*** ความสุขเล็ก ๆ ของ ๆ คนหนึ่ง ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหม ว่ามันจะเป็นเพียงแค่การได้อยู่ ได้มอง ได้เห็น และสัมผัส สิ่งมีชีิวิตเล็ก ๆ ที่เรียกว่าลูก เติบโต ตามวัย คืน และวัน โดยไม่จำเป็นต้องมีสิ่งประกอบใดอีก ***
ก็ว่าจะไม่รัก..(love me my dog story) ตอนที่ 6 ดีกว่าที่คิดไว้่เยอะ


“เมื่อยมากกก”

กลับถึงที่พัก ชายหนุ่มก็พุ่งตัวนอนบนโซฟา ทันใดเจ้าขนปุยก็วิ่งขึ้นคลอเคลียทันที

“ไม่เอาน่าจักกะจี้”

เขาผลักไสหากว่าไม่จริงจังนัก เดชานั่งลงอย่างครุ่นคิด

อะไรบางอย่างในตัว รเมศเปลี่ยนไป ตั้งแต่เจอหน้าผู้หญิงคนนั้น ดูเป็นสุภาพบุรุษมากทำได้ทุกอย่างอย่างเหลือเชื่อ ความเรื่องมากที่เขาเคยเจอหายไป จนแทบไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายคนที่แบกกรงสุนัขอยู่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยคือคน ๆ เดียวกับคนตรงหน้าเขา

“พี่เดชามานวดให้หน่อยสิ”

ชายหนุ่มทำเสียงออดอ้อนให้เดชายอมลงมานวดแข้งขาให้เขา

“แล้วพรุ่งนี้จะไหวไหมนี่ จะไปท้าเขาทำไมก็ไม่รู้”
“ไหวสิ”

“ไม่ไหวก็ไม่ต้องไป เสียดายวันนี้ไม่ได้เอากล้องไปไม่คิดว่าจะมีงานเข้าเลย”

“ผมว่าไม่ต้องถ่ายรูปหรือทำข่าวก็ได้นะ”

“ทำไมละ”

“เราจะทำให้เขาเดือดร้อนหรือเปล่า”

เขาก็ยังหวั่นใจ กลัวความดังของเขาจะทำร้ายพวกหล่อนเข้า ทำเอาเดชาเงียบไป

“ปิดทองหลังพระเป็นด้วยเหรอเรา”

“ไว้เสร็จงานนี้ก่อนแล้วค่อยออกข่าวดีไหมรอให้มันเบา ๆ ซา ๆ ไปก่อน หรือพี่ว่าไง ผมว่าเราเองก็ทำอะไรสะดวกตั้งเยอะนะกับการเป็นคนที่ไม่มีใครสนใจ ผมชอบแบบนี้จัง”

นานเท่าไหร่แล้วละที่เขาไม่มีอิสระทำตามใจตัวเองแบบนี้นะ เขาคิดถึงมันเสียแล้วสิแม้ว่าการช่วยเหลือสัตว์ที่ผ่านมาจะหนักและเหนื่อยแต่เขาก็เต็มใจที่จะทำมากโดยเฉพาะเมื่อเห็บใบหน้าที่เปื้อนเหงื่อของฟางแก้วอยู่ใกล้ ๆ เขา

“ก็ดีเหมือนกัน เวลาไปทำแบบนั้นเกิดมีมีแฟนคลับ คนเยอะคงไม่สะดวกด้วยอีกอย่าง ให้รเมศไปอุ้มหมาเลอะ ๆ มันดูไม่ดีเลยนะเมศทำลงได้ยังไง”

เดชาพยักหน้าเห็นด้วย
“นั่นนะสิ”

เขาหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้แฮะ ว่าทำลงไปได้ยังไง ขนาดเมื่อก่อนขนปุย เขายังแทบไม่อยากแตะ แต่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับว่าขนของมัน นุ่มดีอุ่นดี ยิ่งเมื่อไปสัมผัสกับสุนัขยี่สิบเอ็ดตัววันนี้ทำให้เขารู้ว่าเขาจะไม่มีวันทำให้ขนปุยมีสภาพแบบนั้นแน่นอน

“แต่ผมก็ทำได้ดีกว่าที่พี่คิดเอาไว้ใช่ไหมละ”

เดชายิ้มก่อนจะสั่นศีรษะมองตาม ชายหนุ่มที่เดิมเข้าห้องนอนไป มีเจ้าขนปุยเดินตามไปเงียบ ๆ หน้าที่คนเป็นผู้ดูแลอย่างเขาควรจะทำอะไรละ ทำอาหารไว้รอสินะ

..ขอหลับสักงีบเถอะนะ..

