Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
ผู้ชายสองคน...บนถนนสายรัก

ดึกดื่นของคืนปลายฤดูฝน ป้อนเดินระเรื่อยไปตามทางเดินคับแคบ ซึ่งทอดตัวไปสู่ห้องเช่าเล็กๆในชุมชนกลางเมืองแห่งหนึ่ง แม้จะนานนับปีแล้วที่เธอไม่ได้แวะเวียนมาที่นี่ แต่ทุกอย่างก็ยังดูคุ้นตา ผู้คนที่พักพิงอยู่สองข้างทางดับไฟเข้านอนกันหมดแล้ว มีเพียงเสียงหริ่งหรีดเรไรร้องประสานเป็นเพื่อนตลอดเส้นทาง หญิงสาวเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องที่เธอตั้งใจมาเยือน ยังมีแสงไฟวอมแวมเล็ดลอดออกมาจากด้านในเฉกเดียวกับเมื่อครั้งก่อนที่เธอมา เพราะชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของห้อง มักใช้ชีวิตในแบบที่สังคมมองว่าแปลกแยก เขาตื่นท่ามกลางความหลับใหล และใช้เวลายามค่ำคืนอยู่กับการวาดภาพและแต่งเพลง
“ป้อน... ผมไม่ได้ตาฝาดใช่มั้ยเนี่ย เข้ามาก่อน" ชายหนุ่มผิวสีน้ำนมสดในชุดผ้าขนหนูผืนเดียวออกมาเปิดประตูต้อนรับ แล้วขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อยู่ในชุดที่เรียบร้อยกว่านี้ เพราะคงไม่เหมาะที่จะต้อนรับแขกที่มาเยือนในยามวิกาลด้วยชุดนั้น ถึงแม้จะเป็นคนที่เคยคุ้นเคยกันมาก่อนก็ตาม
“ป้อนมารบกวนโอมรึเปล่าคะ? โอมกำลังจะออกไปไหนเหรอ?” ป้อนเอ่ยถามเมื่อโอมกลับมาทรุดนั่งลงตรงหน้าพร้อมจานขนมที่เขาพอจะมีติดห้องอยู่บ้าง เพราะเห็นว่าโอมเพิ่งอาบน้ำ สระผมเสร็จ ผมยาวเคลียไหล่ของเขาชื้นจัด ดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง
“ผมเพิ่งกลับเข้ามาน่ะ เดี๋ยวนี้ผมทำงานประจำแล้วนะ”
“เหรอ ทำอะไรคะ?” ป้อนถาม รู้สึกดีใจที่ได้รู้ว่าเขามีวิถีทางดำเนินชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น
“เล่นดนตรีอยู่ที่ผับของไอ้ป๊อดน่ะ มันลงขันกะเพื่อนมันเปิดผับเล็กๆได้สักพักแล้วล่ะ ผมก็เลยได้ไปเล่นดนตรีที่นั่น”
“ดีจัง พาป้อนไปบ้างสิ ป้อนอยากดูโอมเล่นดนตรีน่ะ พาป้อนไปนะ”
“แล้วคนรักของคุณจะไม่ว่าเอาเหรอ?” ถ้อยคำของโอมทำให้รอยยิ้มของป้อนเลือนหาย ใบหน้าอ่อนหวานนั้นดูเศร้าลงทันตา โอมเอื้อมมือมาบีบมือของป้อนเบาๆเป็นเชิงขอโทษ เขาน่าจะเอะใจสักนิดว่าทำไมจู่ๆป้อนถึงได้มาหาเขากลางดึกกลางดื่น ทั้งๆที่ไม่ได้ส่งข่าวคราวหากันเลยนับตั้งแต่วันที่เธอเลือกที่จะไปใช้ชีวิตกับคนแปลกหน้าที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอได้ไม่นาน และจนถึงป่านนี้โอมก็ยังหาเหตุผลให้กับตัวเองไม่ได้ว่าเขาทำอะไรผิดพลาดไป ป้อนจึงยอมทิ้งคนที่คอยดูแล คอยอาทร ใส่ใจกันมาหลายปีอย่างเขา แล้วไปกับคนใหม่ที่เข้ามาหยิบยื่นความรักให้ป้อนได้เพียงไม่นาน ทั้งๆบางทีเขาคนนั้นอาจจะรักป้อนได้ไม่เท่าครึ่งหนึ่งของความรักที่โอมมีให้ป้อนด้วยซ้ำ
“มีอะไรหรือเปล่าป้อน? มีปัญหาอะไรเล่าให้ผมฟังได้นะ อย่างน้อยตอนนี้เราก็ยังเป็นเพื่อนกัน” โอมเหลือบมองที่กระเป๋าเดินทางใบย่อมที่ป้อนถือติดมือมาด้วย
“เปล่าหรอกค่ะ แค่ไม่เข้าใจกันกับนัทนิดหน่อยน่ะ พอดีคิดถึงเพื่อนเก่าๆด้วย ก็เลยลองเสี่ยงแวะมาหาโอมดูน่ะ” ป้อนฝืนยิ้มให้โอม ชายหนุ่มลุกไปหยิบบุหรี่มาจุดสูบ ความสนใจของป้อนจึงเปลี่ยนไปอยู่ที่มวนบุหรี่ในมือเขา
“โอมสูบบุหรี่ด้วยเหรอ? ตั้งแต่เมื่อไหร่? รู้มั้ยว่ามันไม่ดี”
“รู้สิว่ามันไม่ดี ป้อนบอกผมบ่อยๆตอนที่เรายังคบกัน ผมถึงสูบมันไงล่ะ สูบตั้งแต่ตอนที่ป้อนไปนั่นแหละ ...เป็นคนดีแล้วไม่มีใคร ก็เลยลองเป็นคนเลวดูซะบ้าง เผื่อจะมีคนรัก”
ป้อนรู้ดีว่าเขาตั้งใจประชดเธอ ป้อนรู้ว่าโอมเจ็บปวดมากแค่ไหนกับเรื่องที่เธอทิ้งเขาไปแต่งงานกับนัท คนที่เธอเลือกให้มาเติมส่วนที่ขาดหายไปในชีวิต ช่วงแรกๆป้อนได้รู้ข่าวของโอมจากเพื่อนๆว่าเขาเมามายไม่ได้สติ เอาแต่ดื่มเหล้าจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคนด้วยซ้ำไป เธอไม่ควรจะต่อว่เขา เพราะเธอเองนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุให้โอมเป็นแบบนี้
“อยู่ที่นี่สักพักก็ได้นะ สบายใจเมื่อไหร่ค่อยกลับก็ได้ ที่นี่พร้อมต้อนรับป้อนเสมอ เหมือนเมื่อก่อนนั่นแหละ”
... ... ... ...

