กรกฏาคม 2559

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
เล่าสู่กันฟัง : ขั้นตอนการขอวีซ่าอเมริกาประเภท B1/B2



สวัสดีค่ะทุกๆ คน :) 
หลังจากที่ตั๊กหายไปนานมาก เกือบๆ ปีแล้วมั้งเนี่ย 
วันนี้เอาสาระมาฝากค่ะ เนื่องจากอีกไม่กีเดือนข้างหน้ามีความเป็นไปได้ว่าจะได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกา 
ตั๊กเลยไปขอวีซ่ามา และอยากจะมาอัพเดทข้อมูลให้ทุกๆ ฟังค่ะ 
ปล. บล็อกนี้รูปเยอะมากนะคะ แต่ว่าคิดว่าน่าจะง่ายกับเพื่อนๆ ในการกรอกตามค่ะ 

สำหรับวีซ่าที่ตั๊กขอ เป็นวีซ่าประเภท B1/B2 ค่ะ คร่าวๆ คือ เป็นวีซ่าสำหรับการสัมมนา/ท่องเที่ยวระยะสั้น
ขั้นตอนการขอวีซ่านั้น จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่ายค่ะ แต่ที่ๆ กรอกข้อมูลกันมันมือเลย 
สำหรับขั้นตอนคร่าวๆ ก็มีสามขั้นตอน ดังนี้ค่ะ 

ขั้นตอนการขอวีซ่า
1. กรอกแบบฟอร์มสมัครวีซ่า DS-160 >> https://ceac.state.gov/genniv/
2. กรอกแบบฟอร์มยื่นคำร้องขอสัมภาษณ์ >> //www.ustraveldocs.com/th/
3. เดินทางไปสัมภาษณ์วีซ่า 

ขั้นตอนแรก : การกรอกแบบฟอร์ม DS-160 

สำหรับการกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ให้เพื่อนๆ เข้าไปที่ Link นี้เลยค่ะ https://ceac.state.gov/genniv/

จากนั้นจะปรากฏหน้านี้ขึ้นมา ในหน้านี้ให้เราเลือก สถานที่จะไปยื่นขอวีซ่า และเพื่อนๆ สามารถเลือกตัวช่วยแปลภาษาได้ค่ะ 




หลังจากนั้น หน้าถัดไป เราจะได้เลข Application ID มาค่ะ ให้เพื่อนๆ จดไว้ดีๆ นะคะ เพราะว่า ต้องใช้ในการเข้าระบบในครั้งต่อไปค่ะ 
แล้วก็ที่หน้านี้จะมีให้เลือก คำถาม เพื่อจะใช้ในการเข้าระบบค่ะ 

เพื่อนๆ อาจจะสงสัยว่า ทำไมต้องเข้าระบบ บ่อยๆ เนื่องจากในขั้นตอนการกรอก DS-160 นั้น ระบบจะมีการรีเซ็ทอยู่เรื่อยๆ นะคะ ทำให้บางทีกรอกๆ ไป แล้วเด้งออกมา ต้องเข้าระบบใหม่ 
นั่นคือเหตุผลว่าทำไม เราถึงจำเป็นต้องเข้าระบบใหม่ บ่อยๆ ค่ะ 
แล้วอีกอย่างที่สำคัญคือ ในระหว่างการกรอกข้อมูลให้เพื่อนๆ save ข้อมูลบ่อยๆ นะคะ เพราะว่าถ้าเด้งออก นั่นหมายถึงว่าเราต้องกรอกหน้านั้นๆ ใหม่ ถ้าเกิดว่าเรายังไม่ได้ save ไว้ค่ะ 



จากนั้นมาถึงหน้าต่อไป หน้านี้จะเป็นการกรอกข้อมูลส่วนตัวของเราค่ะ 






หน้านี้จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือเดินทางค่ะ  หากเราถือหนังสือเดินทางปกติเล่มสีเลือดหมูก็เลือก Regular ค่ะ 




หน้าถัดมา จะเป็นส่วนของ ข้อมูลการเดินทางค่ะ ตามนี้เลย 



ตรงนี้จะเป็นที่อยู่ของเราในขณะที่เราพักอยู่ในอเมริกาค่ะ ของตั๊กเนื่องจากบริษัทส่งไป ตั๊กเลยหรอกเป็นที่อยู่บริษัทที่โน่นค่ะ ในส่วนของเพื่อนๆ ถ้าเป็นการเดินทางท่องเที่ยว สามารถกรอกที่อยู่โรงแรมได้ค่ะ 




