ดาวปาฏิหาริย์ : บทที่ 32
คุณสิตะ!!!คุณสิตะมา เทียนแก้วร้องขึ้นด้วยความยินดี ในเวลาเช่นนี้เธอจำความเกลียดชังไม่ได้แล้ว ไฟลุกลามรวดเร็วเพราะได้เชื้อเพลิงชั้นดีอย่างกองกระดาษที่วางเรียงเป็นตั้งกลุ่มควันพวยพุ่งร้อนระอุจนสำลัก หน้าต่างคือทางออกเดียว แต่บันไดที่เธอใช้ปีนขึ้นมาก็ถูกเธอเองนั่นแหละผลักทิ้งไปเสียแล้ว คุณสิตะช่วยด้วย เธอร้องเรียกพร้อมโบกมือ ก่อนหันมาทางดาวประกายที่ยืนหน้าซีดตัวสั่นอยู่ติดผนังดาวประกายเรียกคุณสิตะสิ ให้เขามาช่วยเรา ไม่..ไม่ฉันกลัว มันสูง... เวลาอย่างนี้เธอน่าจะกลัวโดนไฟคลอกตายมากกว่ามา!!!ว่าแล้วก็จับคนตัวบางให้ไปตรงหน้าต่าง คิดว่าถ้าสิตะเห็นเขาจะทำการช่วยเหลือได้เร็วขึ้น ดาวประกาย!!! เสียงร้องจากชายหนุ่มด้านล่างร้อนรนจนสัมผัสได้ขณะที่ดาวประกายตะโกนกลับทั้งที่ยังไม่ลืมตา คุณสิตะ...ช่วยฉันด้วย คุณสิตะมีบันได หยิบมาสิ เทียนแก้วชี้บอก ซึ่งคนด้านล่างก็คว้าบันไดลิงบนพื้นขึ้นมาพาดกับบานหน้าต่างเกือบจะในทันทีโดยมีอนณและเสกสาระที่ตามมาสมทบคอยช่วยเหลือ และเมื่อทางรอดถูกยื่นมาเรียบร้อยนักสืบสาวก็เตรียมจะปีนลงไปโดยไม่สนใจหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ คุณเทียน!!!แล้วฉันล่ะ ดาวประกายร้องด้วยความหวาดกลัว แต่เทียนแก้วก็ทำเหมือนไม่ได้ยินเธอพาดขาที่หน้าต่าง วินาทีนั้นเอง ที่โครงเหล็กของอาคารทนความร้อนไม่ไหว ยุบตัวพังลงมาใส่ร่างสูงโปร่งทรุดฮวบลงกับพื้นพร้อมซากหลังคาที่ถูกเพลิงเผา ดาวประกายกรีดร้องด้วยความตกใจเหมือนสัมปชัญญะทั้งหมดจะพังพาบลงไปพร้อมกับร่างที่อยู่ในกองเหล็กหญิงสาวหันซ้ายหันขวา ทำอะไรไม่ถูก ขณะที่เพลิงลุกโหมแรงขึ้น จนแทบหายใจไม่ออก ความหวาดกลัวทำให้หัวใจเธอเต้นแรงที่สุดในชีวิต ยังไงดีทำยังไงดี ฉันจะทำยังไงดี... ตั้งสติ ดาวประกาย ตั้งสติ!!!เสียงหนึ่งร้องเตือน ฉุดดาวประกายขึ้นมาจากความตระหนก เธอพยายามรวบรวมสติตามเสียงสั่งแม้จะยากลำบาก แต่เธอก็ไม่สามารถพึ่งใครได้นอกจากตัวเอง เมื่อควบคุมความหวาดหวั่นในใจได้สิ่งแรกที่สมองสั่งคือการช่วยเทียนแก้ว หญิงสาวมองหาเศษผ้าก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายของตัวเองที่ตกอยู่ ขึ้นมารองมือตอนยกแผ่นหลังคาเหล็กขึ้น คุณเทียน...คุณเทียน ดาวประกาย... ร่างที่นอนนิ่งครางเสียงแผ่วใบหน้าสวยคมบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด ไฟร้อนจากเหล็กแนบเข้าที่แขนซ้ายผิวหนังไหม้พองอย่างน่ากลัว คุณเทียนเป็นยังไงบ้าง หนี...