ชายหนุ่มบอกตนเองก่อนจะล้มตัวลงหลับสนิทมีเจ้าขนปุยอยู่ข้าง ๆ หลายปีที่เป็นคนดั งนานแล้วที่เขาไม่ได้ออกแรงมากมายขนาดนี้ มันทำให้เหน็ดเหนื่อยและเพลียมาก

รเมศรู้สึกตัวอีกครั้งและพบว่ามันดึกมากแล้วหันมองนาฬิกา ห้าทุ่มกว่าแล้วเป็นการหลับที่ยาวนานสำหรับเขาเดินออกมานอกห้องรู้สึกหิว เปิดดูในตู้กับข้าวมีอาหารอยู่สองสามอย่างที่เดชาทำไว้ให้ และเขาสามารถเอาเข้าไปไมโครเวฟอุ่นทานได้เลย นึกอมยิ้ทมกับการดูแลเขาของเดชา คล้าย ๆ พี่ชายที่คอยดูแลน้องชาย บางครั้งขี้บ่นวุ่นวายเรื่องมาก บางครั้งก็ดีแสนดีและรู้ใจไปหมด

..ว่าแต่เดชาจะรู้ใจเขาหรือเปล่านะว่าทำไมเขายอมสละตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มนั้นได้..

เพียงคิดถึงกลุ่ม เขาก็หยุดชะงักกับการทานอาหารและเดินไปหยิบแท็ปแลตประจำกายของเขาอกมาเปิดและใช้ไปด้วยระหว่างการทานอาหาร

“เสียงจากวัดสวนแก้ว”

ตาของเขาไล่ตามตัวอักษรก่อนจะหยุดที่ไฟล์เสียงเล็ก ๆ ความยาวไม่กี่วินาที ที่ถูกโพสต์ลงบนหน้ากระดานของกลุ่มเอสโอเอส ทำให้รีบคลิกเปิดในทันที

“ขณะนี้เวลาสี่ทุ่มยี่สิบนาที ขณะนี้ระดับน้ำกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ในระดับอก ยังมีสุนัขเหลืออยู่ที่นี่อีกสี่ร้อยกว่าตัวที่เราไม่สามารถนำออกไปได้ เพราะมืดมาก ได้มีการตัดไฟ และรถจากปศุสัตว์ได้กลับไปแล้ว ความหวังในการขนย้ายสุนัขจากที่นี่ จำเป็นต้องสิ้นสุดลงแล้วคะ แต่..จะให้เราทำอย่างไรกับชีวิตที่เหลืออยู่ต่อไปพวกนี้ดีคะ”

เขาได้ยินเสียงสุนัขจำนวนมากส่งเสียงเห่าและร้องอยู่ในนั้นจนจบ

..ใจเขาหาย..แต่คงไม่เท่ากับน้ำเสียงปนสะอื้นเหมือนคนหมดหวังของหล่อนที่เขาจำได้ดี ความจริงกลับมาพร้อมกันเหนื่อยเท่ากันหล่อนควรจะพักผ่อนบ้าง แต่กลับออกไปช่วยเหลือสัตว์อีกแล้ว มือของเขาเลื่อนจอภาพลงไปเรื่อย ๆ จึงพบรายละเอียดขอความช่วยเหลือ จากหน้ากระดานเกี่ยวกับสุนัขจรจัดที่มาอาศัยวัดสวนแก้วเป็นแหล่งพักพิง ระดับน้ำกำลังท่วมสูงเรื่อย ๆ สุนัขบางตัวได้จมน้ำตายไปแล้วก็มี