ในส่วนถัดมา จะถามเรื่องค่าใช้จ่ายค่ะ ว่าใครเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ค่ะ



ต่อมาเป็นข้อมูลด้านการเดินทาง ว่ามีใครเดินทางไปพร้อมเราบ้าง เป็นการเดินทางคนเดียวหรือไปเป็นกลุ่ม
ตรงนี้ตั๊กเลือกเดินทางเป็นกลุ่มค่ะ เพราะคิดว่าน่าจะส่วนให้การได้วีซ่าง่ายขึ้น เพราะเราเดินทางหลายคน อันนี้ตั๊กคดเอาเองนะคะ ไม่มีข้อมูลอ้างอิงอะไร 5555 




ต่อมาเป็นคำถามเกี่ยวกับประวัติการเดินทางเข้าอเมริกาแบบคร่าวๆค่ะ ก็ตอบไปตามความจริงได้เลยค่ะ 



จากนั้นจะมีการถามเกี่ยวกับบุคคลอ้างอิงของเราที่อเมริกาค่ะ 
เนื่องจากเป็นการไปสัมมนา ดังนั้นตั๊กเลยใส่ชื่อของที่ทำงานทางโน้นไปค่ะ





ในส่วนต่อมา จะเป็นรายละเอียด ข้อมูลของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ 






จากนั้นจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพการงานของเราค่ะ ตรงนี้สำคัญมากเลยนะคะ 
เพราะว่าในการจะได้หรือไม่ได้วีซ่านั้น ตั๊กว่าเรื่องอาชีพการงานมีผลอย่างมากค่ะ 
คือมันเป็นตัวการันตีอย่างหนึ่งว่า เราไปแล้วเราจะกลับไทย เรามีงานเป็นหลักเป็นแหล่ง
ในส่วนของคำอธิบายเกี่ยวกับงานของเรา ตรงนี้ก็อยากให้เพื่อนๆ กรอกลงไปให้ละเอียดนิดนึงคะ





ถัดจากนี้ จะเป็นการถามเกี่ยวกับ Security Question ต่างๆ ค่ะ ส่วนใหญ่ถ้าไม่เคยมีประวัติอะไรผิดกฏหมาย คำตอบก็ควรจะเป็น NO ทั้งหมดค่ะ  

หน้าถัดไปจาก Security Question ก็จะเป็นการใส่รูปถ่ายค่ะ ตรงนี้จะมีเครื่องมีช่วยในการ จัดการรูปภาพด้วย ฮ่าๆๆ แต่ตั๊กไม่ได้เซฟหน้านั้นไว้นะคะ เลยไม่มีมาให้ดูค่ะ 

หลังจากใส่รูปแล้วก็จะเป็นการ Sign แล้วก็ Submit แบบฟอร์มค่ะ 
ตรงนี้อยากให้เพื่อนๆ ตรวจสอบข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนนะคะ เพราะหลังจากการ Submit แล้ว เราจะแก้ไขอะไรไม่ได้เลยค่ะ แล้วถ้ามีข้อมูลอะไรผิด เราอาจจะต้องกรอกใหม่หมดเลย ซึ่งจะเสียเวลามากๆ ค่ะ 

หลังจากกรอกทุกอย่างเรียบร้อยเราก็จะได้ใบ Confirmation มาค่ะ ซึ่งใบนี้เราจะต้องนำติดตัวไปในวันสัมภาษณ์ด้วยค่ะ

อ่อ ตรง Place of Birth ตรงนี้ เขาจะเอาข้อมูลมาจาก ตอนที่เรากรอกสถานที่เกิดนะคะ 
เพราะฉะนั้นตอนกรอก ในช่อง City ให้เพื่อนๆ กรอกจังหวัดไปค่ะ ถ้าอยากให้ชื่อจังหวัดมาปรากฏที่ใบ Confirmation แต่ว่า แม้ว่าชื่อที่ปรากฏจะเป็นชื่ออำเภอก็ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ แต่เกรงว่าบางคนจะกังวลค่ะ เพราะตั๊กเป็นค่ะ 5555 ถึงขนาดต้องกรอกใหม่อีกใบแล้วใช้ใบใหม่กันเลยทีเดียว 



