ซินจ่าว.. เวียดนามเหนือ 5 วัน (วันที่ 2 ฮานอย-ซาปา)

ย้อนดูวันที่ 1 ดอนเมือง – ฮานอย คลิ๊กเลย
 
วันอังคารที่ 13 ก.ย.59

หลังจากเมื่อคืนเรานอนบนรถไฟจากฮานอยมาทั้งคืน เวลา 6.38 น. ก็มาถึงสถานีรถไฟลาวไก
 
 
 
 
 
เมื่อคืนเรานอนห้อง Violette Train Express ที่นอน ห้องโอเค 

รถไฟไปลาวไก มีหลายขบวน หลายบริษัท หลายราคา แล้วแต่เราจะเลือก พอดีคุณเฮือง เอเจนซี่แนะนำมา 2-3 เจ้า พร้อมส่งรูปมาให้ดู เราเลือกขบวนนี้ อ้อ.. ห้องนอนขามาเราได้อัพเกรดครับ ของจริงราคาห้อง ต้องดูวันขากลับ ที่นอนจะแคบกว่า สวยสู้ขามาไม่ได้ ไว้พรุ่งนี้ค่อยเอารูปบนรถไฟมาให้ดู
 
ปล.เห็นมีแบบห้องเดียว 2 เตียงก็มี ดูจากข้างนอกสวยหรู อลังการมาก ราคาก็คงจะสูงเหมือนกัน คุณเฮืองแนะนำว่าโบกี้ตู้นอนจะคล้ายๆกันเตียงนอนไม่ต่างกันเท่าไหร่ จะต่างกันแค่การผ้าห่ม ม่านและการตกแต่ง
 
 
 
 
ถึงแล้วก็ลงสิครับ นักท่องเที่ยวเยอะมาก
 
 
 
 
 
เข้ามาในสถานี เอาตารางรถไฟมาให้ดู
 
 
 
 
 
 
เรายืนรออยู่ซักพักก็มีเอเจนซี่มาพาเราไปขึ้นรถแวนที่จองไว้ หน้าสถานีรถไฟลาวไก
 
 
 
 
ลานจอดรถอยู่หน้าสถานีรถไฟ
 
 
 
 
กรุ๊ปเรานั่งคันนี้แต่ไม่ได้เหมาส่วนตัว มีกรุ๊ปอื่นมาแจมอีก 4-5 คน ที่นั่งเต็มแต่ไม่อึดอัด เพราะที่นั่งกว้าง
 
 
 
 
รถประจำทางจากลาวไกไปซาปาก็มี ถ้าเดินออกจากสถานีรถไฟเลี้ยวซ้ายตรงลานจอดรถข้างหน้า เดินตรงไปนิดเดียวก็เห็นเลยครับ
 
 
 
 
ประมาณ 7 โมงเช้าล้อหมุน ช้านิดนึงรอเช็คผู้โดยสาร ผมเลือกนั่งหน้า อยากดูวิวระหว่างทาง
 
 
 
 
 
เริ่มออกนอกเมืองก็เจอเจ้าถิ่น
 
 
 
 
น้องโชเฟอร์เรา
 
 
 
 
ถ้ามีโอกาสแนะนำนั่งข้างหน้าดูวิว ตอนไต่ระดับขึ้นเขา นาเขียวเป็นขั้นบันไดสวยมาก
(ถ้าไม่เมารถไปซะก่อน 555)
 
 
 
 
 
 
 
ยิ่งสูงยิ่งสวย
 
 
 
 
 
 
 
เลี้ยวซ้าย ใกล้ถึงแล้ว
 
 
 
 
หมอกเต็มเมืองเลย
 
 
 
 
ถึงตัวเมืองซาปาแล้ว มีรถโดยสารแบบนอน วีไอพี ด้วย ยิงตรงจาก ฮานอยมาซาปาเลย
 
 
 
 
วนรอบตัวเมืองไปส่งนักท่องเที่ยวถึงหน้าโรงแรมที่จองไว้
 
 
 
 
ส่งกรุ๊ปผมสุดท้าย อยู่นอกเมืองมาหน่อย ผมมาถึงโรงแรมเวลา 7.40 น. ใช้เวลาเดินทางจากลาวไกประมาณ 40 นาที
 