ไป คุณลุกไหวไหม เดี๋ยวฉันช่วยพยุงนะเธอว่า แต่ก็ไม่รู้จะจับตรงไหน ร่างกายของเทียนแก้วดูเหมือนจะเต็มไปด้วยบาดแผล ในที่สุดดาวประกายก็ตัดสินใจยกแขนของอีกฝ่ายขึ้นพาดไหล่ด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของคนตัวเล็กอย่างเธอทำให้ยากเหลือเกินกว่าจะประคองร่างสูงให้ลุกขึ้นได้ เธอ...ไปสิ...หนีไป เทียนแก้วกระซิบทั้งที่เจ็บปวดดาวประกายไม่สน เธอพยุงอีกฝ่ายมาจนถึงหน้าต่าง คุณปีนลงไปไหวไหม ช่วยฉัน...ทำไม แล้วฉันจะทนเห็นคนตายต่อหน้าต่อตาได้ยังไงเอ้า เร็วสิ หนีลงไป ดาวประกายว่าขณะที่พยายามจับมือของอีกฝ่ายวางบนขอบหน้าต่าง เทียนแก้วมองหน้าคนที่เธอเคยคิดร้ายแต่กลับตั้งใจช่วยเหลือเธอน้ำตาไหลพรากออกมา ดาวประกาย...ขอบคุณ เธอพูดเสียงเบากับตัวเองขณะปีนถอยหลังลงบันได ไม่นานนักอนณก็คอยรับร่างที่อ่อนเปลี้ยของเธอไว้ แล้วเธอก็ไม่รับรู้สิ่งใดอีก สิตะมองหญิงสาวร่างสูงที่หมดสติในอ้อมแขนของบอดี้การ์ดหนุ่มก่อนจะเงยหน้ามองไปที่หน้าต่างอีกครั้ง ดาวประกายผลุบหายเข้าไปข้างในไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไวเท่าความคิด ชายหนุ่มตัดสินใจปีนบันไดขึ้นไปหาเสียเอง ชั้นบนเต็มไปด้วยกลุ่มควันแทบมองอะไรไม่เห็นเปลวเพลิงสีแดงรายล้อมร้อนระอุ เขารีบยกมือปิดปากและจมูก พร้อมกวาดตามองหาหญิงสาวที่เขาเป็นห่วงร่างบางนั่งไอโขลกอยู่บนพื้น ดาวประกายเขาโผเข้ากอดเธอไว้ด้วยความดีใจ ขณะที่เธอยังไอไม่หยุด คุณสิตะ...ฉัน...หายใจ...ไม่ออก น้ำเสียงขาดๆหายๆ ของเธอทำให้เขารีบอุ้มเธอไปที่หน้าต่าง แต่พอจะทำแบบเดียวกับที่เธอทำกับเทียนแก้วหญิงสาวกลับบีบแขนเขาแน่น ฉัน...กลัว แค่นั้นชายหนุ่มก็เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไรความสูงสองชั้นใช่ไหมที่ทำให้เธอไม่กล้าปีนลงไปเสียที ดาวประกายไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น มีฉันอยู่ ฉันจะไม่ให้เธอเป็นอะไร เธอตั้งสติไว้ฟังฉันนะ... ฉันจะปีนลงไปก่อน เธอปีนตาม ช้าๆ ไม่มีอะไรน่ากลัว จำไว้ฉันอยู่กับเธอเสมอ ไม่ต้องกลัว เขาให้คำมั่นหนักแน่น ก่อนก้าวนำลงไปดาวประกายรู้ว่าวางใจที่เขาได้ แต่เธอก็ยังหลับตาตอนก้าวตาม ช้าๆนะดาวประกาย ทีละก้าว อย่างนั้น เสียงของสิตะคอยบอกเป็นระยะ เธอทำตามอย่างว่าง่ายทีละก้าว ทีละก้าว ค่อยๆ ลงไป แต่เพราะมองอะไรไม่เห็นทำให้เธอก้าวพลาดในที่สุด กรี๊ด!!!