ณ เส้นรอบวงที่คาบเกี่ยวกัน

ภูติ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




.......

....



ภายใต้ผิวน้ำที่เรียบนิ่ง

มีปลาทองขี้เกียจอยู่หนึ่งตัว


...


...


...........
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
4 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ภูติ's blog to your web]
Links
 

 
..




เช้าวันใหม่ที่บ้าน ผมนอนลืมตาบนที่นอนที่คุ้นเคย

ลมยังคงพัดแรง ลมทะเลหน้ามรสุมก็อย่างนี้ ดีที่ว่าบ้านผมห่างจากทะเลสักร้อยเมตรได้ แถมมีบ้านใหญ่อยู่ข้างหน้า ละอองน้ำเค็มจึงมาไม่ถึงบ้าน

ฟ้าข้างนอกยังคงมืดสนิท ผมซุกตัวในผ้านวมผืนเก่าอย่างอิ่มใจ รู้สึกอบอุ่นมากกว่าครั้งไหนๆตั้งแต่ลมหนาวพัดมาเยือน



ผมได้ยินเสียงก๊อกๆแก๊กๆด้านล่าง จึงได้ขยับตัวขึ้นจากที่นอน คงมีใครสักคนตื่นแล้ว คงเป็นพ่อหรือไม่ก็พี่สาวของผม

ผมเดินลงไปชั้นล่างของบ้าน เห็นพี่สาวกำลังเสียบปลั๊กกาต้มน้ำ นั่นคือสิ่งที่บ้านเราทำกัน ใครตื่นเป็นคนแรกจะเป็นคนตั้งน้ำร้อนไว้เพื่อดื่มกาแฟกัน

"หวัดดีปีใหม่ฮะ" ผมยกมือไหว้พี่สาวคนโตของบ้าน

พี่พยักหน้ารับ "หวัดดีปีใหม่จ้ะ"

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเรามาแต่ไหนแต่ไร เราไม่เคยนับถอยหลังเพื่อขึ้นปีใหม่ แต่เราจะทักทายคำแรกของวันแรกของปีแบบนี้

คนอื่นๆในบ้านทยอยตื่นทั้งๆที่เวลาเพิ่งผ่านตีห้ามาได้ไม่นาน เราสวัสดีปีใหม่กันและกัน

"อ่ะ (ชื่อผม) มาเอาข้าวเหนียวปิ้ง" พ่อเปิดประตูเข้ามาพอดี

ผมยกมือไหว้สวัสดีปีใหม่กับพ่อ พ่อยิ้มรับและบอกสวัสดีปีใหม่กับผมเช่นกัน

ไม่นานแม่ก็ตื่นมา เดินออกมาพร้อมหลานตัวโตสองคน ผมยกมือไหว้แม่และกอดแม่แน่นๆรับปีใหม่ และรับไหว้และเคาะหัวเจ้าหลานทั้งสองคนเบาๆ

ท้ายสุดพวกเราก็ตื่นมากันมาทั้งบ้าน เริ่มเช้าวันแรกของปีด้วยกัน

พี่สาวชงกาแฟให้กับพี่เขย ในขณะที่ผมเองก็ชงกาแฟให้กับตัวเอง พี่สาวอีกสองคนกับเพื่อนพี่อีกคนก็นั่งล้อมวงอยู่ไม่ไกล ส่วนไอ้หลานตัวโตอีกสองคนก็กำลังเตรียมตัว



"ว๊า ท้องฟ้าปิด" ผมบ่นงึมงำ ตอนที่ชะโงกหน้าออกไปนอกบ้าน ลมแรงข้างนอกตีผมซะกระเซิง

"วันนี้เมฆเยอะ คงไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้น" พ่อบอกอย่างนั้น พ่อรู้ดีว่าผมชอบไปดูพระอาทิตย์ขึ้นริมทะเล

ผมบ่นงึมงำ แต่ก็เข้าใจดี ฤดูนี้ท้องฟ้าบ้านผมก็อย่างนี้ล่ะ แต่กระนั้นผมก็ไม่ย่อท้อหรอก ผมตั้งใจว่ากลับบ้านคราวนี้ผมจะไปขึ้นเขาสูงของบ้านเกิดให้ได้

