space
space
space
 
ตุลาคม 2565
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
space
space
29 ตุลาคม 2565
space
space
space

ในวันที่ฉันเป็นวัณโรคต่อมน้ำเหลือง
วัณโรคต่อมน้ำเหลือง 1 ในโรคสุดอันตรายในต่อมน้ำเหลือง
Hospital I ฉันผู้ไม่เคยห่างจากสเปรย์แอลกอฮอล์ ด้วยความที่วิกฤตโควิดทำให้การใช้ชีวิตแบบ Social Distance กันอยู่่แล้ว ที่บ้านไม่เคยได้นั่งทานข้าวด้วยกันมาหลายปี แยกห้องน้ำกันคนละห้อง แต่สุดท้ายก็ได้โรคนี้มา เราผู้ไม่ใช่หมอหรือผู้มีความรู้ ข้อมูลทั้งหมดเป็นการสันนิษฐาน เริ่มต้นจากเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม แม่เราได้ติดเชื้อโควิด ได้รับยาฟาวิฯ อาการของโควิดไม่มีอาการใดๆ แต่หลังจากหายจากโควิด 10 วันกลับมีอาการไม่ปกติ ซึ่งเราก็เข้าใจว่าคืออาการลองโควิด จนแม่ทนไม่ไหวบอกว่าคงต้องไปโรงพยาบาล แม่ต้องนอนให้เลือดและน้ำเกลือ ตรวจพบว่าปอดเป็นฝ้า หลังจากอาการดีขึ้น 2 สัปดาห์ผลออกมาว่าแม่เป็นวัณโรคที่ปอด
ส่วนเราเนื่องจากพ่อติดโควิดช่วงปลายเดือนกรกฎาคม เราก็ไม่รอดติดโควิดจากพ่อ อาการโควิดเราก็ไข้ 39 และไอหนักมากไอจนทำให้ไม่มีเสียงเลย เจ็บคอแบบไม่เคยเจ็บขนาดนี้มาก่อนแค่ดื่มน้ำยังเจ็บ  เราได้รับยาฟาวิฯ   หลังจากหายจากโควิดเราก็ยังไม่หยุดไอ ยังไอต่อเนื่องประมาณ 10 วัน แล้วมันก็เกิดขึ้น ต่อมน้ำเหลืองโต 1 ก้อน แต่ด้วยความว่าเราเข้าใจว่าเป็นเพราะการไอหนักมาก อาจจะทำให้ต่อมน้ำเหลืองโต เลยไม่ได้ไปพบแพทย์หรือกินยาใดๆ
Hospital II : ผ่านไป 1 เดือน ก้อนโตขึ้นไซด์ประมาณ 2 ซม. เวลาที่เราหันคอจะมีอาการเจ็บ เจ็บจนต้องนอนตะแคงแล้วเอาหมอนล็อคคอไม่ให้พลิกตัว เพราะกลัวว่าตอนหลับแล้วเผลอหันคอ จะทำให้สะดุ้งตื่นเพราะความเจ็บ สุดท้ายเราเลยไปโรงพยาบาล หมอให้ยาแก้อักเสบมาทาน

1 เดือนผ่านไปหลังจากทานยาแก้อักเสบ อาการเจ็บหายไป แต่ก้อนยังอยู่ แต่สิ่งที่ตามมาคือ ต่อมน้ำเหลืองโตก้อนที่ 2 ตอนนี้ความชิวของเราพังลงทันที เพราะคนปกติจะไม่มีต่อมน้ำเหลืองโต 2 ก้อน  หมอสั่งเอ็กซเรย์ปอด ตรวจเสมหะ และผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอก้อนที่2 ไปเพาะเชื้อเพื่อหาว่าสรุปแล้วมันเป็นเชื้อตัวไหน และกินยาแก้อักเสบต่อไป 

