ชัมบาลา ดินแดนที่ขอบฟ้าไม่ปรากฏ: Tibet *ตอนที่ 2 ไปขึ้นรถไฟสายหลังคาโลกกัน*
สถานที่ท่องเที่ยว : ทิเบต, China
พิกัด GPS : 39° 54' 32.24" N 116° 22' 48.43" E



“พี่จะไปทิเบตเหรอคะ เราออกวีซ่าให้ไม่ได้นะคะเรามีปัญหากันอยู่...”!!!??? 

คำพูดของสาวน้อยหน้าหมวยในกระจกกั้นทำฉันยืนอึ้งอยู่แปดวิเรามายื่นเอกสารขอวีซ่าเข้าจีนเพื่อจะต่อไปทิเบต 

อาหมวยในกระจกหันไปปรึกษาเจ่เจ้รุ่นพี่หน้าเข้มกว่าหนึ่งเฉด เจ่เจ้หน้าดุ ส่ายหน้าสองสามทีฉันใช้ความพยายามขอเอาเอกสารเกี่ยวกับทิเบตออก 

อาหมวยยืนยันไม่รับเอกสารท่าเดียว “เดี๋ยวพี่จะไปทำเอกสารมาใหม่แล้วยื่นใหม่ได้ใช่มั้ยคะ” หน้าตาเว้าวอน 

น้องหมวยพยักหน้าแกนๆเหมือนจะบอกว่าลื้อก็ไปจัดการมาละกัน ขอแค่อย่าให้เห็นคำว่า Tibet 

ในเอกสารอั้วฉันเดินปาดเหงื่อออกมาจากสถานทูตจีน 

เข้าไปตั้งแต่เช้า ออกมาตอนเกือบเที่ยงการขอวีซ่าจีนไม่ง่ายเลยสำหรับคนไม่รู้อย่างเรา แต่ในขณะนั้น 

เราไม่รู้เลยว่าการเดินทางตามหาเอเวอร์เรสต์ในทิเบตของเราก็ไม่ง่ายเหมือนกัน….

ทริปตามหาเอเวอร์เรสต์ในทิเบตของเราเริ่มขึ้นเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมเราเลือกสายการบิน Air China บินไปลงปักกิ่ง 

จากปักกิ่ง ต่อเครื่องไปลงซีหนิงเพื่อที่จะขึ้นรถไฟสายประวัติศาสตร์ ซิงไห่-ทิเบตเป็นรถไฟบนทางราบที่สูงที่สุดในโลก 

การนั่งรถไฟ เป็นเวลา 24 ชั่วโมงจะช่วยให้ร่างกายเรามีเวลาปรับตัวกับระดับความสูงประมาณ5,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

3 May 2014

00:00น.

เราทั้งหกคนนั่งรอขึ้นเครื่องตอนตีหนึ่ง ระหว่างรอขออนุญาตแนะนำสมาชิกทั้งหกคร่าวๆ เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านสมาชิกและเพิ่มอรรถรสในการอ่าน

1. พี่แหม่ม สาวน้อยหน้าญี่ปุ่นผู้รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ทุกครั้งที่เห็นพี่แหม่ม จะต้องเห็นรองเท้า Keenกับแว่นตากันแดดOakley 

ถ้าเห็นสองอย่างนี้ ให้สันนิษฐานว่าเป็นพี่แหม่มได้คือไม่ต้องเห็หน้าก็ได้ เห็นแค่สองอย่างนี้พอ คนนี้ Canon ส่งเข้าประกวด

2. แป้ง หญิงสาวผู้มีลักยิ้มเบาๆ รักแมว รักธรรมชาติแป้งมีคุณสมบัติพิเศษคือ กดชัตเตอร์เร็วมาก คือกูยังไม่ทันยิ้ม มึงถ่ายเสร็จเดินออกไปแล้ว 

นอกจากถ่ายรูปเร็วแล้ว แป้งยังเขียนหนังสือเร็วมากด้วยเร็วจนสระอะสระอากระเด็นกระดอน จะรีบไปไหน