คืนนี้เรานอนที่นี้ โรงแรมเราจองเองไม่ผ่านเอเจนซี่ 
 
 
 
 
 
มาเช้าเกิน ห้องยังไม่เสร็จแต่ยังดีโรงแรมเปิดห้องให้เรา 1 ห้อง สมาชิกเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บ ล้างหน้า อาบน้ำ เปลี่ยนชุดเสร็จก็ลงมาหาอะไรกิน

เจอร้านอาหารอยู่หน้าโรงแรมเลย บรรยากาศหลักล้าน รสชาติค่อยกว่ากัน ตกลงร้านนี้แหละ หิวแล้ว ขี้เกียจเดินหาร้านอาหาร
 
 
 
 
 
เข้าไปในร้าน ลืมหิวเลย เจอวิวพาโนรามาเข้าไป
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมาชิกต้องมาถามว่าจะกินข้าวเปล่าถึงค่อยดึงสติกลับมาสั่งอาหาร 555
 
ของผมเฝ่อเนื้อ ซดน้ำร้อนๆกับอากาศเย็นๆพร้อมชมบรรยากาศหลักล้านนี้มันฟินสุดๆ
 
 
 
 
ตามด้วยเบค่อน ไส้กรอก เฟรนฟราย ไข่ดาว
 
 
 
 
อิ่มสนิท ในร้านมีกล้วยไว้ให้กินฟรีด้วย ใช้บริการไปอีก 1 ลูก จุกตามความคาดหมาย
 
 
 
 
เสียดายฝนตกเป็นระยะๆ แต่ไม่หนัก ไม่งั้นขึ้นมากินข้างบนจะฟินมากกว่านี้
 
 
 
 
 
อิ่มแล้วก็เดินย่อยสิครับ จากร้านอาหารเลี้ยวซ้ายไปหมู่บ้าน CAT CAT (กั๊ด กั๊ด) เดินลงเขาไป (ถ้าไปทางขวาจะเข้าตัวเมืองซาปา) 

เดินลงเขามาหน่อยก็ถึงทางยูเทิร์นรถกลับเข้าตัวเมือง ส่วนเราเดินตรงลงเขาต่อไป
 
 
 
 
เดินลงไปอีกหน่อยจะผ่าน Sapa Summit Hotel คนไทยนิยมพัก ส่วนเราเดินกันเพลินมาก
 
มีฝนตกปรอยๆสลับกับหนักเป็นระยะๆ โชคดีที่ซื้อเสื้อกันฝน สีสันสดใสใส่กันเป็นทีม
 
 
 
 
ยังไม่ถึงหมู่บ้านแค่ลงเขาไปนิดเดียวก็ฟินกับบรรยากาศแล้ว
 
 
 
 
 
ผ่านร้านกาแฟ ร้านนี้ไม่รู้จะบรรยายยังไง เรื่องวิวนะครับ
 
 
 
 
แวะถ่ายรูปไปเรื่อย
 
 
 
 
อีก 50 ม.ถึงหมู่บ้านกั๊ดกั๊ดแล้ว
 
 
 
 
เดินต่อไป ร้านนี้ก็น่ารัก
 
 
 
 
ถัดมาร้านนี้ก็เก๋
 
 
 
 
เริ่มถึงทางเข้าหมู่บ้านกั๊ดกั๊ดแล้ว
 
 
 
 
 
ถึงแล้ว เย้... เดินไกลมากแถมลงเขาอีกต่างหาก แนะนำถ้าใครอยู่ในตัวเมืองนั่งมอเตอร์ไซค์มาดีกว่า ส่วนราคาขาเดียว 40,000 ด่อง ถ้าไปกลับ 70,000 ด่อง เท่าไหร่ก็จ่ายไปเถอะครับ เซฟแรงไว้เดินที่หมู่บ้านดีกว่า
 
 
 
 
ฝนตกหนัก เห้อๆ เข้าไปหลบฝนร้านนี้ มีภาษาไทยด้วย แสดงว่าคนไทยมาเที่ยวกันเยอะ เลยอุดหนุนเสื้อ รองเท้าคนละชุดสองชุด
 
 
 
 
 
