*** ความสุขเล็ก ๆ ของ ๆ คนหนึ่ง ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหม ว่ามันจะเป็นเพียงแค่การได้อยู่ ได้มอง ได้เห็น และสัมผัส สิ่งมีชีิวิตเล็ก ๆ ที่เรียกว่าลูก เติบโต ตามวัย คืน และวัน โดยไม่จำเป็นต้องมีสิ่งประกอบใดอีก ***

บันทึกย้อนหลังวันแรกเกิดของอาเดียว ว่าจะอัพตั้งแต่หกเดือนที่แล้วแล้ว

ก่อนคลอดสองวัน

วันที่ 30 มิถุนายน 2552 แม่ไปหาหมอกับพ่อ หมอบอกว่าจำเป็นต้องผ่าออกแล้ว เพราะออกเองก็คงไม่ไหว แม่จึงขอหมอผ่าวันที่ 2 กรกฏาคม ซึ่งเป็นวันพฤหัส หมอโอเค แม่จัดการเดินเรื่องเรื่องห้องพักพิเศษ และต้องเข้านอนโรงพยาบาลวันที่ 1 กรกฏาคม เวลา บ่ายโมงตรง กลัวมากจนไม่เป็นอันกินอันนอนเลยเก็บของจนพ่อถามว่าเอาไปทำไมนักหนาย้ายบ้านหรือไง เราจึงต้องเอาของออกเอาเฉพาะที่หมอเขียนให้เอาไป แต่ถึงเวลาจริง ๆ พ่อนะแหละต้องวิ่งมาเอาเอง สมน้ำหน้ามัน
พ่อตื่นเต้นปะ
ไม่
ถ้าวันนี้เจ็บก่อนก็ไปก่อนนะ
ไม่ได้แล้วละ
ทำไมละ
ลืมกุญแจรถไว้ในรถแล้วไปไม่ได้แล้ว
หา
(นี่นะไม่ตื่นเต้น เชื่อเขาเลย)
เดียวทำพ่อแม่ป่วนตั้งแต่ยังไม่ทันไปนอนโรงพยาบาลแนะ

ก่อนคลอดหนึ่งวัน

วันที่ 1 กรกฏาคม 2552
แม่ไปนอนโรงพยาบาลพร้อมพ่อ หมอบอกให้อดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน พ่อไม่ซื้ออะไรให้แม่กินตั้งแต่ไปถึงโรงพยาบาลต้องหากินเอง ใจร้ายชะมัดเลย อยู่กันสองคน แม่ก็ล้อพ่อเล่น ด้วยการเล่นเต้นแกว่งท้องโย้ให้พ่อดูด้วย ส่ายหน้าใหญ่เลยทนดูไม่ได้ “พรุ่งนี้ก็เล่นไม่ได้แล้ว”(วันต่อมาแม่ขยับไม่ได้พ่อก็เต้นโชว์เย้ยแม่บ้าง)
ตอนบ่ายหมอรมยามาอธิบายเรื่องการวางยา ตอนเย็นหมอมาโกนขนหน้าท้องให้ พอเช้าวันที่ 2 ตื่นตั้งแต่เช้ามืดแนะ หมอเข้ามาทีละคน เริ่มจากถามวัดไข้วัดความดัน จนกระทั่งเสียบสายฉี่ ทรมานมากเลยอะ จับนอนหงายขยับไม่ได้เจ็บปั่นป่วนอึดอัดไปหมดลูกก็ทำตัวแข็งเป้ก เกร็งอยู่ตลอดเวลาเหมือนรู้ว่าจะออกมาแล้ว ทรมานประมาณหกชั่วโมงตั้งแต่หกโมงเช้ายันเที่ยงวันนะ พ่อก็คอยบอกเวลาโกงไปบ้างเกินไปบ้างให้มันเร็ว ๆ แต่สำหรับเราแล้วแต่ละนาทีผ่านไปช้าเหลือเกิน ย่ากะปู่มา จากนั้นยายกับป้าหนึ่งก็มา ยายตั้กฝากส้มตำไก่ย่างมาด้วยมากินเย้ยกันอยู่คนมันกินไม่ได้ แต่มันทรมานจนไม่อยากจะทำอะไรเลยละ ได้แต่ทำเป็นอยากกินไปอย่างนั้นเองให้ตลกเล่นนะ แล้วเวลาแห่งการรอคอยก็มาถึง เที่ยงครึ่งหมอก็มารับแม่ไปหห้องผ่าตัดพ่อตามไปด้วยแต่เข้าไปไม่ได้ ได้ยินเสียงยายสั่งว่าให้อยู่หน้าห้องเฝ้าอยู่ตลอดห้ามไปไหน ทำตามที่สั่งหรือเปล่าก็ไม่รู้