ต่อมาจะแนะนำให้ส่วนของการ Retrieve a DS-160 Application
เข้าไปที่ลิ้งด้านบนอีกครั้ง แล้วเลือก Retrieve An Application ค่ะ 



จะมีหน้านี้ขึ้นมาค่ะ ให้เราใส่เลข Application ID ลงไป จากนั้น จะมีแถบเด้งมาเพิ่ม ให้ใส่นาสกุลแล้วก็ Security Question ที่เราตั้งไว้ตอนแรกๆ เลยค่ะ ได้ใช้ตอนนี้แหล่ะ 

สำหรับขั้นตอนการกรอก DS-160 ก็จบลงเพียงเท่านี้ค่ะ 
ต่อไปจะแนะนำในส่วนของการ สร้างโปรไฟล์ การจ่ายเงินและนัดวันสัมภาษณ์ค่ะ 


ขั้นตอนที่สอง : การกรอกแบบฟอร์มยื่นคำร้องขอสัมภาษณ์ 

สำหรับการยื่นขอนัดสัมภาษณ์นั้น ขั้นตอนแรกให้เพื่อนๆ เข้าไปที่ Link นี้ค่ะ //www.ustraveldocs.com/th/ เพื่อสร้างโปรไฟล์ของเราค่ะ 

เมื่อกดเข้าไปในลิ้งแล้ว จะมีหน้าต่างขึ้นมาถาม เป็นการขอวีซ่าครั้งแรกใช่หรือไม่ 



จากนั้นให้เราเลือกประเภทวีซ่าที่ยื่นค่ะ หากเป็นวีซ่าชั่วคราวอย่างวีซ่าท่องเที่ยว ให้เราเลือก Nonimmigrant ค่ะ 



จากนั้นจะเด้งไปที่หน้าเกี่ยวกับข้อมูลและขั้นตอนการขอวีซ่าแบบละเอียดค่ะ เมื่อเราอ่านทำความเข้าใจแล้ว ให้เรากดที่ Log In เลยค่ะ



จากนั้นจะเข้ามาที่หน้านี้ค่ะ หากเพื่อนๆ เคยสมัครแล้วก็เข้าระบบได้เลย ถ้ายังก็กรอกข้อมูลตามที่เวบไซท์แนะนำได้เลยค่ะ 



จากนั้นเราก็จะสามารถเข้าระบบได้ แล้วหากเพื่อนๆ ต้องการจะนัดสัมภาษณ์ก็ให้เลือก การสมัครขอวีซ่าใหม่ / นัดสัมภาษณ์วีซ่า ค่ะ 



เมื่อเรากรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว เราจะได้รายละเอียดการชำระเงินมานะคะ ให้เรานำใบนี้ไปขำระเงินได้ที่ธนาคารกรุงศรีค่ะ 



หลังจากการชำระเงินแล้ว ให้เรารอประมาณ 1 - 2 วันจากนั้นเราจะสามารถนัดวันสัมภาษณ์ได้ค่ะ 
ในระบบจะแสดงให้ดูว่า มีวันไหนว่างบ้าง เวลากี่โมง และเหลือกี่ที่ค่ะ
เลือกวันที่เราชอบ จากนั้นก็ปริ้นใบยืนยันการนัดสัมภาษณ์มาค่ะ เพราะต้องนำไปในวันสัมภาษณ์ด้วย 



เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อยสำหรับการนัดสัมภาษณ์ค่ะ 

ขั้นตอนที่สาม : การสัมภาษณ์ 

สำหรับการสัมภาษณ์นั้น เราต้องเดินทางไปด้วยตัวเองนะคะ 
เตรียมเอกสารไปให้พร้อม การแต่งกายก็ขอแค่สุภาพก็พอค่ะ 

สำหรับเอกสารที่ตั๊กเตรียมไปและได้ใช้ก็มีดังนี้ค่ะ 

1. Passport ก็แน่หล่ะ 5555 อันนี้ห้ามลืมนะคะ 
2. ใบรับรองการทำงาน
3. Invitation Letter ที่ได้มาจากทางฝั่งอเมริกาค่ะ 
4. ใบ Confirmation ที่ได้ตอนกรอก DS-160 แล้ว และใบนัดสัมภาษณ์ค่ะ 