ผมเคยขึ้นเมื่อนานมาแล้ว และผมอยากจะขึ้นไปดูภาพเมืองเกิดของผมจากข้างบนอีกครั้ง ไม่ว่าผมจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆหรือไม่ก็ตาม

ฟังดูออกจะเอาแต่ใจตัวเอง แต่เมื่อผมเปรยขึ้น หลายคนในบ้านก็มีความคิดและความตั้งใจแบบผมเช่นกัน ท้ายสุดก็ขึ้นกันเกือบทุกคน ยกเว้นพี่สาวที่กลัวความสูง และพ่อกับแม่ที่ร่างกายไม่เอื้ออำนวยอีกแล้ว



เราผ่านสามร้อยเก้าสิบห้าขั้นไปอย่างไม่ยากลำบากนัก ยกเว้นพี่สาวคนรองที่เจ็บหน้าอก

ผมใจหายเมื่อเห็นหน้าซีดๆของพี่ พี่ไม่เคยบอกผมว่าพี่จะมีปัญหาหากขึ้นไปยังที่สูง พี่บอกว่าไม่เป็นไร แต่ก็รับปากพวกเราว่าจะไปเช็คหัวใจให้ละเอียดอีกครั้ง

คราวที่แล้ว หมอบอกว่าหัวใจพี่ไม่มีปัญหา แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้พวกเราไม่ไว้วางใจอีกแล้ว เราจะเช็คมันอย่างละเอียด หัวใจของพี่นั่นน่ะ ผมไม่อยากให้มันเป็นอะไร

"ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็ไปต่อได้" พี่ยังคงยืนยันคำเดิม

พี่คงอยากขึ้นมาเห็นภาพบ้านเกิดของพวกเราจากมุมสูงอีกครั้งเหมือนผม ผมไม่รู้ว่าคนบ้านอื่นเป็นกันไหม แต่คนบ้านผม เราผูกพันกับเมืองๆนี้มาก

ท้ายสุด พวกเราก็ขึ้นไปถึงข้างบนจนได้ ทุกคนสูดหายใจลึกกับอากาศด้านบนที่ไม่มีละอองน้ำเค็มปน ภาพข้างหน้าทำให้มีรอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคน

เราชี้ดูอ่าวนั้นอ่าวนี้ เกาะนั้นเกาะนี้ ก็บ้านผมน่ะมีถึงสามอ่าวเลยนะ ถ้าไม่ขึ้นมาดูด้านบนนี้ก็ไม่มีทางรู้หรอก

เรือประมงที่ลอยเกาะกลุ่มกันหลังเกาะเพื่อหลบลม กลายเป็นเหมือนจุดเล็กๆเมื่อมองจากด้านบน เกาะแต่ละเกาะก็มีขนาดเล็กลง ทุกอย่างดูเหมือนเป็นแบบจำลองขนาดเล็ก น่ารักดี




"สวัสดีปีใหม่" ผมตะโกนกรอกเสียงเข้ามือถือ เมื่อมันดังและผมเห็นว่าอีกปลายทางหนึ่งคือพี่ชายคนโตของผมที่ติดงานอยู่ที่อีกอำเภอหนึ่ง

พี่รับคำและถามผมว่าอยู่ไหน

"กลับมาได้แล้ว หิวข้าวแล้ว" พี่บอก ผมเองก็ยังงงๆอยู่ว่า พี่หิวข้าวแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมที่อยู่นอกบ้าน ในเมื่อพี่อยู่ที่ทำงานอีกแห่งหนึ่ง

จนผมได้ยินเสียงหัวเราะของแม่ ผมถึงได้รู้ว่าพี่ขับรถมาบ้านตั้งแต่เช้ามืด ผมรีบบอกทุกคน พวกเราละสายตาจากวิวตรงหน้าและหันหลังเพื่อลงทันที ราวกับว่าข้างบนนั่นไม่มีอะไรให้สนใจอีกแล้ว

