P a n g e a t a r o u n d
|
|||||
ชัมบาลา ดินแดนที่ขอบฟ้าไม่ปรากฏ: Tibet Trip * ตอนที่ 5 ตอนจบ ทะเลสาบ Nam Tso สวยมากจนน่าหลง วันนี้เราเปลี่ยนโปรแกรมไปพักกันที่น้ำพุร้อนจากที่ตอนแรกจะนอนTent hotel ริมทะเลสาบNamtso แต่ประสบการณ์ที่EBC ทำให้เราเกรงกลัวการนอนในเต็นท์ยิ่งนักก่อนไปโรงแรมน้องไกด์พาเราแวะร้านอาหารทิเบต แป้งบ่นว่าน้องคงไม่มีวันพาเราเข้าร้านจีนเป็นแน่อาหารทิเบตวันนี้มีเนื้อแกะ ผัดมันฝรั่งและซุปผัก เนื้อแกะกับผัดมันฝรั่งเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสมาชิกมากแป้งถึงกับเพ้อเมื่อเห็นน้องแกะยืนเล็มหญ้าอยู่ข้างทาง ตอนเราอยู่บนรถ น้องแกะๆๆเนื้ออร่อยจัง ช่างเป็นผู้หญิงโหดร้ายนัก เราถึง Hot Spring ตอนเย็นที่แดดยังเปรี้ยงที่นี่อากาศหนาวมากแต่น้ำพุร้อนก็ร้อนจนควันขึ้น คืนนี้เราจะพักโรงแรมที่นี่น้องไกด์เชิญชวนให้เราไปว่ายน้ำร้อนเล่นแต่เราปฏิเสธเมื่อเห็นเหล่าอาแปะ อาม่า
อาเจ้ที่แหวกว่ายในน้ำพุร้อนนั่นกลัวเจ๊ฉี่ในน้ำเลยไม่กล้าลง นั่งเขียนโปสการ์ดอยู่ริมสระดีกว่า โรงแรมที่นี่ไม่สบายเหมือนวังของออยที่ Shigatse น้ำในห้องน้ำที่นี่เป็นน้ำแร่และร้อนมากมันลื่นจนเหมือนล้างสบู่ไม่หมดและร้อนจนแทบลวก
ตะเกียกตะกายตีลังการอน้ำอุ่นจนอาบได้อยู่นานกว่าจะอาบเสร็จ 10 May 2014 เปิดหน้าต่างมาเช้าวันนี้เราเห็นภาพหิมะขาวโพลนไปทั่วกระจกหน้าต่างเย็นเฉียบ เมื่อคืนหิมะคงตกหนัก เรากินอาหารเช้าของโรงแรมเป็นข้าวต้ม(ขอเรียกว่าน้ำข้าวต้ม) กับผัดผักอะไรสักอย่างก่อนออกเดินทางต่อไปNamtso Lake วิวสองข้างทางวันนี้ขาวโพลนไปด้วยหิมะท้องฟ้าเป็นสีเทาบางช่วงมี snowrain ตกเป็นระยะๆ
ถนนทั้งสายมีรถผ่านไปมาเพียงไม่กี่คันเราชาวไทยผู้มาจากเมืองร้อนตื่นตาตื่นใจกับหิมะมากถึงขนาดขอลงไปฉี่กลางหิมะให้เป็นบุญตรูด ทะเลสาบนัมโซหรือนามูโช่ตั้งอยู่ใน Nagqu ห่างจากเมืองลาซาประมาณ 260กิโลเมตร
ทะเลสาบนามูโช่ในภาษาทิเบตนั้นหมายถึง ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลก น้ำในทะเลสาบนามูโช่ส่วนใหญ่เกิดจากน้ำฝนและน้ำที่ละลายจากหิมะบนภูเขาทำให้น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ใสและสะอาดมาก ถ้ามองในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งท้องฟ้ากับพื้นผิวของทะเลสาบแทบจะดูกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว ในช่วงปลายศตวรรษที่12 เหล่าชาวพุทธในทิเบตได้เริ่มทำการบูชาทะเลสาบนามูโช่หรือทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ในปีแกะของทิเบต เมื่อปีแกะของทิเบตมาถึงเหล่าชาวพุทธก็จะทำพิธีกรรมโดยเดินไปรอบๆริมทะเลสาบมีคำกล่าวไว้ว่า ถ้าคนใดได้มาทำพิธีกรรมเพียงครั้งเดียวในปีนี้เขาจะมีความสุขมากกว่าที่เขาได้ทำพิธีกรรมนับสิบหรือพันครั้งในปีอื่นๆ ดังนั้นในปีแกะของทิเบตที่นี่จึงมีพระสงฆ์หรือชาวพุทธหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก
กิจกรรมนี้จะดำเนินไปเป็นเวลาหลายเดือนจนถึงวันที่ 15 เมษายนในปีแกะนั้น(Cr:Vnize Travel) ทะเลสาบวันนี้เป็นน้ำแข็งไปซะครึ่งแม่น้ำแต่ก็สวยจับใจลมแรงทำให้อากาศริมทะเลสาบหนาวเย็นมาก มีจามรียืนโต้ลมหนาวให้ถ่ายรูปมีคนจูงม้ามาให้บริการนักท่องเที่ยวหนาวซะขนาดนี้ เดินยังแทบไม่ไหว
นี่จะให้ขี่ม้าบรื๋อออ ถ่ายรูปกันปากเขียว มือแข็ง พวกเราโคตรสู้ตาย กลับขึ้นมาดื่มชากินข้าวให้หายหนาวเราเดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองลาซาคืนนี้กลับมานอนโรงแรมเดิมที่ลาซาอีกครั้ง อาหารค่ำมื้อนี้เราฉลองชัยชนะกันด้วย Lhasa beer ที่ร้าน Lhasakitchen ไม่รู้ชัยชนะอะไร ที่ไหน ดูเหมือนจะพ่ายแพ้ต่อเอเวอร์เรสต์ซะมากกว่าแต่ก็อย่าได้แคร์ คนจะเมา เอ้า โช้นนน!!!!
(ลาซาเบียร์จืดมากเพื่อนบอกเอเวอร์เรสต์เบียร์อร่อยกว่า) (ลาซาเบียร์จืดมากเพื่อนบอกเอเวอร์เรสต์เบียร์อร่อยกว่า) 11 May 2014 วันนี้เป็นวันสุดท้ายในลาซาแล้วไฟลท์ขากลับของเราออกตอนสี่โมงเย็น เช้านี้เราเลยเดินเล่นในเมืองลาซาหาซื้อของฝากของกินกันตามอัธยาศัยน้องไกด์หน้ามลขอพาพี่เจมส์ไปขี่มอเตอร์ไซค์ชมวิวทิเบตมุมสูง เพราะความปลื้มส่วนตัวเนื่องจากเจมส์เป็นญาติกับจาพนม ซึ่งเป็นดาราคนโปรดของน้องเชื่อเค้าเลย ลาซาวันสุดท้ายของเรายังเหมือนเดิมเช่นทุกวันผู้คนชาวทิเบตหลั่งไหลกันมาเดินจงกรมสวดมนต์
กราบสักการะหน้าวัดโจคังเหมือนเดิมบรรยากาศแบบเดิมแต่เช้าวันนี้ฟ้าใสกว่าวันแรกที่เรามาถึง บ่ายสองเราเดินทางออกจากลาซา น้องไกด์พาเรามาส่งที่สนามบินที่อยู่ห่างจากตัวเมืองออกมาหลายสิบกิโลเอากระเป๋าไปเช็คอิน เราบอกลาคุณลุงและน้องไกด์ขอบคุณสำหรับการเดินทางบนดาวอังคารพวกหนูสนุกมากค่ะ นั่งรอเครื่องออกสนามบินที่นี่เล็กมากเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เหมือนที่ปักกิ่งเราสับสนเรื่องประตูทางออกเล็กน้อยในที่สุด ก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง ...วิวภูเขาสูงต่ำเบื้องล่างค่อยๆลอยหายไปจนลับสายตา....ลาก่อนลาซา... พวกเรา หาซื้อของฝากของกินกันตามอัธยาศัยน้องไกด์หน้ามลขอพาพี่เจมส์ไปขี่มอเตอร์ไซค์ชมวิวทิเบตมุมสูง
เพราะความปลื้มส่วนตัวเนื่องจากเจมส์เป็นญาติกับจาพนม ซึ่งเป็นดาราคนโปรดของน้องเชื่อเค้าเลย ลาซาวันสุดท้ายของเรายังเหมือนเดิมเช่นทุกวันผู้คนชาวทิเบตหลั่งไหลกันมาเดินจงกรมสวดมนต์
กราบสักการะหน้าวัดโจคังเหมือนเดิมบรรยากาศแบบเดิมแต่เช้าวันนี้ฟ้าใสกว่าวันแรกที่เรามาถึง บ่ายสองเราเดินทางออกจากลาซา แวะพักเครื่องที่เฉินตูประมาณหนึ่งชั่วโมงก็บินต่อไปปักกิ่ง คืนนี้เราได้ตัดสินใจนอนที่สนามบินปักกิ่งเป็นการกระทำที่กล้าหาญมากแต่เราถึงปักกิ่งดึกเกินไปและพรุ่งนี้เราต้องขึ้นเครื่องตอนบ่ายสอง พอนึกว่าจะต้องหารถไปโรงแรมเช็คอิน เก็บของเข้า-ออกอีก อย่ากระนั้นเลยนอนมันที่สนามบินนี่แหละครั้งหนึ่งในชีวิต เหมือนที่เราได้ไปเห็นเอเวอร์เรสต์นั่นแหละจะมีสักกี่ครั้งในชีวิต...ที่จะได้นอนสนามบิน(ใช่มั้ยแป้ง) ฉันกับออยพยายามเดินหา Shower room ตามป้ายบอกในสนามบิน ปรากฏว่าห้องอาบน้ำสาธารณะเสียและห้องพักสำหรับผู้โดยสารก็เต็มหมดแล้วกลับมาล้างหน้า แปรงฟันในห้องน้ำเราก็มานั่งเอกเขนกกันอยู่ที่ม้านั่งในสนามบินนั่นเอง.... 12 May 2014 หลับๆ ตื่นๆบนเก้าอี้ ในที่สุดก็เช้าสักที นึกถึงเตียงนุ่มๆจับใจเอาวะ อีกวันเดียวก็จะถึงบ้านแล้วเราดื่มกาแฟสตาร์บัคให้ตาตั้ง แต่ก็ต้องผิดหวัง สตาร์บัคที่นี่ช่างจืดชืดเหมือนลาซาเบียร์เราลงความเห็นกันว่ากาแฟที่จีนจืดกว่าที่อื่นในโลก นั่งรถไฟออกไปชมสนามกีฬารังนก สนามกีฬาที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคในปี 2008 อันเลื่องชื่อของจีนออกจากสนามกีฬา เหล่าสมาชิกยังไม่ลืมความฝันครั้งวันวาน เป็ดปักกิ่ง! มาถึงปักกิ่ง จะไม่กินเป็ดได้ยังไง (ไม่รู้มันคิดได้ไงเนอะ เฮ่อ) เจมส์ใช้ความพยายามโทรหาเพื่อนร่วมงานชาวจีนถามหาร้านเป็ดปักกิ่งที่ใกล้ที่สุดได้สถานที่มาแล้ว เราเดินตาม Google map ที่เจมส์ set ออกจากสนามกีฬา ผ่านถนนบล็อคที่หนึ่ง บล็อคที่สองบล็อคที่สาม(บล็อคนึงใหญ่ประมาณครึ่งกม.ได้) วนรอบบล็อคที่สามอยู่สองรอบแดดเริ่มร้อนเหงื่อเริ่มท่วม...ในที่สุดเราก็มายืนอยู่หน้าร้านเป็ดปักกิ่งที่หรูหรา ดูมีชาติตระกูลและเราพบว่ามัน ยังไม่เปิด!! ร้านเปิด 11 โมงและเราไม่สามารถรอจนถึง 11 โมงได้เดี๋ยวจะตกเครื่องเอาซะฉิบ
