ทริปนี้ก็เหมือนเดิมบินดอนเมืองทีไรกะเวลายากตลอดถึงกับต้องบอกแท็กซี่ขึ้นโทลย์เวย์เลยค่ะ ค่าแท็กซี่จากโยธินพัฒนามาสนามบินดอนเมือง 400 บาทจะซื้อตั๋วเครื่องบินได้อีกเที่ยวแระ เนื่องจากไลออนแอร์เค้ามีบริการโหลดกระเป๋าฟรี 15 กิโล ดังนั้นจึงต้องมาก่อนเวลาประมาณ 45 นาทีเพื่อไปที่เคาเตอร์โหลดกระเป๋า งานนี้วิ่งตับแล่บเช่นเคยไม่เคยจะได้เดินสวยๆ เข้าสนามบินเลยนะ
ด้วยความที่ จขบ. บินแต่แอร์เอเชียตลอดตามประสาคนเบี้ยน้อยจะไปไหนที่ก็จองเป็นปีนะ ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่บินกับไลออน์แอร์สายการบินนี้ใช้คนคุ้มค่ามาก พนักงานเช็คอินเสร็จบินต่ออีกหน้าเหมือนเดิมเลยจ้า ทำหลายตำแหน่งดีจังแฮะ เอาล่ะได้เวลาขึ้นเครื่องกันแล้ววินาทีแรกที่นั่งลงบนเก้าอี้สายการบินนี้ใหม่กิ๊กเลยอ่ะ ประหนึ่งเปิดซิงเครื่องกลิ่นใหม่ยังอยู่แต่เครื่องขึ้นช้าหน่อยนะเหมือนต้องรอคิว พอทะยานขึ้นฟ้าได้ก็มองลงมาเห็นป่าคอนกรีตหนาแน่นเชียว
ด้วยความที่ จขบ.ใช้บริการเป็นครั้งแรกพอเครื่องบินได้ระดับก็เปิดเลยจ้า หาของกินแม้จะบินระยะไหนก็ตามเรื่องกินสำหรับ จขบ.เนี่ยเรื่องใหญ่นะจ๊ะ ดูเมนเสร็จเรียบร้อยแล้วพนักงานเข็นรถมาจะสั่งอาหาร พนักงานตอบด้วยความสุภาพว่า "สายการบินเราบินระยะไกลไม่มีอาหารนะคะมีบริการแต่เครื่องดื่มค่ะ" โอ้ยยยย หมดกันคือหิวมาด้วยไงรอไปค๊าอีกหนึ่งชั่วโมง
หลังจากนั่งเม้าส์มอยสอยปลาทูเนียนๆ ไปเพื่อระงับความหิวแป๊บเดียวก็เดินทางมาถึงกระบี่แล้ว
โปรดสังเกตุความเขียวขจีที่ดูแตกต่างกับเมืองฟ้าอมรเป็นยิ่งนัก
บางทีก็อดสงสารประชากรในเมืองหลวงไม่ได้
สำหรับ "กระบี่" จขบ.เคยมาเมื่อสมัยสาวๆ นานมากแล้ว
แต่ยังจำภาพกระบี่ในวันนั้นอย่างไม่ลืมเลือนระยะทางจากสนามบินจะเข้าเมือง
จขบ.รู้สึกว่ากระบี่ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนักยังคงมีความเขียวขจีหลงเหลืออยู่มาก บ้านเรือนยังไม่แน่นเหมือนเมืองท่องเที่ยวที่อื่น
ด้วยความที่ทริปนี้เรามีไกด์เจ้าบ้านเป็นรุ่นพี่ของหนิงสบายเลยเรา
ไม่ต้องคิดทริปมาแบบชิลๆ มากโดยโปรแกรมแรกพี่เค้าพาไปทานข้าวร้านอาหารขึ้นชื่อแห่งเมืองกระบี่
มีชื่อว่า "เรือนไม้"
ที่นี่เป็นร้านอาหารที่เข้ามาลึกเหมือนกันจากปากทางเข้ามายังร้านแทบมองไม่ออกเลยว่ามีร้านอยู่บริเวณนี้
จขบ.เข้าใจว่าพี่เค้าคงมาแวะหาเพื่อนก่อนมั้งที่ไหนได้พอเดินเข้ามานี่มันร้านอาหารนี่หว่า
หลบอยู่ในพุ่มไม้ทำเอาถึงบางอ้อเลยเรือนไม้จริงๆ
จขบ.แอบส่องสถานที่เช็คอินมีเซเลปสายท่องเที่ยวมาเช็คอินกันด้วย อาทิเช่น แม่ประนอม
แสดงว่าที่นี่ต้องไม่ธรรมดาแล้วล่ะตาม จขบ.เข้าไปในร้านกันเลยค่ะ
จขบ.เดินสำรวจทั่วๆ ร้านช่างเต็มไปด้วยความร่มรื่นเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อนประมาณนั้นเลย
ที่นี่ตกแต่งให้กลมกลืนกันธรรมชาติมากดูสบายตาดีจัง
งานนี้เมนูไม่ต้องเรามีเจ้าบ้านแนะนำอาหารอร่อยไปดูอาหารแนะนำกันเลยค่ะ
จานแรก จขบ. ไม่รู้ว่ามันชื่ออะไรแต่มันอร่อยใช้ได้เลย
ต่อด้วยเมนูที่สุดชื่นชอบของ จขบ. แกงเหลืองหน่อไม้มาเมืองใต้สิ่งที่ไม่พลาดนั่นคืออาหารใต้
แต่เสียดายเมนูนี้เค้าทำให้คนต่างถิ่นได้ทานได้ด้วย รสชาติเลยยังไม่แซ่บเหมือนดังรสดั้งเดิม แกงเหลืองมันต้องเผ็ดร้อน
เวลาทานแกงเหลืองสิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นคือ หมูหวาน
เมนูนี้เพื่อดับความเผ็ดของเมนูก่อนหน้านี้ ที่นี่เค้าทำใส่กะปิด้วยหอมอร่อยกลมกล่อมกันเลยทีเดียว
ต่อด้วย น้ำพริกกุ้งเสียบ เมนูดังแห่งเมืองกระบี่เสิรฟ์พร้อมผักนานาชนิดรับรองไม่ผิดหวัง
อาหารใต้ .. ส่วนหนึ่งที่ จขบ.ชื่นชอบคือพอมันเผ็ดมันทำให้เราต้องหาตัวดับนั่นก็คือผักนานาชนิดที่เค้าคัดสรรมาให้เราเนี่ยแหละ
มีสรรพคุณทานเป็นยาไม่ว่าจะเป็นขมิ้นขาว มะเขือ ใบบัวบกและผักพื้นบ้านอีกหลายชนิด
แต่ จขบ.ติดใจที่สุดเห็นจะเป็น สาหร่ายไข่ปลา
ตัวสาหร่ายจะกรุบๆ เด้งๆ ดีอ่ะรสชาติออกเค็มๆ เหมือนน้ำทะเล
พี่เจ้าบ้านเล่าให้ฟังว่าสาหร่ายชนิดนี้เริ่มหาทานยากแล้วเพราะใกล้จะสูญพันธุ์มีเฉพาะกระบี่ที่เดียวเนี่ยแหละ
จขบ.นี่ทานฟินมากเลยนี่ถ้าเอาสาหร่ายนี้ยำนะรับรองว่าแซ่บคูณสองทำเอาอยากมากระบี่อีกหลายๆ รอบเพราะสาหร่ายเนี่ยแหละ
โดยรวมร้านอาหารนี้ จขบ.ว่าอร่อยเลยล่ะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเซเลบห้องบลูถึงได้เช็คอินที่นี่
มากระบี่ก่อนเข้าเมืองก็จัดก่อนเลยนะแล้วจะรู้ว่า "ไม่ผิดหวังดังคำเล่าลือ"
ติดตามต่อตอนหน้านะจ๊ะ จขบ.จะพาไปพักโฮสเทลไฮโซเกลอกันค่ะ