ยังมีแรงใจในวันที่ฟ้าเปลี่ยนสี
Group Blog
 
 
มีนาคม 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
29 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 
BTS สะดุดรัก

13 กย 47

เฮ้อออออออ เกิดมาไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมานั่งเขียนไอ้เจ้าไดอารี่เป็นเล่มสีเขียวๆเล่มนี้แบบนี้ทำตัวเหมือนแม่บริทเจท โจน แบบในหนัง เลยยกเว้นที่ว่าฉันไม่ได้อายุ 30 อัพ แล้วก็อ้วนตุ๊บเพราะว่าดื่มแต่ว๊อดก้าเหมือนเจ้าหล่อนเท่านั้นเอง



เฮ้อ เรื่องของเรื่องคนมันอึดอัด (เข้าใจไหมๆๆๆๆเจ้าไดอารี่จ๋า) ทำงานมาก็ตั้งนาน(3 เดือนหน่อยๆ) อายุก็ไม่ได้มากไม่ได้น้อยแต่ทำไมฉันถึงได้โสดสนิทแบบนี้น้าๆ ฉันละสงสัยตัวเองนักเชียว

เข้าเรื่องดีกว่าฉันละเมื่อยมือเวลาเริ่มเขียนจริงๆเลยนะนี่ วันนี้ฉันก็เดินทางกลับบ้านของฉันตามปกตินั่นแหละ บ้านก็ไกล๊ไกล (เสียงสูงจริงใจมากๆเลยนะ)


เอ่อเกือบลืมไป ฉันเรียกแกว่าเจ้าเขียวแล้วกันนะเจ้าไดอารี่ที่รัก เอ๊าต่อๆดีกว่า แกเคยคิดไหมว่าไอ้ทางลงรถจากชานชะลาของรถไฟฟ้าBTS น่ะ ที่มันลงมาจากสองทางเป็นรูปตัว V น่ะ มันมีความพิเศษ มันเหมือนกับการที่คนเราเดินกันคนละเส้นทางแล้วสุดท้ายมาบรรจบพบกันแล้วต้องเดินไปในแนวเดียวกันเพื่อไปหาทางออก



อย่างแกคงไม่คิดละซิ เพราะว่าไม่ได้เดินลงผ่านทางนั้นทุกวันเหมือนฉันนี่แต่วันนี้ทางลงนั้นมันดูพิเศษๆยังไม่ได้รู้สำหรับฉันนะ เรื่องมันยาวฉันจะเล่าให้ฟัง

ก็วันนี้เจ้านายใจยักษ์ของฉันนะซิเล่นเอางานมาให้ฉันเยอะแยะเลยนะแกคิดดูส้นสูงที่ต้องใส่ไปทำงานทำให้ฉันเดินกระย่องกระแย่งเต็มทนแล้วขากลับต้องหอบแฟ้มใหญ่ๆต้องสามอันแหนะมันเกินรับไหวจริงๆนะนี่



ยามเย็นแบบนี้รถไฟฟ้าก็แน่นจะเกาะก็เกาะอะไรไม่ได้ได้แต่ยืนพิงพยุงตัวไว้ไม่ให้ล้มกลิ้งแต่เจ้าสายตาของฉันพลันเหลือบไปเห็นหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในระยะสายตาของฉันพอดีเลย

ด้วยเสื้อสีขาวสะอาด เหมือนใช้โอโม่เลยนะเจ้าเขียวมันสะดุดตาฉันเข้า ฉันคิดแค่ว่าท่ามกลางผู้คนมากมายเสื้อเขาช่างขาวสะท้อนจริงๆเลยแต่มันไม่สะดุดใจฉันเท่ากับหน้าขาวๆหนวดเคราเขียวๆที่เพิ่งโกนของเขาหรอก โอ้ยยยยยยยย ฉันเพิ่งรู้ว่า ชายในฝันน่ะมันเป็นยังไงก็วันนี้แหละหน้าตาเกลี้ยงเกลานัยตาไม่โตมากนักฉันเดาได้เลยว่า มีเชื้อจีนแน่ๆแต่จมูกโด๊งโด่งเลยละฉันแอบมองเค้าผ่านไปสถานีแล้วสถานีเล่า คนเริ่มบางตาลงจนเกือบใกล้จะมาถึงสถานทีปลายทาง



