Group Blog
|
อภิธรรมจักพึงเป็นปิฎกหนึ่ง หรือ ถ้าอภิธรรมจักพึงเป็นปิฎกหนึ่ง และเป็นพระพุทธพจน์จริงแล้วไซร้ ไฉนในสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปรินิพพานสูตร เมื่อพระบรมศาสดาแสดงมหาปเทส ๔ สำหรับให้พุทธบริษัทสอบสวนพระธรรมวินัยว่า อันใดเป็นพุทธพจน์ อันใดมิใช่พุทธพจน์ ตรัสว่าให้สอบว่าเข้ากันได้กับพระสูตร ลงกันได้กับพระวินัย เป็นใช้ได้ ว่านั่นคือพุทธพจน์ แต่ไม่เห็นมีว่าให้สอบเข้ากันได้กับอภิธรรมเลย ดังพระพุทธพจน์ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ก็ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ในอาวาสชื่อโน้น มีสงฆ์อยู่ พร้อมทั้งพระเถระ พร้อมทั้งหัวหน้า, ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วต่อหน้าสงฆ์ ข้าพเจ้ารับมาแล้วต่อหน้าสงฆ์นั้นว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้คำสอนของพระศาสดา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอไม่ควรรับรอง ไม่ควรคัดค้านคำของภิกษุนั้น พวกเธอมิได้รับรอง มิได้คัดค้านแล้ว พึงเรียนบทพยัญชนะนั้นให้ดี แล้วสอบสวนในพระสูตร เทียบเคียงในพระวินัย ถ้าลงในพระสูตรไม่ได้ เทียบในพระวินัยไม่ได้ พึงสันนิษฐานอย่างนี้ว่า ข้อนี้มิใช่คำของพระผู้มีพระภาคนั้นแน่นอน เป็นคำของที่ภิกษุนี้จำมาผิด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! พวกเธอพึงทิ้งข้อนี้เสีย ด้วยประการดังนี้ แต่ถ้าว่าสอบสวนลงได้ในพระสูตร เทียบเคียงได้ในพระวินัย ก็พึงสันนิษฐานในข้อนั้นว่า นี้เป็นคำของพระผู้มีพระภาคนั้นแน่นอน และภิกษุนี้จำมาได้ดีแล้ว ก็ถ้าอภิธรรมปิฎกพึงเป็นพระพุทธพจน์แล้ว พระองค์จักพึงตรัสว่าให้สอบลงในพระสูตร เข้ากันได้กับพระอภิธรรม และเทียบกันได้กับพระวินัยเป็นแน่ ไฉนในมหาปเทสจึงมิได้ปรากฏอภิธรรมเลย |
Link
|