3. ก้อย คนนี้เหมือนวิกิพีเดียเคลื่อนที่ รู้ทุกเรื่องถามอะไรตอบได้หมด ถ้าไม่รู้เรื่องไหนให้ถามก้อยได้ 

ยกเว้นเรื่องต่อภาษีรถอย่าไปถามมัน มันไม่รู้ มาคราวนี้ก้อยหลังเดี้ยง เดินเซ เพราะดันไปออกสเต็ปซะเยอะบนรองเท้าส้นสูง ในปาร์ตี้ที่ทำงานจะสมน้ำหน้าดีมั้ย

4. ออย  ข้าราชการสาวผู้รักความยุติธรรม เกลียดคอร์รัปชั่นและแพ้ความสูง ออยก็รู้เยอะไม่แพ้ก้อย 

ถ้าจับสองคนนี้แข่งตอบคำถามกันใครไม่รู้เรื่องไหนแพ้ คงแข่งกันสามวันไม่จบ

5. เจมส์ สามีที่น่ารักของผู้เขียน...ไม่อวยก็ได้เจมส์เป็นผู้ชายนิ่งๆ นิ่งมาก นิ่งจนบางทีสงสัยว่าเจมส์หลับอยู่หรือเปล่าเจมส์ตาเล็กมากด้วย 

บางทีลืมตาอยู่ ยังเหมือนหลับตา สงสารเจมส์ทริปนี้เจมส์มาพร้อมกล้องวีดีโอ ติดมือตลอดเวลาจนบางทีอยากให้เอาออกจากมือบ้างก็ได้

6. ป๋อม คนเขียนรีวิว แค่นี้...ทำไมมีอะไร...แค่นี้จริงๆ อย่ามีปัญหา เดี๋ยวโดน อิอิ

แนะนำซะยาว ใกล้เวลาเครื่องออกแล้ว เจอกันอีกทีที่ปักกิ่งนะจ้ะ



6:00น. เวลาปักกิ่ง

สะลึมสะลือเดินลงจากเครื่อง เช้าตรู่ในปักกิ่ง เราเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน 

จัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำที่สนามบินหอบกระเป๋าไปเช็คอินเพื่อบินต่อไปซีหนิง เช็คอินเสร็จ หาที่ฝากกระเป๋าให้ก้อยเพราะก้อยปวดหลัง 

เราพยายามถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการฝากกระเป๋าสนามบินที่กว้างใหญ่ของปักกิ่งเช้านี้ไม่มีเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้เลยเดินหาเองง่ายกว่า

 เดินวน 2-3 รอบก็เจอ ค่าฝากกระเป๋า 30 หยวน24 ชั่วโมงต่อ1 ชิ้น ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาขึ้นเครื่องอีกทีตอนห้าโมงเย็น 

เราตกลงกันว่าจะไปเชยชมจัตุรัสเทียนอันเหมินอันเลื่องชื่อซะหน่อยเหล่าสมาชิกอยากกินเป็ดปักกิ่งกันมาก ให้สมกับที่มาถึงถิ่น 

เราขึ้น Airportexpress จากสนามบินออกไปต่อรถไฟสายข้างนอกอีกสองขบวน สาย 1 และสาย 2 ค่ารถคนละ27หยวน

ก็มาถึงจัตุรัสเทียนอันเหมินทันทีที่โผล่ขึ้นมาจากสถานีรถไฟใต้ดิน เราก็พบผู้คนเรือนพันเรือนหมื่นเดินขวักไขว่ปนเปกันไปทั่วท้องถนนอันกว้างใหญ่ ควันบุหรี่ลอยเข้าจมูกมาเป็นระยะได้ยินเสียงเจมส์พูดเบาๆ ‘Welcome to China’




4 May 2014

6:00น. เวลาปักกิ่ง

สะลึมสะลือเดินลงจากเครื่อง เช้าตรู่ในปักกิ่ง เราเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน จัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำที่สนามบินหอบกระเป๋าไปเช็คอินเพื่อบินต่อไปซีหนิง 

เช็คอินเสร็จ หาที่ฝากกระเป๋าให้ก้อยเพราะก้อยปวดหลัง เราพยายามถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการฝากกระเป๋า

