แม่ผมอยากดูโขน
เมื่อวานผมตื่นเกือบเก้าโมงเช้า พอลงมาเจอแม่ผม แม่บอกว่า อยากดูโขน ตอน ศึกมัยราพณ์ แกพาชั้นไปดูหน่อย วันนี้แกว่างใช่เปล่า ไปดูกัน ผมละดีใจมากเลย นานๆทีจะเห็นแม่ผมชวนไปเที่ยว ไปดูละคร ทุกทีอ้อนวอนก็แล้ว แกมบังคับก็แล้ว ยังไม่อยากจะไปเลย วันนี้มาแปลก ชวนเอง งั้นก็จัดให้ด่วนเลย กลัวแม่ผมเปลี่ยนใจ 555
ผมเปิดเนตดูรอบ ปรากฏว่ารอบบ่ายสองเต็ม ถ้ารอบทุ่มครึ่งยังพอมีเหลือ ถามสมาชิกใครจะไปดูบ้าง ทุกคนเงียบ มีแต่แม่ผมครับ บอกว่า ชั้นสายตาไม่ดี นั่งหน้าๆหน่อย จะได้เห็นชัดๆ 555 ตกลงไปกัน 3 คน มีแม่กับผมและก็แฟนผม ได้รอบทุ่มครึ่งครับ
จองบัตร ดูรอบการแสดงได้ที่ //www.thaiticketmajor.com/performance/khon-performance-episode-of-miyarap.php
หลังจากจองบัตรได้แล้ว สี่โมงเย็นแม่ผมแต่งตัวเสร็จ บอกว่าไปกันยัง 555 แม่ มันแสดงทุ่มครึ่ง วันนี้ก็วันอาทิตย์รถไม่ติด จากบ้านเราไปไม่เกินครึ่งชั่วโมง ออกหกโมงยังทัน (แม่ผมไม่ค่อยเห่อเลย อิอิ) ไม่เอาชั้นจะไปก่อนกว่าแกจะอาบน้ำ แต่งตัว ไปถึงก็ห้าโมง กว่าจะหาที่จอดรถอีก ไปก่อนๆ เผื่อมีอะไรให้ดู แม่โผ้มมมม
เกือบห้าโมงเย็นผมก็มาถึงศูนย์วัฒนธรรม ที่จอดเต็มหมดเลยครับ ต้องอ้อมไปจอดด้านหลัง โชคดีเจอยามแกเปิดให้เข้าไปจอดข้างในได้ แม่ผมเลยเดินไม่ไกลจากหอประชุมใหญ่มากนัก
เข้ามาถึงหอประชุม ก็ไปรับตั๋วก่อนเลยครับ
ได้มาแล้วครับ 3 ใบ
พอรับตั๋วเสร็จ รอบบ่ายสองก็แสดงเสร็จพอดี ผู้ชมกำลังออกจากโรงละคร และเค้าให้นักแสดงออกมาถ่ายรูปด้วยครับ
รอบบ่ายสองคนเยอะ แน่นไปหมด ผมเลยบอกแม่ผมว่าไปเดินดูตรงจุดอื่นก่อนดีกว่า ไว้ให้เค้าทยอยกลับกันก่อน แล้วค่อยเข้ามาใหม่ แล้วผมก็พาแม่ผมไปนั่งกินข้าวในศูนย์นั่นแหละครับ กินข้าวเสร็จ ผมก็พาแม่มาชม ศิลปะหุ่นกระบอกไทย จัดภายในอาคารครับ
ภายในอาคารไม่ใหญ่มากครับ แต่จัดแสดงหุ่นต่างๆได้ดีทีเดียว
ที่จริงผมถ่ายรูปไว้เยอะเลยครับ แต่ขอโชว์แค่นี้แล้วกัน แม่ผมก็มีหลายรูปเหมือนกัน เดี๋ยวพาไปชมที่อื่นต่อ
ส่วนด้านหน้า ก็มีกิจกรรมเล็ก ให้น้องๆได้แต่งหน้าโขนด้วยครับ
น้องๆกำลังแต่งหน้าโขน น่ารักดีครับ
ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะครับ เพิ่งจะหกโมงกว่าๆ ผู้ชมก็เริ่มทยอยเข้ามากันเรื่อยๆแล้ว ส่วนมากลูกๆหลานๆ จะพาคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า มาดูกันครับ (เหมือนผมเลย 555) เราไปดูบรรยากาศในหอประชุมใหญ่กันบ้างครับ