หน้าจอได้มีการระดมขอความช่วยเหลือทั้งแรงคน รถและเรืออุปกรณ์ในการช่วยช่วยชีวิต เพื่อเข้าไปนำสัตว์ออกมา ไปไว้ยังที่แห้งให้ได้มากที่สุด
ชายหนุ่ม ผุดลุกขึ้นทันควัน เขาคงทนนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ได้อีกแน่นอน และเมื่อตัดสินใจที่จะไปเขาก็เหลือเวลาไม่มากนัก หาเสื้อผ้าที่ทะมัดทะแมงในการลุยน้ำ อุปกรณ์ที่คิดว่าจำเป็นและพอมี ไฟฉายและถุงมือ เขาไม่ลืมคว้าผ้าขนหนูอุ่นไปด้วย บางทีอาจจะมีใครบางคนที่เปียกน้ำรอคอยความอบอุ่นจากมันอยู่ก็ได้

ฟางแก้วนั่งกอดเข่าอยู่ร่วมกับจิตอาสาสองสามคนที่ยังไม่ท้อ แต่ดูความหวังจะหมดลงเรื่อย ๆ เพราะหลายคนล่าถอยและบอกว่าจะมาอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น สุนัขตื่นและตกใจกลัว ยากแก่การจับ มันยังมีที่สูงพอให้ได้อยู่แต่ไม่แน่ใจว่าคืนนี้น้ำจะถึงไหน เพราะระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

พวกหล่อนเองก็ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะกลับหรือจะอยู่ต่อ เพราะตอนนี้มีเพียงเรือที่ได้รับบริจาคมาเท่านั้น หมดกรง และอุปกรณ์อื่น ๆ แล้ว

“หิวข้าวจัง”

ใครคนหนึ่งร้องขึ้นพร้อมกับเสียงท้องของคนข้าง ๆ ดังขึ้น

ฟางแก้วเองก็เอามือลูบท้อง ตั้งแต่ข้าวกล่องนั้นหล่อนก็ไม่ได้ทานอะไรอีกเลยนอกจากน้ำเปล่า หล่อนเองก็หิวเหมือนกันแต่ต้องอดทนไว้

“ลุยน้ำออกไปตอนนี้ก็คงไม่มีใครขายที่ไหนก็น้ำท่วม หมดไม่น่าเชื่อว่าน้องน้ำจะทำความเสียหายได้ขนาดนี้ไปถึงไหนเดือดร้อนถึงนั่น”
ใครอีกคนบ่น อยากจะสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้นแต่ก็ไม่มีเสียงหัวเราะเพราะหัวเราะกันไม่ออกอีกแล้ว

“รถก็ไม่มี และคงไม่มีใครมาเพิ่มอีกแล้ว เราคงต้องค้างกันที่นี่แล้วละ”

“พี่ขอโทษด้วยนะที่พาทุกคนมาลำบาก”

ฟางแก้วเอ่ยอย่างสำนึกผิด จิตอาสากลุ่มนี้ไม่ได้รู้จักใครเป็นการส่วนตัวสักคนเพิ่งมารู้จักกันที่นี่เมื่อตอนบ่ายนี่เอง หล่อนเองให้ข้าวโอ๊ตขับรถมาส่งที่นี่และก็รีบกลับไปดูแลเจ้าหกตัว พร้อมทั้งแสตนด์บายหน้าเพจเผื่อมีใครมาขอความช่วยเหลือไม่ให้พลาดอีก

แต่ตอนนี้ทั้งแบตโทรศัพท์ก็หมดไปแล้วกับการระดมแชร์ขอความช่วยเหลือผ่านโทรศัพท์จากหล่อน และไม่สามารถติดต่อใครได้อีก จึงเชื่อว่าคงไม่มีใครมาเพิ่มอีกแล้ว

“พี่พี่ดูนั่นสิ”

