Bloggang.com : Mellitus : Peace, Love and Respect ระหว่างคนกับสัตว์ป่่าตอน3

Peace, Love and Respect ระหว่างคนกับสัตว์ป่่าตอน3

จากที่ได้อ่าน George Adamson ที่ได้บันทึกไว้ก่อนตายเมื่อตอนที่แล้วว่า:

" who will now care for the animals, for they cannot look after themselves? Are there young men and women who are willing to take on this charge? Who will raise their voices, when mine is carried on the wind, to plead their case?"

มีแล้วค่ะอย่างน้อยก็ได้เห็นคนหนึ่งที่กำลังเดินตามรอย George Adamson ที่ต้องการให้สัตว์ป่ามีชีวิตอยู่รอดเหมือนกับมนุษย์ทั้งหลายในโลกนี้ ที่ต่างไม่ต้องทำร้ายซึ่งกันและกัน การฆ่าเพื่อการอยู่รอดเป็นไปตามกฏวิถีชีวิตที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาให้เพื่อที่จะต้องดำรงชีวิตให้อยู่ได้ในโลกนี้ แต่ไม่ใช่ฆ่าเพื่อความสนุกหรือเพื่อการค้า เพราะทุกวันนี้คนก็ต่างฆ่ากันเองแล้วแต่ไม่ใช่เพราะความอยู่รอดแต่มันกลับกลายเป็นเพื่อหวังอำนาจที่ต้องการให้ผู้อื่นสยบอยู่ใต้เท้าตัวเอง และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากกว่าสังคมของสัตว์ 4 เท้าในป่าหลายร้อยเท่า

ยังจำกันได้หรือเปล่าถึงนักมายากลระดับโลกที่ชื่อว่า Siegfried & Roy ที่ถูกเสือที่ตัวเองเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กทำร้ายขณะที่แสดงโชว์ของตัวเองที่โรงแรม Mirage ใน Las Vegas เมื่อปี 2003 ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยที่ได้ยินข่าวตอนนั้นเพราะคิดอยู่ว่าสักวันหนึ่งมันจะต้องเกิดเรื่องขึ้นและมันก็เกิดขึ้นจนได้ คนที่ใช้สัตว์ป่าเป็นเครื่องมือหากินจะอยู่ได้ไม่นาน สัตว์ป่าเหล่านี้ไม่ไช่สัตว์เลี้ยงที่จะนำมาอวดชาวบ้านหรือเพื่อนำมาเป็นเครื่องมือเพื่อทำรายได้ให้กับตัวเอง

มนุษย์ยังมีความรู้สึกถ้าถูกใช้เป็นเครื่องมือซึ่งก็เหมือนกับสัตว์ที่มีความรู้สึกเช่นกัน สัตว์ป่าถึงแม้ว่าจะถูกเลี้ยงมาจนเชื่องแตมันก็ไม่ใช่ว่าจะต้องมาอยู่ท่ามกลางแสงสีเสียงและท่ามกลางคนนับพัน สัญชาติญานและความกลัวมันเกิดขึ้นเช่นเดียวกับมนุษย์ถึงแม้ที่จะได้อยู่ในป่าและใกล้ชิดกับสัตว์ป่าแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรู้นิสัยใจคอของสัตว์ป่าทุกชนิด

นี่แสดงให้เห็นถึงความโง่เขลาของมนุษย์ที่คิดว่าสามารถที่จะเลี้ยงสัตว์ป่าให้เหมือนกับสัตว์บ้านและเพื่อต้องการให้อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของตัวเองเพื่ออวดสายตาชาวโลก

ตอนนี้คิดว่ามีผู้หนึ่งที่กำลังทำให้ความหวังของ George และ Joy Adamson ยังคงมีอยู่ต่อไปที่ทำให้สัตว์ป่ามีความไว้วางใจกับมนุษย์และสามารถที่จะสื่อสารกันด้วยการแสดงออกที่มีความรักซึ่งกันและกัน เขาผู้นั้นก็คือ Kevin Richardson ซึ่งชื่อของเขาทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าเขาคือหนึ่งในอดีตของสมาชิกวง Backstreet Boys เพราะมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกัน แต่ Kevin Richardson บุคคลที่จะพูดถึงยังไม่มีแม้แต่ประวัติใน Wikipedia