ส่วนบริเวณรอบๆก็มีโต๊ะจัดจำหน่ายของที่ระลึกด้วยครับ
มี Brochure แจกให้อ่านก่อนจะเข้าชมด้วยครับ
หนึ่งทุ่มก็ได้เวลาเปิดให้ผู้ชมเข้าโรงละครก่อนการแสดงครึ่งชั่วโมงครับ รอบนี้ผู้สูงอายุเยอะอะ 555 แต่ก็เกือบเต็มเหมือนกันครับ ดูบรรยากาศภายในโรงละครครับ
ผมจองแถว E ด้านซ้ายครับ แม่ผมปลื้มน่าดู ชอบใหญ่เลยครับ ดูจากใบหน้าท่านก็รู้แล้ว 555
พอได้เวลาทุ่มครึ่งก็ได้เวลาแสดงแล้วครับ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูแล้วนะครับ
เรื่องย่อ โขน ตอนศึกมัยราพณ์ รามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ลักษณะคำประพันธ์ แต่งเป็นกลอนบทละคร จุดมุ่งหมายในการแต่ง เพื่อรวบรวมวรรณคดีเก่าตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาไว้มิให้ สูญหาย ที่มาของเรื่อง นำมาจากวรรณคดีเก่าแก่ของอินเดียชื่อ คัมภีร์รามายณะ
เรื่องย่อ
ไมยราพเจ้าเมืองบาดาล มีกล้องยาวิเศษพร้อมมนต์สะกด เมื่อเป่ายา และร่ายมนต์ก็สามารถสะกดคนให้หลับหมดได้ ไมยราพได้รับบัญชาจากทศกัณฐ์ให้มาช่วยรบกับพระรามก่อนทำศึกกับพระราม ไมยราพฝันเป็นลางว่า มีดาวดวงน้อยเปล่งรัศมีมาบดบังดวงจันทร์ โหรทำนายว่าพระญาติ(ไวยวิก)จะได้ขึ้นครองเมืองแทน ไมยราพจึงหาทางป้องกันมิให้เป็นไปตามคำทำนายโดยการจับไวยวิกและมารดาคือนางพิรากวน(พี่สาวของไมยราพ)ไปขังไว้ ฝ่ายพระรามก็ฝันว่าราหูมาบดบัง พระอาทิตย์แล้วจับไปได้ พิเภกทำนายว่าพระรามจะถูกลักพาตัวไปแต่จะรอดกลับมาได้ เมื่อใดที่พระอาทิตย์ขึ้นพระรามจะพ้นเคราะห์ หนุมานจึงพยายามหาทางป้องกันโดยเนรมิตกายให้ใหญ่อมพลับพลาที่ประทับของพระรามเอาไว้ แต่ไมยราพซึ่งปลอมตัวเป็นพลทหารลิงแอบล่วงรู้ความลับนี้ จึงเหาะขึ้นไปบนอากาศกวัดแกว่งกล้องทิพย์ทำให้เกิดความสว่าง พลลิงทั้งหลายที่อยู่ยามเข้าใจว่าเป็นเวลาเช้าแล้วก็พากันละเลยต่อหน้าที่ บ้างก็นอนหลับ บ้างก็หยอกล้อกัน ไมยราพจึงย่องเข้าไปเป่ายาสะกดไพร่พลในกองทัพของพระรามจนหลับใหลไปหมด แล้วจึงแบกพระรามพาแทรกแผ่นดินไปยังเมืองบาดาล เมื่อถึงเมืองบาดาลไมยราพสั่งให้นำพระรามไปขังไว้ในกรงเหล็ก และนำไปไว้ยังดงตาลท้ายเมืองบาดาล จัดทหารยักษ์จำนวนโกฏิหนึ่ง( ๑๐ ล้านตน)เฝ้าเอาไว้อย่างแน่นหนา และสั่งให้นางพิรากวนตักน้ำใส่กระทะใหญ่เพื่อเตรียมต้มพระรามกับไวยวิกในวันรุ่งขึ้น