สนามบินที่กว้างใหญ่ของปักกิ่งเช้านี้ไม่มีเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้เลยเดินหาเองง่ายกว่า เดินวน 2-3 รอบก็เจอ ค่าฝากกระเป๋า 30 หยวน24 ชั่วโมงต่อ1 ชิ้น 

ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาขึ้นเครื่องอีกทีตอนห้าโมงเย็น เราตกลงกันว่าจะไป

เชยชมจัตุรัสเทียนอันเหมินอันเลื่องชื่อซะหน่อยเหล่าสมาชิกอยากกินเป็ดปักกิ่งกันมาก ให้สมกับที่มาถึงถิ่น 

เราขึ้น Airportexpress จากสนามบินออกไปต่อรถไฟสายข้างนอกอีกสองขบวน สาย 1 และสาย 2 ค่ารถคนละ27หยวนก็มา

ถึงจัตุรัสเทียนอันเหมินทันทีที่โผล่ขึ้นมาจากสถานีรถไฟใต้ดิน เราก็พบผู้คนเรือนพันเรือนหมื่นเดินขวักไขว่ปนเปกันไปทั่วท้องถนนอันกว้างใหญ่ 

ควันบุหรี่ลอยเข้าจมูกมาเป็นระยะได้ยินเสียงเจมส์พูดเบาๆ ‘Welcome to China’

9:30 น.

คนไทยตัวจ้อยทั้งหกเดินตุปัดตุเป๋หาข้าวเช้ากันกลางจัตุรัสเทียนอันเหมินปักกิ่งวันนี้อากาศเย็นสบาย พระราชวังต้องห้ามตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าเรา

 ประชาชนชาวจีนและชาติอื่นๆเดินปะปนกันไปมาตลอดทางเราเห็นคนเข้าแถวเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ส่วนต่างๆ

 อยู่เป็นระยะโชคดีที่อากาศไม่ร้อน เราเลยเดินถ่ายรูปเล่นไปได้เรื่อยๆ ออยบ่นอุบว่าคนจีนไม่กินข้าวเช้าฉันเหลือบไปเห็นไอติมสีขาวที่เด็กๆและผู้คน

 เดินดูดกินกันเป็นระยะ ดูน่าอร่อยนักไม่นานก็มีแม่ค้าสะพายกล่องไอติมเข้ามาขาย แท่งละสองหยวน ฉันซื้อมาลองกินหนึ่งแท่งกัดเข้าไปได้คำเดียว

 แทบบ้วนทิ้ง รสชาติไอติมห่วยแตกอย่างที่ไม่เคยกินมาก่อนมันคือก้อนน้ำแข็งผสมน้ำตาลเจือจางเสียบไม้ดีๆนี่เอง

 เนื้อไอติมใสแจ๋วจนเห็นไม้ข้างในฉันโดนเพื่อนเยาะเย้ยถากถางว่ากินไอติมปลอม มันน่าเจ็บใจนัก จีนนะจีนปลอมได้กระทั่งไอติม

ในที่สุดเราก็เจอร้านอาหารเช้า อาหารที่นี่จานใหญ่เหมือนที่ฮ่องกงหกคนสั่งมาสามจานก็อิ่มพอดี

 ออกมาจากร้าน ฝนตกพอดี พอฝนตก คนจีนเรือนหมื่นก็หายวับเหลือเพียงเรากับผู้คนบางตาที่ยังคงเดินฝ่าสายฝนบางๆอยู่ แป้งลงความเห็นว่าคนจีนกลัวฝน


กินข้าวเสร็จก็ต้องหากาแฟกินตามระเบียบ เราเดินเลาะไปตามถนนเรื่อยๆจนไปถึงถนน Qiuamen เป็น Shopping street

หน้าตาดีละม้ายคล้าย Orchard ในสิงคโปร์ที่นี่มีร้านกาแฟสองสามร้าน หนึ่งในสองคือสตาร์บัค กับคอฟฟี่บีนเราเลือกนั่งในคอฟฟี่บีน

 หลังจากพยายามหาร้านกาแฟท้องถิ่นอยู่อีกเกือบชั่วโมง ทั้งร้านมีแค่พวกเราที่นี่มี wi-fi ให้ใช้ฟรี จิบกาแฟ นั่งดูผู้คนเดินไปมา (กาแฟที่นี่จืดมาก)


15:00 น.