จากที่สามารถหาข้อมูลได้เขาคือชายหนุ่มอายุ 34 ปีอดีตนักศึกษาสรีรวิทยาของมนุษย์แต่เขากลับกลายเป็น zoologist และ animal behaviorist ที่อุทิศตัวเพื่อที่จะศึกษาและเข้าใจชีวิตของสิงโต, เสือดาว, hyena (ไม่ทราบว่าภาษาไทยเรียกว่าอะไร) เป็นสัตว์ที่มีความดุร้ายพอๆกับสิงโตและเสือ รวมทั้งสัตว์ป่าอื่นๆที่อาศัยอยู่ใน Lion park ที่เมือง Johannesburg ประเทศอัฟริกาใต้

คนส่วนใหญ่ที่ได้เห็นวิดีโอจากการทำข่าวของ Sky News, National Geographic Channel, CNN ใน Youtube หรือแม้การรายงานข่าวของประเทศอื่นๆ คิดว่าเขาคงเสียสติแต่ก็มีบางส่วนที่ชื่นชอบและอยากที่จะได้ใกล้ชิดกับสัตว์ป่าที่คนส่วนใหญ่ในโลกนี้กลัวเกรง สิ่งที่น่าเหลือเชื่อคือว่าสัตว์ป่าทั้งหลายเมื่อได้ใกล้ชิดกลับ Kevin กลับกลายเป็นสัตว์ที่เชื่องและไม่มีร่องรอยความดุร้ายหลงเหลือ เขาไม่มีทฤษฎีอะไรในการทำให้สัตว์ป่าเหล่านี้กลับกลายมีความไว้วางใจในตัว Kevin เพราะจากการที่เขาได้คลุกคลีกับสัตว์เหล่านี้มานานกว่า 10 ปี การเรียนรู้และการศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ตั้งแต่แรกเกิด ทำให้เขามีความเข้าใจถึงการอยู่ร่วมกัน หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าเขาเองได้ศึกษาถึงการดำเนินชีวิตที่อยู่ร่วมกับสัตว์ป่าจาก George Adamson ที่ให้ความไว้วางใจความรักและความเป็นเพื่อนกับสัตว์ป่าทั้งหลาย ดลบันดาลใจให้เขาใช้ชีวิตอยู่กับสัตว์เหล่านี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิงโตคือสัตว์ที่เขาให้ความสนใจเป็นพิเศษ มาดูชีวิตที่เขาทำงานและคลุกคลีอยู่กับสัตว์ป่าเหล่านี้ที่หามาได้จาก Youtube ค่ะ ผู้เขียนนั่งดูมาแล้วหลายสิบครั้งไม่เคยเบื่อ เพราะดูแล้วมีความสุขใจดี

ได้สั่งหนังสือ " Part Of The Pride " ของ Kevin Richardson ที่ Amazon ไปแล้วค่ะแต่ยังไม่รู้ว่าจะได้รับเมื่อไร ถ้าอ่านเสร็จแล้วจะมาเล่าให้ฟัง

คิดว่าอึกไม่นานชื่อของ Kevin Richardson กับงานที่เขาทำอยู่คงจะได้มีคนรู้จักกันไปทั่วโลกเช่นเดียวกับ
The Dog Whisperer, Cesar Millan ซึ่งหลายๆคนคงจะเคยได้ยินชื่อของเขามาแล้ว กับการที่เขาเทรนสุนัขและช่วยสุนัขที่อาจจะต้องถูกวางยาเพราะเจ้าของไม่สามารถที่จะจัดการหรือเลี้ยงดูให้มันอยู่ในความเชื่อฟังและอยู่ใต้อำนาจได์ เขาไม่เคยได้ร่ำเรียน Dog psychology หรือ Dog training จากที่ไหน แต่ประสบการณ์และความใกล้ชิดกับสุนัขมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เขาได้เรียนรู้และสามารถนำมาปฏิบัติและถ่ายทอดให้กับเจ้าของสุนัขทั้งหลายที่ต้องการความช่วยเหลือ Cesar Millan ไม่ใช่ Dog Trainer แต่เขาใช้ทฤษฎีแบบหลักจิตวิทยาธรรมชาติระหว่างคนและสัตว์ ทฤษฎีของเขาอาจจะไม่เหมาะสมสำหรับเจ้าของสุนัขทุกคน หรือแม้แต่ประเพณีและวัฒนธรรมในบางประเทศ

ผู้เขียนได้ติดตามรายการทีวีของ Cesar Millan ที่นำมาฉายในสวีเดนมาหลายปีและสนใจในการใช้หลักจิตวิทยาของเขาและตอนนี้ก็ได้ติดตามเขาใน Twitter ด้วย แต่อย่างว่าแหละ Dog Trainer มีอยู่ในแทบจะทุกประเทศ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสนใจของเจ้าของสุนัขที่จะเรียนรู้และนำเอาไปปฏบัติให้เข้ากับสุนัขของตนเอง

อย่าลืมว่าความสัมพันธุ์และการสื่อสารในสังคมของสัตว์โลกไม่ว่าจะเป็นระหว่างคนกับคน คนกับสัตว์หรือแม้แต่ระหว่างสัตว์กับสัตว์ก็ตาม สิ่งสำคัญที่เป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันและเข้าใจซึ่งกันและกันนั่นก็คือ ความไว้วางใจ ความรัก และความเป็นเพื่อน ที่มีให้ต่อกัน

Create Date : 07 กันยายน 2552

Last Update : 3 ตุลาคม 2553 5:05:46 น.

10 comments

Counter : 2815 Pageviews.

ประทับใจรูปสุดท้าย ใน ยูทูบ ตัวสุดท้าย
ขอบคุณนะคะ ที่พิมพ์ให้อ่าน

สัตว์น่าสงสารทุกตัว ทั้งสัตว์ป่า สัตว์ในเมือง

โดย: tempopo

วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:9:08:06 น.

วันนี้เอาพิซซ่าญี่ปุ่นมาฝากค่ะ...

โดย: chenyuye

วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:11:08:28 น.

สวัสดีค่ะพี่

วันนี้มีเวลาแว้บก่อนเข้างานมาเยี่ยมค่ะ
ใช่แล้ว ช่วงนี้งานการรัดตัวอยู่สักหน่อยค่ะ ทั้งงานราษฎร์ งานหลวง...(งานเอกชนตะหาก)

Dog Whisperer ก็ได้ดูทางโทรทัศน์บ้างเหมือนกันค่ะ เห็นแล้วแปลกใจจริงๆ กับสิ่งที่ซีซาร์ทำได้
แต่คนเราถ้าคลุกคลีกับอะไรมากๆ ก็น่าจะเข้าใจกันจริงๆ นะคะ

ส่วน Sigfried & Roy เคยดูสมัยก่อนค่ะ มีเทปมาออกอากาศที่บ้านเราบ้างเหมือนกัน ตอนที่เห็นพี่พูดถึงสัตว์ป่า ก็นึกถึงคู่ดูโอนี้เหมือนกัน แต่เพิ่งทราบจริงๆ ว่ามีอุบัติเหตุ

สารคดีบ้านเราเรียก ไฮยีน่า ทับศัพท์ไปเลยค่ะ เพราะยุคก่อนนี้บางคนแปลว่า หมาไน แต่รู้สึกว่าจะเป็นคนละพวกกัน

โดย: นางไม้หน้า3

วันที่: 8 กันยายน 2552 เวลา:8:03:57 น.

สวัสดีค่ะพี่
มีตอน 3 และ เขียนเร็วจังเลยค่ะ
ปกติตัวเองเวลา log in bloggang จะ กด friends update เสมอค่ะ จะได้แวะไป comment

เป็นกำลังใจในการเขียน blog ค่ะ
เมื่อเร็วๆนี้ ได้ฟังเพลงวิทยุในรถ เพลงเก่าของ John Lennon ค่ะ ชื่อ Imagine ค่ะ ก็เลยอยากเก็บไว้ใน blog ค่ะ แต่บังเอิญ ไปเจอของ Connie Talbot ค่ะ ที่พี่เคยแนะนำมา โอ้โห เสียงน่ารักมากค่ะ เลยเอามาใส่ใน playlist เลยค่ะ

ใน blog นี้พี่ได้เขียนเกี่ยวกับ นักมายากล โดยสัตว์ป่าที่เขาเลี้ยงทำร้าย เนื่องจาก ใช้งานสัตว์หนักเกินไป

ที่เมืองไทยก็มีค่ะ ควานช้างโดน ช้างเหยียบ เพราะใช้งานมันหนักเหมือนกัน

พี่มี Twister หรือค่ะ แต่ของตัวเองไม่มีค่ะ ช่วงนี้ในเมืองไทย ได้ยินเกี่ยวกับ Twister บ่อยมากค่ะ เพราะ นายกรัฐมนตร๊ของไทย ก็มีค่ะ เอาไว้ประชาสัมพันธ์งานของท่าน

โดย: athena_b

วันที่: 8 กันยายน 2552 เวลา:16:21:32 น.

