Group Blog All Blog
|
วันเบลอๆของชีวิต ช่วงนี้จะว่าว่างมากก็ไม่เชิง ก็มีอันต้องวิ่งวุ่นทำเรื่อยย้ายที่เรียนให้ไอ้ตัวเล็กอีกแล้ว เวลาผ่านไปไม่กี่เดือน เจ้าจิ๋วจอมจุ้นก็ขอให้เดี๊ยนช่วยหาที่เรียนใหม่ให้ในเมืองจีน เพราะทนไม่ไหวอาหารในไทเปแพงเหลือเกิน ถึงจะสบายใจเหลือหลายเพราะเทคโนโลยีและความทันสมัยได้ใจ รวมถึงการ์ตูนโป๊ที่(เคย) เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตหาได้ง่ายกว่าหนังสือพิมพ์บนแผงหนังสือซะอีก แต่ก็กัดฟันขอไปกินอยู่อย่างสบายใจไม่ต้องทนกินแต่ฝรั่งลูกละ 10 NT. ( 12 บาท) ดีกว่า ก็ด้วยความที่กล้วยครึ่งหวี ราคาปาเข้าไปครึ่งร้อย อาหารสนนราคาจานละกว่าร้อยบาท ชีวิตนักเรียนไทยจนๆอย่างน้องเดี๊ยนก็คงทรมานน่าดู ย้ายไปเรียนที่ปักกิ่งคงใช้เงินได้อย่างสบายใจและคุ้มค่ากว่านี้ สมัยก่อนชีวิตเดี๊ยนก็ประมาณนี้แหละค่า แต่มีความสุขกว่านี้เพราะมีบอดี้การ์ดแมดอินเจแปนคอยส่งส่วย ชีวิตประจำวันคุณหนูเลยไม่ค่อยทุกข์ร้อนเท่าไหรจนกระทั่งเงินหมดนั่นแหละ สังเกตุว่าบริษัทเอเยนซี่ทั้งหลายที่ส่งนักเรียนไทยไปเรียนแถบเอเชียเริ่มโตขึ้นและเปิดกันเป็นดอกเห็ดเชียว เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้วยังไม่ฟู่ฟ่าขนาดนี้ วันนี้เดี๊ยนก็ได้เข้าไปสอดแนมกับเขาด้วย หูตาสัปปะรดอย่างเดี๊ยนก็ไปได้ยินคุณน้องหนูคนนึงกำลังคุยกับเจ้าหน้าที่ นัยว่าเจ้าหล่อนเพิ่งเรียนจบเลยอยากไปเรียนโทเอ็มบีเอต่อที่ปักกิ่ง มหาลัยที่มีชื่อเสียงทางด้านบริหารและเศรษฐศาสตร์ซะด้วย คำถามแต่ละคำล้วนบ่งบอกถึงวุฒิภาวะและระดับความรู้รอบตัวของเธอจริงๆ ฟังแล้วเหนื่อยใจแทนคนที่นั่งตอบคำถามและอธิบายวัฒนธรรมพื้นฐานของคนที่นั้นให้หล่อนฟัง แต่คำพูดที่สะกิดใจเจ๊ก็คือ พี่ที่ให้ข้อมูลพูดปลอบน้องเค้าว่า "น้องครับมันคงไม่เลวร้ายแบบไปอินเดียหรอกครับ" กรี๊ดดดดดดดดด เดี๊ยนคนนึงนี่แหละที่อยากเป็นนักเรียนนอกที่อินเดีย เลวร้ายตรงไหนมิทราบ พูดแล้วเสียกำลังใจจริงๆ ก่อนจะมองออกไปข้างหน้า จำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะมองซ้ายและมองขวาของตนเองซะก่อน โลกนี้ไม่ได้มีแค่เมืองไทย อเมริกา อังกฤษ แล้วก็ยุโรปนะคะ ถ้าคนไทยรวมถึงรัฐบาลไม่ดูถูกประเทศเพื่อนบ้าน เราคงไปได้ไกลกว่านี้ เดี๊ยนนั่งขำได้ไม่นานกับอาการตกใจของน้องหนูอินโนเซ็นต์กับเรื่องการใช้ห้องน้ำของคนจีน ความซกมก ความถี่ของการอาบน้ำ และอุปนิสัยอื่นๆที่เรารู้ๆกันอยู่ ก็พลางคิดว่า "จะไหวร้ออีนางเอ๊ย ย้ายไปเรียนอังกฤษยังทันนะ" และแล้วนังหนูก็โพล่งคำถามออกมาว่าถ้าทนไม่ไหวขอโอนไปเรียนที่อเมริกาได้ไหม .........