ความสามารถอียิปต์แอร์จะพาไปถึงได้ โดยต้องต่อเครื่องที่กรุงไคโรไปอีกประมาณ 4 ชั่วโมง คราวนี้ล่ะเดี๊ยนจะแบกกล้องท่องกรุง ตะลุยแหล่งโคมแดงอันลือชื่อ รวมถึงตะลุยเซ็กส์ช๊อปตามประสาสาวอยากรู้เอามาแบ่งปันประสบการณ์ต่างแดนกันนะเพื่อเกลอทั้งหลาย จะแอบถ่ายมาให้ดูละกันฮิๆ อาทิตย์ที่ผ่านมาอากาศ ณ เมืองหลวงของพีระมิดประมาณ 14 องศา เรียกได้ว่ากำลังหนาวแบบพอดิบพอดี ไม่เว่อจนเกินไป แสงแดดพอแสบตาถ้ามิได้พกพาแว่นกันแดดติดตัวเห็นจะไม่คุ้นถิ่นซะแล้ว เสื้อโค๊ทผ้าวูตัวยาวแทบลากดินพร้อมด้วยเฟอร์สีดำมันขลับเป็นแผงใหญ่รอบคอที่สวมทับยูนิฟอร์มทำให้เดี๊ยนดูคล้ายไฮโซเพนกวินซะไม่มีละ แต่ก็ดีกว่าทนหนาวสั่นยามรอรถที่สนามบินก็แล้วกัน การทำเอกสารและติดต่อเรื่องต่างๆที่นี่ ถ้าไม่มีคนรู้จักให้คำแนะนำคงได้มีปล่อยโฮอย่างเหลืออดแบบเดี๊ยนในช่วงแรกเป็นแน่ๆ เพราะระบบการทำงานที่อียิปต์งี่เง่าเหลือทน ปัดความรับผิดชอบไปมาเป็นว่าเล่น อีกทั้งยังหาคนที่พูดภาษาอังกฤษรู้เรื่องได้ไม่ใช่ง่ายๆซะด้วย ลูกเรือของที่นี่ถ้าจะยื่นเรื่องติดต่ออะไรก็แล้วแต่ มักนิยมจ้างคนภายในให้ดำเนินการให้ ก็แล้วแต่ว่าจะจ่ายกันเท่าไร มีตั้งแต่ 10 ไปจนถึง 50 ปอนด์ ว่าด้วยเรื่องขอตั๋ว Extra Crew , ขอตั๋วลดราคา , ขอตั๋วฟรี ฯลฯ เหล่านี้กินเวลาเป็นวัน เหมือนง่ายนะคะ แต่ว่าคนที่จะติดต่อด้วยนี่เป็นบรรดาลุงๆเดินเอกสารนับ 10 ชีวิตที่เดินกันควักไขว่ แต่ไม่มีแม้สักคนที่จะพูดอะไรนอกจากภาษาอารบิค งานนี้ถึงมีเงินแต่ไม่มีคนช่วยแปลก็ทำอะไรไม่ได้จ้า ???#$%!!! คราวนี้นับว่าโชคยังดีบ้างที่ไปสบตาเข้ากับหนุ่มสจ๊วตที่ติดใจในรสชาติน้ำมะนาวบนไฟล์ของเดี๊ยน แน่สิยะเข้มข้นถึงใจขนาดผสมเตกีล่าเข้าไปได้ร้องซี๊ด...ทีเดียว มิเช่นนั้นเสียชื่อบาร์เทนดี้เก่าหมด พ่อหนุ่ม Ehab คนนี้อาสาเป็นผู้แปลความต้องการของเดี๊ยนให้คุณลุงคนนึงจัดการเรื่องเอกสารการขอตั๋วลูกเรือให้ทั้งหมด โดยเดี๊ยนควักสินน้ำใจให้เป็นเงิน 20 ปอนด์ หรือราว 140 บาท ใส่ในกระเป๋าเสื้อแกพร้อมรอยยิ้มแบบ "ไม่เหนื่อยละทีนี้กรู" แกจะนำมาส่งให้ที่โรงแรมในวันรุ่งขึ้น เรียกได้ว่าเอามาสอดไว้หน้าประตูห้องให้ทีเดียว