สวัสดีอีกรอบค่ะ พี่
วันนี้ประเทศไทย เขาถือว่าเป็นวันดี เพราะ เป็นวันที่ 9/9/2009 มีงานมงคลต่างๆมากมายเลยค่ะ ทั้งของส่วนราชการและเอกชน
ที่สวีเดนเป็นอย่างไรมั่งค่ะ
Have a fantastic day ค่ะ

โดย: athena_b

วันที่: 9 กันยายน 2552 เวลา:8:44:10 น.

สวัสดีค่ะ

ว่าแต่พี่ Mellitus มีชื่อเล่นที่พอจะเรียกได้สะดวกมั้ยคะ จะได้ดูเป็นกันเองหน่อย
คืนนี้มาเช็คบล็อกดึกและรู้สึกง่วงจัง ช่วงนี้นอนน้อยน่ะค่ะ พี่เขียนมาถึงตอนสามแล้วเหรอคะ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้อ้อมค่อยมาอ่านรวบเดียวสองตอนเลยดีกว่า ตอนนี้แทบจะลืมตาไม่ขึ้นแล้วน่ะค่ะ

ได้กลับไทยทั้งทีแต่กลับแค่อาทิตย์เดียวเองเหรอคะ น้อยจังเนอะ เมื่อวานอ้อมก็พึ่งจะได้รับพัสดุจากแม่ที่ส่งมาจากเมืองไทย เป็นแผ่นดีวีดีที่แม่กับพ่อถ่ายรูปเล่นแถวๆบ้านกับวีดิโอส่งมาให้ดูน่ะค่ะ ดูไปขำไปเพราะแม่เล่นกล้องแบบตลกดี มีร้องเพลงคาราโอเกะให้ฟังตั้งสามเพลงด้วยแน่ะ ตอนแรกก็นั่งขำอยู่ดีๆ แต่ไปๆมาๆซักพักน้ำตากลับไหลแทนซะนี่ คืออยู่ๆก็คิดถึงบ้านขึ้นมา ปกติอ้อมไม่ค่อยอะไรกับอาการคิดถึงบ้านนะคะ แต่มาเมื่อวานนี่แหละที่พอนั่งดูรูปดูวีดิโอ แล้วมันก็รู้สึก หลักๆก็คิดถึงบ้านที่ลำปางกับคิดถึงพ่อแม่น่ะค่ะ ส่วนส่วนอื่นของเมืองไทยอย่างกรุงเทพหรือที่อื่นๆก็เฉยๆนะ

ปัญหา pension นี่ตอนนี้จะว่าไปก็เจอเหมือนกันเกือบทุกประเทศเลยเนอะ ที่ฮอลแลนด์ก็เจอเหมือนกัน พ่อแพทริคก็พึ่งเกษียณน่ะค่ะ ก็ได้ไม่เยอะเหมือนกัน เวลาดูข่าวที่ช่องบีบีซี ที่อังกฤษก็ไม่ต่างกัน ตกลงเจอปัญหาเดียวกันหมดเลย

แต่ดูในรูปพี่Mellitus ดูไม่แก่เลยนะคะ ใกล้จะเกษียณแล้วจริงๆเหรอ หรือว่าแค่ early retirement ไม่ได้ยอนะคะ แต่คิดว่าอย่างนั้นจริงๆน้าาาา อ้อ...ถ้าใช้วิธีอยู่สวีเดนหกเดือน และไทยอีกหกเดือนสลับกันอย่างที่พี่บอก แบบนั้นอ้อมว่าคงน่าจะสนุกดีนะคะ เหมือนได้เปลี่ยนบรรยากาศบ่อยๆ เบื่อที่นี่ก็ไปที่นู่น พอเบื่อที่นู่นก็กลับมาที่นี่ได้อีก

แล้วไว้คุยกันใหม่นะคะ

ปล. พี่Mellitus อยู่สต๊อคโฮล์มใช่ไหมคะ คือว่าอ้อมชอบอ่านนิตยสารแต่งบ้านน่ะค่ะ เลยสงสัยว่าบ้านเมืองแถวๆนั้น (และประเทศสแกนดิเนเวียนอื่นๆ) รวมไปถึงผู้คน แนวคิด และไลฟ์สไตล์มันออกแนวเท่ห์ๆเหมือนที่เห็นในนิตยสารจริงๆหรือเปล่าคะ คือเห็น+อ่านแล้วช้อบชอบจัง ชอบสไตล์การตกแต่งแถบนั้นด้วยน่ะค่ะ

โดย: ~ Cerulean Blue ~

วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:7:14:01 น.