 
จะเข้าหมู่บ้านต้องซื้อบัตรเข้าไปชม ค่าเข้าคนละ 50,000 ด่อง ที่ขายบัตรอยู่ตรงข้ามกับร้านที่เราหลบฝน
 
 
 
 
จะมีป้อมเก็บบัตรอยู่ตรงทางลงเข้าหมู่บ้าน
 
 
 
 
ฝนเริ่มหยุด เดินลงซุ้มประตูจะมีทางลงไปหมู่บ้านกั๊ดกั๊ด อยู่ทางซ้ายมือ
 
 
 
 
โรงแรมอยู่ตรงทางลงไปหมู่บ้านเลย
 
 
 
 
สมาชิกพร้อมลุย บอกก่อนเดินชมหมู่บ้านนี้อ้อมเขาเป็นลูกๆ จากร้านอาหารมาถึงทางเข้าหมู่บ้านนี้แค่ 1 ใน 5 ของเดินหมู่บ้านกั๊ดกั๊ด ใครจะมาเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วย
 
 
 
 
ทางลงไปหมู่บ้าน
 
 
 
 
 
งามแท้
 
 
 
 
ระหว่างทางจะมีร้านเสื้อ ผ้า ของชาวบ้านวางขาย สวยๆทั้งนั้น
 
 
 
 
เดินไปตามทางเลยครับ จะลงเขาขึ้นดอยก็เดินไป ฝนตกนี้ก็สวยดีเหมือนกัน หมอกตรืมเลย อากาศเย็นอีกต่างหาก
 
 
 
 
 
นาขั้นบันได ของจริงสวยกว่าในภาพเยอะเลย
 
 
 
 
 
ฝนเริ่มตกลงมาอีกแล้ว
 
 
 
 
 
เรานั่งหลบฝนตรงชิงช้า
 
 
 
 
นั่งหลบไป ชมวิวไป เห็นวิวแล้วอยากกางเต้นท์นอนเลย
 
 
 
 
 
 
 
ฝนหยุดก็เดินต่อ จะมีหมู่บ้านขายของเป็นระยะๆ ฝนตกก็ดีเหมือนกันมีกรุ๊ปผมอยู่กรุ๊ปเดียว
 
 
 
 
 
ต้องเดินลงเขาไป ทางดีบ้าง ไม่ดีบ้างค่อยๆเดินกันไป
 
 
 
 
หลุดจากหมู่บ้านนี้ก็เป็นบันไดนาข้าว
 
 
 
 
 
 
 
แวะถ่ายรูปเป็นระยะๆ
 
 
 
 
น้องปูกับคุณแม่ เดินทั้งวันไม่มีบ่นซักคำ สุดยอด
 
 
 
 
เดินหมู่บ้านนาชั้นบันได ชุดต้องพร้อม รองเท้าสำคัญ ไม้เท้าช่วยได้เยอะ ที่หมู่บ้านมีขายอันละ 90-150 แล้วแต่จะต่อ 
 
น้องนก ชุดพร้อมสุดๆ สู้ค่า
 
 
 
 
น้องจ๋า เกาหลีไปไหม
 
 
 
 
น้องเจี๊ยบ ทุ่งนาเป็นของเรา
 
 
 
 
น้องทอย ช่างกล้อง+หัวหน้าทริป
 
 
 
 
จับมาถ่ายรูปหมู่ เหมือนเทเล ทับบี้เลย 555
 
 
 
 
แม่กับลูกเค้าเซลฟี่กัน
 
 
 
 
เดินชมนาข้าวบันไดต่อไป
 
 
 
 
 
 
 
 
ผ่านอีกหมู่บ้าน
 
 
 
 
 
 
น้ำฝนบนรวงข้าว
 
 
 
 
ใครสนใจก็แวะอุดหนุนผ้าเค้าได้เลยครับ ไม่แพงด้วย ทอกันเห็นๆ
 
 
 
 
 
 
 
เดินตามป้ายไป
 
 
 
 
ข้ามเขาไปอีกหมู่บ้าน
 
 
 
 
 
เจออีกหมู่บ้านแล้ว หมู่บ้านนี้ใหญ่หน่อย มีลำธารน้ำตกด้วย
 
 
 
 
 
 
กังหันน้ำ
 
 
 