แหม ที่นี่สินน้ำใจเดินได้ด้วยเงินนะคะ ไม่ว่าจะทำอะไร ก็เตรียมเงินไว้เล็กน้อยในกระเป๋าเป็นค่าน้ำร้อนน้ำชาแก่คนที่ช่วยเหลือ มิเช่นนั้นแล้วคุณก็คงจะเป็นคนก็ต้องรออยู่เป็นคนสุดท้ายตลอด ธรรมเนียมสากลแต่ก็บางทีเยอะแยะยุบยับจนเล่นเอาปวดหัวเหมือนกันแหละค่ะ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ไม่อยากให้ใครช่วยมิฉะนั้นคงได้จ่ายค่าทิปหัวบานเชียวคุณ วันต่อมาหลังจากได้พักผ่อนนอนหลับอย่างเต็มที่ เดี๊ยนก็ตื่นแต่เช้าตรู่ ไม่ได้ขยันอะไรหรอกค่า นัดตาพี่อี๊ดไว้ว่าจะไปส่งแกที่ตึกลูกเรือที่สนามบิน ไม่ได้เจอกันนานเกือบ 3 เดือนแกก็ยังหล่อหัวเกรียนเหมือนเดิม พลางทักทายด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันที่หาได้น้อยมากจากหนุ่มอาหรับทั่วไป ยังไม่ลืมที่จะส่งสายตากรุ้มกริ่มฉ่ำเยิ้มมาให้ตามสไตล์ ไฟล์นี้เป็นไฟล์นิวยอร์กถิ่นประจำครั้งสุดท้ายของแก ใช้เวลาบิน 12 ชั่วโมงจากกรุงไคโร (นักบินเค้าได้นอนกัน 6 ชั่วโมงเชียวนะคุณ) ก่อนที่จะย้ายตำแหน่งไปเป็นกัปตันอย่างเต็มตัว ณ เครื่องแอร์บัส 320 หลังจากเป็นผู้ช่วยนักบินบนเครื่องโบอิ้ง777มานานถึง 12 ปี ซึ่งรูทบินก็จะเปลี่ยนไป เครื่องบินที่ลำเล็กลงแต่ก็ใหม่เอี่ยมเชียวค่ะ มันวาวทั้งลำเชียวรวมถึงห้องน้ำด้วย ต่างจากเครื่องลำใหญ่ที่บินมาเมืองไทยอย่างพี่โบอิ้ง777 อย่างลิบลับเชียว โดยเครื่องเล็กแบบนี้พิกัดการบินก็ต้องสั้นลงจึงมักจะใช้กับเส้นทางบินไปยังแถบยุโรปและโซนตะวันออกกลาง วันนั้นใจเต้นเป็นพิเศษ ก็แหม..แกออกจะหล่อบาดใจขนาดนั้น ถึงเพื่อนๆจะแอบเหน็บว่า "มันหล่อตรงไหนวะแก" แต่ก็สไตล์ใครสไตล์มันแล้วกันนะ เดี๊ยนเตือนให้แกดื่มน้อยลงหน่อย หลังจากแกบอกว่าดื่มเป็นปลาเชียวเมื่อคืนก่อน กิติศัพท์ Green Label ดื่มหมดขวดของแกเป็นที่เลื่องลือในหมู่สาวแอร์ร่วมไฟล์ที่มักจะต้องชงกาแฟดำชนิดเข้มข้นเพื่อปลุกวิญญาณ รวมถึงหมากฝรั่งดับกลิ่นเหล้า อีกทั้งแฟนสาวนิโกรจากไนโรบีที่ได้ความว่าหาความสวยยากหน่อยคนนั้นอีก โดนเม้าท์ว่าคบกันได้อย่างไรหนอยามปิดไฟถ้าเจ้าหล่อนไม่ได้ยิ้มยิงฟัน กรรม.....