Group Blog
 
 
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
26 เมษายน 2552
 
All Blogs
 

นางฟ้าหัวใจบิ๊กไซส์ 02



นางฟ้าหัวใจบิ๊กไซส์ 02
ผู้แต่ง ploy 666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)



คงมีไม่บ่อยครั้งในชีวิตนักที่คนเราจะถูกคนอ้วนเอาเปรียบ...

แต่จะโทษหล่อนได้ยังไงในเมื่อเขาดันคิดจะเอาเปรียบหล่อนก่อนด้วยการช่วงชิงรถแท็กซี่ที่หล่อนสู้อุตส่าห์ยกฝ่ามือน้ำหนักเกือบๆกิโลกรัมโบกมาอย่างยากเย็น

นี่ยังไม่รวมน้ำหนักไขมันหยุ่นๆที่สะสมอยู่ใต้ต้นแขนซึ่งกระเพื่อมไหวตอนยกขึ้นลงซึ่งเป็นส่วนต่อระหว่างข้อมือมาหาลำตัวหรอกนะ

ฟุ้งฟ้าคิดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง

...วันนี้ได้ขึ้นแท็กซี่ชมเมืองฟรีแฮะ...

กรุงเทพแปลกตาใต้เงาแดดที่ก่อเกิดระอุไอจากพื้นถนนทำให้ภาพภายนอกพร่ามัว ทว่าในรถกลับเย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ

ฟุ้งฟ้ายังคงอารมณ์ดีทั้งที่รถติดเป็นแพ นานๆหนจะเขยื้อนเคลื่อนตัวไปได้ทีละคืบ

“เปิดวิทยุหน่อยสิคะ อยากฟังเพลงจัง” หล่อนร้องขอร่าเริง

อีกเสียงกลับขัดขึ้นว่า “ผมต้องใช้สมาธิ”

คราวนี้ร่างที่อัดแน่นเต็มเบาะของฟุ้งฟ้าหันขวับทันทีอย่างเอาเรื่อง

แล้วปากที่กำลังจะง้างปล่อยคำเจ็บแสบสารพัดที่จะสรรหามาก็ชะงักค้าง เมื่อมองสบประสานกับนัยน์ตาสีดำเข้มใต้คิ้วหนาซึ่งจ้องมาก่อนแล้ว

เป็นครั้งแรกที่ฟุ้งฟ้าสนใจพินิจเก็บรายละเอียดภาพชายหนุ่มตรงหน้าเอาไว้อย่างว่องไว

คะเนอายุเขาไม่น่าจะเกินสามสิบ สวมเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าที่บัดนี้พับแขนเสื้อขึ้นไปอยู่ที่ศอก กางเกงสแลกซ์สีดำดูสุภาพและคงสามารถกลมกลืนไปกับใครต่อใครได้ง่ายดาย

ชายหนุ่มมีผิวสองสีค่อนข้างขาว รอบดวงตามีแววคล้ำเล็กน้อย อิดโรยเหมือนอดนอนมาหลายคืนติดต่อกัน ผมตัดสั้นเรียบร้อย

แต่ที่หล่อนชอบคือแนวคางเป็นเหลี่ยมรับกับสันคางยามริมฝีปากบางปิดสนิทนี่แหละ มันดูดีเมื่อจับรวมกับแววดุในสายตายามจ้องเขม็งมาดุจจะเตือนในทีว่าความอดทนของเขากำลังจะขาดผึงลงเพราะแขกไม่ได้รับเชิญอย่างฟุ้งฟ้าในไม่ช้านี้

แทนที่จะกลัวฟุ้งฟ้ากลับยิ้มรับหน้าชื่น

“คุณไม่ต้องใช้หรอกสมาธิอะไรนี่น่ะ ฉันว่าทางที่ดีคุณหาเวลาไปนอนหลับให้สนิทยังจะดีซะกว่าไล่ตามผู้หญิงที่เขาไม่ได้รักคุณเลยสักนิด”

วาจาค่อนแคะเป็นนัยๆนั้นทำให้เขาขมวดคิ้ว

“คุณพูดเรื่องอะไร”

“อ้าว! ก็ที่คุณสั่งแท็กซี่ไล่ตามรถสีน้ำเงินคันหน้านี่ไง ต่อให้เด็กๆก็เดาได้น่า...แฟนมีคนอื่นล่ะสิ ขอบตาคุณอย่างกับหมีแพนด้า ตกลงตามจับผิดเธอมากี่วันกี่คืนกันแล้ว”