12.30 ถึง15.30 วันที่ 2 กรกฏาคม 2552

เจ้าหน้าที่เข็นแม่ผ่านประตูห้องเข้ามาและปิดประตูภายในนั้นเปลี่ยนเตียงไปอีกเตียงหนึ่ง รออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงมีพยาบาลใจดีมาพลิกให้แม่นอนตะแคงได้ นั่นละค่อยยังชั่วหน่อย มีคนมาถามว่าชื่ออะไร หมออะไร พ่อของลูกนามสกุลอะไรทำป้ายข้อมือติดมือลูกด้วย จากนั้นก็ถูกเข็นเข้าไปห้องผ่าตัด ด้านในแล้วนะ รออีกนานเท่าไหร่ไม่รู้พยาบาลเรียกการผ่าตัดเคสแบบนี้ว่าซีซ่าส์ ตลอด จากนั้นแม่ก็ถูกย้ายไปอีกเตียงหนึ่ง หมอรมยาเข้ามาหาและบอกว่าตามที่ตกลงกันเอาไว้บล๊อกหลัง ท้องของแม่โตมาก แม่ต่อรองว่าขอฉีดยาแค่ครั้งเดียวหมอบกว่าอยู่ที่ความร่วมมือแน่นอนละให้ความร่วมมืออยู่แล้ว หมอคนหนึ่งกดหัวอีกคนกดเข่าดันกันเข้ามาเพราะท้องโตและลูกก็เกร็งตัวอยู่ตลอด เวลาการฉีดยาบล๊อกหลังผ่านไปด้วยดี
ม่านสีเขียวปิดกั้นระหว่างหน้าอกของแม่ด้านล่างไร้ความรู้สึกแขนข้างหนึ่งถูกรัดด้วยเครื่องวัดความดันอีกข้างเป็นการให้น้ำเกลือถูกรัดอยู่แล้ว นิ้วกลางถูกหนีบด้วยตัวหนีบวัดอ๊อกซิเจนในเลือดได้ยินเสียงเครื่องวัดความดันทำงานตลอดเวลาบีบบ้างคลายบ้าง (ตอนออกจากโรงพยาบาล เป็นรอช้ำหลายเดือนเลยละ) ผมถูกผ้าสีเขียวครอบเอาไว้ แล้วหมอก็เริ่มลงมือกรีเนื้อแม่ และบอกว่าถ้าเจ็บก็บอก แม่ร้องอืออาอยู่ตลอดเวลาก็มันมีความรู้สึกนี่หน่าหมอแตะตรงไหนทำอะไรอยู่รู้หมดเลยนะ ไม่รู้ว่าระหว่างเจ็บกับเสียวมันเป็นยังไงแยกไม่ออกแล้ว มันกลัวมาก จึงขอยานอนหลับ หมอฉีดยานอนหลับให้แม่ แล้วทุกอย่างก็ล่องลอยคว้างไปหมด นานเท่าไหร่ไม่รู้แต่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งหมอกำลังเย็บแผลอยู่ และได้ยินเสียงหมอพูดอยู่ตลอดเวลาตอนนั้นไม่มีลูกอยู่ในท้องแม่แล้ว หมอเห็นว่าแม่ตื่นแล้วจึงบอกว่า ลูกแข็งแรงดี เป็นผู้ชายถูกส่งไปตึกเด็กแล้ว ใจอยากจะบอกพ่อให้ไปดูลูกแต่ไม่รู้จะทำยังไง แม่ถูกพามายังห้องพักคนผ่าตัด มีเครื่องวัดการเต้นของหัวใจ อยู่ที่นั่นประมาณครึ่งชั่วโมงมีหมอมาฉีดยาแกปวดให้ทั้งๆ ที่ไม่รู้สึกอะไรเลยมันชาไปหมดทั้งตัว เจ้าหน้าที่เปลี่ยนเตียงและพาแม่ออกมาจากห้องผ่าตัดหลังจากนั้น