เดินหงอยๆไปกินแมคโดนัลด์ข้างร้านเป็ดปักกิ่งโชคชะตาช่างเล่นตลกกับเราซะจริง ฝากไว้ก่อนเหอะอีเป็ดปักกิ่ง!!! กลับมารอขึ้นเครื่องอีกครั้งทริปนี้เราเดินทางไปมาและเปลี่ยนที่นอนเป็นว่าเล่น10 วันจากปักกิ่งถึงลาซา เราพบเจออะไรมากมายกว่าที่คิดไว้เราได้รู้จักทิเบตมากขึ้น ดินแดนหลังคาโลก ซึ่งปัจจุบันเป็นเขตปกครองตนเองทิเบตของประเทศจีนอย่างจำใจที่ซึ่งมีอากาศหนาวเย็นมากแดดแรงมาก ความกดอากาศและออกซิเจนต่ำดินแดนที่มีประชากรอาศัยอยู่น้อยและผู้ชายกว่าครึ่งบวชเป็นพระ ดินแดนที่พลเมืองนับถือศาสนาอย่างเคร่งครัดดินแดนแห่งชัมบาลาสถานที่ลึกลับที่หลายคนตามหา ชัมบาลาในภาษาทิเบตหมายถึงดินแดนอันบริสุทธิ์ซึ่งแท้จริงแล้วไม่มีใครทราบว่าชัมบาลานั้นมีอยู่จริงหรือเป็นเพียงแดนสวรรค์ในนิยาย ชัมบาลาของเราทั้งหกคนอาจแตกต่างกันไปแต่สำหรับฉันแล้ว ภาพภูเขาหิมะยาวเป็นทิวสุดสายตา ฝูงจามรีสีดำที่ยืนรวมกลุ่มท่ามกลางสีขาวโพลนของหิมะบ้านสไตล์ทิเบตกลางทุ่งกว้าง ธงมนต์ที่โบกสะบัดดั่งเสียงสวดมนต์และชาวทิเบตที่เดินจงกรมรอบวัดโจคังเหมือนชาตินี้จะไม่มีวันหยุดเดิน...นั่นล่ะชัมบาลา สวัสดี ณ ดินแดนหลังคาโลก
เจอกันที่ระดับน้ำทะเล น่าไปเที่ยวมาก ๆ เลยค่ะ แต่ท่าทางจะหนาวน่าดู ไม่ค่อยถูกกับอากาศหนาว ๆ เท่าไหร่ค่า
![]() โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน
![]() โอ้ววว งามแท้เลยค่ะ
พรุ่งนี้มาโหวตให้นะคะ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ขุนเขาและผืนฟ้าช่างกว้างไกล ขอบคุณรีวิวพาเที่ยวดี ๆ ครับ
![]() โดย: แมวเซาผู้น่าสงสาร
![]() เมืองในฝันเลยค่ะ เห็นรีวิวในพันทิปแล้วอยากไป ชอบมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ
โดย: sawkitty
![]() |
Pangeataround
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() P a n g e a t a r o u n d FB: Pangeataround IG: Pangeataround
Group Blog
All Blog
Link |
||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |