เชิญชมการแสดงนาฏศิลป์ร่วมสมัย " ไตรภูมิกถา "
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ค่ะ ขอเชิญชมนาฏศิลป์ร่วมสมัย เป็นการนำเสนอแง่มุมแห่งพระพุทธศาสนา การเวียนว่ายในสังสารวัฏ มุ่งหาทางหลุดพ้นจากการเผชิญภพภูมิต่าง ๆ โดยถ่ายทอดออกมาเป็นการแสดงพุทธลีลา ในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2551 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (หอประชุมเล็ก) เวลา 14.00 น. และ 19.00 น. (มี 2 รอบ) บัตรราคา 300 บาท รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้ ศูนย์รวมจิตใจบ้านดวงประทีปแห่งธรรม (สำนักปฏิบัติธรรมที่จขบ.ไปเป็นประจำค่ะ) ที่สำคัญท่านจะได้ฝึกปฏิบัติธรรมเจริญสติแนวมหาสติปัฏฐาน 4 ซึ่งแสดงธรรมโดย พระอาจารย์ธมมทีโป ด้วยค่ะ ท่านใดสนใจติดต่อ จขบ.ก็ได้นะคะ (หลังไมค์) หรือจะโอนเงินทางหมายเลขบัญชีที่ระบุไว้แล้วโทร.แจ้งตามหมายเลขที่ให้ไว้ก็ได้ค่ะ
ตัวอย่างบัตรเข้าชมค่ะ
ที่มา : //www.thammatipo.com/
หมายเหตุ ไตรภูมิกถา หรือ ไตรภูมิพระร่วง เป็นวรรณคดีทางพุทธศาสนาที่เก่าแก่และสำคัญเล่มหนึ่งของไทย มีอายุกว่า 600 ปี แต่งขึ้นโดยพญาลิไทย (พระมหาธรรมราชาที่ 1) พระมหากษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์พระร่วง เมื่อ พ.ศ. 1888
จุดมุ่งหมายสำคัญในไตรภูมิพระร่วงนี้ เพื่อให้คนเกรงกลัวต่อบาป ประกอบแต่กรรมดี โดยแบ่งออกเป็น 3 ภูมิใหญ่ คือ
กามภูมิ 11 รูปภูมิ 16 อรูปภูมิ 4 รวมเป็น 31 ภูมิ เรียกว่า ไตรภูมิ ผลบาปและผลบุญของผู้กระทำจะส่งให้ผู้นั้นไปเกิดในภูมิต่าง ๆ กัน
1. กามภูมิ (Sensuous Planes) กามภูมิ คือภูมิระดับล่าง มีทั้งสิ้น 11 ภูมิ แบ่งออกเป็น อบายภูมิหรือทุคติภูมิ 4 และ สุคติภูมิ 7
อบายภูมิ คือ ภูมิชั้นต่ำ มี 4 ชั้น เป็นภูมิของความชั่วช้าต่าง ๆ นรกภูมิ คือภูมิชั้นต่ำที่สุดในอบายภูมิ ที่ยังมีลึกซ้อนกันลงไปอีกถึง 8 ชั้น มหาอเวจีนรก คือชั้นนรกที่ต่ำที่สุด ผู้ที่กระทำบาปอันเป็น อนันตริยกรรม 5 คือ ฆ่ามารดา ฆ่าบิดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงพระโลหิตห้อขึ้นไป ทำลายหรือยุยงสงฆ์ให้แตกแยกกัน จะไปเกิดในขุมนรกชั้นนี้ ถัดขึ้นมาคือ เดรัจฉานภูมิ เปรตภูมิ และอสุรกายภูมิ ตามลำดับ
สุคติภูมิิ คือ ภูมิชั้นสูงขึ้นมา ได้แก่ภูมิของมนุษย์และภูมิของเทวดาอีก 6 ชั้น (ภูมิเทวดาทั้ง 6 รวมเรียกว่า ฉกามาพจร) ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในกามภูมิ คือยังหลงมัวเมาอยู่ในกามกิเลส 2. รูปภูมิ (Form Planes)