ฟ้าเริ่มครึ้มเหมือนฝนจะตกอีกรอบ แป้งชวนกลับเพราะใกล้เวลาเดินทางต่อไปซีหนิงเรานั่งรถไฟสองสามต่อกลับมาที่สนามบิน

 นั่งรอขึ้นเครื่องหน้า Gate อีกรอบXining อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 2,700 เมตร ฉันกับออยกิน Diamox ยาลดความดันไปคนละครึ่งเม็ด


19:05 น.

เครื่องบินมีปัญหาขัดข้องทางเทคนิค หลังจากขึ้นไปนั่งได้สิบนาทีเราก็ต้องระเห็จลงมานั่งรออยู่ที่เดิม เปลี่ยนเครื่อง

 เครื่องบินลำใหม่มาตอนสองทุ่มยา Diamox ของออยออกฤทธิ์อย่างดีฉันเดินฉี่สามรอบภายในสิบนาที และโคตรง่วง

ถึงซีหนิงตอนสี่ทุ่ม อากาศที่นี่เย็นเยียบ น่าจะสัก 10 องศาเราจองโรงแรมที่นี่ไว้แล้วจากเมืองไทย โรงแรม JinJiangInn Xining International Village

เป็นโรงแรมเล็กๆที่เจ้าหน้าที่เช็คอินพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เหมือนเคยกว่าจะสื่อสารเรื่องห้อง เรื่องอาหารเช้า เรื่องเงินมัดจำ เล่นเอาหอบแฮ่ก

 เมื่อได้ทุกอย่างครบเราแยกย้ายกันเข้าห้องนอนอย่างอ่อนเพลีย พรุ่งนี้ต้องนอนบนรถไฟทั้งวัน

5 May 2014

นี่แค่เช้าวันที่สองของการเดินทางแต่เรารู้สึกเหมือนผ่านอะไรมาเยอะแยะ ก้อยถามหาแหล่งกินอาหารเช้าเจ้าหน้าที่โรงแรมเขียนภาษาจีนมาให้

 น่าจะเป็นชื่อตลาดยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้แท็กซี่ดู รถแท็กซี่วิ่งห่างจากโรงแรมไปประมาณ 2-3 บล็อคก็จอดถ้ารู้ว่าใกล้ขนาดนี้ เดินเอาก็ได้นะ

 เดินหาของกินแบบจีนๆเราได้ของรองท้องเป็นแผ่นแป้งอันใหญ่ยัดใส้ไก่กับผักราดซอสรสกลมกล่อม

 กับโยเกิร์ต handmadeสดอร่อย นี่แค่ออเดิร์ฟ เดินหาของกินหนักๆ ต่อไป








ก่อนจะถึงร้านอาหาร เราผ่านมัสยิดประจำเมืองซีหนิงสวยจนต้องหยุดเข้าไปเชยชม มัสยิดใหญ่สีขาว สูงสง่าท้าทายแสงแดดอ่อน

ๆยามเช้าดอกไม้เล็กๆสีขาวข้างหน้ามัสยิดเป็นพร๊อพประดับให้เราถ่ายรูปได้เป็นอย่างดีเจ้าหน้าที่ประจำมัสยิดใจดี

 เรียกเราเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆได้ แต่เค้าไม่เปิดให้เข้าดูเผินๆ จากกล้องเหมือนโบสถ์ในยุโรป





15:00 น.

เดินทางมาถึงสถานีรถไฟไต่หลังคาโลกซิงไห่-ลาซาเราโดนอาแปะอาม่าแซงคิวตั้งแต่เดินเข้าประตูหน้าสถานีเลยออยสะกิดอาแปะที่ทำหน้ามึนเดินเข้ามาแทรกแปะทำหน้างง

ๆตอนออยชี้ว่าให้ไปต่อด้านหลัง จะงงอีกนานมั้ยแปะผ่านเครื่องตรวจสัมภาระตามธรรมเนียม

รถไฟออกตรงเวลาดีทีเดียว เก็บของขึ้นแทบไม่ทัน เราได้ตู้นอนด้วยกัน 4คนอีกสองคนนอนแยกคนละตู้ แต่ก็อยู่ใกล้ๆกัน

 รถไฟสภาพดีกว่ารถไฟสายฮานอย-ซาปาเยอะเตียงดูสะอาดสะอ้าน

 มีโต๊ะเล็กๆ ไว้นั่งกินอาหารริมหน้าต่างเรานั่งเบียดกันอยู่ในตู้เดียวเหมือนปลากระป๋องหกแม่ครัว




ทางรถไฟสายซิงไห่-ทิเต เป็นเส้นทางรถไฟบนที่ราบที่สูงและยาวที่สุดของโลก เริ่มต้นเดินทางจากเมืองซีหนิงเมืองเอกของมณฑลชิงไห่

 ถึงปลายทางเมืองลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตนเองทิเบตใช้เวลาเดินทาง 24 ชั่วโมง บนเส้นทางมีสถานีรถไฟสูงที่สุดในโลกคือถังกู่ลา-ซาน

 จุดสูงสุดที่ทางรถไฟสายนี้ สูงจากระดับน้ำทะเล 5,072 เมตร วิวระหว่างทางจะเปลี่ยนไปตามสภาพภูมิประเทศที่รถไฟผ่านเราได้เห็นทั้งทุ่งหญ้า

 จามรี แกะ ทะเลสาบ หิมะขาวโพลนบนรถไฟมีเครื่องปรับอากาศให้พวกเราอบอุ่น อุ่นจนเกือบจะร้อนมีที่นั่งเล็กๆอยู่ข้างกระจกให้เราไว้นั่งชมวิว

 ได้ยินเสียงชัตเตอร์รัวเป็นระยะ เวลาผ่านวิวสวยๆ



อาหารเย็นวันนี้เราซื้อจากที่เค้าเข็นมาขายเป็นอาหารกล่องหน้าตาคล้ายกัน รสชาติพอใช้ได้ เราเอาหมูหยอง ปลากระป๋องมาม่าที่หอบมาจากเมืองไทยมาแจมด้วย



6 May 2014

ตื่นเช้ามานั่งชมวิวข้างทางต่อ ล้างหน้า แปรงฟัน พอสายๆ เราก็เดินไปที่ตู้เสบียงอาหารเช้าบนรถไฟเป็นข้าวต้มกับผัดผักสองสามอย่าง มีซาลาเปากับไข่ต้มให้ด้วยราคาชุดละ 20 หยวน กินได้ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็มาเร่ง บอกหมดเวลาจะปิดตู้เสบียงแล้ว



อุปสรรคของการนั่งรถไฟที่ใหญ่หลวงของเราคือการเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำของจีนนั้นเป็นที่เลื่องชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งในยุทธจักรมาช้านานว่ากันว่าใครที่สามารถเข้าห้องน้ำที่จีนได้ก็จะสามารถเข้าห้องน้ำได้ทุกที่บนโลกใบนี้ ห้องน้ำบนรถไฟก็เช่นเดียวกัน ประมาณ 5-6ชั่วโมงแรกมันเริ่มส่งกลิ่นจนพวกเราต้องเอายาเหลือง ยาเขียว

 สารพัดสีมาป้ายจมูกดับกลิ่น แรกๆ ก็พอเอาอยู่หลังๆ เราป้ายยาจนแทบจะกระดกกลืนเข้าไปอยู่แล้วกลิ่นของห้องน้ำก็ยังทะลุทะลวงโพรงจมูก

 ท้ายที่สุดมันถึงขั้นกดชักโครกไม่ลงกันเลยทีเดียว คือขี้กันจนชักโครกพังถ้าทนไม่ไหวก็ฉี่ทับกันไปมา หรือไม่ก็แอบไปเข้าโบกี้อื่น

 นอกจากนั้น บนรถไฟยังมีกลิ่นบุหรี่เบาๆลอยมาจากที่ไหนสักที่ให้เราอึดอัดหนักเข้าไปอีก 3-4 ชั่วโมงสุดท้ายบนรถไฟเราเริ่มอ่อนเพลียอีกครั้งจากที่สูง

 กลิ่นบุหรี่ และกลิ่นห้องน้ำออยถึงกับนอนให้ออกซิเจนตัวเองอย่างระทดระทวย


ในที่สุด รถไฟก็ถึงสถานีลาซาอย่างปลอดภัย สถานีลาซากว้างโปร่งตารู้สึกมึนหัวเล็กน้อย เพราะที่นี่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง

 3,490 เมตรเดินออกมาจากสถานี มีเจ้าหน้าที่เรียกตรวจเอกสาร ก้อยเดินเข้าไปยื่นเอกสารสักครู่ก็ออกมา เราเดินออกไปที่ถนน

 มีไกด์หลายคนมายืนรอลูกค้าไกด์ของเราเป็นหนุ่มวัยรุ่นใส่เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์ สวมหมวก นั่งรออยู่


-- ติดตามตอนต่อไป นะคะ เที่ยวในลาซากัน ----




Create Date : 02 มิถุนายน 2557
Last Update : 4 มิถุนายน 2557 15:59:16 น.
Counter : 1628 Pageviews.

10 comments
  
สนุก ๆ
โดย: clione IP: 110.164.115.203 วันที่: 2 มิถุนายน 2557 เวลา:10:29:15 น.
  
น่าไปจัง
โดย: bigwat & Kanni วันที่: 2 มิถุนายน 2557 เวลา:19:37:11 น.
  
เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าประทับใจเส้นทางหนึ่งเลย
ได้พบเจออะไรที่แปลกตาและแตกต่างอยู่ตลอดทาง
ดีจังเลยค่ะที่เดินทางกันเองแบบนี้
มีปัญหาบ้าง แต่ก็ได้ประสบการณ์กลับมาเยอะเลย
โดย: chenyuye วันที่: 4 มิถุนายน 2557 เวลา:15:04:01 น.
  
แวะมาชมภาพสวยๆ ครับ
โดย: Vito Andolini Corleone วันที่: 5 มิถุนายน 2557 เวลา:23:38:17 น.
  
มาตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
โดย: LilyHappiness (สมาชิกหมายเลข 750163 ) วันที่: 7 มิถุนายน 2557 เวลา:20:41:48 น.
  
ดูแค่ภาพสวยมากครับ แต่อ่านแล้วมาทั้งกลิ่นทั้งเสียงบรรยายได้สุดยอด ไม่กินแล้วข้าวเที่ยง ..
โดย: cacaross วันที่: 8 มิถุนายน 2557 เวลา:11:44:56 น.
  
มาลงชื่อรออ่านต่อค่ะ ^^
ทิเบตเป็นดินแดนในฝันของตั๊กเหมือนกันค่ะ
ถ้ามีโอกาสอยากไปสักครั้ง
โดย: Nepster วันที่: 8 มิถุนายน 2557 เวลา:15:05:09 น.
  
ตามมาคะ ตามมาคะ
เขียนถึงตอน 5แล้ว
โดย: PanGWeT วันที่: 9 มิถุนายน 2557 เวลา:15:34:04 น.
  
แปลกดีค่ะเรื่องเอกสาร ตอนขอวีซ่านี่
การไปธิเบตก็รู้ๆกันอยู่ ว่าคนที่มาขอ อาจไป ไม่เชิงห้าม แต่ก็ไม่ให้เขียน
ไม่รู้อะไรของเค้า

ได้นั่งรถไฟไต่หลังคาโลกแบบนี้ อยากมีโอกาสซักครั้งในชีวิต
รอตามตอนต่อไปนะคะ
โดย: wachi (กาบริเอล ) วันที่: 19 มิถุนายน 2557 เวลา:9:56:54 น.
  
Very useful material, thanks very much!
yiwu wholesale market https://challengepost.com/yiwumarket
โดย: yiwu wholesale market IP: 157.7.52.183 วันที่: 5 กรกฎาคม 2558 เวลา:20:38:37 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pangeataround
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



P a n g e a t a r o u n d
FB: Pangeataround
IG: Pangeataround
New Comments
Group Blog
มิถุนายน 2557

1
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog