|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
คนอกหัก เพื่อนรัก และเกาะเสม็ด
แทนที่เราจะนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีเอกมัย แล้วนั่งรถไปลงที่บ้านเพแบบสบายสบายเหมือนอย่างคนอื่นเขา เรากลับชวนกันไปตั้งต้นนับหนึ่งของการเดินทางหนีออกจากจากกรุงเทพฯครั้งนี้ที่หมอชิตใหม่ ก็เลยต้องลำบากลำบนถ่อสังขารนั่งรถสองแถวจากสถานีขนส่งจังหวัดระยองไปลงที่บ้านเพเพื่อต่อเรืออีกทีหนึ่ง
เราสองคนยืนมองตากันอยู่ที่ท่าเรือแป๊บเดียวก็ตกลงปลงใจกันเชิดใส่เรือโดยสาร ที่ชาวบ้านชาวช่องเขาใช้สัญจรกันไปมา ลองนั่งเรือเร็วข้ามไปเกาะกะเขาดูสักหน อยากรู้นักว่ามันจะเป็นยังไง แล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ...ผู้หญิงสองคนจูงมือกันเดินโซซัดโซเซสู่เกาะเสม็ด ทั้งเมาเรือเมาคลื่น หูอื้อตาลาย รู้สึกเหมือนจะขาดใจตายซะให้ได้ ต้องนั่งตั้งหลักตากแดดแรงแรงของยามบ่ายอยู่ที่ชายหาดหลายนาที กว่าโลกที่เห็นตรงหน้าจะหยุดโคลงไปเคลงมา และระเบิดหัวเราะให้กับความบ้าบอคอแตกของตัวเองได้อย่างเต็มเสียงอีกครั้ง
จัดแจงหาที่พักเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีที่ทางให้ได้กินอิ่มนอนหลับกันตลอดทริปเรียบร้อยแล้ว ผู้หญิงอกหักก็ร่ำร้องจะไปนั่งรำลึกความหลัง ฝังความขมขื่นที่แหลมใหญ่ เพื่อเดินเลาะไต่ไปตามโขดหิน ยืนกางแขนยื่นหน้าสัมผัสกับสายลมเย็นสบาย โบกมือทักทายเรือประมงที่เห็นอยู่ลิบลิบกลางเวิ้งน้ำสีครามสดใส ดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่อ่าวพร้าวเช่นเดียวกับทุกทุกครั้งที่เคยมา เพียงแต่ทุกการเคลื่อนไหวในการมาทะเลครั้งนี้ตกอยู่ในสายตาอาทรห่วงใยของเพื่อนรัก แทนที่จะเป็นสายตาเอ็นดูของผู้ชายคนเดิม
พอลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ได้ปุ๊บ คนอกหักก็กระวีกระวาดทั้งลากทั้งบังคับให้เพื่อนออกไปเดินเล่นปั๊บ กระโดดโลดเต้นล้อเล่นกับแดดแรก กระโจนลงน้ำทะเล ระรานเกเรกับกองทรายและเปลือกหอยจนท้องร้อง จึงวิ่งแข่งกันกลับที่พักเพื่อกินอาหารทะเลสดสดอย่างบ้าคลั่ง แล้วค่อยนั่งคิดกันต่อว่าจะทำยังไงกับรอยเท้าก้าวต่อไปบนเกาะเสม็ด
เราตกลงกันว่าจะตระเวนถ่ายรูปให้ทั่วทั้งเกาะซะก่อนแล้วค่อยเดินทางกลับในตอนเย็น แต่คราวนี้เราไม่ได้มีแค่คนละสองเท้าให้ย่ำเหยียบบนพื้นทรายแล้ว แต่มีเพื่อนผู้โชคร้ายเป็นมอเตอร์ไซคล์กลางเก่ากลางใหม่หนึ่งคัน ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเกาะในบ่ายวันนั้นจึงได้ทั้งยิ้มทั้งขำกันถ้วนหน้า เพราะสารรูปทุลักทุเลของเราสองคนกับมอเตอร์ไซคล์ที่ขับขับหยุดหยุดไปตลอดทาง ไม่ได้แตกต่างจากคนเมาเหล้าที่กำลังเอาจริงเอาจังอยู่กับการเดินเลยแม้แต่น้อย คุณลุงร้านเช่าบอกว่ามอเตอร์ไซคล์เกียร์ออโต้แบบนี้ ขับขี่ได้ง่ายมาก แม้แต่คนที่ไม่เคยจับมอเตอร์ไซคล์มาก่อนก็สามารถขี่ไปไหนมาไหนได้อย่างสบายมือ แต่ไหง...พาหนะของเราสองคนมันถึงได้กลายเป็นภาระขนาดเบ้อเริ่มเทิ่มได้กันล่ะเนี่ย!
เราแทบจะไม่ได้ถ่ายรูปกันสักใบ แต่หัวเราะลั่นจนแทบขาดใจตายตลอดทั้งบ่าย หมดเรี่ยวแรงจนอยากจะคลานกลับกรุงเทพฯ จึงพร้อมใจกันกระโจนใส่เรือโดยสาร เลือกการเดินทางกลับกรุงเทพฯแบบธรรมดาที่สุดเท่าที่จะทำได้ การเดินทางหนนี้เราสองคนไม่ได้วิ่งวุ่นหาร้านอัดรูปสวยสวยกันเหมือนครั้งก่อนก่อน แต่ทุกภาพความทรงจำชื่อมิตรภาพจะกระจ่างชัดในความทรงจำไปแสนนาน เพราะเป็นภาพที่เพื่อนสองคนใช้หัวใจเก็บบันทึกเรื่องราวเหล่านั้นไว้ร่วมกัน
Create Date : 19 มีนาคม 2551 |
Last Update : 20 ธันวาคม 2551 21:11:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 411 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|