สัปดาห์นี้จับตายุโรปต่อไป ซื้อ6พื้นฐาน-ขาย4เทคนิค

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ประจำสัปดาห์ระหว่างวันที่ 3-7 ต.ค. 54 ดังนี้

ติดตามความคืบหน้าเศรษฐกิจโลก

ตลาดยังคงให้น้ำหนักกับปัจจัยภายนอกที่เกี่ยวโยงกับภาพใหญ่ของเศรษฐกิจ โลกเป็นสำคัญโดยเฉพาะในแง่การผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ ซึ่งหากเกิดขึ้นก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการลุกลามของปัญหาสู่สถาบันการเงิน อื่นในทวีปยุโรปและสหรัฐอย่างรวดเร็วได้ และจะตามมาด้วยปัญหาการหดตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจ

โดยไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจกรีซจะหดตัวเป็นปีที่ 4 ในปีหน้า โดยปีนี้จะหดตัว 5% และปีหน้า 2% จากเดิมที่คาดว่าปีหน้าจะมีการขยายตัว ส่วนอัตราว่างงานก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 16.5% ปีนี้ และ 18.5% ปีหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในอียูรองจากสเปน อันจะนำไปสู่ความวุ่นวายทางสังคมตามมาในที่สุด

ล่าสุดรัฐสภาเยอรมนีได้ลงมติเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ย. เพื่อรับรองแผนเพิ่มเงินทุนของกองทุน EFSF ซึ่งเป็นกองทุนปล่อยกู้สำหรับอุ้มชาติสมาชิกโดยส่วนที่เยอรมนีจะค้ำประกันจะ เพิ่มขึ้นจาก 120 พันล้านยูโร เป็น 211 พันล้านยูโรนับว่าเป็นสัญญาณที่ดี จากประเทศที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป สำหรับความพยายามในการร่วมกันแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ดีแม้ในที่สุดแล้วกรีซจะได้รับเงินกู้งวดต่อไปในเดือน ต.ค. ความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ก็มีอีกในเดือน ธ.ค. เมื่อพันธบัตรมูลค่า 5,230 ล้านยูโรถึงกำหนดไถ่ถอน

ดังนั้น ปัจจัยเรื่องหนี้สินของกรีซและ ปัญหาหนี้สินของยุโรปยังคงต้องจับตาดูกันต่อไปอีกยาวเช่นเดียวกับปัญหา เศรษฐกิจของฝั่งสหรัฐ ที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจดูเหมือนจะยังคงเปราะบางมาก แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้พยายามหาทางออกโดยการใช้แผน Operation twist แล้วก็ตามที แต่ดูเหมือนจะยังไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาได้มากนัก นักลงทุนจึงต้องจับตาความคืบหน้าของตัวเลขเศรษฐกิจที่จะทยอยประกาศต่อในราย สัปดาห์ต่อไป

วันหยุดยาวของตลาดหุ้นจีน

ตลอดทั้งสัปดาห์หน้าจีนจะมีวันหยุดยาวเนื่องในวันชาติระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค. ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนปิดทำการตั้งแต่วันที่ 3-7 ต.ค. ดังนั้น ตลาดหุ้นอื่นๆ อาจได้รับผลกระทบอยู่บ้างในความเงียบเหงาลงของตลาด

แนวโน้มตลาดหุ้นและกลยุทธ์การลงทุน

ภาพรวมตลาดยังอยู่ในกรอบแนวโน้มขาลงต่อไปจากแรงกดดันจากปัญหาหนี้สินของ ยุโรป และเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยกรอบทางลงยังคงอยู่แถว 850-860 จุด อย่างไรก็ดีหากมีข่าวเชิงบวกจากการออกมาตรการช่วยเหลือกรีซ อาทิ การตกลงกันถึงแผนการรัดเข็มขัด และนำไปสู่การปล่อยเงินกู้รอบต่อไปให้กับกรีซได้ ก็จะเป็นข่าวบวกในระยะสั้นให้กับตลาดหุ้นได้ โดยเรามองกรอบการดีดตัวไม่มาก เพียง 980-990 จุด เท่านั้นกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นจึงยังคงเน้นการถือครองเงินสดให้มากและ ถือหุ้นไว้ไม่เกิน 25% เท่านั้น เน้นการเลือกหุ้นรายตัวเป็นหลัก

หุ้นแนะนำในสัปดาห์นี้ ได้แก่ BGH, DTAC, GFPT, HMPRO, SIRI และ SVI สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวระยะสั้นของตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ มองแนวรับที่ 900-867 จุด และ แนวต้านที่ 950-980 จุด

หุ้นเด่นประจำสัปดาห์:

เชิงพื้นฐาน: Selective Trading

คำแนะนำ

- BGH ซื้อ

- DTAC ซื้อ

- GFPT ซื้อ

- HMPRO ซื้อ

-SIRI ซื้อ

- SVI ซื้อ

เชิงเทคนิค: "Wait and See" สำหรับผู้เก็งกำไร

ระยะสั้น

คำแนะนำ

- BBL ขาย

- CPF ขาย

-PTT ขาย

-SCC ขาย

กลยุทธ์อนุพันธ์: ตลาดผันผวนในขาลง...Short ฟิวเจอร์สหุ้น และSET50

Create Date : 03 ตุลาคม 2554		0 comments
Last Update : 3 ตุลาคม 2554 13:12:27 น.
Counter : 494 Pageviews.
Share Tweet