ก็การอยู่ด้วยกันจนพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างนี้ มันไม่เกิดขึ้นง่ายๆในครอบครัวขนาดใหญ่อย่างครอบครัวเรา และพวกเราก็รู้ดีว่าพี่ปลีกตัวจากงานมาเพื่อมาอยู่กับพวกเราโดยเฉพาะ

การอยู่ด้วยกัน นั่นล่ะคือสิ่งที่มีค่าที่สุด




พี่ชายหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเมื่อเห็นหน้าผม พี่ชอบหยอกผมเสมอ คงเป็นเพราะผมเป็นน้องคนเล็ก

สายๆ พี่ชายคนที่สองกับครอบครัวที่อยู่อีกบ้านหนึ่งก็มาถึง แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่เราก็กินข้าวเช้าพร้อมหน้ากัน หัวเราะด้วยกัน

พี่ชายคนโตไปกราบพระพร้อมพวกเรา และขอตัวกลับก่อนขณะที่พวกเราอยู่ทำบุญกันต่อ

ผมเคยได้ยินว่า หากเราทำบุญร่วมกัน ชาติหน้าเราจะเกิดมาเจอกันอีก

อืมม .. ผมไม่รู้หรอกว่าชาติภพมีจริงไหม หากมันมีจริง ผมว่าชีวิตที่แล้วของผมคงจะทำบุญมาเยอะ ผมถึงได้เกิดมาในครอบครัวนี้ ทั้งๆที่พ่อและแม่คิดจะทำหมันตั้งแต่ลูกคนที่ห้าเกิด แต่พี่ชายของผมก็ขัดขวางภารกิจนั้น โดยการรีบออกมาดูโลกก่อนถึงสถานีปลายทางที่พ่อกับแม่จะไป

แม่ต้องคลอดพี่ชายกลางทาง จึงไม่ได้ทำหมัน พ่อก็ไม่ได้ทำหมัน แน่นอนหลังจากนั้นลูกคนเล็กอย่างผมจึงออกมาลืมตาดูโลกอยู่ในปัจจุบัน ไม่รู้ว่ามันดีต่อโลกหรือเปล่า แต่ที่ผมรู้คือมันดีต่อผม

และเพื่อไม่ให้การเกิดมาของผมเป็นการเพิ่มประชากรแบบรกโลก พ่อกับแม่จึงพร่ำสอนให้ผมเป็นคนดี


หลังจากทำบุญเสร็จ พ่อกับแม่มักจะพาพวกเราไปบ้านญาติๆ ไปสวัสดีปีใหม่พร้อมของขวัญติดมือเล็กๆน้อยๆ จะว่าไปมันก็เป็นโอกาสเดียวที่เราจะไปเยี่ยมญาติอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ปีนี้เราก็ออกตระเวณกันอีกเช่นกัน

เราจบวันแรกของปีด้วยการกินข้าวด้วยกันในครอบครัว คราวนี้มีน้าอีกสองคนมาสมทบด้วย วงใหญ่เหมือนเดิม จะขาดก็แต่ครอบครัวพี่ชายคนโตที่ติดงาน

ปีนี้พ่อให้โอวาทยาวกว่าทุกปีที่ผ่านมา พ่อจะบอกพวกเราเสมอว่า พ่อไม่รู้ว่าจะอยู่กับพวกเราได้อีกนานเท่าไร แต่สิ่งที่พ่ออยากให้เป็นคือ พ่ออยากให้พวกเรารักกันเหมือนที่รักกันในวันนี้

พวกเรารับปากกับพ่อว่าพวกเราจะรักกันมากๆ และไม่ทิ้งกัน

บางครั้งความรักของคนในครอบครัวผมก็ทำให้ผมอึดอัด แต่จะให้ผมเลิกรักพวกเขาน่ะรึ นั่นมันเป็นไปไม่ได้หรอก ผมจึงเห็นว่าพ่อไม่จำเป็นต้องกังวลใดๆเกี่ยวกับพวกเรา

หากพวกเราจะเลิกรักกัน เราคงเลิกรักกันไปแล้ว คงไม่รักกันมาจนพี่สาวคนโตอายุปาเข้าไปครึ่งชีวิตแล้ว