ออกจากตึกผ่าตัด

เจ้าหน้าที่เข็นแม่ออกจากห้องผ่าตัดเจ็บสะเทือนมากยาชาไม่ช่วยอะไรแม่เลยยาแก้ปวดที่เพิ่งฉีดไปก็ไม่มีความหมายอะไรเลย ก่อนขึ้นลิฟต์แม่ได้ยินเสียงไอ หันไปมองเห็นเสื้อแดง ๆ ของพ่อ (ถูกแม่ดุตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงพยาบาลห้ามใส่เสื้อดำแช่งกันมันถึงใส่แต่สีแดงกับสีส้ม)เดินขึ้นบันได ดีใจมากเลยละที่เห็นด้านหลังของพ่อนะเสียงไอแม่ก็จำได้แล้วนะ กลับมาที่ห้องพัก ยายและป้าหนึ่งรออยู่ที่นั่นมีเสียงแซวและอะไรอีกมากมาย ทันที ที่เห็นหน้าพ่อ แม่ก็บอกพ่อให้ไปดูลูก “เห็นหน้าลูกหรือยัง” “เห็นที่ไหนละ” “ก็เขาเอาออกไปตั้งนานแล้วอยู่ที่ตึกเล็กนะไปดูสิ” แล้วพ่อก็หายไปก่อนจะกลับมาพร้อมกับบอกว่า “ไม่รู้อยู่ไหนเดี๋ยวมาเองละ” สักประมาณครึ่งชั่วโมงหมอก็เข็นลูกเข้ามาข้อมือลูกติดป้ายนามสกุล รักษาศรีด้วยละ ไอ้หน้าย่น ผิวขาวแฮะหน้าแดงแป้ดเลย นอนนิ่งเลยตาปิดสนิทเพราะหมอป้ายยาเอาไว้ ทุกคนเข้าไปดูกันใหญ่แต่แม่มองหน้าไม่ชัดเลย พอเขาเลิกดูกันแล้วแม่ก็ชะเง้อมอง พ่อจึงเข็นลูกมาให้ดูชัด ๆ ไอ้หน้าเหรียญบาท เหมือนพ่อมันเลยไม่มีตรงไหนเหมือนแม่เลยอะ หมอหยิบผิดมาหรือเปล่านี่ แล้วหมอก็เข้ามาจับลูกมาดูดนมแม่ ดูดแฮะ ดูดเอาดูดเอาแต่ไม่มีน้ำนมหรอกนะ ต้องพยายามเป็นสิบวันเลยละกว่าน้ำนมจะไหล แม่เพิ่งรู้รสชาติมนตอนนี้เองว่าการให้นมลูกนะเจ็บขนาดไหน เจ็บเป็นแผลเลือดไหล แต่ก็หยุดไม่ได้ ต้องให้ลูกกิน ก้มจนปวดหลังไปหมดแต่ลูกก็ได้น้ำนมหยดแรกจากแม่จนได้
หน้าที่ของปะป๋าเดียว

ขณะที่แม่นอนนิ่งอยู่บนเตียงหมอห้ามขยับและถึงไม่ห้ามก็ขยับไม่ได้เพราะเจ็บมาก นอกจากวุ่นวายเรื่องลูกที่แม่ไม่คิดว่าพ่อจะเลี้ยงลูกเป็นแล้ว พ่อยังต้องดูแม่อีก เพราะอาการแม่ก็หนักมากเหมือนกัน แม่หน้ามืดและเป็นลมอยู่สองครั้ง ครั้งแรกหลังจากที่ถอดสายฉี่และหมอให้เข้าไปฉี่ในห้องน้ำเลือดไหลออกมาเต็มเลยละ หน้าร้อนไปหมด แล้วสติแม่ก็หายไปเลยได้ยินเสียงพ่อเรียกได้ยินเสียงหมอนั่นละถึงลืมตาได้ ครั้งที่สองก็เหมือนกันแต่ไม่ถึงกับหมดสติห้องน้ำกับแม่จึงเหมือนเป็นศัตรูกันเพราะเข้าไปทีไรเป็นลมทุกที เลยไม่เข้าดีกว่า พ่อป้อนนมด้วยแก้วให้ลูกทุกมื้อ แม่ยังไม่ได้อุ้มลูกเลยนะรู้หรือเปล่าคนที่อุ้มลูกคนแรกคือพ่อ อาบน้ำลูกครั้งแรกก็พ่อ พาไปฉีดยาก็พ่อ พ่อทุกอย่างแหละใครจะไปเชื่อ เมื่อก่อนไม่เห็นสนใจ เลยจนกระทั่งพยาบาลถามว่าลูกคนแรกใช่ไหมพ่อถึงได้สนใจแต่ลูกไม่สนใจแม่เลย ถูกต้องแล้วครับ ลูกที่ไม่ตั้งใจให้เกิดแต่ออกมาสมบูรณ์แข็งแรงมาก เหลือเชื่อ ผิวพรรณของลูกไม่มีไฝฝ้าหรือว่าปานเลยแม้แต่นิดเดียวสะอาดมาก เขาบอกว่าเป็นเด็กที่ตั้งใจมาเกิดเป็นลูกเรา นิ้วเท้ายาวเรียว นิ้วมือก็สวยแขนขาล่ำเป็นปล้อง ๆ และกินเก่งมาก ไม่น่าเชื่อว่าไอ้ตัวกลมนี้จะอยู่ในท้องแม่ได้เหลือเชื่อจริง ๆ พ่อเป็นคนซักผ้าอ้อม ผ้าฉี่ ผ้าอึให้ลูกเป็นคนแรก ด้วยนะครับ แล้วก็เรียกตัวเองว่าปะป๋า เรียกแม่ว่าแหม่แม้