Hospital  III : 1 เดือนผ่านไป รวม 3 เดือน ก้อนแรกยังใหญ่เท่าเดิม ก้อนที่2 ถูกตัดไปแล้ว และ ก้อนที่ 3 ก็ตามมา พร้อมผลเพาะเชื้อชิ้นเนื้อ วันนัดหมอที่รักษาลา ได้พบหมอท่านอื่นแจ้งว่า ชิ้นเนื้อปกติ เสมหะปกติ ปอดปกติ ที่ไม่ปกติคือ ต่อมน้ำเหลือง 3 ก้อน แต่หมอทำการออกนัดให้ใหม่เพื่อมาพบกับหมอที่รักษาในสัปดาห์ถัดไป เป็นเหมือนสัปดาห์ที่โหดมาก เพราะไปปรึกษากับเภสัชฯ เค้าบอกว่า ถ้าไม่ใชวัณโรค เค้ากังวลว่าไม่ SLE ก็มะเร็งนะ ถึงแม้ว่าชิ้นเนื้อนี้ไม่มีเชื้อมะเร็ง ไม่ได้แปลว่าเราไม่ได้เป็น แนะให้ไปตรวจหามะเร็งทั้งร่างกาย กว่าจะผ่าน 1 สัปดาห์มาได้ จากคนที่บ้างาน บ้าฟังคลิปคริปโต กลายเป็นคนไม่อยากทำงาน ไม่ดูอะไรเลย ออกแนวหมด passion  แล้วก็เหมือนอารมณ์กำลังขึ้นศาลพิพากษา หมอสรุปว่า เป็นวัณโรคต่อมน้ำเหลือง ฉันผู้ที่เดินออกมาจากห้องตรวจอย่างงงๆ  ท่านเปาฯ พิพากษาชั้นแล้วสินะ 
วัณโรคต่อมน้ำเหลือง  ส่วนใหญ่พบที่คอ โดยอาจมีต่อมน้ำเหลืองบวมโตเพียงต่อมเดียว หรือบวมต่อกันหลายๆต่อมเป็นสายเหมือนสายลูกประคำ อาการทั่วไปที่มักจะมีร่วมด้วย คือ อ่อนเพลีย  น้ำหนักลดผิดปกติ มีไข้ต่ำๆ และมีเหงื่อออกกลางคืน ซึ่งฉันไม่มีอาการเหล่านี้ มีอาการเดียวคือ มีต่อมน้ำเหลืองโตที่คอ  ติดมาได้ยังงัยก็คงได้รับเชื้อจากแม่ ทั้งที่ระวังอย่างมากแล้ว พยาบาลบอกว่าเชื้อวัณโรคแข็งแรงมากเชื้อมันสามารถอยู่ได้ 5 เดือน หากเราไปสัมผัสเชื้อวัณโรค เมื่อใดที่ร่างกายเราภูมิตก หรือทานยากดภูมิ เชื้อวัณโรคจะมีพลังทันที ที่เล่ามาซะยืดยาว คือเราและแม่กลายเป็นผู้ป่วยวัณโรคหลังจากหายจากโควิดและได้รับยาฟาวิฯ หลายคนอาจจะบอกว่าเค้าก็ติดโควิดกันเป็นหมื่นเป็นแสนทำไมไม่เป็น ใช่เราก็อยากรู้เหมือนกัน ทำไมต้องเป็นเรา วัณโรคต่อมน้ำเหลือง ต่างจากวัณโรคปอด ตรงที่ไม่แพร่เชื้อ ไม่ติดต่อไปยังผู้อื่น สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ตามปกติ
การกินยาวัณโรค  สำหรับคนที่เป็นวัณโรคปอด ต้องกินยา 6 เดือน สำหรับวัณโรคต่อมน้ำเหลือง พยาบาลบอกว่าที่ต่อมน้ำเหลืองหายยากกว่าต้องกินยา 9 เดือน ก่อนที่หมอจะจ่ายยา จะต้องตรวจเลือดเพื่อเช็คค่าตับ ไต ว่าปกติหรือไม่ คุณหมอสั่งงดน้ำและอาหารหลัง 2 ทุ่มเพื่อตรวจเลือดในวันรุ่งขึ้น
Hospital  IV :แล้วผลก็ออกมาค่าตับ ไตปกติ สามารถรับยาวัณโรคได้ เห็นยาแล้วแทบจะร้องไห้ ยาที่ต้องกินทุกวัน
ISONIAZID 100 mg 3 เม็ด
PYRAZINAMIDE 500 mg 1.5 เม็ด
RIFAMPICIN 300 mg 1 เม็ด
ETHAMBUTOL 400 mg 2 เม็ด
Vitamin B6
หลายคนอาจจะเคยได้ยินกิติศัพท์ของยาวัณโรค บอกเลยไม่ว่าคุณจะเป็นวัณโรคที่ไหน คุณได้รับยาเหมือนกัน ต่างกันตรงจำนวนเม็ด ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว สำหรับเรา 40.8 กก หลังจากที่กินยา เสมือนซ้อมตกนรก บ้านหมุน เวียนหัว อาเจียน คันตามตัุว จุกเสียดใต้ราวนม  แต่ของเรามีอาการที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งพยาบาลบอกว่าไม่ใช่เอฟเฟคของยา เแต่ว่าเราหัวใจเต้นเร็ว และแรงมาก เวลานอนจะนอนไม่หลับเพราะเต้นแรงจนรู้สึกตัวเหวี่ยง เหมือนกำลังนอนอยู่ในเรือโคลงๆ วัดการเต้นของหัวใจ 90-98 ครั้ง ไม่สามารถเงยหัวมาได้เลย เมื่อไหร่ที่ลุกนั่ง ก็พร้อมจะอาเจียนได้ตลอดเวลา ทำได้อย่างเดียวคือนอน แต่มีอาการนึงที่เราดีใจ เวียนหัวนะ อาเจียนนะ แต่หิวตลอดเวลา อาหารเครื่องดื่มที่เคยเป็นของโปรดกลับทานไม่ได้ อยากทานแต่ของเผ็ด เพราะคลื่นไส้ กว่าจะผ่านไป 2 สัปดาห์รู้สึกได้ว่าอยากหยุดการรักษา เข้าใจแล้วว่า หลายคนท้อและทนไม่ไหวหยุดยา  เราก็เกือบเป็นคนกลุ่มนั้น   เพราะเอฟเฟคของยาทำให้ร่างกายเราพังมาก จนบอกกับทุกคนว่าอยากหยุดยาเพราะไม่ไหวแล้ว ร้องไห้ไปหลายรอบ เพราะเหมือนร่างกายจะทนไม่ไหว จากคนที่ไม่มีอาการอะไร กลายเป็นคนป่วยที่ทำได้แค่นอน ดันบังเอิญไปเจอคลิปๆนึง ที่มีดาราเสียชีวิตแบบกระทันหัน ชันสูตรศพพบว่าเป็นวัณโรคโพรงจมูก ความคิดเปลี่ยนทันที ทนต่อไปละกันเนอะ
Hospital  V  ผ่านไป 2สัปดาห์ หมอนัดตรวจค่าตับหลังจากที่ทานยา โดยการเจาะเลือด ผลเลือดออกมาค่าตับพุ่งปรี๊ด จากเดิมก่อนกินยา SGOT (AST)  21 ขึ้นเป็น 163 เดิม SGPT (ALT) 14 ขึ้นเป็น  297 หมอสั่งหยุดยาทั้งหมด เกือบกรี๊ดในห้องตรวจ สิ่งที่ปรารถนามาตลอด สิ่งที่ทุกคนบอกว่าเธอต้องอดทนกินยาให้ครบ 9 เดือน มันได้ถูกยกเลิกแล้ว แต่ดีใจได้แค่แพรบเดียว เมื่อพยาบาลแจ้งว่าคนที่แพ้ยา จะถูกเปลี่ยนยาใหม่ เ่ริ่มนับ 1 ใหม่ และถ้าแพ้อีก จะได้รับยาโดยการฉีดที่ก้นแทน และกินยามากกว่าเดิมจากเดิมแค่ 9 เดือน จะเพิ่มเป็น 10 เดือน สัปดาห์หน้าก็จะได้รู้ว่าศาลจะพิพากษาอีกครั้งว่าเราจะได้รับโทษอะไร 

 


Create Date : 29 ตุลาคม 2565
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2565 20:16:43 น. 0 comments
Counter : 1395 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 3892584
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3892584's blog to your web]
space
space
space
space
space