ที่มา เว็บไซต์ ข่าวหุ้นดอทคอม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.45 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.79 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ด้านตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนบวกตามตลาดต่างประเทศ นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ และนักลงทุนผ่อนคลายกังวลลงบางส่วนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนที่ร่วงลงต่ำกว่า 6% อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เก็งกำไร 14 หุ้นผลงานเด่น ได้แก่ IVL, THRE, AP, SIRI, HEMRAJ, KBANK, BBL, CK, SAT, CPF, KH, DTAC, BAY, THCOM

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : ดีดตัวตามต่างประเทศ กลยุทธ์การลงทุน : รอยืน 1180 ค่อยเพิ่มพอร์ตคาดวันนี้ SETI มีแนวโน้มดีดตัวได้ตามต่างประเทศ หลังความกังวลเรื่องหนี้ยุโรปผ่อนคลายลงบางส่วนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนที่ร่วงลงต่ำกว่า 6% อีกครั้ง จึงอาจพบการเข้ามาเก็งกำไรมากขึ้นท่ามกลางบรรยากาศลงทุนในเชิงบวก อย่างไรก็ดี เชื่อว่าความผันผวนในระหว่างทางจะมีค่อนข้างสูงจากความเสี่ยงประเด็นหนี้ของยุโรปที่ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว ขณะที่ต่างชาติเริ่มทยอยขายทำกำไรออกมาต่อเนื่องมากขึ้นในช่วงนี้ ส่วนปัจจัยภายในน่าจับตาการเคลื่อนไหวทางการเมืองมากขึ้นจากประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายปรองดอง โดยรวมยังคงมองการดีดตัวไม่น่าวางใจจนกว่าจะยืนเหนือ 1180 ให้ได้อย่างแข็งแรงก่อน

กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นยังเก็งกำไรต่อไปได้ และจะเพิ่มพอร์ตต่อเมื่อ SETI ยืนเหนือ 1180 ได้อย่างแข็งแกร่งก่อน โดยหุ้นธนาคารน่าจะได้รับความสนใจในช่วงการประกาศงบฯ 1Q55 แนวต้าน : 1164-1169 แนวรับ : 1156-1151

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25% : เงินสด 75%

ถือต่อในพอร์ต : SAT, CPF, KH, DTAC

หุ้นที่ปรับออก : HMPRO

หุ้นที่แนะนำ :1. BAY เก็งกำไรผลประกอบการ 1Q55 FV 30.90 บาท กรอบเทรดระยะสั้น ต้าน 26.75-27.50 รับ 25 Cut loss 24.50 บาท

2. THCOM เก็งกำไร กรอบเทรดระยะสั้น ต้าน 17 รับ 15.2 Cut loss 15

KGI คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะเปิดรีบาวด์ในวันพุธ หนุนโดยจิตวิทยาของหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปที่พุ่งแรงหลังจาก i) ผลประกอบการของบริษัทใหญ่ ในสหรัฐฯ เช่น โคคา-โคลา, โกลด์แมน แซคส์, จอห์นสันแอนด์ จอห์นสัน, ไอบีเอ็ม, อินเทล และยาฮู ล้วนสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ii) การประมูลตั๋วเงินคลังของสเปนมีเสียงตอบรับที่ดี และดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีถอยลงมาต่ำกว่า 6% อีกครั้ง iii) ดัชนีความเชื่อมั่นของนักธุรกิจที่เรียกว่า ZEW ของเยอรมันเดือน เม.ย. สูงกว่าคาด ให้แนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจเยอรมัน

ในขณะที่ IMF ก็ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจโลกเป็น 3.5% จากเดิม 3.3% อย่างไรก็ดีต่างชาติยังขายหุ้นไทยต่อเนื่องแล้ว 3 วัน และ KGI มองว่าต่างชาติจะไม่กลับมาซื้อด้วยข่าวต่างๆ ที่ออกมา เราคิดว่าจะต้องมีข่าวเชิงนโยบายใหม่ๆ ที่มีความชัดเจน เช่น QE3 หรือนโยบายการเงินหรือการจัดการภาคธนาคารของยุโรปออก จึงจะกระตุ้นต่างชาติให้ซื้อหุ้นรอบใหม่ได้ เรามองว่าการรีบาวด์วันนี้ไม่น่าจะยืนระยะได้

กลยุทธ์: เรายังคงแนะนำให้เลี่ยงหุ้นกลุ่มหลัก และเน้นซื้อหุ้นขนาดกลางในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาสแรกและกำไรปี 2555 แข็งแกร่ง และมีปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวและดอกเบี้ยที่น่าจะต่ำยาวถึงไตรมาส 3/55 เป็นอย่างน้อย แนะซื้อ AP, SIRI รวมทั้งหุ้นนิคมฯอย่าง HEMRAJ เป็นต้น

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดยังรีบาวด์ได้แต่ความเสี่ยงก็สูงขึ้น ดังนั้นเน้นแค่เทรดดิ้งสั้นๆ ตามรอบ!

กลยุทธ์: หลังจากแนะนำทยอยขายทำกำไรเพื่อลดพอร์ตลงบ้างในช่วงตลาดบวกไปแล้ว ช่วงนี้ถ้าจะเข้าซื้อยังเน้นแค่เพียงเทรดดิ้งสั้นๆ ตามรอบ ซึ่งแนะนำเทรดดิ้งในหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการจะออกมาดีเป็นหลัก โดยกลุ่มแรกที่จะทยอยประกาศผลดำเนินงาน คือหุ้นกลุ่มแบงก์ (KBANK, BBL) ซึ่งยังคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานเติบโตดี นอกจากนี้ยังแนะนำเทรดดิ้งในหุ้น CK (TP=8.7) จากข่าวการเซ็นสัญญาก่อสร้างโรงไฟฟ้ากับบ.ไซยะบุรี พาวเวอร์

หุ้นเด่นทางเทคนิค IVL, THRE , TTCL (SBL)

แนวโน้ม การประมูลพันธบัตรสเปน 1 และ 1.5 ปีสะท้อนความต้องการที่แข็งแกร่ง แม้ว่าอัตราผลตอบแทนจะยังสูงอยู่ ส่งผลให้นักลงทุนคาดว่าการประมูลครั้งต่อไปของพันธบัตรอายุ 2 ปีและ 10 ปีในวันพฤหัสฯ นี้ น่าจะมีอัตราผลตอบแทนที่ลดลงได้ ขณะที่ "มูดี้ส์" ประกาศคงแนวโน้มเครดิตของไทยเป็น มีเสถียรภาพ แม้ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยมีความเปราะบางต่อผลกระทบจากภายนอก เช่น วิกฤติหนี้ยูโรโซน มากกว่าประเทศอื่นๆ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือเท่ากัน แต่มูดี้ส์ระบุว่าระบบธนาคารของไทยมีการเตรียมพร้อมที่ดีในการรับมือต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อกระแสสินเชื่อที่เกิดจากความผันผวนในตลาดการเงินโลก นอกจากนี้ยังมีข่าวบวกจากการปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลกขึ้นของ IMF ด้วย ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวสูงกว่า 1150 จุดได้ต่อ แต่กรอบการขึ้นยังค่อนข้างจำกัด และต้องระวังการแกว่งปรับพักตัวลงอีกครั้งไว้ด้วย เราจึงยังแนะนำเพียงการเข้าเทรดดิ้งสั้นๆ ตามรอบ และยังควรมองหาจังหวะขายทำกำไรเมื่อตลาดบวกขึ้นอยู่

แนวรับ  1158-1156 , 1150 จุด    แนวต้าน  1165-1170 , 1176-1184    จุด

Create Date : 18 เมษายน 2555
Last Update : 18 เมษายน 2555 11:43:45 น.		0 comments
Counter : 577 Pageviews.
Share Tweet