แต่ผมก็เข้าใจพ่อและแม่ อนาคตไม่มีใครรู้ได้ แต่ว่าเราป้องกันสิ่งไม่ดีได้ หากเรามีความรักให้แก่กัน

นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมพ่อกับแม่จึงพร่ำบอกให้พวกเรารักกันมากๆ



คืนนั้น ผมหลับตาลงด้วยความอิ่มเอมใจ

หลายคืน ที่ผมหลับตาลงด้วยความกังวลกับเรื่องต่างๆในหัว แต่อย่างน้อยในวันที่ผมอยู่กับครอบครัว ผมสามารถหลับตาลงได้อย่างสุขใจ

เรื่องต่างๆ กลายเป็นสิ่งที่ยังพอจะมีทางจัดการได้

อืมม นั่นละมั้งความรัก มันทำให้ผมมีกำลังใจมากขึ้นที่จะเดินในวันต่อไป

ก็ผมไม่ได้เดินคนเดียวนี่นะ











This Way - DEPAPEPE



Create Date : 04 มกราคม 2552
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2552 21:28:49 น. 9 comments
Counter : 366 Pageviews.

 


ไว้ค่อยมาลงรูปฮะ



โดย: ภูติ วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:23:21:17 น.  

 
อุ่นอวลดีนะ
ชอบเพลงด้วย



โดย: u can call me anytime IP: 202.149.25.225 วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:0:21:02 น.  

 

Happy new year ka'!

รอชมภาพเมืองขนาดจำลองนะคะ
รอให้หายเหนื่อยก่อน
^^


โดย: พิม IP: 118.173.90.183 วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:9:51:29 น.  

 
อ่านแล้วอิ่มใจดีค่ะ ^^


โดย: nanida วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:17:47:26 น.  

 

คุณพ่อคะ

พิมคิดถึง ลูกคนเล็กของพ่อจัง

ปีใหม่นี้ ขอให้คุณพ่อคุณแม่
สุขภาพแข็งแรง ๆ ตลอดไปนะคะ


โดย: warmupcupfee IP: 125.24.84.48 วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:8:27:24 น.  

 

อ่ะ มาแอบบอกคำคิดถึงไว้หน้านี้ได้ไงเนี่ย

ดูท่าจะงานยุ่ง

take good care ล่ะฮะ


โดย: ภูติ IP: 161.200.255.162 วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:16:51:39 น.  

 

ปวดหัวจังเลยอ่า
ช่วงปลายปีกับต้นปีนี้
งานอย่างเยอะทำยังไงก็ไม่หมด
เวลาจะพักกิงข้าว ก็ยังไม่ค่อยจะมี
งืดดดด..

โปรกแกรม msn ก็มาเกเร
แถมมือถือ ยังเกินโปรซะอีก
หมดทางส่งข่าว ว่ายังสบายดี
เลยมาแปะไว้ แถว ๆ นี้ แหะ ๆ

take care เช่นกันนะคะค้าบ ...

ปล. เมื่อวานอ่านเพจที่ชักชวนไปเที่ยวที่บ้าน
อ่านแล้วแอบกลืนน้ำลาย .... อยากไปมั่ก ๆ :P




โดย: miss_warmcupfee IP: 125.24.77.28 วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:12:57:41 น.  

 

ฮ่า .. เอ็มคุณติดไวรัสแน่นอน มันส่งข้อความมาหาเราประจำเลย จ้างให้เราก็ไม่หลงกลคลิ๊กร๊อก

งานหนักก็ต้องดูแลสุขภาพดีๆละฮะ


โดย: ภูติ วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:20:13:07 น.  

 

เอ๋.. พิมก็ไม่ค่อยไปซนอะไร
มานมาจากไหนอีกแล้วอ่า...

แถมยังส่งข้อความไปป่วนชาวบ้านอีกต่างหาก
แย่จังโรยยย... กาซิก กาซิก


โดย: waiting.warm.cafe' IP: 125.24.13.251 วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:8:35:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.