โอมจูงมือป้อนเข้าไปในผับของป๊อด ยังหัวค่ำอยู่คนจึงยังไม่มากนัก พบป๊อดกำลังสาละวนอยู่กับการจัดนู่นจัดนี่ให้เข้าที่เข้าทางอยู่พอดี แต่เมื่อเห็นว่าคนที่โอมพาเข้ามาทักทายเป็นป้อน เพื่อนซี้ร่วมก๊วนสมัยเรียนซึ่งไม่ได้ติดต่อกันเนิ่นนาน ก็วางมือมากุลีกุจอต้อนรับ
“ป้อนมาที พลอยเดือดร้อนกันไปหมดเลย ทั้งโอม ทั้งป๊อด ป๊อดไปทำงานต่อเถอะ ป้อนนั่งคนเดียวได้” ป้อนเอ่ยอย่างเกรงใจที่ป๊อดต้องมานั่งเป็นเพื่อนเธอ เพราะโอมต้องแยกไปเตรียมตัวเล่นดนตรี
ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรแล้ว ว่าแต่ป้อนเถอะทำไมโผล่มานี่กับไอ้โอมได้ล่ะ?”
“ป้อนมาพักอยู่กับโอมได้สองสามวันแล้วล่ะ โอมเค้าทนป้อนรบเร้าไม่ไหว ก็เลยพามาน่ะ”
“อ้าว ทำไมมาพักอยู่กับไอ้โอมได้ล่ะ? แล้วยังงี้นัทแฟนเธอเค้าไม่ว่าอะไรเหรอ? เห็นทั้งหวงทั้งห่วงเธอเลยนี่นา”
ป้อนนิ่งไป เพราะไม่รู้ว่าจะบอกเล่าเรื่องของเธอยังไงดี ว่าเพราะความทั้งหวงทั้งห่วงของนัทนี่แหละ ที่ทำให้ป้อนอึดอัด แต่ป้อนก็รักเขาเกินกว่าจะตัดสินใจแยกทาง การที่เธอมาพักอยู่กับโอมครั้งนี้ ก็เป็นเพราะความบาดหมางครั้งใหญ่ ป้อนยื่นข้อเสนอให้เธอกับนัทแยกกันอยู่สักพัก เผื่อว่าอะไรมันจะดีขึ้นมาบ้าง ป้อนจึงได้มาอยู่ที่นี่เพียงแค่ชั่งเวลาหนึ่ง
“เดี๋ยวเรามานะ จะเอาอะไรก็สั่งเด็กได้เลย” ป๊อดลุกจากไป เพราะมีเด็กเข้ามาเรียกให้ไปดูหลังร้าน ป้อนถอนใจอย่างโล่งอกที่ไม่ต้องอธิบายอะไรให้ป๊อดฟัง
... ... ... ...



แดดบ่ายสาดส่องเข้ามาทางช่องหน้าต่าง โอมยังนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาที่โซฟามุมห้อง เขาแกล้งทำเป็นหลับ และหรี่ตามองดูป้อนที่กำลังจัดดอกไม้ใส่แจกันพลางฮัมเพลงอย่างมีความสุข โอมรู้ว่าเวลาที่ป้อนอยู่กับเขา ป้อนมีแต่ความสุขเสมอ ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะทำให้ป้อนเสียใจ แต่เมื่อป้อนไปอยู่กับนัท ป้อนดูไม่ค่อยมีความสุขนัก แต่ทำไมป้อนจึงเลือกที่จะเดินร่วมทางกับคนที่ทำให้เธอต้องร้องไห้อยู่เสมอก็ไม่รู้
“โอม ตื่นได้แล้ว ลุกมากินข้าวเร็ว” ป้อนจัดดอกไม้เสร็จก็มาฉุดแขนปลุกโอมให้ตื่น โอมฉกฉวยโอกาสคว้าร่างบางนั้นมากอด ป้อนเสียหลักล้มลงบนตัวโอม ใบหน้าเข้มๆของเขาลอยอยู่เกือบชิดหน้าของเธอ
“ผมยังไม่หิวเลย ป้อนล่ะหิวมั้ย?”
“ปล่อยป้อนนะคะ ป้อนมีคนของป้อนแล้วนะ เราไม่ควรทำแบบนี้” ป้อนพยายามผลักตัวเองให้หลุดจากอ้อมแขนของโอม
“แต่เราเคยทำแบบนี้”
“นั่นมันตอนนั้นนะโอม แต่ตอนนี้ป้อนแต่งงานแล้ว แล้วคนที่ป้อนแต่งงานด้วยก็ไม่ใช่โอม เข้าใจมั้ยคะโอม”หางเสียงตวัดสูงอย่างโกรธเคือง โอมคลายอ้อมกอดของเขาออก ลุกขึ้นไปคว้าบุหรี่มาจุดสูบ เงียบนิ่งอยู่เนิ่นนาน จนป้อนเองรู้สึกอึดอัด
“ป้อนไม่ได้โกรธโอมนะคะ แต่ป้อนอยากให้โอมเข้าใจสถานะระหว่างเราสองคนเท่านั้นเอง”ป้อนนั่งลงใกล้ๆเขา
“ป้อนรู้นะคะว่าโอมยังรู้สึกเหมือนเดิมกับป้อน แต่ระหว่างเรามันไม่เหมือนเดิมแล้ว ตอนนี้เราเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีต่อกันนะคะโอม”
“คุณมาหาผมทำไม?” โอมถามเสียงเรียบ ปาก้นบุหรี่ทิ้งทางช่องหน้าต่าง
“..........”
“คุณรู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไรกับความรู้สึกของผม? คุณใจร้าย”
“..........”
ป้อนยังคงมีเพียงการเงียบงันเป็นคำตอบ คำอธิบาย หรือข้อแก้ตัวให้กับโอม ชายหนุ่มจึงลุกเดินเลี่ยงไปเพราะรู้ว่าเปล่าประโยชน์ที่จะคาดคั้น รอคำตอบจากป้อน อาจจะยังมีสักหนทาง ที่เขาจะสามารถดึงป้อนให้กลับคืนมาเป็นป้อนที่สดใสอ่อนหวานคนเดิมของเพื่อนๆ และกลับมาเป็นคนของเขาเหมือนเก่า...

... ... ... ...

“มีอะไรรึเปล่าวะ? เห็นพักนี้แกเหม่อๆ เครียดๆยังไงชอบกล เรื่องของป้อนใช่มั้ยล่ะ? เล่าให้ฉันฟังบ้างก็ได้นะ ยังไงแกก็เพื่อนฉัน ฉันคงไม่เข้าข้างไอ้นัท อะไรนั่นหรอก” ป๊อดตัดสินใจนั่งคุยกับโอมให้เป็นเรื่องเป็นราวซะที หลังจากที่เขาเฝ้าสังเกตเห็นว่าหลายวันที่ป้อนมาที่นี่ ทำให้โอมดูเงียบขรึมไป คล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่างอยู่ตลอดเวลา และป๊อดก็รู้ดีว่าเหตุผลเดียวที่ทำให้โอมเป็นแบบนี้เพราะเขายังรักป้อนอยู่เต็มหัวใจ
“แกยังรักเค้าอยู่ใช่มั้ยล่ะ?”
“แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะวะ ในเมื่อเค้ากำลังจะกลับไปหาคนของเค้าแล้ว กลับไปเดินในทางที่เค้าเลือก การมาของเค้า ก็แค่เพียงการหลับฝันเท่านั้นเอง พอลืมตาตื่นก็ไม่หลงเหลืออะไรให้อาลัย” โอมยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวเกือบหมดแก้ว
“ป้อนบอกว่าจะกลับเมื่อไหร่?”
“เปล่า... เค้าไม่ได้บอกหรอก ฉันได้ยินเค้าคุยโทรศัพท์กับนัทเมื่อเช้านี้ เค้าสองคนแค่ตกลงแยกกันอยู่สักพักเท่านั้นเอง แล้วตอนนี้เค้าก็พร้อมจะกลับไปคืนดีกันแล้ว”
“ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมป้อนถึงได้เลือกนัท แทนที่จะเลือกแก จริงอยู่ที่ทั้งแกทั้งไอ้นัทรักป้อน แต่ป้อนเค้าดูไม่มีความสุขเลยตลอดเวลาที่อยู่กับนัท ไม่เหมือนเวลาที่อยู่กับแก ถ้าฉันเป็นป้อนฉันต้องเลือกแกแน่ๆว่ะ”
“มันไม่ได้สำคัญตรงที่ใครรักป้อนหรอก มันสำคัญตรงที่ป้อนเค้ารักใครต่างหาก นัทได้ในสิ่งที่ฉันเคยคิดว่าฉันได้ นั่นก็คือ... ความรักของป้อน เค้ากลับมาหาฉันทำไมวะ?” ประโยคหลังเบาโหวง ล่องลอย จนป๊อดพลอยรู้สึกใจหายไปด้วย
“บางทีเค้าอาจจะกลับมาเพื่อให้โอกาสแกก็ได้ว่ะ แกลองหาทางดึงเค้ากลับมาอีกสักครั้งสิวะ” ป๊อดตบไหล่เพื่อนเบาๆ
“พรุ่งนี้แกไม่ต้องมาเล่นดนตรีหรอก มีคนเค้ามาปิดร้านจัดปาร์ตี้ ฉันจะใช้เปิดแผ่นแทน”
ป๊อดตั้งใจหยิบยื่นวันว่างให้เพื่อน ให้โอมมีเวลาได้อยู่กับป้อนอย่างเต็มที่ ก่อนที่ป้อนจะกลับไปอยู่กับคนของเธอ และนี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวของโอมที่จะพยายามเหนี่ยวรั้งป้อนกลับคืนมา
... ... ... ...

