The Hurt Locker : ยาเสพติดชื่อ ความรุนแรง
เวลาคุยกับเพื่อนเรื่องหนังในดวงใจซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ผมมักจะได้ยินชื่อหนังที่เป็นหนังสงครามปนอยู่ในจำนวนหนังที่เพื่อนๆที่เคารพชื่นชอบด้วย และแน่นอนว่าหนังสงครามที่ได้ยินชื่อมากที่สุดคือ Saving Private Ryant หนังเรื่องดังของเฮีย สตีเฟ่น สปีลเบิร์ก แต่ผมจะไม่พูดถึงหนังเรื่องนี้ครับ
ผมอยากพูดถึงหนังรางวัลออสการ์ปีล่าสุดเรื่อง The Hurt Locker ของผู้กำกับหญิง แคทารีน บิ๊กเกลโลว์ ซึ่งถ้ามองที่หน้าหนังเราคงจะคิดว่ามันเป็นหนังสงครามตูมตามเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่ตัวหนังเรื่องนี้กลับแตกต่างจากหนังสงครามที่เราเคยดูมา เพราะในขณะที่หนังสงครามเรื่องอื่นๆนั้นนำเสนอฉากสงครามแบบตูมตาม แต่ The Hurt Locker กลับเป็นไปด้วยฉากกดดันหนักอึ้ง และนั่นคงอาจเป็นสิ่งที่หนังต้องการจะบอกคือ เรากำลังเสพติดความรุนแรงผ่านสื่อต่างๆอยู่ เราต่างสนใจอยู่กับฉากแอ็กชั่นตูมตามจนลืมเนื้อหาที่หนังสงครามเหล่านั้นกำลังจะบอก ซึ่งสิ่งที่ว่านั้นก็คือข้อเสียต่างๆของสงคราม
ในเรื่องเราจะได้เห็นพฤติกรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของ วิลเลี่ยมส์ โจนส์ (เจรามี่ เรนเนอร์) ที่เอาตัวเข้าเสี่ยงกับความรุนแรงเต็มที่ในการกู้ระเบิดโดยหาได้สนใจเสียงเตือนของคนรอบข้างไม่ และนอกจากนั้นเขายังชอบเก็บสะสมชิ้นส่วนของสิ่งที่พยายามจะฆ่าเขา และเมื่อการเข้าหาความรุนแรงของเขากลายเป็นกิจวัตรประจำวัน เขาจึงไม่สามารถใช้ชีวิตเช่นคนปกติได้...เขาจึงมีสภาพไม่ต่างจากคนติดยาเสพติดที่ไม่สามารถอยู่ในสังคมอันสงบสุขได้
อารมณ์กดดันส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นในหนังคงจะเป็นอารมณ์จริงๆที่เกิดขึ้นในสภาวะสงคราม มันไม่มีใครเป็นพระเอกขี่ม้าขาวเหมือนหนังเรื่องอื่นๆ เพราะการเป็นพระเอกในสงครามนั้นมันต้องแลกกับชีวิตปกติสามัญ แม้จะได้รับคำชมต่างๆแต่มันไม่ได้ช่วยเยียวยาจากอาการเสพติดความรุนแรงได้เลย มิหนำซ้ำมันอาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้เข้าหาความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีก
และผมว่าการที่เราดูหนังสงครามเพียงเพราะฉากสู้รบอย่างเดียวนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการเสพติดความรุนแรงโดยไม่ได้ตั้งคำถามกับสงคราม และที่น่ากลัวก็คือการนำความรุนแรงมาใช้ในชีวิตประจำวัน จนสุดท้ายก็ไม่สามารถใช้ชีวิตอันปกติสุขได้
Create Date : 10 พฤษภาคม 2553 |
|
15 comments |
Last Update : 10 พฤษภาคม 2553 13:31:01 น. |
Counter : 2401 Pageviews. |
|
|
|