ทำไมนังแอร์อารมณ์เปลี่ยวอย่างตูถึงรสนิยมแบบนี้ฟะเนี่ย ได้ความว่าเดือนหน้าคงมีอันได้ประสบพบเจอกันอีกเป็นแน่เพราะแกต้องบินมาเทรนกับเครื่องสติมูเลเตอร์ที่การบินไทย มีเวลาอีกหลายอาทิตย์เดี๋ยวไปเตรียม แผนชั่ว เอ๊ย แผนเดตล่วงหน้าก่อนนะ ความสุขแอบตอดชั่วคราวเล็กๆน้อยๆค่ะคุณ แอบเอากำไรจากการกอดหนุ่มใหญ่ถึง 3 ครั้งก่อนยันขึ้นเครื่องไปแล้ว เดี๊ยนก็ได้โอกาสบุกตะลุยสู่ใจกลางเมืองอีกครั้งหลังจากห่างหายจากการนั่งรถเมลล์ชมเมืองไปนาน 40 นาทีจากการนั่งรถช่วงเช้า ถนนทุกสายโล่งเหลือเกินซึ่งบรรยากาศแบบนี้หายากมากในกรุงไคโร โดยปกติจะแออัดยัดแน่นยิ่งกว่ากรุงเทพฯก็ไม่ปาน ระเบียบวินัยในการขับขี่แทบไม่รู้จักกันเลย ถนน 3 เลนคนที่นี่สามารถขับได้ถึง 5 เลนแบบไม่ได้พูดเกินจริงแต่อย่างใดเชียว อุบัติเหตุมีให้เห็นอยู่เนืองๆ ดูง่ายๆจากรถที่แล่นไปมาบนถนน เรียกได้ว่ากว่า 90 เปอร์เซ็นต์มีร่อยรอยของการชนทั้งนั้น มากน้อยบ้างต่างกันไป ประสบการณ์ตรงของเดี๊ยนก็ไม่นานมานี้ รถคันข้างๆชนเปรี๊ยงเข้าให้เบียดติดไปกับฟุตบาท เสียงดังน่ากลัวมากด้วยความแรงและอัตราความเร็วที่ขับ เนื่องจากเวลานั้นด้วยความที่กลับไปยังโรงแรมเพื่อเช็คเอ้าท์ช้ากว่าที่คิดเพราะประจวบกับเวลาเร่งด่วนและระยะทางที่ไกลพอควร ทำให้เพื่อนผู้หวังดีที่เป็นธุระขับรถให้ เร่งเครื่องและลีลาการขับขึ้นราวกับแข่งโกคาร์ทที่เมืองพัทยาเชียว นังแอร์หัวใจแทบวายแต่ก็ได้รับคำปลอบใจที่ไม่ค่อยจะช่วยสักเท่าใดว่า "ก็คิดว่านั่งรถเล่นในสวนสนุกละกันนะ" อยู่ในสวนสนุกมันไม่ตายที่คะคุณ วันนั้นถ้ากระจกหน้าบานใดบานหนึ่งแตก สงสัยเดี๊ยนคงต้องไปนอนโอดโอยอยู่สักโรงพยาบาลหนึ่งเป็นแน่ แถมคงต้องโดนทำแผลแบบเอาสำลีแห้งๆถูๆแผลเพิ่มเชื้อโรคแทนการฆ่าเชื้อแหงแซะ แค่คิดก็สยองแล้ว คนขับรถแบบดีๆมีบ้างเปล่าฟะในประเทศนี้ ช่วงเช้าของวันไม่ได้เป็นแบบที่เดี๊ยนคิด ร้านรวงต่างๆยังไม่เปิดร้านดี แม้จะล่วงเลย 9 โมงเช้าไปแล้วก็ตาม ถ้าเป็นกรุงเทพฯ ป่านนี้ร้านหมูย่างข้าวเหนียว รวมถึงน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ คงเต็มถนน เดี๊ยนเดินดุ่มๆไปตามถนนใหญ่ต่างๆ สายตาสอดส่ายหาร้านไหนที่พอจะฝากท้องได้บ้าง ระหว่างทางก็ได้ยินเสียงแซวเป็นอารบิคและอังกฤษประปราย ขอแนะนำได้ว่า อย่าสบตา อย่าสนใจ อย่าแต่งตัวโป๊ และอย่าเดินคนเดียวในย่านเสื่อมโทรม ในกรณีที่มีเพื่อนชายหนุ่มไปด้วยก็คงฝากผีฝากไข้ได้ และเป็นที่เกรงใจต่อคนอื่นหน่อย แต่ถ้ารู้ตัวว่าขาว หมวย สวย เอ๊กซ์ หน้าตาเอเชียเด้งโดดขึ้นมาก็แนะนำว่าให้ทำตามนี้แล้วจะดีเอง ไม่งั้นคงโดนเหมาว่าแอบชอบหนุ่มๆที่ยิ้มให้เหมือนที่เดี๊ยนโดน การันตีว่าหนุ่มอาหรับเขาคิดกันอย่างนี้จริงๆจากปากเพื่อนเจ้าถิ่น แบบนี้เห็นจะแจกยิ้มสยามไม่ได้ผลในทางบวกซะแล้วนะจ๊ะ เอาไว้ทำตอนอ้อนขอลดราคาตอนซื้อของในตลาดแล้วกันนะตัวเอง หลังจากที่หาที่สิงสถิตดื่มกาแฟมานาน ก็ผ่านมาที่ร้านกาแฟ Cilantro ตรงข้ามกับมหาวิทยาลับอเมริกันไคโร เลยได้โอกาศหวนถึงอดีตแวะเข้าไปหน่อย นิตยสารบางเล่มเทียบว่าร้านนี้เป็น Starbucks ของอียิปต์ทีเดียว หลายหลากสาขาให้เลือกรวมถึงบรรยากาศที่ตบแต่งด้วยดีไซน์ทันสมัยสีแดงสดใส ตัดกับสีขาวโดนใจ มีกาแฟให้เลือกมากมายหลายประเภททั้งกาแฟอเมริกัน อาฟริกา อินโดนีเซีย ซึ่งเลือกหากลับไปชงทานที่บ้านได้ด้วย รวมถึงแซนวิสชนิดต่างๆที่ทำสำเร็จรูปอยู่ในตู้โชว์พร้อมให้เลือกซื้อกลับไปทานที่ ออฟฟิสหรือที่บ้าน รวมถึงในรถอย่างที่ชาวอียิปต์ในไคโรส่วนใหญ่ทำกัน พาลนึกถึงคำพูดของเพื่อนร่วมงานสาวๆชาวไทยที่บ่นถึงหนุ่มๆอียิปต์ที่รับพวกหล่อนไปทานมื้อค่ำหรือระหว่างวันว่า "ขับรถพามาตั้งไกล นั่งแ..กในรถซะงั้น" อันนี้อยู่นานๆก็จะชิน วัฒนธรรมเขาคงเป็นอย่างนี้ พอขับรถไปถึงที่จอดก็จะบีบแตรเป็นเสียงเรียกพนักงานให้มารับรายการอาหารที่จะสั่ง ซึ่งจะเสริฟ์ไปบนถาดอลูมิเนียมที่มีหู 2 อันด้านใดด้านหนึ่ง จุดประสงค์เพื่อที่จะคล้องกับกระจกด้านข้างรถนั่งเอง ราวกับนั่งทานข้าวอยู่บนโต๊ะเลยทีเดียว อันนี้เมืองไทยคงไม่เอาด้วย เพราะกลัวรถเป็นรอยซะเปล่าๆ สนนราคากาแฟลาเต้ 1 แก้วใส่วิปครีมและคาราเมล , ซีซาร์สลัด 1 ถ้วย , น้ำผลไม้รสสตอเบอรี่แบบมี Malt สกัด 1 ขวดเล็ก สนนราคารวมภาษีและค่าบริการเกือบ 60 ปอนด์หรือราว 420 บาท โหดพอสมควรใช่มั๊ยล่ะ มื้อเช้าแบบไฮโซกระเป๋าแฟบอย่างเดี๊ยนหมดไป ก็มาถึงมื้อกลางวันบ้าง วันนั้นถึงจะปวดท้องแต่นังแอร์ยังไม่เจียมสังขาร ความอยากอาหารไทยมันจุกอกตั้งแต่เมื่อคืน อย่างนั้นจุดหมายต่อไปของเราคือที่ร้าน "บัวขาว" ร้านอาหารไทยเลื่องชื่อในต่างแดนที่มีถึง 7 สาขาด้วยกันซึ่งส่วนใหญ่ก็ตั้งอยู่ในอียิปต์นี่แหละค่ะ ร้านนี้เป็นสาขาที่ 2 ซึ่งเดี๊ยนจะฝากท้องด้วยนี้ ตั้งอยู่ภายในส่วนของร้านค้าชั้นใต้ดินของโรงแรม Nile Hilton มาทีไรเดี๊ยนไม่เคยได้ทันร้านเปิดสักที คราวนี้เลยได้พบกับแม่ครัวสาวใหญ่ชาวไทยเป็นครั้งแรก ป้าคนสวยของเราชื่อ "ป้าดา" ป้าแกเล่าว่าเดิมเป็นคนประจวบฯ แต่ก็จับพลัดจับผลูมาเป็นแม่ครัวที่ร้านนี้ได้ปีกว่าแล้ว อีก 9 เดือนก็จะหมดสัญญาแล้วจะกลับไปเยี่ยมลูกที่เมืองไทย ดูหน้าตาอาหารตัวอย่างที่วางไว้หน้าร้านแล้ว ท้องเจ้ากรรมเริ่มร้องขึ้นมาแบบไม่ไว้หน้าเจ้าของเลย พร้อมกับป้าดาพูดเป็นมั่นเหมาะว่าจะทำให้สุดฝีมือ วันนั้นกระเพราะไก่รสเด็ด เลยแซบถึงใจนังแอร์แทบฟ่นไฟได้พาลนึกถึงบ้านอย่างช่วยไม่ได้ ป้าแกตบท้ายล้างปากด้วยการแถม "ลิ้นจี่ลอยแก้ว" มาเป็นของหวานให้แก่สาวแอร์ผู้หิวโหย ซึ้งน้ำใจคนไทย ณ ต่างแดนจริงๆค่ะ ก่อนจากกันได้ไหว้ลาป้าดาก่อนเจอกันอีกครั้งเมื่อชาติต้องการอาหาร พร้อมให้คำมั่นว่าคราวหลังจะชวนเพื่อนๆมาอุดหนุน สนนราคาข้าวกระเพราไก่มื้อนั้นรวมภาษีต่างๆ 42 ปอนด์ หรือร่วม 300 บาท ถ้าบอกราคาหญิงแม่ที่บ้านเดี๊ยนคงไม่แคล้วโดนด่า "อีก 2 วันก็กลับบ้านแล้ว ชูชกหรือไงเราน่ะทำเป็นอยากมาร่วมปีไปได้ กินให้น้อยๆหน่อย...@^%#$" อิ่มท้องมาทั้งวันก็สบายใจนั่งรถกลับที่พักไปนอนเอาแรง ตกดึกพอมีเรี่ยวแรงเดี๊ยนก็มีแผนต่อด้วยการไปดิ้นที่คลับเดิม เนื่องด้วยคืนนั้นเป็น Lady Night เครื่องดื่มทุกอย่างก่อนตี 1 ก็เลยฟรีหมดสำหรับผู้หญิงเท่านั้น ลาภปากจริงๆเช่นแผนที่วางไว้ งานนี้เลยได้แด๊นส์และดริ๊งค์ฟรีอย่างเมามันส์สำหรับเดี๊ยนและสาวแอร์อีกนาง แต่หนุ่มสจ๊วตที่หนีบไปด้วยก็ต้องจ่ายตามระเบียบ 100 ปอนด์เป็นค่าผ่านประตูและเป็นวงเงินดริ๊งค์ด้วย ไม่ดึกนักประมาณ ตี 2 ครึ่งพวกเราก็พากันกลับ อาจเพราะเป็นช่วงกลางอาทิตย์คนที่มาเที่ยวเลยไม่มากนัก