|
วันที่ 06 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7677 ข่าวสดรายวัน ธปท.ผวา!น้ำลดหนี้ครัวเรือนหลอน บี้
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่าขณะนี้ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงเรื่องหนี้สินภาคครัวเรือนจะเพิ่มขึ้นในระยะสั้น หลังจากประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย และจำเป็นต้องซ่อมแซมหรือฟื้นฟูบ้านเรือนใหม่ โดยการกู้เงินจากสถาบันการเงิน โดยเฉพาะในช่วงที่ประชาชนไม่มี รายได้หรือมีรายได้ลดลง เพราะนายจ้างก็ได้รับผลกระทบจาก น้ำท่วมเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องต้องติดตาม และต้องมีมาตรการช่วยเหลือคนเหล่านี้บ้าง ซึ่งเบื้องต้นเข้าใจว่านายจ้าง สถาบันการเงินเข้าไปช่วยเหลือระดับหนึ่งแล้ว ภาครัฐก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือด้วย
สำหรับเรื่องการติดตามทวงถามหนี้อย่างไม่เป็นธรรมนั้น ที่ผ่านมา ธปท.เคยกำชับเตือนธนาคารพาณิชย์ หรือสถาบันการเงิน ให้ติดตามและดูแลบริษัทเอกชนที่ธนาคารจ้างติดตามทวงหนี้ ไปปฏิบัติต่อลูกหนี้อย่างเป็นธรรมและเหมาะสมมาโดยตลอด แต่ยอมรับว่าธนาคารพาณิชย์ก็มีระบบ ประเมินผลงานของบริษัทเอกชนที่อาจเข้มข้นมากเกินไป ทำให้บริษัททวงถามหนี้ต้องไปติดตามทวงหนี้จากลูกค้าอย่างเคร่งครัดด้วย ซึ่งในส่วนธปท.ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โดยศูนย์นี้จะครอบคลุมการอบรม การให้ข้อมูล การให้ความรู้ การติดตาม การให้บริการ การร้องเรียนทางการเงิน แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูลด้านการลงทุน
ด้านนางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายวางแผนและงบประมาณ ธปท.กล่าวว่า ศคง.จะเปิดตัวเป็นอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ม.ค.2555 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำระบบคอลเซ็นเตอร์สำหรับให้บริการสายด่วนที่หมายเลข 1213 ซึ่งศูนย์นี้จะให้บริการตอบข้อซักถามที่ประชาชนสงสัย และให้ความรู้ด้านบริการทางการเงินเป็นหลัก ยืนยันว่าจะไม่ทำงานทับซ้อนกับศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อย สินเชื่อ (ศปส.) ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายและการกำกับสถาบัน การเงิน เช่น การไกล่เกลี่ยและเจรจาขอสินเชื่อ เป็นต้น
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่าขณะนี้สศค.กำลังติดการแก้ปัญหาหนี้ของยุโรปด้วยความใกล้ชิด โดยเฉพาะการออกพันธบัตรของอิตาลีที่มีต้นทุนสูงมาก พร้อมกันนี้ต้องจับตาดูว่ากรีซจะสามารถชำระหนี้ก้อนโตในเดือนมี.ค.2555 ได้ตามแผนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกของยุโรป แต่สศค.ยังประเมินว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะยังเติบโตได้ในระดับ 5% เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตที่ 1.7-2%
"ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยในปีหน้า หากเป็นปัจจัยในประเทศคือเรื่องปัญหาการเมือง ถ้าเกิดม็อบ หรือเกิดเหตุรุนแรงขึ้นมาอีก จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยชะงัก แต่ถ้าการเมืองยังนิ่งเหมือนในขณะนี้เศรษฐกิจไทยน่าจะเติบโตได้ตามที่ คาดการณ์ไว้ ส่วนเรื่องภัยพิบัตินั้นคาดว่าจะสามารถรับมือได้" นายสมชัยกล่าว
หน้า 8
Create Date : 06 ธันวาคม 2554 |
Last Update : 6 ธันวาคม 2554 13:40:02 น. |
|
0 comments
|
Counter : 439 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|