เสียงใครบางคนเรียกหล่อนให้มองไปด้านนอก แสงไฟฉายจากใครบางคนที่ลุยน้ำในระดับอกเดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้า ๆ คนในกลุ่มส่องไฟกลับออกไปเป็นสัญญาณว่ามีคนอยู่ตรงนี้

จนกระทั่งใกล้เข้ามาและมาถึงหน้าตึกที่พวกหล่อนรวมกลุ่มกันอยู่หรือหน้าคอนโดสุนัขของที่นี่นั่นเอง

“กลับบ้านกันได้หรือยังครับ ผมมารับ”

เสียงอบอุ่นนั้นทำให้ฟางแก้วเบิกตากว้างหันมองคนตรงหน้าอีกครั้งแสงไฟฉายส่องหน้าจนเขาต้องเอามือปิดตาเพราะไม่อาจสู้แรงได้กระนั้นเสียงจิตอาสาคนหนึ่งก็อุทานขึ้น

“นั่นพี่เมศนี่หน่า ตัวเป็น ๆ มาได้ไงนี่”

“พี่ก็เป็นเลือดเอสโอเอสคนหนึ่งนะครับ ยังไงทันทีที่รู้ข่าวผมจะต้องมา ช่วยสุนัขกันมาพอแล้ว พี่มารับทุกคนกลับบ้านกันก่อนไปตั้งหลักพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ดีไหม อยู่ไปก็คงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว”

“แต่..”

ฟางแก้วลังเล นึกห่วงทุกตัวที่นี่เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ

“พวกมันจะต้องปลอดภัยครับ”

เขาให้กำลังใจแม้จะรู้ความความจริงมันเป็นไปได้น้อย ต้องมีบางตัวที่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมและจากไป เพราะที่แห้งสำหรับพวกมันนั้นเหลือน้อยเต็มที่แล้ว แต่เมื่อ ทำอะไรไม่ได้ และสู้จนถึงที่สุดแล้ว ก็ต้องจำยอม

“พรุ่งนี้เราต้องมาใหม่ หาอุปกรณ์และแรงเพิ่ม”

ฟางแก้วบอกทุกคน ซึ่งทุกคนต่างก็เห็นด้วยส่วนหนึ่งเกิดจากความหนาวเหน็บเพราะแช่น้ำมาหลายชม.และความหิวเนื่องจากไม่มีอะไรทานเลย

รถเก๋งคันเล็ก ๆ กับผู้โดยสารหกคนยัดเยียดกันอยู่ในนั้น รเมศมีขนมปังที่แวะซื้อจากร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. สองสามชิ้น แต่ก็พอที่จะให้ทุกคนได้บรรเทาความหิวได้บ้างแม้จะคนละเล็กจะน้อยก็ตาม

“เหมือนฝันแฮะฉันได้เบียดอยู่ในรถคันเดียวกับพี่เมศได้ใช้ผ้าขนหนูพี่เมศ แถมยังได้นั่งรถที่พี่เมศขับอีกด้วยอะเสียดายแบตโทรศัพท์หมดไม่งั้นได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานอวดเพื่อน ๆ ด้วย”

“ไม่มีแหละดีแล้วครับ”

ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับอมยิ้ม

“เก็บมันใส่ไว้ในกล่องความทรงจำเล็ก ๆ นะครับ”

“กรี้ดดด”

แค่คำพูดเล็ก ๆ ของเขาก็ทำเอาทุกคนกรี้ดลั่นรถซะแล้ว

ฟางแก้วสั่นศีรษะรู้สึกคันหูจี้ด ๆ กับเสียงกรี้ดราวกับอยู่ในคอนเสิร์ต ของเขา ไม่ว่าจะพูดอะไรออกมาแต่ละคำ ได้รับเสียงตอบรับดีเหลือเกิน
หญิงสาวค่อย ๆ หลับไปกับความอ่อนเพลีย โดยรเมศอาสาส่งทุกคนจนถึงบ้าน

จนกระทั่งส่งจิตอาสาคนสุดท้าย เขาหันมามองพบว่าหล่อนหลับไปแล้ว ผ้าขนหนูอุ่นที่ตั้งใจเอามาถูกห่อหุ้มตัวหลายคนจนเปียกไปหมด คงเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตที่พาดอยู่ด้านหลังเบาะของเขา ชายหนุ่ม เอามันคลุมร่างหล่อนลดความเย็นของเครื่องปรับอากาศลงและขับรถกลับบ้าน

