และแล้วช่วงเวลาที่ชั้นรอคอยก็มาถึง โลว์ซีซั่น นั่นงัย เกาะนี้ก็เป็นของเราแล้ว เย้ๆๆ เอ๊ะ ทำไมหน้าหาดมีเรือมากมาย คนเก่าคนแก่รีสอร์ทก็บอกว่าพอเวลาหน้าโลว์ เรือประมงทั้งไทยทั้งเทศ ก็จะมาหลบพายุ ห้ามผู้หญิงออกนอกรีสอร์ทโดยลำพัง ห้ามลงไปเล่นน้ำ เพราะว่าชื่อเสียงของแรงงานประมงคงไม่ต้องบรรยาย เวรกรรมสิคะ ความฝันที่จะใช้ชีวิตแบบเกาะส่วนตัวจบลง
สำหรับอาหารการกินบนเกาะ ยิ่งได้ชื่อว่าเกาะที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยาน ก็ต้องลืมไปเลยค่ะ กับคำว่า มีมินิมาร์ท ,ไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง, น้ำประปาสะอาดๆ อยากทานราดหน้า ก็ได้แต่มาม่ารสราดหน้า อยากทานก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ก็มาม่ารสน้ำตก เย็นตาโฟ ก็มาม่าเย็นตาโฟ อยากทานลาบก็ฟรายด์รสลาบ อยากทานผลไม้ ก็ผลไม้กระป๋อง only แล้วยิ่งฤดูมรสุมเหรอ เหอๆ มินิมาร์ทของฉันก็คงเป็นต้นพุทรา (คนเกาะเค้าเรียกกัน แต่บ้านฉันมันคือลูกอะไรก็ไม่รู้ รสชาดฝาดๆเปรี้ยวๆ) ที่ต้นอยู่ริมชายหาด กะต้นมะพร้าวหน้ารีสอร์ท ที่สาวชาวกรุงอย่างฉันก็ต้องไปยืมบันไดของช่างมาปีนป่ายเก็บมะพร้าวแข่งกะลิง ชิงมะพร้าว แล้วก็ได้แต่นึกถึงละคร ทำไมในละครบนเกาะมีทั้งมะม่วง กล้วย ส้ม ให้กินอย่างอิ่มหนำสำราญ วกกลับมาเกี่ยวกับแรงงานประมงต่างด้าว เขาก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทุกคน บ่อยครั้งจะถือปลา ปลาหมึก กุ้งตัวโตๆ มาขอแลกเป็นยาสามัญ แลกเป็นบุหรี่ แต่ที่ถูกใจเค้าสุดๆ คงเป็นเหล้าขาว ซึ่งเราก็จะเตรียมไว้เลยช่วงหน้าโลว์ ก็แหม กุ้งตัวใหญ่กว่าในภัตตาคารนี่คะ