|
โบรกฯเล็งหั่นเป้ากำไร8กลุ่มหุ้น "นิคม-ยานยนต์"อ่วมน้ำท่วม "อาหาร-วัสดุก่อสร้าง"รับเละ
โบรกฯเล็งหั่นเป้ากำไร8กลุ่มหุ้น "นิคม-ยานยนต์"อ่วมน้ำท่วม "อาหาร-วัสดุก่อสร้าง"รับเละ
โบรกฯสิงห์ปืนไว ตั้งท่าปรับลดเป้ากำไร บจ.รวดเดียว 8 กลุ่ม ชี้ผลกระทบน้ำท่วมถล่มราบ "นิคม-ยานยนต์" หนักสุด ส่วนกลุ่มประกัน-แบงก์โดนหางเลข ขณะที่กลุ่มอาหาร ค้าปลีก และวัสดุก่อสร้าง ได้อานิสงส์ขายดีรับฟื้นฟูหลังน้ำลด
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ว่า ขณะนี้ฝ่ายวิจัยกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาปรับประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปี 2554 โดยเฉพาะในงวดไตรมาส 4 ปีนี้ ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมเต็มๆ โดยมีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการกำไรกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนัก 8 กลุ่ม อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบและจะได้รับประโยชน์หลังน้ำท่วมลดลง คือ กลุ่มเกษตร-อาหาร กลุ่มศูนย์การค้า กลุ่มขนส่งทางบก กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มค้าปลีก เป็นต้น
สำหรับ 8 กลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย 1.กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) รับผลกระทบเต็มๆ ขณะที่บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) กำลังลุ้นว่าจะโดนหรือไม่ 2.กลุ่มยานยนต์ ผลกระทบจากการหยุดผลิตของค่ายรถฮอนด้า รวมถึงการขาดแคลนชิ้นส่วน จะกระทบต่อแนวโน้มยอดขายทุกบริษัท 3.กลุ่มวินาศภัย การเบิกจ่ายสินไหมจะเพิ่มสูงมาก กระทบบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) 4. กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาจกระทบน้อยกว่า 3 กลุ่มที่กล่าวมา เพราะแม้ว่าจะมีโรงงานอยู่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ยังไม่ได้รับความเสียหาย
5.กลุ่มธนาคารพาณิชย์ เพราะนอกจากการเติบโตของสินเชื่อจะหดตัวตามผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) อาจจะต้องเจอปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการผ่อนผันหรือการยืดระยะเวลาชำระหนี้ โดยธนาคารที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ กลุ่มที่เน้นสินเชื่อรายย่อย เช่นทิสโก้ กรุงศรีอยุธยา แลนด์แอนด์เฮ้าส์แบงก์ ทหารไทย เกียรตินาคิน และธนชาต ขณะที่ธนาคารขนาดใหญ่ ทั้งธนาคารกรุงเทพ ไทยพาณิชย์ กสิกรไทย และกรุงไทย ได้รับผลกระทบน้อยกว่า 6.กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โครงการก่อสร้างที่ต้องล่าช้าลง กระทบต่อทุกบริษัท
7.กลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย คาดว่าจะเกิดการชะลอตัวของการตัดสินใจซื้อบ้าน เพื่อพิจารณาทำเลที่ตั้งโครงการที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะทำให้แผนการรับรู้รายได้จากการโอนต้องเลื่อนออกไป โดยเฉพาะโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับกลาง-ล่าง แถวชานเมือง เช่น บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และ 8.กลุ่มท่องเที่ยว ที่คนจะหมดอารมณ์เที่ยวไปอีกนาน กระทบต่อ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่มีรายได้หลักจากโรงแรม และส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯโซนที่มีความเสี่ยง
Create Date : 16 ตุลาคม 2554 |
Last Update : 16 ตุลาคม 2554 5:55:51 น. |
|
0 comments
|
Counter : 492 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|