“เธอไม่ใช่แฟนผม”

ฟุ้งฟ้าเดาเอาว่าอารมณ์กรุ่นๆที่แทรกมากับน้ำเสียงนั้นคงเป็นลักษณะการปกป้องตัวเองด้วยวิธีโกหกมากกว่าจะพูดเพราะนั่นคือความเป็นจริง

แหงล่ะ...ใครจะบ้าตามผู้หญิงคนหนึ่งเอาเป็นเอาตายโดยไม่มีความหมายลึกซึ้ง

หล่อนเห็นฉากนี้มาหลายหนแล้วในละครภาคบ่ายที่นั่งชิดติดจอ!

“อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะคุณ” หล่อนเอียงหน้าไปกระซิบทั้งที่ไม่จำเป็น “อันที่จริงคุณก็หน้าตาดีน้องๆพี่แบงค์ได้ ทำไมไม่ไปหาคนอื่นที่เธอเต็มใจจะอยู่กับคุณแทนล่ะ”

“ใครคือพี่แบงค์” เขาทำหน้างุนงง

สายตาที่ฟุ้งฟ้าใช้นั้นไม่ต่างจากตอนมองเห็นเอเลี่ยนบุกโลกแน่นอน

“พี่แบงค์...ศุภกร ดังออกจะตาย คุณไปอยู่หลังเขาไหนมากัน!”

หล่อนเอื้อมมืออีกข้างอ้อมด้านหน้าตัวเขาไปจิ้มกระแทกกระจกรถ ชี้ไปยังป้ายโฆษณามหึมาริมถนนอย่างอดฉุนไม่ได้

“โน่นไงพี่แบงค์”

เขามองตามก่อนทำสายตาดูแคลน

“ผมเกลียดนายคนนี้ ใช้ชีวิตไม่ค่อยมีประโยชน์ ถึงไม่สร้างบาปไว้แต่บุญก็ไม่ค่อยทำสักเท่าไหร่ ตายไปเมื่อไหร่แล้วจะเสียดายเวลาที่ไม่ทำประโยชน์ต่อโลกไว้บ้างเลย”

เท่านั้นเองราวกับเขาโยนระเบิดลงกลางวง ฟุ้งฟ้าอึ้งไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะส่งเสียงแหลมปรี๊ดทะลุสมองของทุกคนขึ้นว่า

“อย่า--บังอาจ--มาพูดถึงพี่แบงค์แบบนี้นะ!”

กำปั้นที่น้ำหนักไม่ต่างจากค้อนปอนด์ รัวกระหน่ำลงใส่เขาไม่ยั้ง

ฟุ้งฟ้าเรียกสิ่งนี้ว่ากำปั้นประกาศิตจากผู้บูชาความรัก

แต่ลืมไปว่าน้ำหนักกายที่หล่อนโถมลงไปด้วยนั้นมิใช่น้อยๆ ดีแต่ว่าคนปัดป้องเองก็แข็งแรงไม่เบาแม้จะโวยวายดิ้นรนอย่างขลุกขลักจนกลายเป็นภาพประหลาดตานักสำหรับคนขับรถแท็กซี่ที่เหลือบมองผ่านกระจกมองหลังอย่างสยองแทน และตัดสินใจที่จะทำไม่รู้ไม่เห็นด้วยการหันกลับไปมองยังถนนซึ่งมีรถคันอื่นๆติดเป็นแพอยู่

ถ้ามีผู้โดยสารตายอยู่หลังรถเห็นทีเขาคงแย่ไปด้วยแหงๆ

“เจ็บนะคุณ! ไม่เอาด้วยแล้ว วันนี้เจอแต่เรื่องบ้าๆ” ชายหนุ่มโวยวาย

ฟุ้งฟ้าเงื้อมือกะว่าจะซัดเป็นหนสุดท้าย แต่เมื่อปล่อยมือลงไปก็มีเพียงแสงเจิดจ้าจุดหนึ่งสว่างวูบจนตาพร่า จักษุรับภาพได้อีกทีร่างตรงหน้าก็หายวับทำให้กำปั้นหล่อนตกตุ้บลงไปกองกับเบาะที่ว่างเปล่าพร้อมกับความอัศจรรย์ที่กรูกันเข้ามาจนทำให้หล่อนสะท้านเยือก

...หรือทั้งหมดที่ผ่านมาหล่อนเพียงฝันไปกลางวันแสกๆ

กระทั่งเสียงถามดังจากคนขับนั่นแหละฟุ้งฟ้าจึงได้สติกลับคืน

“อ้าว อีกคนลงไปตอนไหนกัน ผมไม่ยักได้ยินเสียงเปิดหรือปิดประตู” เขาโล่งอก

แต่ฟุ้งฟ้ากำลังจะบ้าไปแล้ว...




