ที่มา เว็บไซต์ข่าวหุ้นดอทคอม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.47 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.85 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนบวกและลบ นักวิเคราะห์คาดดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวน โดยเฉพาะจากข่าว S&P ปรับลดอันดับเครดิตสเปน 2 ขั้นสู่ BBB+ จากเดิมที่ A และพอร์ต บล. ซื้อสุทธิสะสม 3 วันที่ผ่านอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท เป็นปัจจัยเสี่ยงในวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ด้วย เน้นเก็งกำไร 14 หุ้นเด่น ได้แก่ PS, TICON, SCB, PTTGC, SAT, CPF, ADVANC, SIRI, BGH, GLOW, STEC, HEMRAJ, ROBINS และ MAKRO

บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: ยังน่าระวังความผันผวน  กลยุทธ์การลงทุน : ยังคงเก็งกำไรต่อได้

ดัชนีหุ้นไทยยังดูดีต่อเนื่อง คาดวันนี้ดีดขึ้นทดสอบ High เดิมแถว 1214 อีกรอบ โดยมีปัจจัยหนุนจากข้อมูลตลาดบ้านที่สดใสของสหรัฐ (ดัชนียอดขายบ้านที่รอปิดการขายเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี) รวมถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบจ.ต่างๆ ขณะที่รอการเปิดเผยข้อมูลจีดีพีไตรมาสแรกของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ด้านต่างชาติยังทยอยขายสุทธิต่อเนื่องในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อีกเล็กน้อย แต่ถือสถานะด้าน Long ในตลาดอนุพันธ์ในปริมาณมาก จึงทำให้แรงกดดันการขายหุ้นของต่างชาติดูไม่มาก (อย่างน้อยในระยะสั้นนี้)

ด้านเทคนิคเกิดสัญญาณขายในกราฟราย 60 นาที จึงอาจมีย่อตัวสลับ โดยเฉพาะจากข่าว S&P ปรับลดอันดับเครดิตสเปน 2 ขั้นสู่ BBB+ จากเดิมที่ A นักลงทุนยังน่าระวังความผันผวนระหว่างทางจนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ที่โดดเด่น

กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรต่อได้ แต่เน้นความระมัดระวังมากขึ้นจนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ที่โดดเด่นชี้นำทิศทางตลาดที่ชัดเจน แนวต้าน : 1214-1220 แนวรับ : 1205-1198

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต : SAT, CPF, ADVANC

หุ้นที่ปรับออก : KH, AMATA

หุ้นที่แนะนำ :

1. SIRI ยอดจอง+Backlog ดี FV 2.30 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 2.30 รับ 2.08 Cut loss 2.00 บาท

2. BGH ปรับราคา FV ขึ้นเป็น 98 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 93.50 รับ 87.50 Cut loss 85.00 บาท

3. GLOW เทรดดิ้งเทคนิค กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 65.00 รับ 60.50 Cut loss 59.00 บาท

บล. ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดยังมีโอกาสแกว่งผันผวน ดังนั้นยังเน้นแค่เทรดดิ้งตามรอบต่อไปก่อน

กลยุทธ์: ช่วงนี้ตลาดบวกขึ้นเรายังแนะนำให้มองหาจังหวะขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงจากโอกาสแกว่งตัวผันผวนของตลาด โดยเฉพาะไม่ควรซื้อไล่ราคาในหุ้นที่พุ่งขึ้นแรงมากเกินไป เนื่องจากโอกาสในการเข้าซื้อยังสามารถรอช่วงตลาดปรับพักตัวลงก่อนได้ ซึ่งช่วงนี้เรายังเน้นเป็นแค่เทรดดิ้งตามรอบในลักษณะลงซื้อ-ขึ้นขายต่อไปก่อน โดยหุ้นที่น่าสนใจช่วงนี้ ได้แก่ SCB ซึ่งเราปรับคาดการณ์กำไรขึ้นเพื่อสะท้อนการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเหมาะสมใหม่ที่ 166 บาท และ PTTGC เราคาดกำไร 1Q12 จะดีขึ้นสู่ภาวะปกติ ราคาเป้าหมาย 75 บาท

หุ้นเด่นทางเทคนิค PS, TICON, KBS (SBL)

แนวโน้ม จากมุมมองเชิงบวกของเฟดต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ส่งผลให้ SET ยังมีปัจจัยสนับสนุนให้บวกขึ้นต่อเนื่องได้อีก ขณะที่มีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการรายไตรมาสจะออกมาดีด้วย แต่การที่ SET ขยับขึ้นมาใกล้จุดสูงสุดเดิมในรอบก่อนแถว 1214 จุดซึ่งครั้งที่แล้วมีแรงขายกดดันให้ตลาดปรับตัวลงรุนแรง พร้อมกับที่ช่วงนี้นักลงทุนต่างประเทศเริ่มมีแรงขายออกมา 3 วันติดต่อกันด้วย แม้ว่าจะยังเบาบาง แต่ก็มีสิทธิทำให้นักลงทุนบางส่วนกังวลได้ (อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติยังมียอด long ในสัญญาฟิวเจอร์ส SET50) ดังนั้นช่วงนี้ FSS จึงแนะนำให้ระวังแรงขายทำกำไรกดดันให้ตลาดกลับมาปรับพักตัวลงไว้ด้วย นอกจากว่าแรงซื้อยังสามารถผลักดันให้ SET ขยับผ่าน 1214 จุดขึ้นได้ SET ถึงจะมีลุ้นโอกาสขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ของรอบนี้แถว 1220 จุดหรือใกล้เคียงต่อไป แนวรับ  1205-1200 , 1196-1194  จุด    แนวต้าน  1210-1214 , 1218-1222  จุด

KGI ประเมินหุ้นไทยแกว่งตัวลง ดาวโจนส์ที่บวกแรงเมื่อคืนอาจค้ำตลาดในช่วงต้น แต่เราคาดว่าช่วงบ่ายจะมีแรงขายมากขึ้นหลังตลาดหุ้นยุโรปเปิดทำการ รับรู้ข่าวที่ว่า S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปน 2 ขั้น จาก A สู่ BBB+ (แนวโน้มเชิงลบ) และเรียกร้องให้กลุ่มยุโรปดำเนินการมากกว่านี้เพื่อป้องกันวิกฤตรอบใหม่ ทั้งนี้ข่าวสเปนออกมาตอนตี 4 ซึ่งหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดไปแล้ว ด้านตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการสหรัฐฯ ยังค่อนข้างดี ยอดขายบ้านที่รอปิดการขายเดือน มี.ค. แข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาด และกำไรไตรมาส 1 ของบริษัทใน S&P500 ถึงตอนนี้มีถึง 72% ของจำนวนบริษัททั้งหมดที่รายงานกำไรดีเกินตลาดคาด อย่างไรก็ดี KGI คงมุมมองว่าราคาหุ้นโลกค่อนข้างสูงแล้ว หากไม่มีนโยบายกระตุ้นใหม่ๆ จากสหรัฐฯ หรือข่าวดีเชิงนโยบายจากยุโรป ตลาดหุ้นก็จะมีทางขึ้นที่จำกัดมากในช่วงสั้น ทิ้งท้ายไว้ด้วยประเด็นของผู้เล่นในตลาด ต่างชาติยังมียอดขายสุทธิบ้างขณะที่ พอร์ต บล. ซื้อสุทธิสะสม 3 วันที่ผ่านอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท และเป็นปัจจัยเสี่ยงในวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ด้วย

กลยุทธ์: คงคำแนะนำให้เลี่ยงหุ้นหลักในกลุ่มพลังงานและแบงก์ และเน้นซื้อหุ้นขนาดกลางที่เน้นเศรษฐกิจในประเทศ และมีแนวโน้มกำไรออกมาดีในไตรมาสแรก (หรือในระยะถัดไป) เช่น SIRI, STEC,HEMRAJ ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีกราคาค่อนข้างสูงแล้วแต่เนื่องจากนักลงทุนมีทางเลือกน้อยลง จึงยังมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มเสี่ยงต่ำเช่นค้าปลีกต่อไปในช่วงนี้ เรามองว่า ROBINS* และ MAKRO* ไม่แพงเท่ากับตัวอื่นๆ ในกลุ่ม

Create Date : 27 เมษายน 2555
Last Update : 27 เมษายน 2555 10:01:45 น.		0 comments
Counter : 480 Pageviews.
Share Tweet