Bloggang.com : Panatee : โบรกแนะเก็งกำไร 4 หุ้นพื้นฐานแกร่ง ดัชนีผันผวนอิงทางบวก เอเชียพุ่ง ระวังแรงขายพอร์ตบล.

โบรกแนะเก็งกำไร 4 หุ้นพื้นฐานแกร่ง ดัชนีผันผวนอิงทางบวก เอเชียพุ่ง ระวังแรงขายพอร์ตบล.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 9.36 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.81 บาทต่อเหรียญสหรัฐด้านตลาดหุ้นเอเชียสดใส หลังจากรัฐสภาของสโลวาเกียบรรลุข้อตกลงที่จะให้เพิ่มอำนาจให้กับกองทุน EFSF ทำให้นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลเรื่องการแก้หนี้ยูโรโซน สดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า โบรกเกอร์คาดดัชนีปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ แต่จำกัดด้วยผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในประเทศ เก็งกำไร 4 หุ้นพื้นฐานแกร่ง ได้แก่ BGH, BIGC, IVL, DCC

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: โมเมนตัมอิงทางบวก แต่กรอบปรับขึ้นจำกัด

คาดตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในโมเมนตัมเชิงบวกได้ต่อเนื่อง ตามความผ่อนคลายของปัจจัยเรื่องการแก้หนี้ยูโรโซนในระยะสั้น หลังรัฐสภาของสโลวาเกียบรรลุข้อตกลงที่จะให้เพิ่มอำนาจให้กับกองทุน EFSF แล้ว และสัญญาณทางเทคนิคดูดีขึ้นเล็กน้อยหลังวานนี้ที่ปิดเหนือ 950 ได้ แนวโน้มจึงกลับมาเป็น Sideways อีกครั้ง อย่างไรก็ดี คาดกรอบการปรับขึ้นของตลาดจะถูกจำกัดด้วยภาวะน้ำท่วมภายในที่ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชน-ภาคธุรกิจในพื้นที่หลายจังหวัด รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง โดยในช่วงสั้นนี้จะมีหลายอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์, ท่องเที่ยว, สื่อและสิ่งพิมพ์ เป็นต้น

กลยุทธ์การลงทุน: การเก็งกำไรระยะสั้นให้เน้นการทยอยขายในช่วงดีดตัว โดยเฉพาะแถวแนวต้านที่ 960-972 จุด

แนวต้าน : 960-972 แนวรับ: 940-935

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25-50% : เงินสด 75-50%

ถือต่อในพอร์ต : BGH, BIGC

หุ้นที่ปรับออก : HMPRO

หุ้นที่ปรับเข้า :

1. IVL เก็งกำไร FV ปี 55 = 59 บาท ผลกระทบน้ำท่วมจำกัด ปัญหาต่างประเทศคลี่คลายบางส่วน

2. DCC เก็งกำไรตามเทคนิค ต้าน 58.25-60 รับ 56.50-56 Cut loss หากปิดต่ำกว่า 55 บาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ คาดว่าตลาดยังมีสิทธิแกว่งผันผวน ดังนั้นตลาดบวกจึงเน้นขายทำกำไรบ้าง!

แนวโน้ม เมื่อคืนนี้สมาชิกสภานิติบัญญัติของสโลวาเกียได้บรรลุข้อตกลงที่จะรับรองการเพิ่มอำนาจให้กับกองทุน EFSF แล้ว ทำให้นักลงทุนกลับมามีความมั่นใจต่อการคลี่คลายของสถานการณ์หนี้ในยูโรโซนมากขึ้น สินทรัพย์เสี่ยงจึงกลับมามีแรงซื้ออีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกขยับกลับมาบวกกันถ้วนหน้า ซึ่ง FSS คาดว่า SET ก็มีแนวโน้มที่จะขยับบวกต่อได้ด้วยเช่นกัน หลังจากในระหว่างวันวานนี้ SET ได้ปรับพักตัวลงไปถึงบริเวณ 935 จุดมาบ้างแล้ว โดยเป้าหมายถัดไปที่เราคาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะขยับขึ้นไปถึงได้จะอยู่ที่บริเวณ 970 จุด (+/-)

อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่วมในบ้านเราที่ยังค่อนข้างน่าเป็นห่วง รวมทั้งโอกาสในการที่จะเกิดน้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศเช่น พื้นที่ กทม. น่าจะยังส่งผลกดดันต่อตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศพอควร ดังนั้นจึงยังต้องระวังจังหวะแกว่งตัวผันผวนของ SET อยู่เช่นเดิม

กลยุทธ์: ช่วงนี้เราจึงยังเน้นเป็นเพียงการเข้าเทรดดิ้งตามรอบ (ลงซื้อ-ขึ้นขาย) ต่อไปก่อนเพื่อรอดูความชัดเจนอีกครั้ง ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาวแนะนำให้เน้นถือ แต่อาจทยอยลดพอร์ตลงบ้างเมื่อตลาดขยับขึ้น

KGI ประเมินหุ้นไทยวันพฤหัสฯ ปรับขึ้นต่อ ทดสอบระดับ 970 จุด เนื่องจากจิตวิทยาในฝั่งยุโรปยังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเด็นแรก-นักการเมืองในสโลวะเกียตกลงกันได้แล้วเรื่องการโหวตผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพของกองทุน EFSF โดยฝ่ายค้านจะเข้ามาช่วยโหวต แลกกับการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศของเขาที่เร็วกว่าเดิม ประเด็นสอง-เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มยุโรปยังคงเดินหน้าให้ความเห็นเพิ่มความเชื่อมั่นว่าแผนเพิ่มทุนของธนาคารยุโรปและการให้เงินช่วยเหลือกรีซมูลค่า 8 พันล้านยูโรจะมีข้อสรุปในปลายเดือน ต.ค. หรือต้นเดือน พ.ย. อย่างไรก็ดี สถานการณ์น้ำท่วมในไทยวิกฤตหนัก และมีโอกาสมากว่าความเสียหายจะมากกว่าที่ตลาดประเมินขณะนี้ ซึ่งแรงกดดันจากน้ำท่วมจะส่งผลให้ SET ขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ช่วง 2 วันที่ผ่านมา พอร์ต บล. ซื้อสุทธิสะสมไป 1.6 พันล้านบาท และอาจขายหุ้นออกมาได้ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงภายใน ซึ่งในกรณีดังกล่าวจะทำให้ตลาดผันผวนอย่างมากคล้ายคลึงกับเมื่อวานนี้

กลยุทธ์: สำหรับพอร์ตเทรดดิ้ง แนะให้ขายหุ้นครึ่งหนึ่งในวันนี้ และถ้าไม่มีสิ่งใดผิดปกติไปจากขณะนี้ จะแนะนำให้ขายที่เหลือในวันพรุ่งนี้ (ศุกร์) เนื่องจากตลาดหุ้นโลกรับรู้ปัจจัยบวกฝั่งยุโรปเข้าไปในราคาพอควร (เราเชื่อว่าเรื่องกรีซได้เงินช่วยเหลือ และเรื่องสโลวะเกียบรรลุข้อตกลง EFSF นั้นอยู่ในราคาหุ้นแล้ว) ส่วนเรื่องเพิ่มทุนธนาคารยุโรปยังรับรู้กันไม่หมดและยังเป็นข่าวบวกอยู่ แต่ขณะเดียวกันความเสี่ยงจากการลดหนี้ (Haircut) ของกรีซ รวมทั้งแรงกดดันจากข่าวน้ำท่วมที่อาจแรงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ อาจกดดัน SET ในสัปดาห์หน้าได้

Create Date : 13 ตุลาคม 2554

Last Update : 13 ตุลาคม 2554 10:11:51 น.

0 comments

Counter : 464 Pageviews.