“ภาพหลอนกับอารมณ์โมโหร้าย ลุงว่ามันอาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาลดความอ้วนที่ฟุ้งไม่เคยสังเกตตัวเองมาก่อนก็ได้นะ” นายแพทย์ยุทธภูมิมองอย่างห่วงใย

ฟุ้งฟ้ากลับมาอยู่ในห้องทำงานของผู้เป็นลุงอีกครั้ง

มือหล่อนที่วางประสานกันบนตักกำลังสั่นเนื่องจากสภาพจิตใจไม่ปกติ ซึ่งเป็นเรื่องดีเมื่อนึกว่าเมื่อครู่ใหญ่ๆที่ผ่านมานี้แทนที่จะให้แท็กซี่ไปส่งที่หมอชิตหล่อนกลับสั่งให้วกมาที่โรงพยาบาลอีกหน

“ฟุ้งไม่เคยลืมตัวขนาดทำร้ายใครมาก่อนนะคะลุงหมอ”

ความผิดปกติที่หล่อนไม่เคยสังเกตเห็นในตัวเองมาก่อน บางทีอารมณ์โมโหร้ายอาจซุกซ่อนมาเนิ่นนานและกำลังจะกระโจนออกมากัดกินอุปนิสัยใจคอเดิมที่หล่อนเคยมี

ส่วนเรื่องที่เห็นเขาหายวับไปนั้นฟุ้งฟ้าโยนไปสู่ภาพหลอน...อุปาทาน

บางทีอาจเป็นดังคำของคนขับแท็กซี่เข้าใจ ผู้ชายอีกคนที่นั่งมาด้วยกันเพียงแต่เปิดประตูอีกฝั่งได้สำเร็จและออกไปจากรถ จากสภาพรถที่ติดเวลานั้นทำให้ไม่เกิดอันตรายใดๆถ้าจะมีใครสักคนวิ่งข้ามถนนลับตาไป

ฟุ้งฟ้าเลือกที่จะ ‘เชื่อ’ ในสิ่งซึ่งอยู่บนความเป็นไปได้เสียมากกว่า แม้หล่อนจะยังคงจดจำภาพแสงเจิดจ้าที่จุดวาบขึ้นมาในพริบตานั้นได้แม่นยำก็ตามที

“ลุงว่าโชคดีแล้วล่ะที่ฟุ้งสังเกตอาการตัวเองแล้วก็ตั้งสติได้”

“ฟุ้งแค่คิดว่าน่าจะกลับมารายงานอาการให้ลุงหมอทราบก่อนถึงจะกลับบ้านค่ะ”

“ยังจะกลับไหวเหรอ”

“ไหวค่ะ...แค่กังวลนิดหน่อย คิดว่ารีบกลับน่าจะดีกว่าอยู่ที่นี่จนหารถกลับไปไม่ได้”

นายแพทย์ยุทธภูมิยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก่อนจะพยักหน้าเชิงเห็นด้วย ความเป็นห่วงที่กระจายอยู่ทำให้ไม่อาจเมินเฉยได้

“เดี๋ยวลุงไปลางานสักชั่วโมงจะขับรถไปส่งเราขึ้นรถทัวร์ก็แล้วกัน อย่างน้อยนั่งรถทัวร์ถึงบ้านรวดเดียวก็คงไม่มีปัญหาอะไร”

“ขอบคุณลุงหมอมากค่ะ” ฟุ้งฟ้าโล่งใจจนยิ้มออกมาในที่สุด

“รอข้างนอกขอลุงตรวจคนป่วยอีกสองรายเรียบร้อยก่อน คนป่วยเก่ามารับยาน่ะ...ไม่เสียเวลามากนักหรอกฟุ้ง”