ป้อนเอนกายลงนอนราบกับผืนทราย ชี้ชวนให้โอมมองดูดาวที่กระจัดกระจายอยู่เกลื่อนฟ้า ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม นิ่งเงียบ ป้อนยังชอบดูดาวเหมือนเมื่อก่อน ยังรักกลิ่นหอมของสายลมที่โบกโบยยามดึกดื่น แต่ตอนนี้ป้อนไม่ใช่ป้อนคนเดิมที่เคยนอนหนุนแขนเขายามมองดาวอีกแล้ว เธอเอนกายลงห่างจากเขาหลายกระเบียดนิ้ว
“ดีจังที่โอมได้หยุดงาน มีเวลาพาป้อนมาดูดาว นานแล้วนะที่ป้อนไม่ได้ทำแบบนี้ นัทน่ะไม่มีเวลาพาป้อนมาหรอก แล้วนัทเค้าก็ไม่ชอบด้วย”ป้อนเอ่ยถึงคนรักของเธออย่างลืมตัว
“แต่เค้าก็ทำให้ป้อนเลือกเค้าได้ ไม่ใช่เหรอ”
“..........”
แสงจากกองไฟที่ก่อไว้ ทำให้โอมเห็นว่าใบหน้าอ่อนหวานของป้อนหม่นเศร้าลง เมื่อสิ้นประโยคของเขา ป้อนรู้ดีว่าโอมรักเธอมากมายแค่ไหน และรู้ว่าตนเองทำให้เขาต้องเจ็บปวดแค่ไหน และมิหนำซ้ำยังมีหน้าย้อนกลับมาหาเขาในวันที่ต้องการใครสักคนเข้าอกเข้าใจ และพร้อมจะทำให้เธอสบายใจ
เหตุผลที่เธอเลือกใช้ชีวิตส่วนที่เหลือร่วมกับนัท นักธุรกิจหนุ่มที่พลัดเข้ามาในชีวิตเธอเมื่อเรียนจบ ไม่ใช่เพียงเพราะความพร้อมทางด้านฐานะที่มั่นคงเท่านั้น นัทยังเป็นคนที่คอยฉุดรั้งให้ป้อนอยู่บนโลกของความเป็นจริง ไม่ใช่มองทุกอย่างสวยงาม จมจ่อมอยู่กับฝันที่ไม่รู้จบเหมือนอย่างตอนที่อยู่กับโอม โอมมองโลกในแง่ดีเกินไป และเขาก็ไม่เคยฝันถึงอะไรที่เกินตัว จนดูเหมือนเขาแค่เพียงหายใจทิ้งไปวันๆ
“อย่าเงียบแบบนี้สิคะโอม” ป้อนเอ่ยขึ้นก่อน หลังจากที่ปล่อยให้มีเพียงเสียงลมหายใจดังประสานกับเสียงคลื่นและลมดึกอยู่หลายช่วงอึดใจ
“ป้อนกลับมาหาผมทำไม?” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ทั้งๆที่รู้ว่าเปล่าประโยชน์จะทวงคำตอบของคำถามข้อนี้ แต่เขาก็ยังอยากรู้ การจากไปของป้อนสอนให้เขารู้จักที่จะทำบางอย่างให้ดีขึ้น และยอมรับความเป็นจริงว่าเขาต้องตื่นจากโลกแห่งความฝันเสียบ้าง แต่เขาก็ตื่นจากความรู้สึกรักเธอไม่เคยได้สักที
“..........”
“ป้อนรู้ตัวมั้ยว่าทำอะไรกับความรู้สึกของผมบ้าง?”
“..........”ป้อนเป็นฝ่ายเงียบงันอีกครั้ง ชายหนุ่มลุกขึ้นใช้แขนทั้งคู่คร่อมร่างบอบบางนั้นไว้ ป้อนสบตาเขาอย่างสับสนเต็มที...
“พรุ่งนี้ป้อนจะกลับไปหาเค้าแล้วใช่มั้ย? ผมไม่อยากให้ป้อนไป ป้อนไม่ไปได้มั้ย?”ป้อนส่ายหน้า กำลังจะเอ่ยปฏิเสธคำขอร้องของเขา แต่ริมฝีปากของเขาก็ประกบลงบนริมฝีปากนุ่มของเธอซะก่อน ถ้อยคำถูกกลืนหายไปกับความอ่อนหวานนุ่มนวลที่โอมบรรจงสร้างขึ้น กองไฟที่ก่อไว้มอดลงใกล้ดับ เสียงคลื่นยังเห่กล่อมให้ทะเลมีมนต์เสน่ห์มิรู้คลาย