“สถานีต่อไป จตุจักร Next station จตุจักร”

เสียงเดิมๆที่ได้ฟังทุกวันดังขึ้นแปลว่าเตรียมตัวลงจากรถไฟขยับแข้งขาเตรียมมารอหน้าประตูกันได้แล้วนะจ๊ะแต่ฉันขอบอกนิดนึงนะฉันน่ะแอบคิดในใจเสมอเลยละเวลาเค้าประกาศชื่อสถานีนะแหม๋มสำเนียงของแต่ละสายน่ะน่าขำจะตายบางคนก็เก็กซ้า บางคนก็พยายามพูดเหมือน "ตึง ตึ่ง ตึง ตึ๋ง ท่านผู้มีอุปการะคุณโปรดทราบ" อะไรแบบนี้น่ะ



ฉันรีบเดินออกจากรถไฟเมื่อประตูเปิดเพื่อที่จะรีบกลับบ้านแหม๋มๆใครๆก็อยากรีบกลับบ้านจริงไหม แต่ เจ้าเขียวรู้ไหมระหว่างที่ฉันลงบันไดนะ ก็ ไอ้เจ้าทางลงตัว V ที่ฉันบอกแกไปตอนแรกนะฉันนะเป็นคนชอบมองคนเดินลงมาจากฝั่งตรงข้ามมากเลยแล้วอีกแล้วสายตาฉันก็ไปประทะกับเจ้าของเสื้อสีขาวที่กำลังเดินลงมาจากอีกฟากพอดีเลย ฉันขอเรียกเขาว่านายโอโม่แล้วกันนะแต่ฉันเองก็ไม่ได้คิดไรมากหรอกจนกระทั่งเรื่องมันเกิดขึ้น ฉันน่ะซิแย่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ยิ่งรีบๆหอบของเหมือนยัยบ้าหอบฟางเลยนะ



พลั่กกกกก !!! ฉันรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกแล้วสุดท้ายฉันก็ล้มลงไปนั่งพับเพียบกับพื้นเสียดิบดีเลย(เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นสาวไทยแท้ตอนนั่งพับเพียบท่ามกลางผู้คนเดินไปเดินมานี่แหละ) แฟ้มที่หอบมากระจายอยู่ตรงนั้นนั้นแหละ อายไหม ละ แก อายไหมละฉันพยายามจะลุกขึ้นแล้วฉันก็เห็นมือขาวๆยื่นมา โอ้เจ้าเขียว มัน คือนายโอโม่นั่นเองที่ชนฉันน่ะ



“ขอโทษครับผมรีบไปหน่อย เลย ชนคุณล้ม”

“เอ่อ...................” พูดไม่ออกซิฉัน มัวแต่ตะลึง

“ให้ผมช่วยคุณดีกว่า”พร้อมยื่นมือมาให้ฉันเป็นหลักในการเกาะพยึงตัวขึ้นเอ้อ แกคิดไหม ว่านายโอโม่นี่ช่างเป็นสุภาพบุรุษเสียจริงๆเลย

“เอ่อ ขอบคุณมากค่ะ” ฉันไม่รู้จะพูดอะไร ที่ดีไปกว่านี้แล้ว

แล้วเราก็ยิ้มกันกันแล้ว ต่างเดินแยกกันไปลงกันคนละฝั่งถนน

แค่นี้แหละเจ้าเขียวเรื่องตื่นเต้นของฉันวันนี้แกละตื่นเต้นกับฉันบ้างไหม?


14 กย 47


เจ้าเขียวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฉันมีเรื่องตื่นเต้นๆจะเล่าให้เจ้าฟังอีกแล้วละวันนี้นะขากลับบ้านฉันเจอนายโอโม่บนรถไฟฟ้าอีกแล้วละคราวนี้นายนั่นนั่งอยู่ที่นั่งตรงข้ามกับฉันเลยนะจริงๆแล้วเราก็มองกันนั่นแหละฉันว่าเค้าต้องจำฉันได้แน่เลยเขายิ้มให้ฉันครั้งหนึ่งด้วยแหละฉันน่ะเหรอทำไรได้ละก็ยิ้มตอบไงแต่ในใจนะพองโตเหมือนว่าอย่างน้อยทางกลับบ้านวันนี้ของฉันในรถไฟขบวนนี้ก็ยังมีคนที่ฉันขี้ตู่เอาเองว่ารู้จักละเจ้าเขียวว่าไหมอย่าหาว่าฉันบ้านะ

