-'@'-Journey Of Love-'@'- เมื่อหัวใจเดินทาง
space
space
space
 
พฤศจิกายน 2567
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
space
space
4 พฤศจิกายน 2567
space
space
space

ทริปเดินขาลาก ญี่ปุ่น โอซาก้า - โตเกียว 14 วัน (7)

ไปไหนก็ได้ขอแค่ให้มีรถสาธารณะไปถึง (1)

เริ่มต้นการเดินทางจากบ้านนอก เข้าสู่กรุงเทพฯ

ตอนเช้าไม่ได้เปิดดูข่าวอะไรเลย ไม่มีความเอ๊ะใดๆ ทั้งสิ้น ลืมดูว่าก้าวเท้าไหนออกจากบ้าน ทั้งที่สถานีห่างจากบ้านแค่ 5 กม. จนกระทั่งมาถึงสถานีรถไฟ
ตอนไปเข้าแถวซื้อตั๋ว เจ้าหน้าที่บอกว่ารถไฟจะสามารถออกได้ตอนบ่าย 3 นะ

Hey, hey, hey. What's happened? 
จะให้เปลี่ยนไปขึ้นรถตู้ หรือ รถบัส ก็ใช้เวลาพอกัน ต้องถ่อสังขารไปขึ้นที่ บขส. อีกไม่รู้ว่าจะมีที่นั่งไหมด้วย เลยยอมซื้อตั๋วแล้วนั่งรอ (ที่บ้านน้าสาวใกล้ๆ สถานี)

ทำให้ขบวนเที่ยวล่อง กบินทร์บุรี - กรุงเทพ รอบ 13.25 น.ถึงสถานีพญาไทเวลา 17.15 น. ต้องเลื่อนเวลาออกเป็น 15.45 น. แต่การรถไฟก็ทำเวลาด้วยการไม่จอดสถานีย่อย เสียเวลาแค่จอดรอสลับรางรถไฟบางสถานี ถึงสถานีพญาไทประมาณ 19.45 น. แถมระหว่างทางยังโดนฝนสาดอีกต้องลากกระเป๋าใบเล็กย้ายไปอีกโบกี้ เพราะหน้าต่างปิดไม่ได้



แทนที่จะมีเวลากินข้าว เดินเล่นห้าง กลับมาอาบน้ำ แล้วไปสนามบิน กลายเป็นต้องรีบไปที่โรงแรมรับกระเป๋าที่ฝากไว้ รื้อกระเป๋า อาบน้ำ วางแผนจัดกระเป๋าใหม่เพราะตั้งใจจะโหลดทุกใบ แล้วรีบไปสนามบิน

ไม่ต้องรีบตะกายขึ้นรถไฟละ ได้นั่งแบบเหงาๆ ยาวๆ กันไป



จัดการสภาพตัวเองเรียบร้อยก็ลากกระเป๋าใหญ่-เล็ก ไปขึ้นรถไฟ Airport Rail Link ต่อ จัดการเช็คอินกระเป๋าให้หมด โดยการ Online Check-in ได้ล่วงหน้า 24 ชม. แคปหน้าจอไว้ แล้วไปเข้าแถวช่องที่เป็น Self Bag Drop เพื่อสแกน QR Code แต่เนื่องจากเห็นว่ามี เจ้าหน้าที่นั่งว่างอยู่ที่เคาน์เตอร์ เลยเดินยิ้มไปให้ช่วยโหลดแทน ก็จะได้ตั๋วใบยาวๆ มาด้วย กำจัดภาระชิ้นใหญ่ออกหมด แล้วค่อยไปหาข้าวกินชั้นล่าง หมดสภาพหิวสุดๆ

แนะนำสำหรับผู้เดินทางที่มาเป็นกลุ่มครอบครัว แต่ไม่แชร์น้ำหนัก สามารถทำ Self Bag Drop ได้แบบรายบุคคล ซึ่งน้ำหนักกระเป๋ารวมต้องไม่เกินที่สายการบินกำหนด แต่ถ้ามีกระเป๋า 1 ใบ ที่มีน้ำหนักเกิน ควรใช้วิธีแชร์ และต้องไปที่เคาน์เตอร์เช็คอินปกติเพื่อทำการโหลดแบบครอบครัว

ตอนปริ้นต์ Bag Tag ควรที่จะดูชื่อบนหางกระดาษด้วยว่า ตรงกับชิ้นที่ต้องการโหลดหรือไม่ บางคนชื่อเดียวแต่มีกระเป๋าโหลด 2 ใบ น้ำหนักรวมอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด แต่เอา Tag ไปติดกระเป๋าใบอื่น จาก 1+2 = 25 Kg กลายเป็นน้ำหนักเกิน 1+3 = 40 Kg อันนี้ต้องระวังด้วย ไม่งั้นจะโหลดไม่ผ่าน

ตอนติด Tag ก็แค่แกะปลายกระดาษด้านหนึ่ง ไปแปะไว้ตรงที่เขียนว่า Stick Here ลูบให้สติ๊กเกอร์เรียบ แล้วแกะสติ๊กเกอร์ตัวเลขตรงปลายหางเล็กๆ ติดที่กระเป๋าอีกทีด้วย ส่วนที่เหลือเก็บไว้เป็นหลักฐานเวลารับกระเป๋า เป่ามนต์คาถาขอให้กระเป๋าเดินทางอย่างสวัสดิภาพ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่หนีไปเที่ยวที่อื่น แล้วค่อยยกกระเป๋าเข้าช่องสายพาน บะบาย...เจอกันที่ปลายทางเด้อ...



ตอนจะเข้า ตม. ก็แบบเอ๊ะ!! ไม่มีใบ ตม. นี่หว่า เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ ได้คำตอบว่ายกเลิกกรอกเอกสารไปแล้ว...ขอบคุณค่า...ไหว้ย่อ...ไม่ได้เดินทางนานแล้วก็จะประมาณนี้ละ

ผ่าน ตม. สแกนบัตรโดยสาร สแกนพาสปอร์ต ถ่ายรูปหน้า ปิ๊งๆ ผ่านเข้าข้างในก็ตรงดิ่งไปที่เกทเลย ไม่มีอะไรต้องแวะซื้ออีก นอกจากหาที่นั่งเพื่อชาร์จมือถือ

ไฟลท์   TG622   BKK - KIX   23.59 - 07.30+1

 




 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2567
0 comments
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2567 15:05:24 น.
Counter : 137 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

Poonchayapich-N
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Welcome to My Home...L'Amour De Ma Vie

space
space
[Add Poonchayapich-N's blog to your web]
space
space
space
space
space