|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
โอ๊ะ โอ Michelangelo's David @ Firenze
หลังเจอเรื่องอกสั่นขวัญกระเจิง ต้นร้ายปลายดี เราก็มุ่งตะวันออกสู่เมือง Florence หรือ Firenze (ป้าชอบชื่อภาษาอิตาเลียนซะแล้วซิ) เมืองนี้เป็นบ้านเกิดของ คุณ Michelangelo ศิลปินระดับโลกชาวอิตาเลียน ผู้ฝากฝีไม้ลายมือ งานปั้นงานออกแบบไว้ทั่วอิตาลี ไปถึงเมืองนี้แล้วต้องไปชมผลงานชิ้นเอก ของเขากันบนยอดเขาจุดชมวิวของเมือง เขาว่า David ผู้นี้เป็นหนุ่มที่หล่อที่สุดในโลก ตัวนี้เป็นตัวปลอมค่ะ ตัวจริงอยู่ในมิวเซียม "พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์เมืองฟลอเรนซ์"

มีเรื่องเล่าตลกๆ ว่า มีผู้วิจารณ์หุ่นของเดวิด ว่าอะไรก็ดีหมด สวยงาม กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ แต่ทำไม๊ ทำไมอันนั้นของพี่แกถึงหดสั้นเช่นนี้ ก็มีผู้รู้บอกว่าที่มันเป็นเช่นนี้เพราะอยู่ในอาการเกร็งเตรียมยิงลูกหินในมือ เพื่อฆ่ายักษ์โกไลแอท มิฉะนั้นละก็ จะตื่นตาตื่นใจมากไปกว่านี้แน่นอน

แค่นี้ป้าก็ตื่นตาตื่นใจเป็นนักหนาแล้วค่ะ

ชมเมืองจากจุดชมวิว ยามพระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า

Arno river สะพานที่เห็นใกล้สุด คือสะพานเวคคิโอ หรือ Ponte Vecchio เดี๋ยวเราจะไปซื้อทองอิตาลีกันที่ตรงนั้นค่ะ

ลูกหลาน Michelangelo

ไม่เสียทีที่มาเที่ยวยุโรปในฤดูใบไม้ผลิ เจอแปลงดอกทิวลิป น่ารักจังเลย

คุณไกด์ก็ต้อนให้ดูแต่ศิลป รูปปั้น ต่างๆ นานา สาวๆ หาสนใจไม่ ดอกไม้เท่านั้น ที่ถูกใจ

เดินเลียบแม่น้ำ Arno เพื่อมาชมสะพานไม้ที่มีหลังคาคลุม สะดุดตากะกุญแจคล้องโซ่สาบานรัก

และโซ่คล้องรถจักรยาน ยืนยันคำคุณไกด์ว่าที่นี่มิจฉาชีพเยอะมาก รถราจอดมีกระเป๋า ต้องมีคนเฝ้า มิสามารถทิ้งรถไว้ได้

เจ้าตัวสีเขียนี่ก็น่ารักกำลังปีนเสา ตัวเป็นกิ้งก่า มีหางเป็นงู

ถึงแล้วค่ะสะพาน Ponte Vecchio เป็นสะพานไม้อายุหลายร้อยศตวรรษแห่งแรก เป็นสะพานโบราณสะพานเดียวที่เหลืออยู่ในเมืองฟลอเรนซ์ และยังเป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำอาร์โนสะพานแรกของเมืองฟลอเรนซ์ ผู้ออกแบบสะพานคือ วาซารี (Vasari) ผู้เป็นทั้งสถาปนิกและจิตรกร
วาซารี ออกแบบทางเดินบนสะพานให้มีหลังคาคลุม ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานเวคคิโอรอดพ้นจากการทิ้งระเบิดของพวกนาซีและฝ่ายสัมพันธมิตรมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ อ้อ บ้านเราก็มีนะคะ สะพานไม้มีหลังคามุง เรียก ขรัวมุง ที่จังหวัดลำพูน เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าของฝากเหมือนกันเลย

สองข้างบนสะพานเป็นร้านค้า สมัยก่อนเป็นร้านขายเนื้อสัตว์ ต่อมามีการปรับปรุงทัศนียภาพเลยเปลี่ยนให้กลายเป็นร้านขายของฝาก ขายทองอิตาลี ทองเค ลวดลายสวย แต่ราคาไม่น่าคบ

ระหว่างที่เราเดินสำรวจหาร้านทอง ราคาน่าคบสักร้านนึง ก็มีขบวนกองยาวแขก มาให้ชม เข้าใจว่าคงเป็นลัทธินักบวชอะไรซักอย่าง บรรเลงเพลงแขก มีสาวๆ แต่งซ่าหรี เริงระบำรำฟ้อนเป็นที่หนุกหนาน

และคุณตำรวจ พรอพเยอะเหลือเกิน

สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่เดินไปชมได้ฟรี มีรูปปั้น David ยืนท้าแดด ท้าฝน โชว์หุ่นทรมานใจ คือ Palazzo Vecchio เดิมเป็นปราสาทของเจ้าเมือง ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ

รูปปั้น Hercules and Cacus

รูปปั้น Perseus ตัดหัว Medusa ผู้มีงูบนศีรษะ

บริเวณลานด้านหน้า Palazzo Vecchio

สุดท้าย hilight มาเมืองนี้ ต้องมาชมมหาวิหารใหญ่ซึ่งเป็นมหาวิหารที่เรียกว่าduomo เป็นจุดกำเนิดของความเจริญก้าวหน้ายุคเรอเนซองส์
โบสถ์ต่าง ๆ ในอิตาลีจะประกอบด้วยสามส่วน คือมหาวิหารที่เรียกว่าดูโอโม (Duomo) หอระฆัง (Bell Tower หรือ Capanile) และอาคารแบบทิสเทอรี (Baptistery) ที่ไว้ประกอบพิธีศีลจุ่ม มักจะมีรูปร่างกลมหรือเป็นเหลี่ยม ๆ



ปิดท้ายด้วยหลานป้า ชาว Firenze

Create Date : 18 สิงหาคม 2554 |
Last Update : 23 สิงหาคม 2554 20:24:46 น. |
|
5 comments
|
Counter : 2775 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: เอ้ IP: 192.168.5.171, 110.77.228.108 วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:8:23:38 น. |
|
|
|
โดย: เกลือหนึ่งกำน้อย (เกลือหนึ่งกำน้อย ) วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:12:13:11 น. |
|
|
|
|
|
|
|