ฉันเดินยิ้มไปจนถึงป้ายรถเมล์เลยละเวลาที่นึกถึงตอนเขายิ้มให้น่ะ ไม่เอา ละ เขิลจังเลยนอน ดีกว่า

15 กย 47


วันนี้ฉันเล่าเรื่องที่ฉันไปล้มคว่ำระเนระนาดให้เพื่อนสนิทคนหนึ่งฟังทางโทรศํพท์นะฉันละอยากจะกรี๊ดใส่มันจริงๆเลยรู้ไหมเจ้าเขียวว่ามันพูดว่าไง



“ซี ฉันละไม่แปลกใจเลยถ้าหล่อนจะล้มคว่ำข้าวของกระจุยกระจายน่ะก็หล่อนนะมันเซ่อซ่าไม่เปลี่ยนเลย”



โอ้ย ไม่กรี๊ด ได้ไง เจ้าเขียว ไอ้เพื่อนตัวดีมันดันมาสะกิดเรื่องเก่าๆของฉันนะซิ คำว่าเซ่อซ่านี่แหละมันทำให้ฉันละอยากกรี๊ด ฉันนะชื่อซีซ่าร์ น่าอายอยู่ไหมละหน้าตาก็หมวยแต่ดันชื่อซีซ่าร์ นี่มันชื่อจริงของฉันด้วยนะ ก็ตอนแม่ท้องฉันน่ะดันอยากทานแต่ ซีซ่าร์ สลัดพ่อฉันก็หามาประเคยพอลูกออกมาแม่เลยมีไอเดียแหวกแนวตั้งชื่อว่าซีซาร์ แต่เพื่อนๆ น่ะ เรียกฉันว่าเซ่อซ่า

วุ้ยดังนั้น ถ้าฉันมีลูกนะฉันจะตั้งชื่อลูกไม่ให้ลูกเดือดร้อนได้เลย ละ จะ บอกให้



“หนึ่งก็ของมันเยอะแกก็รู้ฉันอ่ะใส่ส้นสูงเดินยังแทบจะคว่ำบ่อยๆแล้วนี่หอบของเยอะจะเหลือเหรอแต่ดี ที่เจอเทพบุตรโอโม่มาช่วยไว้แต่จริงๆแล้วเขาก็เป็นคนชนฉันนั่นแหละ”



“ย่ะ ย่ะ ย่ะ เทพบุตรโอโม่ไรของหล่อน นะ แล้วไง” เจ้าเขียว ดูซิแม่เพื่อนตัวแสบของฉันไม่สนใจแถมยังทำเสียงรำคาญนิดๆอีกด้วยสงสัยมันทะเลาะกับแฟนมันแน่เลยเลยแหม๋มไอ้ฉันก็อยากเล่าๆให้เพื่อนฟัง ฉันเลย บอกไปแค่ว่าไม่มีอะไรฉันเลย ต้องมาระบายกับแกนี่แหละ ว่า ไอ้เพื่อนไม่รักดีไม่ฟังฉันเลย เศร้าใจจริงๆ


16 กย 47


แกรู้ไหมว่าความเซ่อซ่าของฉันมันไม่จบแค่นั้นมันเกิดขึ้นอีกแล้ววันนี้ฉันน่ะดันไม่ได้ปิดกระเป๋าถือให้ดีแล้วแถมยัดของไว้ซะแน่นเลยแล้วก็รีบๆเดินๆโดยที่ฉันน่ะไม่รู้ตัวเลยว่าทำกุญแจบ้านหล่น แกเอ๊ยยยยยยยย กุญแจบ้านนะหายไปโดนแม่ด่าตายเลย

แต่มาตอนนี้ไอ้กุญแจบ้านน่ะไม่เท่าไหร่แต่มันมาน่าตื่นเต้นตอนคนเก็บได้เค้าเดินแกมวิ่งตามฉันมานี่ซิ (วันนี้ฉันเดินเร็วนะใส่รองเท้าส้นเตี๊ยละ)