ผู้เป็นหลานสาวไม่เกี่ยงงอน ยินยอมลุกเดินออกจากห้องไปแต่โดยดี

ฟุ้งฟ้าไม่ได้รอที่ส่วนรับแขกบริเวณหน้าห้องตรวจนั้น แต่หล่อนเลือกที่จะเดินออกมายังร้านหนังสือด้านหน้าโรงพยาบาลเพื่อค้นหานิตยสารเล่มโปรดประจำปักษ์

“แบงค์...ศุภกร ขึ้นปกนะคะเล่มนี้”

คนขายยิ้มพลางแนะนำนิตยสารที่เพิ่มตัวใหม่อีกเล่มซึ่งฟุ้งฟ้าไม่คุ้นตา เพียงภาพชายหนุ่มที่มองตอบมาจากปกนั้นก็ดูจะเพียงพอทำให้ใจฟุ้งฟ้าละลาย อดไม่ได้ต้องควักเงินเพิ่มเติม

“เอาปกนี้สองเล่มค่ะ”

“ซื้อฝากเพื่อนเหรอคะ” อีกฝ่ายถามอย่างเจตนาชวนสนทนาตามวิสัยแม่ค้ามากกว่าอื่นใด

ฟุ้งฟ้ากลับส่ายหน้าว่องไว

“เล่มนี้จะเอาไว้เปิดดูรูปข้างในค่ะ อีกเล่มเอาไว้เก็บสะสม”

“ได้ยินว่าวันนี้กองถ่ายละครมาตั้งที่ซอยสิบค่ะ เรื่องนี้แบงค์แสดงด้วยสิ”

“ซอยสิบไปทางไหนคะ” ฟุ้งฟ้าถามอย่างมีความหวัง

ไม่นานนักเส้นทางที่ได้รับการบอกกล่าวมาจากคนคุ้นสถานที่ทำให้ฟุ้งฟ้าขจัดความลังเลใจ

หล่อนโทรบอกนายแพทย์ยุทธภูมิว่าขอแวะไปดูกองถ่ายครู่หนึ่ง หากท่านว่างจากการตรวจลงมาก็โทรตามหล่อนอีกทีเพื่อกลับมาเจอกันที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล ผู้เป็นลุงไม่ได้ใสใจมากไปกว่าเตือนให้ระมัดระวังตัวทั่วไป




ฟุ้งฟ้าเดินไล่มองป้ายบอกซอยเป็นระยะๆจนพักใหญ่หล่อนจึงเห็นหมายเลขที่ต้องการ หญิงสาวไม่ลังเลที่จะเลี้ยวเข้าไปในซอยกว้างย่านแหล่งธุรกิจที่เต็มไปด้วยอาคารสูงแห่งนั้น

ไม่ต้องถามใครอีกฟุ้งฟ้าก็พอจะมองเห็นลักษณะของกลุ่มคนที่มุงอยู่ประปรายเป็นวงกว้าง เว้นพื้นที่ภายในให้แก่คนอีกชุดใหญ่ในเสื้อยืดสีดำสนิทสกรีนเสื้อเป็นชื่อนิยายที่หล่อนเคยอ่านจากนักเขียนดังท่านหนึ่ง เข้าใจได้ในฉับพลันว่านั่นคงเป็นชื่อละครที่กำลังถ่ายทำด้วยเช่นกัน

รถตู้หลายคันขนอุปกรณ์ประกอบฉากมาจอดเรียงริมทาง สายไฟหลายเส้นถูกลากโยงออกมาจากรถที่มีเครื่องสำรองไฟคันหนึ่ง ความวุ่นวายเกิดจากบรรดานักแสดงที่สาละวนเปลี่ยนเสื้อผ้าในร้านขายกระเป๋าใกล้เคียงซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ ยามใดที่พวกเขาผลุบออกมาโทรศัพท์ก็จะมีเสียงกรี๊ดเบาๆจากไทยมุงที่อยู่ห่างออกไปซึ่งถูกขวางไว้ด้วยเชือกผ้าสีแดงเส้นเล็กปิดถนนไว้เลนหนึ่ง

ฟุ้งฟ้าใช้ร่างมหึมาของตนให้เป็นประโยชน์ด้วยการเบียดกระแซะ ปนๆไปกับการแฝงกำลังภายในชนกระแทกสาวๆสองรายที่หันมาค้อนประหลับประเหลือกอย่างลืมตัว แต่ก็ยังกลัวหุ่นบิ๊กไซส์ของฟุ้งฟ้าที่ประกอบไปด้วยน้ำหนักเก้าสิบห้ากิโลกรัมจนไม่กล้าเอ่ยปากด่าทอออกมาตรงๆ

"พี่แบงค์มาหรือยังน่ะ” ใครอีกคนที่มาพร้อมดอกไม้ช่อโตถามขึ้นอย่างตื่นเต้น

ฟุ้งฟ้าเดาว่าแม่นี่คงเป็นแฟนคลับอีกรายของศุภกร

เสี้ยวใจเล็กๆในร่างอวบของหล่อนแอบเจ็บช้ำเมื่อนึกว่านัดเข้ากรุงเทพฯเพื่อตรวจร่างกายทำให้หล่อนพลาดการเข้าเว็บไซต์สำคัญของดาราหนุ่มจนตกหล่นข่าวสารสำคัญ ว่าวันนี้เขาจะมาถ่ายละครใกล้ๆโรงพยาบาลที่ตนอยู่ มิเช่นนั้นฟุ้งฟ้าเองก็คงมีของที่ระลึกชิ้นเล็กๆติดไม่ติดมือมายืนให้เขาไม่น้อยหน้าใคร

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฟุ้งฟ้ามาแอบดูเขาทำงาน

แต่ที่หล่อนใฝ่ฝันก็คือการเผชิญหน้ากัน ไม่ใช่แค่แอบมองไกลๆฝากของไว้กับคนอื่นแล้วก็ลอบหนีกลับบ้านไปปลาบปลื้มอิ่มใจตามลำพัง

...อีกไม่นานแล้วสินะ ฝันของเราก็จะเป็นจริง...

ฟุ้งฟ้ายิ้มเมื่อนึกถึงกำหนดดูดไขมันที่จะมาถึง หล่อนยอมเจ็บปวดกี่ครั้งก็ได้ของแค่ให้พี่แบงค์สนใจหล่อนก็พอ

เสียงกรี๊ดกระหึ่มในลำคอทำให้ฟุ้งฟ้ารู้สึกร่างกายสะท้านสะเทือนไปด้วยความฮึกเหิม ร่วมไปกับอีกหลายเสียงที่ปล่อยกรี๊ดสุดแรงลมปอด เมื่อร่างชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าโผล่ออกมาจากร้านซึ่งเป็นฉากถ่ายทำและหยุดยืนข้างประตู กางเกงยีนสีซีดๆเข้ากันดีกับเสื้อยืดลายฉวัดเฉวียนซึ่งกองถายจัดให้ใส่ตามบทบาท ผมซอยสไลด์ทิ้งไล่ลงมาระต้นคอ ผิวขาวยังไม่เท่ายิ้มละไมสดใสเปี่ยมเสน่ห์ที่เขาโปรยมาทางสาวๆแฟนคลับ ก่อนจะหันกลับไปยกโทรศัพท์ที่ถือออกมาด้วยขึ้นรับฟังอย่างตั้งอกตั้งใจและโต้ตอบแบบออมคำนานๆหน

พี่แบงค์ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ...ฟุ้งฟ้าคิดในใจอย่างชื่นชม

หล่อนอยากถลาโลดเข้าไปหาเขาหากไม่ติดว่าอาณาเขตตนเองสุดลงแค่เชือกเส้นบางๆนี่กั้นขวางเอาไว้

รอบกายมีแต่คนยกกล้องถ่ายรูปขึ้นบันทึกภาพวินาทีมหัศจรรย์ที่ได้เห็นดาราคนดังปรากฏกาย ฟุ้งฟ้าได้แต่เพียงมองตาละห้อย

ใครกันจะไม่อยากให้เทพบุตรในดวงใจมองเห็น

แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าเขาจะจำได้ว่าฟุ้งฟ้าเป็นเพียงยายอ้วนแฟนคลับตัวยักษ์...

หล่อนได้แต่ท่องคำว่าอดทนเอาไว้ในใจ สะกดกลั้นความอยากตะโกนโบกมือเรียกร้องความสนใจสักครั้งจากเขา

เท้าข้างหนึ่งพาหล่อนถอยออกมาจากวงล้อม เท้าอีกข้างถอยตามอย่างสามัคคีทั้งที่ค้านกับเสียงเรียกร้องในหัวใจ

“กระเต็นมาแน่ะ”

“ได้ยินว่าตอนนี้เกาะพี่แบงค์แจ”