เดียว เกิดวันที่ 2 กรกฏาคม 2552 วันพฤหัสบดี ค่ะ เป็นวันเกิดที่แม่เลือกให้เองเลยนะ เพราะหมอจำเป็นต้องผ่าตัดเอาลูกออกมาลูกแข็งแรงมาก น้ำหนัก 3,295กรัมแนะ

มันเป็นความทรงจำดี ๆ ระหว่างเราสามคนพ่อแม่ลูก ในวันที่ลูกลืมตาขึ้นมาดูโลก ถึงแม้ว่าบางทีเราอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว พ่ออาจจะลืมความทรงจำเหล่านี่ไปแล้ว แต่แม่ก็ยังจำ ยังบันทึกไว้ให้ลูกรู้ ว่าวันนั้น พ่อเขารักและใส่ใจพวกเรามากขนาดไหน ถึงยังไงอะไรจะเกิดก็ช่าง พ่อก็รักลูกสุดหัวใจ รัก ตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าลูกอยู่ในท้องและดูแล มาตลอด ทำตามที่หนังสือบอกเปะ คุยกับลูกทุกวัน เอามือลูบท้อง เปิดเพลงให้ฟังบ้าง ลูกกเกิดมาถึงได้กลายเป็นเด็กอารมณ์ดี เลี้ยงง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ จนขนาดมีคนพูดแนะว่า ไม่น่าเชื่อว่าแกจะเลี้ยงลูกรอด เพราะลูกมันรู้หรอว่าถ้าเลี้ยงยากไม่มีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้หรอก

มันเป็นความทรงจำที่แสนดีนะลูก




 

Create Date : 07 มกราคม 2553
3 comments
Last Update : 7 มกราคม 2553 20:00:05 น.
Counter : 495 Pageviews.

 

ปีใหม่ขอให้ครอบครัวมีความสุขด้วยนะคะ ขอให้มีแต่สิ่งดีเกิดขึ้นตลอดปีนี้นะคะ

 

โดย: winner1984 12 มกราคม 2553 16:57:54 น.  

 

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
สู้ๆ ต่อไปเช่นกันนะคะ

 

โดย: คีนู (NongNuDaddy ) 13 มกราคม 2553 13:27:04 น.  

 

มีความสุขบนความเจ็บปวด แต่ในฐานะที่เราเป็นแม่ก็ต้องอดทน เหมียวก็คงต้องท่องคำว่าอดทนไปอีกนานค่ะกว่าจะคลอด และอีกต่อไป

 

โดย: เหมียว (บ้านณัฐ.... ) 30 มิถุนายน 2553 10:47:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ปันฝัน
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ตัวเล็ก เป็นแม่ของอาเดียวคะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เป็นแม่ที่ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ แต่มีความตั้งใจ ที่จะเลี้ยงดูลูกชายคนเดียว ที่เกิดจากความรักของคนสองคน แม้ว่าหัวใจคนอีกคนจะสั้นนักก็ตาม

ลูกไม่ใช่ภาระ ลูกคือความสวยงาม เป็นสิ่งที่แสนดี ชีวิตเราในขณะนี้ ลูกคือทุกอย่าง

มาเอาใจช่วยแม่ตัวเล็กพาอาเดียวไปตลอดรอดฝั่งด้่วยนะคะ

เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ง่ายเลย ใครอย่ามาเลียนแบบนะ บอกเอาไว้ก่อน มันลำบากมากจริง ๆ โดยเฉพาะในวันที่ลูกป่วยและเราตัวคนเดียว


**ลูกโตขึ้นทุกวัน เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ทุกวัน กับโลกว้าง สู้ ๆ เค้านะูลูก

แม่ไม่หวังอะไรปมากกว่าการเห็นลูกเติบโตขึ้นมาเ็ป็นลูกที่น่ารักและเป็นคนดีของสังคม..**
แล็กกราวน์ กล่องเมนท์ กลุ่องเมนท์ กล่องเมนท์ เฟชบุ้ค Mommy's A Deaw

คลิกหาอาเดียวในเฟชบุ๊ค

หน้าอาเดียว

A DEAW

ตามไปกดไลท์ที่เพจของอาเดียวได้ครับ

เพจเอสโอเอส

SOS ANIMALS Thailand

รับปรึกษาและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยง/a>
New Comments
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
7 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปันฝัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.