ตั๊กใช้แค่สามอย่างนี้ค่ะ แต่ก็มีพี่บางคนในกลุ่มที่ต้องเอารูปถ่ายให้เขาด้วยค่ะ 

สำหรับเวลาในการไปจริงๆ เราไม่ต้องไปก่อนเวลานานมากก็ไดค่ะ เพราะว่าเขาเรียกตามรอบอยู่แล้วค่ะ 
เมื่อไปถึงสถานทูตแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็จะสอบถามว่า นัดกี่โมงและดูใบนัดค่ะ หากถึงรอบเราเเล้ว 
เขาก็จะให้เข้าไปในสถานทูตค่ะ แนะนำเพื่อนๆ ว่า เอาของไปน้อยๆ ก็ดีค่ะ เพราะว่าเขาไม่ค่อยอนุญาตให้เอาอะไรเขาไปเยอะ 
ถ้ามีมากไป อาจจะต้องไปฝากของที่ข้างนอก อาจจะทำให้เราเสียเวลาและเสียงเงินด้วยค่ะ 
ของที่เขารับฝาก เหมือนจะมีแค่กระเป๋าใบเล็กๆ โทรศัพท์มือถือ แล้วก็กุญแจเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ 

หลังจากฝากของแล้ว เราก็จะถูกปล่อยเข้าไปด้านใน แล้วก็ไปนั่งรอให้เขาเรียกค่ะ 
พอเรียกแล้วจะมีใบเล็กๆ มาให้ ให้เราจดเลข EMS ไว้ด้วยนะคะ เผื่อกรณีที่เอกสารมาช้าจะได้ตามถูกค่ะ

เมื่อถึงรอบแล้ว เข้าไปข้างในก็ต้องไปต่อแถวอีกค่ะ จากนั้นจะมีการสแกนลายนิ้วมือ 10 นิ้ว 
และตรงนี้เองที่เจ้าหน้าที่คนไทยจะทำการสอบถามเบื้องต้นค่ะ แล้วก็มีการขอดูเอกสาร 
ตรงนี้เนื่องจากตั๊กไปกับพี่ๆ ที่ทำงาน เลยบอกเขาว่ามาจากบริษัทเดียวกัน ไปพร้อมกัน 
เขาเลยขอเอกสารของพวกเราไปค่ะ เป็นใบรับรองการทำงานและ Invitation Letter 
และเขาก็ให้สัมภาษณ์เราเป็นกลุ่มด้วยค่ะ 

เมื่อผ่านด่านแรก ต่อไปก็ไปเจอคุณฝรั่งอีกคน เขาจะตรวจสอบและสอบถามเบื้องต้นอีกครั้ง 
จากนั้นก็รอสัมภาษณ์จริงค่ะ 

ทีแรกนึกว่าจะเป็นการสัมภาษณ์ในห้องเดี่ยวๆ จริงๆ ไม่ใช่เลยค่ะ
เป็นช่องๆ หน้าต่าง เหมือนเวลาเราไปซื้อตั๋ว ฮ่าๆๆๆ ถามอะไรได้ยินหมด แล้วที่ทำให้จิดตกคือ 
ได้ยินเจ้าหน้าที่พูดว่า เสียใจด้วย เรายังให้วีซ่าคุณไม่ได้บ่อยมากๆ 5555 

พอถึงรอบเรา เราเจอฝรั่งผู้ชายท้วมๆ นิดหน่อยคะ ก็เข้าไปพร้อมกับพี่ๆ อีกสามคนค่ะ 
เขาถามว่าไปเมืองไหน ไปกับบริษัท xxxx ใช่มั้ย แล้วไปด้วยกันใช่มั้ย 
เป็น Internal Seminar ใช่มั้ย ไม่ได้ไปทำงานใช่มั้ย 

พอสัมภาษณ์แล้วเขาก็บอกว่า Passport จะถูกส่งกลับไปในอีกไม่เกิน 1 สัปดาห์ 
เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อย กลับบ้านได้ สบายใจค่ะ 
ก็เป็นอันว่าเรียบร้อย รออีกประมาณสองถึงสามวัน วีซ่าก็มาส่งถึงหน้าหอค่ะ :)

