ปล่อยมือ ... ปล่อยใจ ... ปล่อยวาง ...
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
24 สิงหาคม 2550

นานาสาระเรื่อง " จูบ " ที่หลายคนไม่เคยรู้



ดูเหมือนเกือบทุกคนรู้วิธีจูบ แต่อาจไม่รู้ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่น่าสนใจของการจุมพิต ยกตัวอย่างเช่นการจูบดีต่อเราหรือไม่? ควรจูบลาภรรยาก่อนออกจากบ้านหรือเปล่า? คนญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอีกหลายประเทศจูบกันแบบไหน? จูบทำให้ผอมลงได้จริงหรือ?

ต่อนี้ไปคือ ข้อมูลที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับการจุมพิต

1. การจูบทำให้กล้ามเนื้อ 29 ส่วนบนใบหน้ามีการเคลื่อนไหว หมายความว่าการจูบเป็นวิธีบริหารกล้ามเนื้อที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันความเหี่ยวย่น

2. ในน้ำลายที่คู่รักแลกเปลี่ยนกันระหว่างการจูบประกอบด้วยสารต่างๆ มากมาย อาทิ ไขมัน เกลือแร่ โปรตีน จากการศึกษาล่าสุดพบว่า การแลกเปลี่ยนสารเหล่านี้ช่วยกระตุ้นการสร้างแอนติบอดี้มาจัดการกับเชื้อโรคชนิดต่างๆ ที่บุกรุกเข้าสู่ร่างกาย

3. คน 66% หลับตาขณะจุมพิต ที่เหลือลืมตาชื่นชมอารมณ์บนใบหน้าของคนที่ประกบปากกันอยู่

4. จากสถิติของสหรัฐฯ ผู้หญิงอเมริกันเคยจูบผู้ชาย 80 คนโดยเฉลี่ยก่อนแต่งงาน

5. การจูบแบบเร่าร้อนแต่รวดเร็วเผาผลาญไขมันเพียง 2-3 แคลอรี่ แต่ถ้าจูบแบบเฟรนช์คิส ไขมันจะถูกเผาผลาญมากกว่า 5 แคลอรี่

6. ริมฝีปากมีความอ่อนไหวต่อสิ่งเร้ามากกว่านิ้วถึง 200 เท่า

7. เชื่อกันว่า ผู้ชายที่จูบภรรยาก่อนออกจากบ้านไปทำงาน มีชีวิตคู่ยืนยาวกว่าผู้ชายที่ออกจากบ้านโดยไม่ร่ำลาภรรยาถึง 5 ปี และผู้ชายกลุ่มหลังมีแนวโน้มสูงที่จะประสบอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง

8. การจุมพิตอย่างดื่มด่ำแค่ 90 วินาที ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ชีพจรเต้นแรง ระดับฮอร์โมนในเลือดสูบฉีด ส่งผลให้อายุสั้นลง 1 นาที

9. คนฝรั่งเศสเรียก ‘เฟรนช์คิสส์’ ว่า ‘จุดนัดพบของวิญญาณ’ เฟรนช์คิสส์คือการจูบที่ใช้ทั้งริมฝีปากและลิ้น นอกจากนั้น นักรักแดนน้ำหอมยังคิดค้นวิธีจูบอีกแบบที่ใช้ลิ้นเพียงอย่างเดียว

10. ชาวเอสกิโมไม่ได้แค่เอาจมูกถูกันเพื่อแสดงความรักใคร่เท่านั้น แต่ขณะที่เอาจมูกเข้าไปชนกับฝ่ายตรงข้าม ริมฝีปากของชาวเอสกิโมจะเผยอขึ้นเล็กน้อย ก่อนสูดหายใจลึกและปล่อยลมหายใจออกมาขณะเม้มริมฝีปากลง หลังจากสูดกลิ่นของกันและกันเป็นที่เรียบร้อย ทั้งคู่จึงผลัดกันหอมแก้มโดยฝังจมูกไว้ที่แก้มฝ่ายตรงข้ามราวหนึ่งนาที

11. การจุมพิตในที่สาธารณะเป็นเรื่องรับไม่ได้ในญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน และเกาหลี การจูบแบบดั้งเดิมของชาวอาทิตย์อุทัยยังดูเหมือนเป็นการตำหนิพฤติกรรมผิดศีลธรรมของคนตะวันตกกลายๆ กล่าวคือ คู่รักจะรักษาระยะห่างระหว่างกันและกัน ก่อนค้อมศรีษะเข้าหากันและประทับริมฝีปากอยู่แค่เสี้ยววินาที

12. ระหว่างการจูบ ร่างกายจะผลิตสารที่มีฤทธิ์ในการเสพติดมากกว่ามอร์ฟีนถึง 200 เท่า คู่รักจึงรู้สึกเคลิบเคลิ้มเป็นสุข

13. การจูบช่วยให้ผู้หญิงผ่อนคลายและสลายความเครียด

14. โดยเฉลี่ยแล้วคนเราใช้เวลา 20,160 นาที (2 สัปดาห์) ตลอดชีวิตในการจูบ

15. จูบ 1 นาที ปลดปล่อยไขมันจากร่างกาย 26 แคลอรี่

16. เกือบทุกคนบนโลกสัมผัสประสบการณ์ ‘จูบแรก’ ก่อนอายุ 14 ปี




Create Date : 24 สิงหาคม 2550
Last Update : 24 สิงหาคม 2550 14:01:26 น. 5 comments
Counter : 1291 Pageviews.  

 


มาอ่านผลของการจูบ


โดย: โสนบ้านนา วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:14:59:52 น.  

 
อ่านแล้วเครียด ไม่รู้จะหาใครมาจูบ
อ่านแล้วก็เชิงวิชาการดีนะ ดีจัง


โดย: kof_of (kof_of ) วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:18:53:00 น.  

 
โอ จิงหลอเนี่ย


โดย: PloyHub วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:19:33:13 น.  

 


วันนี้มีแรง ทำตำแตง ข้าวเหนียว ไก่ย่าง คิดถึงเลยเอามาฝากค่ะ


โดย: samelaa (samelaa ) วันที่: 25 สิงหาคม 2550 เวลา:14:24:11 น.  

 
จูบ.. เป็นการออกกำลังกายแบบหนึ่ง นี่เอง


โดย: ชายหนุ่มจากดาวอังคาร วันที่: 25 สิงหาคม 2550 เวลา:17:14:42 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Da_naka
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




^O^ What Love ...... ^o^
[Add Da_naka's blog to your web]