... ... ... ...

รถสปอร์ตสีขาวสะอาดตาเคลื่อนตัวออกจากถนนสายคับแคบ ซึ่งทอดตัวสู่ชุมชนเล็กๆกลางเมือง โอมยืนมองรถคันนั้นไกลออกไปจนลับตา ...รถคันนั้นจากไปพร้อมกับป้อน ในที่สุดโอมก็ต้องยอมรับว่าเขาไม่อาจได้ความรักจากป้อนเลยจริงๆ
ทั้งเขาและคนของป้อน มีความรักมากมายให้ป้อนเหมือนๆกัน แต่คนที่ป้อนเลือกให้ความรักกลับไม่ใช่คนที่เข้าใจเธอไปซะทุกอย่าง พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อแลกกับรอยยิ้มของป้อนอย่างเขา กลับเป็นใครอีกคนที่มีความมั่นคงให้ป้อน ป้อนคงทำถูกแล้ว... โอมบอกกับตัวเองอย่างนั้น ก่อนจะหันหลังเดินกลับสู่ห้องเช่าซอมซ่อในชุมชนเล็กๆของเขาอย่างลำพัง พลางฮัมบทเพลงแสนเศร้าปลอบตัวเอง

...ฉันมีเพียงหัวใจ กับมือเปล่า...

ให้เธอได้ไม่เท่า..เขา ซึ่งพร้อมกว่า

รักเธอเท่าๆกัน แต่ฉันมันแค่คนเดินถนนธรรมดา

เปล่าประโยชน์จะไขว่คว้าให้เธอมาทนทุกข์ด้วยกัน...
... ... ...
หมายเหตุ ตีพิมพ์ครั้งแรก นิตยสาร แอมไฟน์

codebase="//download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab
#version=6,0,29,0" width="210" height="147">



quality="high" pluginspage="//www.macromedia.com/go/getflashplayer"
type="application/x-shockwave-flash" bgcolor="#000000">




Create Date : 04 มกราคม 2551
Last Update : 4 มกราคม 2551 4:14:42 น. 8 comments
Counter : 400 Pageviews.

 
มาเจิม อีกแระ เฮ้อ .... ไม่หนุกอ่ะใบข้าว
ไม่มีคนแย่งพี่โมกเจิม
ซนล่ะซิ ทำบล๊อกพังอยู่เรื่อย
นอนหลับอุตุยังไม่ตื่นล่ะซิ
มาปลุกตื่นๆๆๆๆ
มาจิบกาแฟ ชาร้อนๆ กันใบข้าวจ๋า
ตื่นๆๆๆๆ
อยากได้เพลงรักหวานๆ อ่ะ แปะให้หน่อยซิ ถ้าจะกรุณา ขอบคุณ
มีเพลงนึง ไทยลูกกรุงเก่าๆ
ใบข้าวรู้จักมั้ย เนื้อร้อง.. ลมพัดใบไม้ระบัด อะไรซักอย่าง เป็นเพลงเกี่ยวกับความรัก ที่เกิด
เอ๊อ..เห็นใบข้าวเป็นพจนานุกรมแล้วววว
คิดถึงค่ะ ไปแระ


โดย: โมกสีเงิน วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:9:06:36 น.  