สำหรับขั้นตอนการขอวีซ่าก็จบแล้วค่ะ 
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ กับเพื่อนๆ นะคะ หากมีข้อสงสัยอะไรก็สามารถฝากคำถามไว้ได้นะคะ 
แล้วพบกันบล็อกหน้านะคะ บะบายค่าาาา ~~~~ 



Create Date : 10 กรกฎาคม 2559
Last Update : 10 กรกฎาคม 2559 20:17:29 น.
Counter : 7733 Pageviews.

3 comments
  
สวัสดี จ้ะ ตั๊ก

หายไปนานมาก น่าจะมากกว่า 1 ปี นะ นี่ครูเข้าทัก ถาม เป็นเดือนแล้วมั้ง เพิ่งได้ตอบครู หายไปไหนมาจ๊ะ
เรื่องวีซ่า อเมริกา ปัจจุบันเอาแพลงมาก และยุ่งยากทีเดียว กรอกเยอะแยะมาก ครูขอครั้งที่ 1 เสีย 500 บาท เอง ไปครั้งเดียวเมื่อปี 39 แล้วก็ไม่ได้ไปอีกเลย เขาอุตส่าห์ให้ตั้ง 10 ปี ห้าห้า หลังเกษียณ จะไปเที่ยวอาลัสก้า เลยต้องทำอีกรอบ แต่ก็ไม่ยุ่งยากนัก เพราะลูกศิษย์ที่เก่งภาษาอังกฤษ กรอกให้ ห้าห้า เราเอาวีซ่าเก่าไปให้เขาดู ก็ผ่านฉลุย ได้มาอีก 10 ปี เมื่อปี 54 ตอนนี้ 59 เหลืออีกไม่กี่ปี ก็หมดอีกแล้ว ตอนนั้นเสียโน่นเสียนี่ เกิน 5000 อยู่แล้ว จ้ะ
โหวด หมวด ความรู้ นะจ็ะ
ขอแสดงความยินดีด้วย ที่จะได้มีโอกาสไปสัมมนาที่อเมริกา ในเร็ววันนี้จ้ะ

โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 10 กรกฎาคม 2559 เวลา:19:52:47 น.
  
ขอบคุณมากนะค่ะสำหรับข้อมมูลที่แชร์
ดูจากตัวอย่างและมีภาพด้วยทำไห้เข้าใจมากขึ้นมาก
ตอนนี้รอสัมภาษย์ค่ะ ขอบคุณอิกครั้งค่ะ
โดย: lay IP: 203.114.125.242 วันที่: 5 มิถุนายน 2560 เวลา:13:18:27 น.
  
ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับข้อมูล เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ เอาไว้เป็นguideline ตอนกรอกแบบฟอร์มได้เลยค่ะ
โดย: Kung IP: 27.145.176.213 วันที่: 11 ตุลาคม 2560 เวลา:11:21:08 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nepster
Location :
นครราชสีมา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกๆคนนะค่ะ :)

เจ้าของบ้านชื่อตั๊กแตนค่ะ
เป็นคนชอบการเดินทาง ชอบอ่านหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือเกี่ยวกับบันทึกการเดินทาง ชอบถ่ายรูป แล้วก็ชอบเขียนอะไรเรื่อยเปื่อยด้วยค่ะ

มีความฝัน อยากไปเที่ยวรอบโลก อยากมีหนังสือบันทึกการเดินทางของตัวเองสักเล่ม
แล้วก็อยากพูดได้หลายๆ ภาษา ฮ่าๆ จริงๆ อยากเป็นล่าม หรือไม่ก็นักแปล สนใจภาษาต่างประเทศค่ะ หุหุ

ตอนนี้ Bloggang เป็นเหมือนบ้านไปแล้ว
เพราะทำให้ตั๊กแตนได้มีโอกาสแบ่งปันข้อความกับเพื่อนๆ
และยังทำให้รู้จักเพื่อนใหม่ และได้ความรู้มากมายด้วยค่ะ

ถ้าแวะผ่านมาก็ทิ้งข้อความทักทายกันไว้ได้นะค่ะ :)
New Comments