หญิงสาวกรีดร้องตอนร่วงหล่น แต่สิตะก็ปล่อยมือจากบันไดแล้วคว้าร่างเธอไว้ พร้อมจะตกไปกับเธอดาวประกายหมดสติตั้งแต่ตัวยังไม่ถึงพื้น เลยไม่รู้ว่าไม่ใช่คอนกรีตแข็งกระด้างนั้นหรอกที่รอรับเธออยู่หากแต่เป็นอกกว้างของคนตัวใหญ่ที่เต็มใจเป็นเบาะนุ่มคอยป้องกันเธอไว้จากความเจ็บปวดทั้งปวดต่างหาก ดาวประกาย....เธอไม่เป็นอะไรแล้วนะ ไม่เป็นอะไรได้ยังไงไม่เป็นอะไรแล้วทำไมต้องเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย เสียงของหญิงวัยกลางคนร่างผอมบางดังขึ้นหน้าห้องไอซียูดวงหน้ารูปไข่ที่มีริ้วรอยแห่งวัยเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย เธอมาถึงกรุงเทพฯเมื่อตอนบ่าย เพราะได้ยินว่าลูกสาวไม่สบาย แต่ที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้ มันร้ายแรงเกินกว่าเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดนัก ยายดาวเป็นอะไรกันแน่อิ่ม บอกน้ามาสิ บอกน้ามาเดือนทอหันไปคาดคั้นกับหมื่นอาสา ขณะที่ปันปรีดา...มารดาของเขาก็ยืนอยู่ด้วยเช่นกัน เดือนใจเย็นๆ ก่อนนะ ฟังที่อิ่มอธิบายก่อนหญิงวัยกลางคนที่เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องแต่งกายหรูหราดูไม่ออกเลยว่ามีอาชีพเป็นชาวสวนพยายามปลอบ แต่มารดาของดาวประกายก็ยังส่ายหน้า ไม่ฉันร้อนใจจนทนไม่ไหวแล้วนะพี่ปัน ยายดาวเป็นอะไร ทำไมเข้าไปอยู่ในนั้นไม่มีใครบอกอะไรฉันเลยสักคน ดาวประกายตกมาจากบันไดตอนหนีไฟไหม้เธอหมดสติไปตั้งแต่ตอนนั้นครับ ใครคนหนึ่งที่ตอบไม่ใช่หมื่นอาสาหากแต่เป็นชายวัยเดียวกัน ตัวใหญ่พอกัน แต่ที่แขนข้างขวาถูกเข้าเฝือกไว้ คุณเป็นใครเดือนทอถามด้วยความแปลกใจ เธอรู้สึกคุ้นหน้าเขาเหมือนเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง แต่ก็จำไม่ได้ ผมชื่อสิตะเป็นคนที่อยู่กับดาวประกายตอนเกิดเรื่อง สิตะ!!!!ทวนคำแล้วก็ต้องชะงัก ก่อนจะเพิ่งมองหน้าอีกฝ่ายอีกครั้งอย่างพิจารณา อย่าบอกนะว่าสิตะ มหาคำสุวรรณ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สบตาอย่างไม่หวาดหวั่นก่อนตอบกลับด้วยเสียงมั่นคง ครับผมนี่แหละ สิตะ มหาคำสุวรรณ คนที่เคยขับรถชนสามีของคุณเสียชีวิตเมื่อ 8 ปีที่แล้ว --------------------------------- ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ใกล้จะจบแล้วค่ะ เอาใจช่วยกันด้วยนะ
Create Date : 01 พฤษภาคม 2556 |
|
2 comments |
Last Update : 1 พฤษภาคม 2556 0:06:41 น. |
Counter : 693 Pageviews. |
|
|
|