 
เดินข้ามสะพานก็เข้าหมู่บ้านแล้ว
 
 
 
 
 
ซ้ายมือเป็นน้ำตกอะไรก็ไม่รู้ เที่ยวแบบไม่มีข้อมูล
 
 
 
 
 
มองย้อนกลับไปทางที่เราเดินลงมา
 
 
 
 
เดินเข้าไปชมในหมู่บ้าน
 
 
 
 
 
 
นั่งชมน้ำตกได้ซักพักก็เดินต่อ
 
 
 
 
ไม่ไปไหนแล้ว Come Back อย่างเดียวเลย
 
 
 
 
จากป้ายก็เดินขึ้นเขา
 
 
 
 
เดินขึ้นมาจะมีศาลาให้นั่งพัก เดินต่อไปอีกหน่อยก็จะเป็นสะพานข้ามอีกสะพานนึง
 
 
 
 
พอข้ามสะพานก็มีร้านอาหาร และจุดจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวที่ขับรถมาเอง
 
 
 
 
 
 
 
เจอทางแยกเลี้ยวขวาไปยังจุดแรกที่เราเดินลงตอนเช้า
 
 
 
 
จากแยกก็เป็นถนนคอนกรีตให้รถยนต์ขับมาได้ แต่ทางขึ้นเขานะครับ เมื่อยมาก
 
ยังดีที่ไม่ร้อน อากาศเย็นสบาย วิวสวย พอแก้เหนื่อยได้บ้าง
 
 
 
 
 
 
 
 
หมดแรง ขอนั่งพักข้างทางก่อน เพิ่งได้แค่ครึ่งทาง
 
 
 
 
กัดฟันเดินมาถึงปากทางที่เราลงไปชมหมู่บ้านแล้ว
 
 
 
 
 
 
มีป้ายบอกเวลาระยะการเดินทางด้วย ใช้เวลาชมหมู่บ้านแค่ 40 นาทีเอง ส่วนกรุ๊ปผม เดินประมาณ 10.30 น.-14.30 น.ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. เห้อๆ

สำหรับใครที่เตรียมลูกอม ขนมไปให้น้องๆในหมู่บ้านเค้าห้าม ไม่ให้นะครับ
 
 
 
 
ถ่ายป้ายแผนที่เป็นที่ระลึกหน่อยว่าเดินผ่านมาแล้ว
 
เราเดินในหมู่บ้านเป็นวงกลมไม่ต้องย้อนกลับ มีทั้งแบบใกล้และไกล ใครกลัวหลงจ้างไกด์นำทางได้ครับ
 
 
 
 
 
 
จากป้ายต้องเดินกลับไปยังโรงแรมอีกหนึ่งเฮือกใหญ่ เดินไปถ่ายรูปไป
 
 
 
 
 
 
 
แล้วก็มาถึงโรงแรมจนได้

ได้ห้องกันครบทุกคน เอากระเป๋าไปเก็บอาบน้ำแต่งตัวออกไปหาของกิน
 
 
 
 
สมาชิกพร้อม ออกจากโรงแรมเดินเข้าตัวเมืองซาปา ตรงไปเจอตึกตรงนี้เลี้ยวซ้ายมือ
 
 
 
 
เดินตรงไปเจอแยกเลี้ยวขวามือ เดินตรงไปร้านอาหารจะอยู่ขวามือ เป็นร้าน hot pot สไตล์เวียดนาม
 
 
 
 
 
บรรยากาศภายในร้าน
 
 
 
 
มองจากด้านในร้านไปหน้าร้าน
 
 
 
 
โชว์หน้าร้านกันเห็นๆเลย ไม่กล้าสั่ง
 
 
 
 
เราสั่งฮอตพ็อต ปลาแซลม่อนกับปลาสเตอร์เจียน ได้น้ำซุปมา 2 หม้อ ผักมา 2 ชุด เห็ด-เต้าหู้ 2 จาน
 
 
 
 
 
 
 
สั่งปลาสเตอร์เจียน 1 จาน
 
 
 
 
สั่งปลาแซลม่อน 2 จาน
 
 
 
 
ไก่ 1 จาน สับมาเป็นตัว จัดจานได้โหดมาก
 
 
 
 
ออร์เดิร์ฟ เป็นมันฝรั่งทอด
 
 
 
 
ส่วนน้ำจิ้มเครื่องเคียง ก็อย่างที่เห็นนั้นแหละ
 
 
 
 
ของครบก็เอามาลวกในหม้อ อร่อยดีเหมือนกันแต่ไม่ค่อยคุ้นลิ้น ใกล้จะอิ่มเจ้เพิ่งจะเอามาม่าเวียดนามมาให้ 2 ซอง ถามว่าหมดไหม ไม่เหลือ

ค่าเสียหายทั้งหมด 2,435,000 ด่อง
 
 
 
 
พอเริ่มเย็น ร้านเอาพวกปิ้งย่างมาวางหน้าร้าน อยากลองชิมอ่ะ แต่อิ่มแล้วเสียดายมากินเร็วไปหน่อย
 
 
 
 
จ่ายตังค์เสร็จ เดินย่อยต่อ ออกจากร้านเลี้ยวขวาเดินตรงไปจะเจอลานกิจกรรม วันนี้จัดงานวันไหว้พระจันทร์ ถัดไปจะเป็นโบสถ์คริสต์
 
 
 
 
 
 
เดินตรงไป จะถึงทะเลสาบ ซาปา
 
 
 
 
 
 
ทะเลสาบ ซาปา มีสวนดอกไม้ไว้ให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อน ฝั่งตรงกันข้ามจะเป็นตึกปลูกเรียงกันสวยงาม
 
 
 
 
 
 
 
 
เราเดินเล่นจนมืดก็เริ่มเปิดไฟ สวยไปอีกแบบ
 
 
 
 
 
ชมบ้านเมืองเค้า โชคดีวันนี้วันไหว้พระจันทร์ นักเรียน ชาวบ้านจะทำโคมไฟมาประกวด เลยเดินดูซักพัก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สามทุ่มได้เวลาพักผ่อนแล้ว พรุ่งนี้เดินเที่ยวในเมืองซาปาตอนกลางคืนนั่งรถไฟกลับฮานอย คลิ๊กเลย
 
คืนนี้ฝันดีครับ
 
ค่าใช้จ่ายวันนี้
*** จ่ายส่วนตัว
- เงินกองกลาง

*** ค่าโรงแรมจ่ายเพิ่ม 5 US
***ค่าเสื้อ นอร์ทเฟส 675 บาท ( 3 ตัวๆละ 225 บาท)
 
- ค่าโรงแรม Sapa Eden Hotel 1คืน/ห้อง 1,211 บาท
- ค่ากินมื้อเช้า 1,300,000 ด่อง
- ค่าเข้าหมู่บ้าน กั๊ตกั๊ด คนละ 50,000 ด่อง
- ค่าอาหารมื้อเย็น ฮอตพ็อต 2,435,000 ด่อง




 



Create Date : 22 กันยายน 2559
Last Update : 28 พฤษภาคม 2562 12:35:21 น. 5 comments
Counter : 1289 Pageviews.

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Photo Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Literature Blog ดู Blog
sunny-low Diarist ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog
nongmalakor Travel Blog ดู Blog



โดย: เจ้าการะเกด วันที่: 22 กันยายน 2559 เวลา:22:12:46 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Photo Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
mambymam Food Blog ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
nongmalakor Travel Blog ดู Blog


โดย: เจ้าหญิงไอดิน วันที่: 22 กันยายน 2559 เวลา:22:33:55 น.  

 
โฮ้ๆๆ แค่อ่านรีวิวแล้วก็เหนื่อยแล้ว เดินลงแล้วต้องเดินย้อนกลับทางเดิมไหมคะ รู้สึกเหนื่อยมากเลย แต่สวยมาก ๆ เช่นกัน คิดอยากจะไปนะแต่เริ่มกลัวว่าจะไปเดินไหวไหมเนี้ย


โดย: paerid วันที่: 23 กันยายน 2559 เวลา:12:23:27 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 24 กันยายน 2559 เวลา:5:02:39 น.  

 
มาเที่ยวด้วยค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Quel Klaibann Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog

nongmalakor Travel Blog ดู Blog


โดย: newyorknurse วันที่: 25 กันยายน 2559 เวลา:7:40:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
<<
กันยายน 2559
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
22 กันยายน 2559
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.