โถชีวิตสปอยเกิรล์ วันเบลอๆนี่ทำให้เดี๊ยนเกือบแย่หลายเรื่องเลย เริ่มด้วยนั่งรถเป็นคุณนาย กว่าจะถึงที่โรงแรมซึ่งเป็นที่สิงสถิตของลูกเรือนังยิปต์ทั้งหลาย ก็เพิ่งนึกได้ว่า "ตายละหว่า ตูลืมผูกผ้าพันคอมา" ชิปหายแล้ว ตอนนั้นนี่นั่งไม่ติดเลย สำรองในกระเป๋าก็ไม่ได้ใส่ไว้ ตาลีตาเหลือกโทรไปจิกคุณนายแม่ให้เอามาให้ ทันทีที่ทราบข่าว คุณนายแม่เดี๊ยนก็ส่งสิงห์มอเตอร์ไซค์รับจ้างหน้าปากซอย เสื้อวินสีส้มแป๊ดดดดดบึ่งมาส่ง กว่าจะถึงที่เดี๊ยนก็หัวใจแทบวายเพราะเกือบได้เวลารถออกพอดี ว่าแล้วก็ล้วงเอาผ้าพันคอเจ้ากรรมที่วางเรียงจับกลีบสวยงามจากถุงพลาสติกใสที่ดูขยุกขยุยมารัดคอให้ดูเป็นังแอร์ไฮโซขึ้นมาหน่อย ดีนะยังไม่มีใครสังเกตุเห็น ไม่งั้นล่ะก็ ตายทั้งเป็นตลอดไฟล์ทั้งไปและกลับแหงแซะ ระหว่างไฟล์ก็ไม่เลวร้ายเท่าไรดอกค่า ทำถาดหกใส่ตักท่านผู้โดยรูปหล่อท่านหนึ่ง แต่โชคดียังเป็นของอีแอร์ เพราะอาหารไม่เปิดหกออกมา แต่ก็มีสติดีเลยรีบเปลี่ยนให้ใหม่ น้องซันนี่ก็ประมาณเดียวกับเดี๊ยน เดินหน้าตาตื่นมาบอกว่าทำไดเอ็ดโค้กพุ่งกระจายเต็มหัวเหน่งผู้โดยอียิปต์ พุ่งไกลไปถึงรองเท้าเพอเซอร์อีกต่างหาก โชคยังดีที่วันนั้นไม่ใช่ผู้โดยสารไทย ไม่อย่างนั้นชีวิตเดี๊ยนและหนูซันนี่คงจะหาไม่ ได้อืดคาถ้วยมาม่าท่านผู้โดยเหมือนแอร์เอเชียคนนั้นแน่เลย ล้อเล่นนะค๊า โรคจิตแบบนั้นขอให้เจอกับสจ๊วตเมนส์หมดกับแอร์ชะนีแก่หน้าบูดชาวยิปต์แล้วกันนะค๊า ตัวใครตัวมัน ก่อนหน้าไฟล์ที่แล้วเดี๊ยนโดนบิดหูเนื่องด้วย 1. อ่านหนังสือพิมพ์บนไฟล์ (เห็นอ่านกันทุกไฟล์ทำไมไม่ด่าบ้างล่ะ รึว่าผิดที่อ่านไทยรัฐไม่ใช่ นสพ.อาหรับ) 2. เล่นเกมส์กดบนมือถือ (ตาสจ๊วตข้างๆเล่นนำก่อนนะ) 3. เคี๊ยวหมากฝรั่ง (ก็เพิ่งตื่นตอนผลัดเวรอ่ะ ไม่ได้แปรงฟันนี่แล้วก็เคี้ยวในแกรี่นะ ไม่ได้ประเจิดประเจิ้อ) 4. เผลอหลับบนจั๊มซีส ที่อ่านมาเนี่ย ชีวิตคนนะคะ เป็นแอร์ลูกเมียน้อยนี่มันน่าน้อยยยยยยใจ ฮ่าๆๆ สนุกดีค่ะ มาเขียนต่อนะ
โดย: Rive Gauche วันที่: 23 พฤษภาคม 2549 เวลา:6:45:10 น.
|
Uki no Kimono
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] อดีตสาวแอร์แดนทะเลทรายที่ผันตัวเองไปเป็น office lady และกลับไปเป็นนักเรียนไทยในต่างแดนเช่นเคย ขอแบ่งปันประสบการณ์การดำเนินชีวิตแบบชีพจรรองเท้าจากที่เคยผ่านมาทั้ง ๔ ทวีปให้เป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจนะคะ Friends Blog
Link
|