บรรยากาศก็เลยไม่ครึกครื้นเท่าที่เคยเป็น แถมเดี๊ยนยังเริ่มเป็นที่รู้จักนักตั้งแต่เอ่ยปากชวนอีตา Mr.Egypt ไปแด๊นส์ในวันนั้นคงจำกันได้ พอมีคนมาทักก็เสหัวเราะไปตามเรื่อง อย่ามาจดจำวีรกรรมของช้าน ไม่ได้เป็นเด็กใครนะเฟ้ยเสียหายหมด ปล. คืนนั้นมีคนมาเสนอเลี้ยงดริ๊งค์หลังตี 1 ด้วย เหอะๆ เป็นหนุ่มอินเดียครึ่งอิตาเลี่ยน มาจากเท็กซัส (บอกสถานที่สุดท้ายนี่รู้สึกว่าดูดีขึ้นมาทันทีเชียว) อย่าเพิ่งงง พอเดี๊ยนบอกว่ามีแฟนแล้ว พ่อเปิดแนบเชียว ใสเจียจริงๆ ซดเหล้าฟรีต่อดีฝ่า เอิ๊กๆ เมื่อวานไปฉลองวันเกิดกับคู่ฮันนีมูน 2 ตายายที่เยาวราช ด้วยการซัดอาหารทะเลไปเต็มคราบ ปูไข่เผา 3 ตัวสะใจจริงๆให้ตายเถอะ
สุดที่รักโทรมาอวยพร 2 รอบ หวานมากๆดีใจจริงๆ แอบหาว่าเดี๊ยนกินกุ้งคนเดียว 2กิโลอีก วันนี้งดย่ะป๊าม๊ากลัวคอลเลสเตอรอลพุ่งกระฉูดเลยเป็นเมนูต้องห้ามไป ผู้ชายที่เป็นกำไรชีวิตก็โทรมาอวยพรจากห้องเทรนที่ไคโร จะเป็นใครนอกจากตาพี่อี๊ด "Want you to know,you're still in ma mind." เรียกรอยยิ้มและเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจเดี๊ยนได้อีกเป็นกระบุงโกย โดย: lady rabbit IP: 58.64.127.124 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:57:22 น.
เอาขวดเหล้ากลม มาวางตามรูปครับทาน้ำมันพืชบางๆบริเวณปากขวด
แล้วเอาเศษอาหารที่มีกลิ่นหอมๆ ใส่ไว้ก้นขวด (จากการทดลองน้ำตาลปิ๊บดีสุด) วางขวดเอียงประมาณ 70 องศา ให้ปากขวดแตะผนัง ตามซอกมืดๆในบ้าน ตื่นเช้ามาคุณจะได้แมลงสาปอยู่ในขวด (วันแรกๆจะได้เยอะมาก) ทำซ้ำเรื่อยๆ มันก็จะหมดไปเอง โดย: Yoawarat วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:14:32:39 น.
|
Uki no Kimono
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] อดีตสาวแอร์แดนทะเลทรายที่ผันตัวเองไปเป็น office lady และกลับไปเป็นนักเรียนไทยในต่างแดนเช่นเคย ขอแบ่งปันประสบการณ์การดำเนินชีวิตแบบชีพจรรองเท้าจากที่เคยผ่านมาทั้ง ๔ ทวีปให้เป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจนะคะ Friends Blog
Link
|
//milkynaka.diaryclub.com