“คุณครับ คุณครับ” เสียงดังใกล้ๆฉันแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ จนมีมือหนึ่งมาสะกิดที่ไหล่ฉัน

“คุณครับ คุณ” โอ้พระเจ้าช่วย นายโอโม่นั่นเองฉันไมได้ฝันไปใช่ไหมเนี๊ย ก็วันนี้ฉันไม่เห็นเขาในขบวนรถเดียวกันเลย

“คุณทำของตกครับ”นายโอโม่ที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาถึง ชูกุญแจให้ฉันดู

โอ้ยตายแล้ว ฉันทำไม เซ่อซ่า แบบนี้ สมแล้วที่เพื่อนๆมันเรียกฉันเซ่อซ่าแทนซีซ่าร์

เจ้าเขียวรู้ไหมว่า เขาเหงือออกนิดๆหน้าแดงหน่อยๆดูน่ารักดีใช่ย่อยละอยากให้แกได้เห็นเขาจริงๆเลย ในใจฉันนะนู่นมันร้องเพลงไปนู่นแล้ว



“พรหมลิขิตบรรดาลชักพา พาให้มาพบกันทันใด ลั่นล๊าๆๆๆๆ”



“โอ้ขอบคุณมากเลยค่ะโอ้ยตายแล้วดีนะเนี๊ยที่คุณเก็บได้ไม่งั้นฉันคงเข้าบ้านไม่ได้แม่รู้แม่ต้องด่าแน่ๆเลยค่ะ”

“ผมเห็นคุณทำหล่นตั้งแต่ตอนลงบันไดแล้วละครับ” เขาตอบมาเสียงสุภาพมากเลยฉันเพิ่งเคยได้ยินเข้าพูดยาวๆก็ตอนนี้แหละเจ้าเขียว

“ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณมากนะคะคุณ เอ่อ .......”

“ผม ปิงครับ”

“ค่ะคุณปิงขอบคุณมากเลยค่ะ”

ฉันยิ้มให้เขาหวานที่สุดเท่าที่จะหวานได้เลยนะเจ้าเขียวแหม๋ม โอกาศแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่ายอย่างน้อยฉันก็รู้ชื่อเขาละ

แล้วเราสองคนก็ดำเนินต่อไปเหมือนเดิมฉันแยกเดินทางทางซ้ายเขาแยกเดินไปลงทางขวาแต่ฉันไม่วายแอบหันไปมองเขาเดินห่างออกไป



วุ้ยยยยยยยยยยยเขิลไม่เอาละเจ้าเขียว ฉันนอนดีกว่าพักนี้ท่าจะบ้าเพ้อๆยังไงไม่รู้เลย

17 กย 47


กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

โอ้ยๆๆๆๆ ขอฉันกรี๊ดๆๆๆให้กระดาษหมดหน้าเลยได้ไหมเนี๊ยวันนี้ฉันเจอนายปิงหรือว่านายโอโม่นั่นแหละแต่มันไม่ธรรมดาเหมือนวันอื่นๆหรอกนะวันนี้ฉันใส่ส้นสูงแหละเจ้าเขียวเลยทำให้ฉันเดินอย่างระมัดระวังมากๆเลยแต่ฉันอยากจะกรี๊ดตรงที่ว่าฉันน่ะเจอนายปิงยืนอยู่ตรงทางออกจากรถไฟฟ้าเหมือนรอใครอยู่ซักคนเมื่อเขาเห็นฉันเดินออกมาจึงเดินเข้ามาทัก ฉันละประหลาดใจจริงๆเลย



“เอ่อ คือ ว่า” น้ำเสียงของเขาอึกอักก่อนจะพูดต่อไปว่า

“ผมลืมอะไรไปบางอย่างน่ะครับคุณ คือ ผมลืมถามว่าคุณชื่ออะไรน่ะครับ”

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฉันนะได้ยินเสียงกรี๊ดของตัวเองดังอยู่ในหูเลย ละแต่อย่างที่บอกหน้าฉันยังคงนิ่งอยู่นะเจ้าเขียวเรื่องอะไรเราจะแสดงออกจริงไหมละ