ทางกองทัพของพระรามเมื่อทราบว่าพระรามถูกลักพาตัวไปให้หนุมานตามไปช่วยพระรามที่เมืองบาดาล ระหว่างทางหนุมานได้พบกับด่านต่าง ๆ หลายด่าน คือ ด่านกำแพงหินที่มียักษ์รักษานับพัน ด่านช้างตกมัน ด่านภูเขากระทบกันเป็นเปลวไฟ ด่านยุงตัวโตเท่าแม่ไก่ และด่านมัจฉานุ(บุตรของหนุมานกับนางสุพรรณมัจฉา) หนุมานสามารถผ่านด่านต่างๆได้ และได้ขอให้มัจฉานุบอกทางไปยังเมืองบาดาลให้ แต่มัจฉานุนึกถึงพระคุณของไมยราพที่ชุบเลี้ยงตนเป็นบุตรบุญธรรม จึงเลี่ยงบอกทางไปเมืองบาดาลให้หนุมานทราบเป็นความนัยให้หนุมานนึกเดาเอา หนุมานจึงตามไปถึงเมืองบาดาลพบนางพิรากวนออกมาตักน้ำตามคำสั่งของไมยราพ จึงขอให้นางพิรากวนพาเข้าเมืองบาดาลโดยการแปลงเป็นใยบัวติดสใบนางเข้าไป หนุมานค้นหาพระรามจนพบแล้วร่ายมนต์สะกดยักษ์ที่อยู่เวรยามให้หลับหมดพาพระรามออกมาจากเมืองบาดาลและไปฝากเทวดาที่เขาสุรกานต์ให้ช่วยดูแลพระราม ส่วนตนเองก็ย้อนกลับไปสู้กับไมยราพ และฆ่าไมยราพตายในที่สุด
ที่มา //www.school.net.th/library/create-web/10000/literature/10000-739.html
การแสดงจะแบ่งออกเป็นสองช่วงครับ เล่นไปชั่วโมงครึ่ง ก็จะหยุดพัก 20 นาที ให้ผู้ชมและนักแสดงได้หยุดพัก หลังจากนั้นก็มาแสดงต่ออีกชั่วโมงครึ่ง เป็นอันจบ พร้อมกับความประทับใจของผู้ชมทุกท่าน หลังจากการแสดงจบ ม่านก็เปิด มีนักแสดงทุกท่านออกมายื่นหน้าเวทีเพื่อจะมาขอบคุณและส่งผู้ชมกลับบ้านครับ
ยอมรับเลยครับว่า เกินความคาดหวัง ตอนแรกผมก็ไม่คิดอะไรมาก แค่อยากพาแม่ไปดู แต่พอได้ไปดูเอง สวยงามมาก ทั้งฉาก แสง สี เสียง บรรยายไม่ถูก ต้องไปดูเองแล้วถึงจะรู้ครับ อีกอย่างที่ดีใจ นักแสดงส่วนมากยังเป็นวัยรุ่นอยู่ก็มาก แสดงว่าถึงยุคสมัยเทคโน อินเตอร์เนตมันข้ามเลยมาเยอะ แต่ก็ยังมีวัยรุ่นไทย สนใจวัฒนธรรมของไทยกันอยู่ ไม่อยากให้การแสดงศิลปะของไทยถูกกระแสต่างชาติกลืนหายไปเลยครับ พวกเราคนไทยอยากให้ช่วยๆกันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้มากๆนะตรับ วันนี้รู้สึกดีใจและภูมิใจที่เป็นคนไทยครับ ขอบคุณครับ
Create Date : 18 กรกฎาคม 2554 |
|
14 comments |
Last Update : 18 กรกฎาคม 2554 10:57:07 น. |
Counter : 5738 Pageviews. |
|
|
|
ชอบมากเหมือนกันค่ะ อลังการจัง
3 ชม. ที่นั่งชม ไม่มีเบื่อเลยนะคะ
ยินดีด้วยที่มีโอกาสได้สร้างความสุขให้คุณแม่ค่่ะ....ได้บุญมากค่ะ