“แม่นี่เขาเซียนย่ะ” อีกคนสุ้มเสียงหมั่นไส้ไม่น้อยไปกว่ากัน

“ได้ยินว่ากำลังปะเหลาะให้พี่แบงค์คุยกับโมเดลลิ่งของเขาจะให้รับเธอเข้าสังกัดด้วยเพราะอยากได้งานใหญ่ๆเชียวนะ ร้ายน่าดูชม”

ถ้อยคำซุบซิบพร้อมบุ้ยใบ้ไปทางเดียวกันทำให้ฟุ้งฟ้าชะงัก

รถยนต์คันสีแดงสดที่แล่นมาจอดต่อท้ายรถคันอื่นๆโดยเพิ่งเลี้ยวออกมาจากอีกซอยใกล้เคียงอย่างชำนาญทางเอาการ

เมื่อรถยนต์จอดสนิทดาราสาวสวยคุ้นหน้ากันดีตามสื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์หลากหลาย ดัดผมเป็นลอนใหญ่ๆทิ้งตัว สวมชุดเสื้อเปิดไหล่สีขาวแขนพองกับกระโปรงสั้นอวดขาสวย ไม่ได้เรียกเร้าความสนใจฟุ้งฟ้าได้เท่าที่ควรจะเป็น เพราะเคียงข้างนั้นดันปรากฏใครอีกคนที่เพิ่งลงจากรถคันเดียวเดินเคียงคู่กันมา เพียงแต่เขาไม่ได้อยู่ในเสื้อผ้าชุดน่าเบื่อเหมือนหนุ่มออฟฟิศอีกต่อไป ร่างสูงแลดูสง่าสวมสูทสีขาวล้วนโดดเด่นกลางแสงตะวันกล้า

หากเป็นละครเขาก็สามารถขโมยซีนไปได้แบบฉันพลัน!

นายคนนั้น...คนที่หายวับไปกับตาตอนหล่อนทุบเขาในรถแท็กซี่นี่นา...

ฟุ้งฟ้าอ้าปากค้างยกนิ้วอูมๆชี้ราวกับเห็นผีหลอกกลางวันแสกๆ

จังหวะเหมือนจะพ้องกันจนน่าประหลาดเพราะเขาหันกลับมามองประสานกับดวงตาหล่อนอย่างเจาะจง

นัยน์ตาเข้มคมฉายแววดุวะวับวาวเห็นแต่ไกล

‘เสียง’ ที่แว่วเข้ามาดังมาราวกับกระซิบอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน หากแต่ชัดเจนมากมายเกินกว่าจะขับไล่มันออกไปจากการรับรู้ของหล่อนได้อย่างที่ภาพหลอนควรจะเป็น

กลับเป็นถ้อยคำสบถมากมายและตบท้ายจับความได้ว่า

“คุณอีกแล้วฟุ้งฟ้า ให้ตายสิ...อยู่ห่างๆผมสักทีจะได้ไหมนะ!”










 

Create Date : 26 เมษายน 2552
5 comments
Last Update : 1 พฤษภาคม 2552 13:07:32 น.
Counter : 624 Pageviews.

 

หนุกๆๆๆ น่าสนุกจังเลย

 

โดย: Tukta21 26 เมษายน 2552 21:35:21 น.  

 

เข้ามารับแขกตอนตีสามนะมอลลี่
เดี๋ยวเขาไม่เชื่อว่าบล็อกนี้มักเขียนแต่นิยายแบบมีผี
เพราะเป็นพวกที่ไม่ค่อยยอมนอนกลางดึก
555+

 

โดย: ploy666 IP: 58.147.44.160 27 เมษายน 2552 3:01:30 น.  

 

ขอบคุณค่ะ สำหรับไปเยี่ยมบล็อค ว่าแต่พี่พลอยฝากข้อความหลังไมค์ให้ซ่าส์หรอคะ แล้วซ่าส์จะเข้าไปดูได้ยังไงคะ รบกวนพี่พลอยวานบอกค่ะ แหะๆ มือใหม่ค่ะ ...ขอบคุณค่ะ

 

โดย: lord_arsenal 27 เมษายน 2552 17:26:26 น.  

 

เด๋วไปบอกที่บล็อกจ้า ^ ^

 

โดย: ploy666 IP: 124.157.238.81 27 เมษายน 2552 18:13:44 น.  

 

ส่งเข้าไปแล้วค่า พี่พลอย น่าจะสำเร็จนะ อิอิ

 

โดย: ซ่าส์ (lord_arsenal ) 28 เมษายน 2552 8:09:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.