นามปากกา...ปลายสี

enterstep
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
5 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add enterstep's blog to your web]
Links
 

 

ดาวปาฏิหาริย์ : บทที่ 35

เพราะชีวิตต้องมีทั้งกลางวันและกลางคืน

หากวันใดที่มนุษย์หลงระเริงอยู่ในแสงสว่างของดวงตะวันมากเกินไป ธรรมชาติก็จะสร้างความมืดมิดแห่งราตรีกาลขึ้นมาเพื่อเตือนสติ เช่นเดียวกัน ในทุกๆ ครั้งที่ความมืดดำของคืนเดือนดับทำให้มองไม่เห็นทางข้างหน้า แสงสีทองของวันใหม่ก็จะรอคอยที่ตรงขอบฟ้า บอกให้รู้ว่าชีวิตมีโอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

และแม้ว่ามันจะไม่ใช่การเริ่มต้นที่สร้างความสุขให้ก็ตาม แต่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่กำลังก้าวไปยังห้องทำงานของบิดาก็เชื่อว่ามันคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว

เขาเคาะประตูแผ่วเบาก่อนผลักเข้าไป ทั้งที่เชื่อว่าการได้นอนเต็มอิ่มเพราะยานอนหลับ จะทำให้เขาพร้อมรับมือกับทุกปัญหา แต่เมื่อเห็นว่าชายวัยกลางคนนั่งเหม่อลอยอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน เขาก็อดรู้สึกเศร้าไม่ได้

“พ่อครับ”

คมน์เป็นคนแรกที่หันมา ก่อนที่เขาจะโค้งศีรษะเล็กน้อยเป็นการทักทาย และขอตัวไปรอข้างนอกกับอนณ ปล่อยให้ห้องทำงานมีแต่ความเงียบงัน เมื่อพ่อลูกที่ไม่ได้พูดกันมานานต้องอยู่ด้วยกันตามลำพัง

“ที่เคยคิดว่าทำเพื่อครอบครัว แต่สุดท้าย มันกลับทำร้ายทุกคนที่ฉันรัก” สาธิตปรารภออกมาด้วยเสียงเศร้า สายตาทอดมองออกไปข้างหน้าอย่างคนหมดหวัง

สิตะไม่รู้จะตอบพ่ออย่างไร เพราะครั้งหนึ่งเขาก็เคยโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของพ่อ เสียทั้งน้องชายและแม่ ต้องเลิกกับคนรัก มีชีวิตด้วยการผลักไสคนทั้งโลก.... แต่นั่นแหละ มันก็เป็นแค่ครั้งหนึ่งที่ผ่านมาแล้ว ชายหนุ่มไม่เห็นว่าควรพูดถึงมันอีก จึงเปลี่ยนเรื่อง  “พ่อรู้หรือเปล่าครับ ว่าเทียนแก้วเป็นลูกสาวของใคร”

“ฉันรู้...”

คำตอบของพ่อทำให้เขาแปลกใจ อีกฝ่ายจึงอธิบายทั้งที่ยังไม่หันกลับมามอง “ฉันรู้ว่าเทียนแก้วเป็นใคร แต่ฉันไม่รู้ว่าเธอมีเจตนาอะไร ฉันก็เลยอยากเก็บคนที่ฉันไม่ไว้ใจเอาไว้ใกล้ตัว เป็นอีกครั้ง ที่ฉันตัดสินใจผิดสินะ”

 “ตอนเด็กๆ ผู้ใหญ่หลายคนเคยสอนผมว่า คนเราทำผิดพลาดได้ สำคัญว่าจะรู้ตัวและสำนึกผิดหรือเปล่า... วันนี้ผมนัดทนายเอาไว้ พ่ออยากไปคุยด้วยกันหรือเปล่าครับ”

“แกจะยกทุกอย่างของแกให้มันจริงๆ เหรอ”

“ครับ เงินในบัญชีของผม ผมจะโอนเป็นชื่อพู่ตามที่ได้ตกลงกันไว้ พู่จะมีสิทธิ์ใช้ หลังจากที่เราแต่งงานกัน ส่วนเรื่องหุ้นของมหาคำ ผมจะเซ็นยกให้คุณลุงชัชวันนี้”

“แกไม่เสียดายหรือไง”

“ระหว่างเงินกับชีวิต ผมยังต้องลังเลอีกเหรอครับ” สิตะตอบกลับโดยไม่ต้องคิด ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ อย่างไรเขาก็ตั้งใจว่าจะมาคุยกับพ่อดีๆ ดังนั้นเขาก็ไม่ควรหงุดหงิด “มันยากที่จะวางหลังจากที่ถือมานาน แต่ยังไง เราก็เอามันไปไม่ได้อยู่ดี”

“แกปลงได้ แต่ฉันทำไม่ได้”

“ผมรู้ครับ” ชายหนุ่มตอบแผ่วเบา มีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่ได้ยิน ก่อนจะเอ่ยเรื่องใหม่ที่เตรียมไว้หลังไตร่ตรองมาทั้งคืน “พ่อเชื่อเรื่องวิญญาณหรือเปล่าครับ”

 คราวนี้สาธิตหันกลับมา มองหน้าลูกชายด้วยความแปลกใจ “ถามทำไม”

“ผมไม่เชื่อ แต่ผมกำลังคิดว่า บางทีธาอาจจะยังไม่ได้ไปเกิด”

“ทำไมแกคิดอย่างนั้น”

“หลายอย่างที่อาจทำให้ธายังเป็นห่วง ทั้งเรื่องของพ่อ เรื่องของผม และเรื่องของเรา ผมอยากทำบุญให้เขา”

“ฉันก็ทำบุญให้มัน และแม่ของมันแทบทุกอาทิตย์”

“พ่อทำเหรอครับ”

“ทำไม ไม่เชื่อว่าคนอย่างฉันจะทำหรือไง”

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงตอบว่าไม่เชื่อ แต่ตอนนี้เขาก็คิดได้ ความจริงแล้วพ่อก็คงรู้สึกแย่ไม่ต่างจากเขา ไม่สิ... บางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่เพราะอัตตาทำให้ไม่สามารถยอมรับได้ว่าตัวเองผิด เป็นครั้งแรกที่เขามองพ่อด้วยความสงสาร

“พ่อครับ... ผมรักพ่อนะครับ” อยู่ๆ เขาก็เอ่ยออกไป ทำให้พ่อชะงักเล็กน้อยเพราะไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้ “สิ่งที่พ่อทำเพื่อหวังจะให้ครอบครัวเราสบาย ผมขอบคุณมากนะครับ ผมเชื่อว่าตอนที่พ่อตัดสินใจ พ่อคิดดีแล้ว ตอนนี้ ผมก็ได้ตัดสินใจเรื่องสำคัญมากไปแล้วเหมือนกัน และผมก็คิดแล้วว่ามันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราทั้งหมด พ่อ...เอาใจช่วยผมด้วยนะครับ”

ชายหนุ่มเอ่ยเช่นนั้นก่อนยกมือไหว้... การทำความเคารพแสนง่ายและธรรมดาแต่ว่าเขาก็ไม่ได้ทำมานาน ซึ่งสาธิตก็มองอย่างประหลาดใจ แต่อึดใจต่อมา เขาก็ลุกขึ้นมา ก่อนสวมกอดลูกชายที่เหลือเพียงคนเดียวไว้แน่น ไม่มีถ้อยคำใด ลอดผ่านลำคอที่ตีบตันได้ แต่ความรู้สึกกลับทะลักทลายระหว่างชายต่างวัยทั้งสองคน

และนั่น... ทำให้ใครที่เฝ้ามองอยู่ยิ้มอย่างเปี่ยมสุข แค่นี้แหละที่เขาปรารถนาจะเห็น

พ่อ พี่สิ... ขอบคุณมากนะฮะที่ทำให้ผมหมดห่วงเสียที



ช่อชมพูมองดูบิดาที่กำลังรับประทานอาหารเช้าด้วยความสบายใจ ขณะที่หัวใจทั้งดวงของเธอหนักอึ้งจนแทบจะใช้ชีวิตต่อไปไม่ไหว

มีคำถาม คำพูด และคำขอร้องมากมาย แต่เธอก็ไม่รู้จะเอ่ยไปเพื่ออะไร อย่างไรพ่อก็คงไม่เปลี่ยนใจ

หลายครั้งที่เธออยากถาม ว่าพ่อรักเธอบ้างไหม เธอเป็นแค่เด็กเก็บมาเลี้ยงหรือเปล่า ทำไมพ่อถึงมองเธอไม่ต่างจากสินค้า หาผลประโยชน์จากเธอครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วความสุขของเธอล่ะ พ่อหลงลืมมันไปแล้วหรือเปล่าว่าเธอก็ต้องการความสุขเหมือนคนอื่นเขาเหมือนกัน

หญิงสาวร่างบางระหงได้แต่ก้มหน้าให้กับชามข้าวต้ม ขณะที่น้ำตาพาลจะรินไหล เมื่อคืนเธอก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้หลับ และไม่ต้องตื่นมาอีกเลย แต่ก็เป็นไปไม่ได้ นี่เธอจะต้องทำอย่างไรเธอถึงจะหายตัวไปจากตรงนี้เสียที

“คุณท่านคะ มีคนมาขอพบค่ะ” เสียงจากคนรับใช้ทำให้ชัชวาลหันไปมอง

“ใคร”

“คนที่มาหาคุณท่านเมื่อคืนค่ะ” ฝ่ายนั้นตอบ หัวคิ้วของชายวัยกลางคนจึงขมวดเข้าหากัน

“มีอะไรอีกวะ” เขาสบถ ก่อนลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร ช่อชมพูรีบลุกตาม ในห้องรับแขกชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำลังยืนรออยู่พร้อมอนณและผู้ชายอีกคน

“ผมพาทนายมาจัดการเรื่องของเรา” สิตะกล่าวโดยไม่ทักทาย สายตาคมกริบแน่วแน่และเด็ดเดี่ยวกว่าทุกครั้งที่เคยเห็น

“เออ เร็วทันใจดีนี่หว่า ฉันนึกว่าพวกแกจะผิดสัญญาอีก”

“ตามที่ได้ตกลงกัน หุ้นของมหาคำในส่วนของผม ผมจะยกให้คุณทั้งหมด ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ จะเป็นชื่อของพู่หลังจากที่เราแต่งงานกัน ผมให้ทนายร่างสัญญามาแล้ว”

“ไหน เอามาให้ฉันอ่านสิ”

สิตะหันไปพยักหน้ากับทนายส่วนตัว ฝ่ายนั้นหยิบเอกสารส่งให้เจ้าของบ้าน ชัชวาลอ่านไปเรื่อยๆ ด้วยสีหน้าพอใจ แต่ก็ต้องสะดุดเมื่อถึงบรรทัดสุดท้าย

“ไอ้ที่บอกว่าภายใต้เงื่อนไขหนึ่งข้อนี่มันอะไร แกคิดจะเล่นตุกติกอะไรกับฉัน”

“แค่หนึ่งข้อแม้ของผม”

“อะไร”

“ก่อนแต่งงาน ผมจะบวช”

“หา!!!” ชัชวาลทวนคำ ก่อนหัวเราะเสียงดังอย่างเห็นเป็นเรื่องขำ “บวชก่อนเบียดเหรอวะ เออ ก็ดีนะ แล้วจะบวชกี่วันล่ะ”

“หนึ่งปีครับ”

“หา!!!” คราวนี้เสียงอุทานดังกว่าเก่า ก่อนที่เขาจะเหล่มองอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้ใจ “นี่แกคิดจะเล่นแง่อะไร มีแผนอะไรอยู่ใช่ไหม”

“ไม่มีครับ ผมอยากบวช อย่างน้อยก็จะได้อุทิศบุญกุศลให้กับครอบครัวของเราทั้งสอง และถ้าผมแต่งงานตอนนี้ ใจผมอาจจะต่อต้านพู่ อยู่กันไป พู่ก็คงไม่มีความสุข ให้เวลาทั้งผมและพู่ ยังไงผมก็สัญญาแล้ว ทั้งคำพูด และเอกสาร ผมไม่คิดจะเบี้ยวหรอกครับ”

“แต่...”

“พู่อยากให้สิบวช” ช่อชมพูโพล่งขึ้นมาหลังเงียบฟังอยู่ตลอด คนเป็นพ่อเหลือบมองเล็กน้อย ก่อนทำหน้าครุ่นคิด เขาอ่านเอกสารในมืออีกครั้ง

“แล้วเรื่องหุ้นของมหาคำล่ะ”

“เป็นกรรมสิทธิ์ของคุณตั้งแต่วันนี้ ถ้าคุณยอมรับเงื่อนไข”

ชายวัยกลางคนถอนหายใจ ก่อนในที่สุดจะเอ่ยออกมา

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้”



“ตกลงว่าพี่เสือจะบวชจริงๆ เหรอคะ แล้วเรื่องแต่งงานล่ะ ก็ต้องรอเหรอ”

เสียงจากปลายสายเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ ทำให้อนณที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้านหน้าห้องทำงานของสิตะ ภายในทาวน์โฮมของอีกฝ่ายพยักหน้า

“ใช่ คุณพู่ต้องรอไปอีกหนึ่งปี ไม่สิ คงมากกว่า เพราะต้องรอให้คุณสิตะถอดเฝือกออกก่อน”

“โห นานขนาดนั้น รอไหวได้ไง”

“คุณพู่คงไม่รอ...” เขาตอบสั้นๆ ก่อนนึกถึงถ้อยคำที่ช่อชมพูแอบเอ่ยกับสิตะยามเดินมาส่งเขาที่รถ

‘ระหว่างนี้ พู่จะทำทุกทาง เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องแต่งงานกัน’

‘พู่ไม่อยากแต่งงานกับผมเหรอ’

‘ไม่มีผู้หญิงคนไหน อยากแต่งงานกับผู้ชายที่ถูกบังคับมาหรอก ตอนนี้พ่อสบายใจแล้วเรื่องหุ้น ก็คงไม่ยุ่งเรื่องของพู่เท่าไร พู่จะหาทางแก้ไขเท่าที่พู่ทำได้ สิไม่ต้องห่วงนะ’

‘พู่... ผมขอบคุณ และก็ ขอโทษนะ’

‘เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิ’ หญิงสาวร่างบางระหงเอ่ยแค่นั้นก่อนยิ้มให้ ประกายตาเต็มไปด้วยความหวังอีกครั้งหลังแห้งแล้งมานาน

“จะว่าไปแล้วคุณพู่ก็เท่ใช่ย่อยเลยนะเนี่ย... แล้วปลาดาวเป็นยังไงบ้าง พี่อ้นรู้ไหม”

“คุณสิตะไม่ได้กลับไปที่โรงพยาบาลเลย แต่คุณอิ่มบอกว่าเธออาการดีขึ้นมาก กลับบ้านได้แล้ว”

“เสียดายที่ฉันอยู่ที่นี่เลยไม่ได้ไปเยี่ยม พลาดอะไรไปตั้งหลายอย่างเลยนะเนี่ย ถ้าปลาดาวกลับบ้านแล้วเดี๋ยวฉันโทรไปหามันดีกว่า” จิลลาว่า ก่อนนึกบางอย่างขึ้นได้ “แล้วอย่างนี้พี่อ้นจะทำยังไงล่ะ ตามไปบวชกับพี่เสือด้วยหรือเปล่า”

“ไม่หรอกครับ คุณสิตะจะไปบวชที่วัดต่างจังหวัด เพราะต้องการความสงบอย่างแท้จริง บอดี้การ์ดอย่างผมก็คงไม่จำเป็นแล้ว”

“อ้าว!!! อย่างนี้พี่อ้นก็ตกงานน่ะสิ”

อนณหัวเราะ... นับเป็นไม่กี่เรื่องในช่วงชีวิตตอนนี้ที่ทำให้เขาหัวเราะได้ “ใช่ ตกงาน”

“แล้วจะเอาอะไรกินล่ะ.... เอาอย่างนี้มะ พี่ไปที่สวนของฉัน ไปบอกแม่ฉันว่ามาสมัครงาน เป็นชาวสวนแม้ว่าจะได้เงินน้อย แต่ก็ไม่อดตายนะ หรือว่าพี่จะมาหาฉันที่นี่ แต่พี่ก็พูดภาษาเกาหลีไม่เป็น คงทำงานไม่ได้ เอายังไงดีล่ะ”   จิลลาคิดราวกับเป็นปัญหาของตัวเอง อนณเลยไม่ได้บอกว่าต่อให้เขาตกงานเขาก็ไม่ถึงกับอดตาย เพราะตอนที่ทำงานกับสิตะ ฝ่ายนั้นแนะนำให้เขาซื้อที่ดินเก็บไว้ บวกกับเงินสะสมที่เขาไม่ค่อยได้ใช้ ก็คงพอให้เขาตั้งตัวได้โดยไม่ลำบาก

“เริ่มต้นจากไปเที่ยวก่อนก็แล้วกัน แล้วค่อยดูกันต่อว่าจะเอายังไง” เผื่อใครบางคนใจตรงกับเขาอย่างจริงจัง แผนการในอนาคตข้างหน้า จะได้มีเธออยู่ด้วย

“แล้วจะไปไหน ตังค์ก็ไม่ค่อยมีนี่”

อนณหัวเราะอีกครั้ง นึกถึงคำพูดเลี่ยนๆ ที่เคยได้ยินมา เอาน่า... ลองพูดสักครั้งคงไม่เป็นไร

“ไปตามหาหัวใจ ตังค์ไม่ต้องใช้ ไปแค่ใจก็พอ”

เกิดความเงียบเนิ่นนานจนเขาคิดว่าสายหลุดไปแล้ว ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นจากปลายสาย

“โอ๊ย พี่อ้น ไปจำมาจากไหน คำพูดแบบนี้ไม่เหมือนกับเป็นพี่อ้นเลยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า... โอ๊ย ฉันขำเสียงดังจนคนมองกันใหญ่เลยเนี่ย พี่อ้นน่ะ จะเล่นมุขอะไรก็ไม่บอกให้เตรียมใจกันบ้างเลย”

“ไม่ได้เล่นนะ พี่จริงจัง” อยู่ๆ เขาก็เปลี่ยนสรรพนามเรียกชื่อตัวเอง อีกฝ่ายถึงกับชะงัก “จากเรื่องของคุณสิตะ ทำให้พี่เห็นแล้วว่า ถ้าคิดจะทำอะไรก็ต้องรีบทำ เพราะปาฏิหาริย์คงไม่เกิดขึ้นซ้ำๆ พี่ไม่อยากเสียเวลา ความจริงพี่ก็ยังไม่แน่ใจด้วยว่าจูนคิดยังไง แต่ว่าพี่ชอบจูนนะ อยากคบหา เผื่อว่าเราจะไปกันได้”

อนณเอ่ยตรงๆ อย่างคนไม่มีลูกไม้ เป็นอีกครั้งที่ปลายสายเงียบนาน

“จูน... ยังอยู่ในสายหรือเปล่า จูน...”

“ยะ...อยู่ค่ะ ตะ...แต่ว่าพี่อ้น...” หญิงสาวเอ่ยตะกุกตะกัก เพราะนับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ยินผู้ชายพูดแบบนี้ จิลลาเงียบไปอีกหลายวินาที ก่อนสุดท้ายจะเอ่ยออกมา “เขินอ่ะ”

อดีตบอดี้การ์ดหนุ่มหัวเราะเบาๆ อีกครั้ง อยากเห็นจัง ว่าเวลาผู้หญิงผิวเข้มเขินอายหน้าจะกลายเป็นสีแดงหรือเปล่า

“เดี๋ยวพี่ไปหานะ”

ชายหนุ่มทิ้งท้ายก่อนวางสาย แล้วเหลือบมองไปยังห้องทำงานของเจ้านาย รู้...ว่าการที่สิตะตัดสินใจไปบวช โดยไม่ต้องการให้เขาคอยอารักขา ไม่ใช่เพราะเรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว แต่เพราะชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ต้องการให้อิสระแก่เขาต่างหาก หากเขายังมีคำว่า ‘บอดี้การ์ด’ นำหน้าอยู่ต่อไป เขาคงมีชีวิตของตัวเองไม่ได้

ทั้งที่เขาเองก็เป็นห่วงสิตะ แต่สิตะได้เลือกทางของตัวเองแล้ว เขาเองก็เช่นกัน

โดยไม่รู้ว่าทางที่เลือกจะดีที่สุดหรือไม่ แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปไม่ใช่หรือ











 ----------------------------------------------

ตอนจบรออีกนิดนะคะ




 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2556
0 comments
Last Update : 5 พฤษภาคม 2556 23:18:25 น.
Counter : 682 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.