จบตอน


(ตอนนี้หน้าหวีด ๆ บ้างนะเล็ก อิอิ )



ปล.
ละครเรื่องนี้แต่งขึ้นมาโดยมีเหตุการณ์ช่วงน้ำท่วมเป็นเหตการณ์หลักของเรื่องคะ
แต่การช่วยเหลือชีวิตน้องหมาแบบนี้ มีอยู่จริง กับหลาย ๆ กลุ่มจิตอาสา
(ที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ) ร่วมมือกันโดยไม่มีผลประโยชน์ใด ๆ เกิดขึ้นจริง
และ ทุกวันนี้ ก็ยังมีการระดมความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา
ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป


เจตนาในการเขียนเรื่องนี้นอกจากความบันเทิงแล้ว
ยังต้องการให้ผู้อ่านหันมองสัตว์เลี้ยงข้าง ๆ ตัวที่แสนน่ารักด้วยคะ



Create Date : 24 มกราคม 2555
Last Update : 24 มกราคม 2555 12:28:15 น. 3 comments
Counter : 500 Pageviews.

 
หวัดดี ค่ะ ตาม มาจาก เฟส
อ่านแล้ว ให้ความรู้สึกดี ๆ กับ น้องหมา เยอะเลย ..นิ.
ยังไงมันก็เป็นเพื่อนเราได้ ทุกเมื่อ..


โดย: tifun วันที่: 24 มกราคม 2555 เวลา:14:03:44 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ทักทายก่อน แล้วจะมาอ่านน๊าน้องเล็ก
อย่าเพิ่งน้อยใจน๊า


โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 25 มกราคม 2555 เวลา:9:29:12 น.  

 


สุขสันต์วันพุธค่ะสุดหล่อและแม่เล็ก

***สุขและทุกข์อยู่รอบตัวเรา อยู่ที่เราจะเลือกหยิบเลือกคว้าเอาอะไรไป***

รักษาสุขภาพ และมีความสุขกับวันดีๆทุกทุกวันนะคะ



โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 25 มกราคม 2555 เวลา:14:53:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปันฝัน
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ตัวเล็ก เป็นแม่ของอาเดียวคะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เป็นแม่ที่ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ แต่มีความตั้งใจ ที่จะเลี้ยงดูลูกชายคนเดียว ที่เกิดจากความรักของคนสองคน แม้ว่าหัวใจคนอีกคนจะสั้นนักก็ตาม

ลูกไม่ใช่ภาระ ลูกคือความสวยงาม เป็นสิ่งที่แสนดี ชีวิตเราในขณะนี้ ลูกคือทุกอย่าง

มาเอาใจช่วยแม่ตัวเล็กพาอาเดียวไปตลอดรอดฝั่งด้่วยนะคะ

เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ง่ายเลย ใครอย่ามาเลียนแบบนะ บอกเอาไว้ก่อน มันลำบากมากจริง ๆ โดยเฉพาะในวันที่ลูกป่วยและเราตัวคนเดียว


**ลูกโตขึ้นทุกวัน เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ทุกวัน กับโลกว้าง สู้ ๆ เค้านะูลูก

แม่ไม่หวังอะไรปมากกว่าการเห็นลูกเติบโตขึ้นมาเ็ป็นลูกที่น่ารักและเป็นคนดีของสังคม..**
แล็กกราวน์ กล่องเมนท์ กลุ่องเมนท์ กล่องเมนท์ เฟชบุ้ค Mommy's A Deaw

คลิกหาอาเดียวในเฟชบุ๊ค

หน้าอาเดียว

A DEAW

ตามไปกดไลท์ที่เพจของอาเดียวได้ครับ

เพจเอสโอเอส

SOS ANIMALS Thailand

รับปรึกษาและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยง/a>
New Comments
Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
24 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปันฝัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.