ภูมิระดับกลาง เป็นรูปพรหม มี 16 ชั้น แบ่งออกเป็น ปฐมฌานภูมิ 3 ทุติยฌานภูมิ 3 ตติยฌานภูมิ 3 และจตุตฌานภูมิ 7 อยู่เหนือสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดีภูมิขึ้นไปนับประมาณไม่ได้ ผู้ที่จะมาเกิดในพรหมโลกนี้ ต้องเจริญสมาธิภาวนา เจริญกรรมฐาน เพื่อบำบัด ปัญจนิวรณ์ คือ กามฉันทะ ความพอใจในกาม พยาบาท ความคิดร้ายเคืองแค้นใจ ถีนมิทธะ ความหดหู่เซื่องซึม อุทธัจจกุกกุจจะ ความกระวนกระวาย วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย 3. อรูปภูมิ (Formless Planes)
ภูมิระดับสูง มี 4 ชั้น อยู่สูงสุดขอบกำแพงจักรวาล เหล่าพรหมในชั้นนี้ไม่มีตัวตน มีเพียงแต่จิต ผู้ที่จะมาเกิดในภูมินี้ต้องเจริญภาวนาฌาน พิจารณาขันธ์ห้าจนเข้าถึงอรูปฌาน คือไม่ยินดีในร่างกายตน ปรารถนาที่จะไม่มีตัวตน จะได้มาเกิดใน อากาสานัญจายตนภูมิ (Realm of infinite space) คือ ภพของผู้เข้าถึงฌานอันกำหนดอากาศเป็นช่องว่างหาที่สุดมิได้เป็นอารมณ์ มีอายุยืน 20,000 มหากัลป์
แล้วกำหนดจิตให้สูงขึ้น ปรารถนาให้อยู่เหนืออากาศ จนได้เกิดใน วิญญาณัญจายตนภูมิ (Realm of infinite consciousness) คือภพของผู้กำหนดวิญญาน อันหาที่สุดมิได้เป็นอารมณ์ มีอายุยืน 40,000 มหากัลป์
เมื่อพิจารณาภาวนาฌานให้สูงขึ้น จนได้ฌานกำหนดอันกำหนดภาวะที่ ไม่มีอะไรเป็นอารมณ์ จึงได้เกิดใน อากิญจัญญายตนภูมิ (Realm of nothingness) มีอายุยืน 60,000 มหากัลป์ แต่ยังไม่พอใจใคร่จะได้ไปเกิดในพรหมชั้นสูงขึ้นไป
จนจิตเข้าถึงสภาวะมีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีก็ไม่ใช่ ถึงภูมิชั้นสูงสุดในไตรภูมิ คือ เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ (Real of neither perception nor non-perception) พรหมโลกชั้นนี้มีสมาบัติยิ่งกว่าพรหมทุกแห่ง สามารถเห็นชั้นฟ้า ชั้นดิน ชั้นอินทร์ และชั้นพรหม ดุจเห็นมะขามป้อมกลางฝ่ามือ มีจิตอันเป็น โสภณเจตจิต คือ สภาวะธรรมที่ดีงามเกิดดับพร้อมกับจิต มีอายุยืนถึง 84,000 มหากัลป์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่้ //buddhism.hum.ku.ac.th/topics/trai_bhumi.htm
Create Date : 22 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 24 สิงหาคม 2551 17:58:36 น. |
|
99 comments
|
Counter : 1077 Pageviews. |
|
|
|
เจิม เจิม
เจิม เจิม เจิม
สาฝน ยามค่ำคืน
เย็นฉ่ำชื่นถึงฤทัย
นภามิสดใส
ด้วยเมฆหม่นนั้นบดบัง
คืนนี้คงไร้ดาว
ส่งแสงเย้าให้ผิดหวัง
ฝนหลั่ง ฟ้าร้องดัง
เหมือนฝนสั่ง ลาฟ้าไป/....
ราตรีสวัสดิ์จ้ะฝันดีนะจีะ