ที่ไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อยๆ
เพราะบล็อกนี้โหลดนานมากครับ สงสัยเน็ตผมจะมีปัญหา

จริงๆ ผมเป็นคนที่ชอบสัตว์ประเภท เสือ-สิงโต มากๆ
คิดว่าถ้าคนและสัตว์อยู่ร่วมกันได้ก็ดี

แต่ที่ดีที่สุดคือคืนป่าให้สัตว์ป่าอยู่ พื้นที่ป่าเหลือน้อยลงมากจริงๆ

โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก

วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:10:47:59 น.

สวัสดีตอนเย็นค่ะพี่ Mellitus วันนี้ที่ทำงานเหนื่อไหมค่ะ

ของตัวเองวันนี้สบายๆค่ะ แต่ปรากฎว่ามีเรื่องกันระหว่างบุคคลในห้องนิดหน่อย เนื่องจากเขา 2 คน ทำผิดระเบียบ บางสิ่งบางอย่างที่อาจจะเรียกว่าทุจริตอะไรก็ได้ค่ะ แต่ก็ให้พี่หัวหน้าห้องเขาสอบสวนกันเองดีกว่า

ตอนกลางวันระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ ก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วย นั่งสแกนหัวข้อข่าวหน้าหนึ่ง แว๊บ.....ไปเห็น สวีเดน....คิดในใจ...อ๊ะ....ลองอ่านดีกว่า เผื่อจะได้มีอะไรไปคุยกับพี่ได้

ในข่าวเขาบอกว่า....มีวุฒิสมาชิกทางการเมืองสวีเดน ท่านหนึ่ง ติดไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ค่ะ จากนั้นก็มีนักการเมืองจำนวนหนึ่งบอกว่า หรือพยายามจะตั้งนโยบายว่า....อยากจะให้ประชาชนของประเทศสวีเดน ลดอัตราการเสี่ยงต่อการติดเชื้อนี้ ก็เลยอยากจะเปลี่ยนวัฒนธรรมการทักทาย....จากการจับมือกัน หรือ กอดกัน เป็นการไหว้อย่างไทยแทนค่ะ

แหมพออ่านแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะเขาบอกว่า การไหว้แบบไทย เป็นการแสดงการทักทายที่สุภาพ อ่อนน้อมค่ะ และก็ไม่ต้องมีการเข้าใกล้ หรือสัมผัส กับฝ่ายตรงข้ามกันมากนักค่ะ

ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไงบ้างที่สวีเดน

ตอนนี้ที่เมืองไทยฝนตกเกือบทุกวันเลย.....

สุขสันต์วันสุดสัปดาห์ค่ะ

โดย: athena_b

วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:19:14:41 น.

สวัสดีค่ะ หนูก้อได้ดูวีดีโอของ Kevin Richardson คนนี้ค่ะ
ประทับใจมากๆเลยค่ะ อยากหาหนังสือของเขาเรื่อง part of the pride มาอ่านมากเลยค่ะ อยากทราบว่าจะสั่งได้ที่ไหนคะ แล้วราคาเท่าไหร่

และอยากให้พี่ช่วยหาเรื่องของคนนี้มาลงอีกนะคะ ขอบคุณค่ะ

ช่วยส่งข้อมูลเรื่องหนังสือมาที่ oh_jin_4@hotmail.com
จะขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ หนูหามานานมากเลยยย
เขาน่าจะมีเป็นหนังสือแปลนะคะ เพราะหนูก็ไม่ค่อยเก่งอังกฤษค่ะ 55

ขอบคุณมากค่ะที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่าน

โดย: เหมย IP: 183.89.20.214 วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:23:27:57 น.

ชื่นใจที่สุด

โดย: นิ้ง IP: 118.172.23.203 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:39:21 น.