“ฉันชื่อ ซี ค่ะ คุณปิง” หน้าฉันเริ่มจะไม่สามารถกลั้นความรู้สึกได้แล้วฉันอยากจะยิ้มออกมาให้โลกทั้งโลกสว่างตอนเย็นๆอย่างนี้นี่แหละเจ้าเขียว

“จะเป็นอะไรไหมครับถ้าผมจะขอเดินไปส่งคุณที่ป้ายรถเมล์วันนี้” เขายิ้มเขิลๆสายตาหลุบต่ำเหมือนจะซ่อนความอายไว้หน่อยๆ

“ได้ซิคะ ซีเองก็เบื่อรอรถคนเดียวเหมือนกันค่ะ”

แล้วมิตรภาพระหว่างเราก็เริ่มขึ้น


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



หยุ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!!! มันยังไม่จบ เจ้าเขียว



ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ เสียง นาฬิกาปลุกดังขึ้นบอกเวลาหกโมงเช้าฉับตบเจ้านาฬิกาปลุกแรงจนล้มกลิ้งหล่นลงพื้นแล้วฉันก็ตื่นมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อยเพราะว่า แหม๋มๆกำลังไปได้สวยเชียว

ไอ้เจ้านาฬิกาปลุกดันมาปลุกฉันตื่นจากฝันได้ คนกำลังฝันดีอยู่เชียวแย่จริงๆเลยแต่ไม่เป็นไร เดี๋ยว คืนนี้กลับมาค่อยฝันต่อก็ได้ คราวนี้ฉันขอฝันให้เขาไปส่งฉันถึงบ้านเลยแล้วกัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



จบบริบูรณ์



Create Date : 29 มีนาคม 2549
Last Update : 29 มีนาคม 2549 8:00:50 น. 5 comments
Counter : 196 Pageviews.

 
อารมณ์ดีนะน้องพิม...

วันนี้เบิ้ลบล็อกเลยเหรอ ดีนะ ชอบ แล้วจะหาเวลาเข้ามาอ่านอีก หรือถ้ามีเรื่องใหม่ก็ไปเรียกมาอ่านได้เด้อ


โดย: T_Ang วันที่: 29 มีนาคม 2549 เวลา:15:14:12 น.  

 
อิอิ
จริงๆ เขียน เอาไว้ สอง ปี แล้ว ละ
แต่ ว่า เอาไปลงไว้ ที่ อื่น
ก็ เลยเอามาลง ที่นี่ บ้าง เอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอนเขียน อ่ะอารมณ์ดี เอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: ไม้ยมก&แหนมมัด วันที่: 29 มีนาคม 2549 เวลา:19:10:53 น.  

 
วัยหวาน วัยแหวว

ตอนนี้ อารมณ์แบบนี้ยังอยู่มั้ยพิม
อย่าให้มันหายไปไหนนะ
เสียดาย


โดย: เช้านี้ยังมีเธอ IP: 203.155.225.50 วันที่: 29 มีนาคม 2549 เวลา:19:30:24 น.  

 
อารมณ์นี้มันหมดไปเมื่อสองปีมาแล้ว พี่
ตอนนี้ มันเป้นอารมณ์อื่น อ่ะ


โดย: ไม้ยมก&แหนมมัด วันที่: 29 มีนาคม 2549 เวลา:19:33:18 น.  

 
อ่ะนะ บังคับให้เรามาอ่าน
เลยตามมาอ่านซะหน่อย
อยากให้อารมณ์ประมาณนี้ตลอดไปนะ
น่าจะดีกว่ามั้ย
หุหุหุ


โดย: รุ้ง IP: 202.139.203.107 วันที่: 29 มีนาคม 2549 เวลา:20:29:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไม้ยมก&แหนมมัด
Location :
Newcastle upon Tyne United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เมื่อคนเราไม่ใช่คนวิเศษ
แต่เราทำตัวเราให้มีคุณค่าโดย
การที่รู้จักตัวตนที่แท้จริง
และก็ยอมรับมันโดยไม่ละอาย
แล้วเราจะสามารถเชิดหน้า
ได้อย่างสบายใจ
Friends' blogs
[Add ไม้ยมก&แหนมมัด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.