 
สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วอินค่ะ ไม่เม้นไม่ได้แล้ว
น่าสงสารคนที่ชื่อโอมนะค่ะ
แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของคนที่ชื่อปอนที่จะเลือกทางเดินของเขา

ความรักก็เป็นแบบนี้ ไม่มีเหตุผลนอกจากรัก หากไม่รักก็คือไม่รัก

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ


โดย: lukkongpoka วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:10:50:45 น.  

 


ใบข้าวชอบทรมานสายตาคนอ่าน พื้นสีฟ้ายังทำตัวหนังสือสีฟ้าอีก คราวที่แล้วพื้นสีดำ ตัวหนังสือดำทีนึงแระ มะไหวๆๆ ปวดตาอะ


โดย: tidds วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:12:14:36 น.  

 


อ๋า รูปไม่ขึ้น อีกทีซิ


โดย: tidds วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:12:21:50 น.  

 
เง้อ...อออ เจอคนรู้ทันอีกแล้ว ใบข้าวเป็นนกฮูกค่ะพี่โมก ตื่นหลังบ่ายสามโมงทุกวันเลย หุหุ
เพลงลูกกรุง ไม่สันทัดอะค่ะ แบบว่า โตมาก้อฟังโฟว์มดเลยอะค่ะ คิกๆ

คุณ lukkongpoka ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับคอมเม้นท์ ดีใจจังมีคนอ่านแล้วอิน อิอิ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรารักมากๆเลยค่ะ โอมคงดีใจนะคะที่มีคนเห็นใจเค้า (แล้วทำไมชีวิตโอมต้องรันทดขนาดนี้ คนเขียนก้อยังไม่เข้าใจค่ะ ว่าจะแกล้งโอมทำไม ^__^)

พี่ติ๊ด...ดดด ตัวหนังสืออะ มันจัดการตัวมันเองนะคะ นู๋ป่าวทำไรเลย มันคงอยากทำตัวให้กลมกลืนกะแบคกราวมากๆ เลยเปลี่ยนไปเรื่อยตามแบคกราว ปวดใจอีกแล้ว ฮือๆๆ

เอาน่า อย่างน้อย พายุซากุระหายไป ก้อทำให้เวียนหัวน้อยลง และเข้าบล็อกหนูได้ง่ายขึ้นแล้วมั้งคะ

(พยายามแบบสุดๆแล้วนะคะเนี่ย เฮ้อ...อออ ใบข้าวไม่ถูกกะเทคโนดลยีจริงๆเลย)


โดย: หนูใบข้าว วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:14:57:20 น.  

 
อยากได้รวมเล่มจัง
คงอ่านเพลินดีนะคัรบ


โดย: Commencer วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:16:00:37 น.  

 
อิอิ คุณ Commencer มีแต่รวมเล่มอย่างอื่นอะค่ะ เรื่องนี้ไม่มีคนรวมให้ เค้าบอกว่า "มันเศร้าเกินไป" แงๆ

อ้าก...กกก ดีใจจัง หนูใบข้าวได้ของขวัญจากพันทิปกะเค้าด้วย เป็นผ้าพันคอของเพื่อนใบข้าวเอง Girlly berry อะ คิกๆ ดีใจ ชะ เอิง เงิง เงย...ยยย


โดย: หนูใบข้าว วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:16:45:56 น.  

 
ก็เป็นเรื่องที่ดีนะ แต่นางเอกของเรื่องดูหลายใจนะ การใช้ภาษาก็สละสลวยดี
การเปิด การจบเรื่องก็ใช้คำที่น่าดึงดูดใจ


โดย: ธรรมรักษ์ IP: 203.172.154.195 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:56:31 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หนูใบข้าว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Copyright © 2007 - 2009 By Nanthanatcha

Friends' blogs
[Add หนูใบข้าว's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.